เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม
เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๓
วันนี้พอฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้แล้วก็จะลาบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายกลับไปก่อน ก็ทำนองเดียวกันนี่แหละ อันนี้ก็ไม่ได้ว่านะ การแนะนำสั่งสอนหรือไม่สั่งสอนก็เต็มอยู่นั่น คนมากจริง ๆ สำหรับวัดป่าบ้านตาดนะ คนมาก เข้าออกทั้งพระทั้งเณรทั้งใกล้ทั้งไกล ก็ยังดีคนแสวงหาอรรถหาธรรม เหมือนคนไข้เสาะแสวงหาหมอหายานั้นแหละ ยังงี้ดีให้พากันปฏิบัติอย่างนี้เรื่อยไป
ใจเราเรียกร้องหาความช่วยเหลือจากเจ้าของอยู่ตลอดเวลา ทำไมใจจึงต้องเรียกร้องหาความช่วยเหลือ เพราะใจเป็นทุกข์ ใจวุ่น ความวุ่นนั้นไม่ใช่ธรรมพาให้วุ่น มีแต่สิ่งที่เคยเป็นข้าศึก ทางศาสนาท่านให้ชื่อว่ากิเลสนั้นแลพาให้วุ่นพาให้ทุกข์ จิตใจขุ่นมัวก็เพราะสิ่งนี้รับความทุกข์มากน้อยก็เพราะสิ่งนี้ สามีภรรยาทะเลาะกันก็เพราะสิ่งนี้ ถ้าธรรมเข้าไปตรงไหนแล้วจะมีความสงบร่มเย็น เหมือนกับน้ำที่สะอาดชำระล้างตรงไหนสถานที่นั่นวัตถุนั้นก็สะอาด ๆ ถ้าน้ำสะอาดเข้าไปตรงไหนก็ที่นั่นสะอาด ถ้าธรรมะเข้าไปที่ไหนก็เหมือนกัน สถานที่นั่นบุคคลผู้นั้นสังคมนั้น ครอบครัวนั้นจะร่มเย็นเป็นสุข มีความสงบตั้งแต่เด็กขึ้นมาถึงผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ลงไปถึงเด็ก
เพราะพ่อแม่ผู้ใหญ่นั้นเป็นแบบพิมพ์ของเด็ก พ่อแม่มีแบบมีฉบับ ลูกก็เรียนจากพ่อแม่อยู่โดยหลักธรรมชาติ สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนเพราะเป็นธรรมชาติที่จำเป็นซึ่งเด็กจะต้องศึกษาจากผู้ใหญ่อยู่แล้ว ท่านเรียกว่าการศึกษาโดยหลักธรรมชาติและหลักธรรมถึงจะเรียกว่าบุพพาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนฝึกปรือมาตั้งแต่เริ่มแรกคือบิดามารดานั่นเป็นสำคัญ ท่านเรียกว่าบุพพาจารย์ บุพพาจารย์อาจารย์ในเบื้องต้น ถ้าเราได้มีแบบมีฉบับอันดีงามไว้สำหรับตัวของเราแต่ละคน ๆ สำหรับผู้ใหญ่แล้วต่างคนต่างมีแบบมีฉบับอันดีงามไว้ประดับตัวและเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ทั้งสังคมด้วย
เด็กก็ได้รับความดีจากผู้ใหญ่นั้นแลไปเป็นแบบพิมพ์อันดี แล้วบ้านเมืองของเราก็จะมีความสงบร่มเย็น มีความผาสุก เท่าที่มันไม่ผาสุกเพราะอะไร ก็เพราะสิ่งที่มันเคยเป็นข้าศึกนั้นแหละไปทำลาย ทำลายมาก ทำลายน้อย ทำลายอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้ในหัวใจของเราไม่ไปเกี่ยวข้องกับใครมันก็ทำลาย มันน่าคิด หากยุ่งอยู่ภายในตัวเอง เพราะฉะนั้นใจจึงเรียกร้องหาความช่วยเหลือจากเจ้าของ
เจ้าของคือสติปัญญานั้นแหละจะเป็นผู้พิจารณาให้รู้ในทางผิดถูกชั่วดี และแก้ไขถอดถอนหรือบำเพ็ญในสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็เพราะสติปัญญาเป็นผู้นำทาง เป็นผู้คิดผู้ค้นในเหตุหรือผลที่ดีและชั่ว แล้วนำมาประกอบหรือปฏิบัติต่อตัวเอง และจิตใจก็ร่มเย็น ถ้าไม่มีเจ้าของก็เหมือนสัตว์ไม่มีเจ้าของ ไปที่ไหนถูกรังแกอย่างน้อย มากกว่านั้นถูกฆ่า จิตใจของเราก็เหมือนกัน ถ้าถูกรังแกด้วยสิ่งที่เคยเป็นข้าศึกนั้นแหละ ถ้ามีธรรมเข้าเป็นเครื่องรักษาเป็นเครื่องพินิจพิจารณาแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้มาทำลายเราอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะมีเครื่องป้องกัน และสิ่งที่จะป้องกันความเสียหายหรือความเดือดร้อนมิได้ก็คือธรรม
เพราะฉะนั้นคำว่าธรรมคือครอบโลกธาตุ นิ่มนวลที่สุดก็คือคำว่าธรรม เข้าสู่ใจแล้วใจก็นิ่มนวลที่สุด ใจมีเหตุมีผล ถ้าใจมีธรรมแล้วย่อมมีเหตุมีผล มีการยับยั้งชั่งตวงได้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ผาดโผนโจนทยานด้วยอำนาจแห่งกิเลสตัณหาทั้งหลาย เรื่องของโลกนี้ คนเราไม่มีกิเลสมันไม่มาเกิดแหละ ต้องมีกิเลสเป็นเครื่องบังคับให้มาเกิด บางครั้งมาเกิดแล้วก็ให้มาสร้าง สร้างก็ให้สร้างเพื่อผลประโยชน์ของกิเลส เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นทุกข์เพราะเราเป็นเครื่องมือสำหรับรับใช้หรือเหยียบย่ำทำลายของกิเลส กิเลสโกยเอาผลเอาประโยชน์ไป เราจึงได้รับความทุกข์ความลำบาก นี่เป็นอย่างนี้
กิเลสทำงานภายในจิตใจ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีธรรมเข้าไปดัดแปลงแก้ไขชำระล้างอย่างนั้นโดยสม่ำเสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้คอยจะทำลายเราอยู่ตลอดเวลา คำว่ากิเลสนี้เราหลับสนิทมันจะพักงานของมัน ถ้าไม่หลับสนิทมันจะพาละเมอเพ้อฝันเป็นอย่างน้อย พอตื่นขึ้นมาก็ยุ่งใหญ่ นั่นคือกิเลสทำงาน แล้วเราก็ทุกข์เดือดร้อนวุ่นวายกลิ้งไปกลิ้งมาในหัวใจของเราอยู่เป็นสุขไม่ได้ เราสังเกตุดูสิว่าใจของเรามันเป็นยังไง มันเคยอยู่นิ่งอย่างนี้ไหม ไม่มี จะต้องถูกตบถูกต่อยถูกทุบถูกตีอยู่อย่างนี้มากน้อยตามกำลังของมันที่เจ้าของรักษาหรือไม่รักษา
ถ้าปล่อยตัวเลยมันก็ทำได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยของมันทุกข์มาก ถ้ามีการต้านทานรักษาบ้างก็เบาลง เรื่องความทุกข์ความทรมานทางด้านจิตใจก็เบาลง และยิ่งเรารักษาได้ดีดังที่ท่านสอนให้ภาวนา จิตแน่ว ท่านเห็นผลทั้งความวุ่นวายส่ายแส่ของจิตที่ดิ้นอยู่นี้มาแล้วเห็นเหตุเห็นผลเรียบร้อยมาแล้ว-จอมปราชญ์ทั้งหลาย และท่านเห็นทั้งผลอันดีงามตลอดถึงความดีงามอย่างยิ่งของจิตที่แน่ว ถ้าจิตสงบเท่านั้นก็พักเรื่องของอารมณ์ เรื่องความยั่วยวนทั้งหลาย ไม่มายุแหย่ก่อกวนจิตใจให้ได้รับความเดือดร้อน เพราะจิตพักงานหรือว่าอำนาจของธรรมเป็นเบรกห้ามล้อเอาไว้และกระเพื่อมในเวลานั้น นั่นแหละท่านว่าจิตสงบ
นี่พระพุทธเจ้าของเราท่านก็เคยสงบมาแล้วสรณะของเรา สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ก็เคยสงบมาแล้ว ท่านจึงมาสอนเราให้มีความสงบบ้าง สงบทางใจฝึกหัดภาวนา ใจถ้าได้รับความสงบแล้วจะเห็นคุณค่าแห่งความสงบของตน และเห็นโทษในความวุ่นวายส่ายแส่ทั้งหลายในขณะเดียวกัน จากนั้นจิตก็เริ่มต่ออรรถเข้าสู่ธรรม ประพฤติปฏิบัติตัวให้ดียิ่งขึ้นดียิ่งขึ้น ใจเมื่อมีการบำรุงรักษาอยู่ย่อมจะมีความเจริญรุ่งเรืองไปในทางที่ถูกที่ดีเสมอ ถ้าปราศจากธรรมเครื่องกำกับรักษาแล้ว เราอย่าว่าใครต่อใครในโลกทั่วโลกดินแดนเป็นฟืนเป็นไฟไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าคนมีคนจนคนโง่คนฉลาด วัยใดก็ตามไม่เลือก อันนี้มันไม่กลัว
ความชั่วไม่กลัวเรื่องความมีความจนความโง่ความฉลาด กลัวแต่ธรรมอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเอาธรรมเข้าไป ธรรมเป็นยังไง เวลามันอยากทำความชั่ว จะชั่วในทางใดก็ตาม ก็ทราบก่อนที่จะทำอยู่แล้วว่าความชั่วเราไม่ทำเสีย นี่เรียกว่าธรรม หักห้ามสิ่งที่จะเสียหายแก่ตนในเมื่อทำลงไปแล้ว แล้วก็ไม่ทำก็ไม่เกิดความเสียหาย นี่ท่านเรียกว่าธรรม จะพูดเป็นความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใดก็ตาม ลมอันนี้เป็นลมที่เสียหายมากกว่าลมธรรมดา ให้รีบระมัดระวัง
ลมธรรมดาใครไปห้ามมันไม่ได้ล่ะ มันอยากพัดไปไหนมันก็พัดไปตามเรื่องของมัน ลมเหล่านั้นไม่ได้รุนแรงไม่ได้เสียหายยิ่งกว่าลมปากของคน ลมปากที่มีพิษมีภัยไม่มีธรรมเป็นเครื่องรักษาแล้วเป็นลมที่ร้ายแรงมาก ทำโลกให้ล่มจมได้ ทำเจ้าของให้ฉิบหายวายป่วงได้ ทำคนอื่นให้เสียหายฉิบหายไปได้ เพราะลมปาก ลมปากที่เป็นพิษเป็นภัยมาจากกิเลส พ่นออกมานี้เป็นพิษมาก เพราะฉะนั้นจึงต้องเอาธรรมเข้าไปบังคับบัญชาซักฟอกลมปากนั้นให้เป็นลมบริสุทธิ์ ลมเป็นอรรถเป็นธรรม พูดออกมาจากความพินิจพิจารณาแล้วว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด พูดหนักเบามากน้อยกว้างแคบขนาดไหน มีเหตุมีผลมาจากจิตใจแล้วย่อมเป็นคำพูดเป็นลมปากที่สวยงาม ท่านว่าพูดไพเราะเพราะพริ้งด้วยเหตุด้วยผลก็คืออย่างนี้เอง
พูดที่เป็นอันตรายแก่ทั้งตนและผู้อื่นก็คือเราไม่พิจารณา พูดออกมาตามอารมณ์ อารมณ์นั้นเป็นฟืนเป็นไฟกระจายไปไหนเผาไหม้ไปหมด จำเอาไว้นะลมปากนั้นแหละ นี้ความคิดความประพฤติก็เหมือนกัน การกระทำนี้ไม่ได้ตกน้ำตกดินมันกระเทือนคนกระเทือนเรา ทำชั่วกระเทือนเราด้วย ถ้าเกี่ยวข้องคนอื่นกระเทือนคนอื่นด้วย ทำมากทำน้อยก็กระเทือนไปมากไปน้อยอย่างนั้น ถ้าต่างคนต่างทำแต่ความชั่วแล้วโลกนี้ไม่มีความหมาย อยู่กันไม่ได้เลยเพราะเป็นฟืนเป็นไฟด้วยกันหมด เท่าที่โลกนี้อยู่ได้ก็เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแปอย่างน้อยมีกฎหมายบ้านเมือง ละเอียดเข้าไปนั้นมีศีลมีธรรมเป็นเครื่องบังคับจิตใจ ไม่แสดงทำความเสียหายออกมาจากจิตใจของตนและพูดออกมาทางวาจา จนกระทั่งการประพฤติ ความประพฤติระงับดับไปด้วยอำนาจแห่งอรรถแห่งธรรม เราก็เย็น พากันจำเอาไว้แล้วก็ปฏิบัติต่อตัวเอง
ถ้าเราอยากจะเห็นแดนสวรรค์ในเมืองมนุษย์แล้ว จงนำธรรมนี้เข้าไปปฏิบัติต่อตนเอง ให้มีขื่อมีแปมีเหตุมีผล อย่าทำตามความอยากความทะเยอทะยาน อันนั้นคือฟืนคือไฟ ไม่ทำผู้หนึ่งผู้ใดให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขเพราะอำนาจของมันเลย แต่จะเป็นฟืนเป็นไฟตาม ๆ กันไปทั้งนั้น โลกนี้ก็เป็นโลกไฟบรรลัยกัลป์ นรกของมนุษย์นั้น เหตุของมันก็คือเกิดขึ้นจากการทำชั่วช้าลามกของมนุษย์นั้นแล ทีนี้สวรรค์ของมนุษย์ที่เราเห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาก็เป็นสาเหตุมาจากการประพฤติตัวในด้านศีลธรรม คือคุณงามความดี ประพฤติตัวเป็นคนดี เราก็เย็น
เราอย่าไปคิดเอามากมายว่าเราต้องการเงินแสนเงินล้านเงินเป็นล้าน ๆ มากกว่าเสาะแสวงหาคุณค่าเข้ามาสู่ตัวของเรา คนเราถ้ามีคุณค่าแล้ว มีมากมีน้อยย่อมเป็นสุขไม่เดือดร้อนวุ่นวาย ถ้าไม่มีคุณค่าภายในตัวไร้สาระเสียอย่างเดียวเท่านั้น เอาเงินกองเท่าภูเขาทับก็ตายทิ้งเปล่า ๆ เพราะหนักเงิน เฉย ๆ ตนไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยจากเงินเหล่านั้น ถ้าเจ้าของเป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดมีอรรถมีธรรมเสียอย่างเดียว มีเท่าไหร่ใช่ได้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข นั่นชื่อว่าคนฉลาดเหนือสมบัติเงินทอง เหนือสิ่งทั้งหลาย แล้วก็อยู่กันได้ด้วยความสงบร่มเย็นเสมอหน้ากันไปหมด นี่ถ้ามีธรรมเป็นอย่างนั้น ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้นำธรรมนี้ไปปฏิบัติ
เราอย่ามองอะไรที่มีคุณค่า ไม่มีอะไรเกินมนุษย์เรื่องคุณค่า และสิ่งที่จะทำโลกให้ฉิบหาย เราอย่าไปถือว่าไฟนี้เป็นสิ่งที่ทำโลกให้ฉิบหายไหม้ไปหมด หัวใจของมนุษย์นั้นและมันเป็นพ่อเป็นแม่เป็นอะไร เป็นอาจารย์ใหญ่ของไฟทั้งหลาย ตัวนี้มีอิทธิพลมากภายในจิตใจของเรา ถ้าตัวนี้ได้กระจายออกไปแล้วมันเป็นฟืนเป็นไฟหมด เพราะฉะนั้นจงบังคับตัวนี้ให้เป็นน้ำเป็นท่า เป็นน้ำดับไฟ แล้วอะไร ๆ จะใช้ได้หมด นี่แหละความร้อนอยู่ที่ใจ ความเย็นก็อยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่ไฟที่น้ำโดยถ่ายเดียว อันนั้นเป็นเครื่องมือสำหรับผู้เป็นฟืนเป็นไฟภายในใจนี้แล้ว จะนำไฟมาเผาตัวเองหรือนำน้ำมาดับไฟ มันขึ้นอยู่กับหัวใจของเราเอง เพราะฉะนั้นจึงต้องรักษาหัวใจของเราให้ดี
การอยู่ด้วยกัน การไปการมาการคบค้าสมาคม มีแต่มนุษย์แหละคบค้าสมาคมกัน ไปที่ไหนก็มีมนุษย์คบค้าสมาคมกันเพราะมนุษย์นี้เป็นสัตว์ขี้ขลาดหวาดกลัวมาก อยู่คนเดียวไม่ได้ไล่เข้าไปอยู่ในบ้านก็ไปเถอะสักเดี๋ยวโดดลงหน้าต่าง ถ้าเขาปิดประตู และออกมาโดดลงหน้าต่างไปหาคุยกับเพื่อนกับฝูงนั้น ไม่ให้อยู่กับกองเงินกองทองกองเท่าภูเขามันก็ไม่ยอมอยู่ เงินทองก็เป็นเงินเป็นทองมันคุยด้วยไม่ได้ สุดท้ายวิ่งหาไอ้ตูบ คุยกับไอ้ตูบก็ยังสบาย นี่มนุษย์เรามันคนขี้ขลาด ต้องหาที่พึ่งพิงอิงอาศัย เมื่อเป็นอย่างนั้นเวลาเกี่ยวข้องกันก็ความให้อภัยกันนี้ให้มาเป็นอันดับหนึ่งเลย
อย่าถือสีถือสาซึ่งกันและกัน อย่าดูถูกเหยียดหยามกันให้เล็งเห็นเจตนาในหัวใจของเราเป็นอันดับแรก ว่าหัวใจของเรามุ่งหวังอย่างไร หัวใจของคนอื่นก็มีความมุ่งหวังอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเราจะปฏิบัติอย่างไรให้พอเหมาะกับหัวใจของแต่ละกันละกันต้องดูหัวใจของเราแล้วปฏิบัติหัวใจของเราฉันใด ก็ปฏิบัติต่อหัวใจคนอื่นฉันนั้น เมื่อเป็นอย่างนั้นการแสดงออกก็ไม่กระทบกระเทือน มีการให้อภัยนี้เป็นของสำคัญ อย่าถือสีถือสากันง่าย ๆ เช่นรถราผ่านกันไปมาเสียดสีกันเล็กน้อย เพียงถลอกนิดหน่อยเท่านั้น เรื่องใหญ่เรื่องโตเกิดกันแล้ว ใครไม่ลงใคร ใครไม่ยอมใคร ใครก็ว่าแต่ใครถูก ๆ สุดท้ายสองคนนั่นแหละทะเลาะกัน หนักจากการทะเลาะกันแล้วก็กัดกันเหมือนหมา
นั่นมนุษย์เป็นหมาเป็นเวลานั้น เพราะไม่มีธรรม มันเป็นหมาได้ ไม่มีหางก็ตามเถอะ หมาหางด้วนมันยังมี คนหางด้วนของคนทำไมจะมีไม่ได้ เมื่อไม่มีธรรมเสียอย่างเดียว นี่แหละโทษแห่งการให้อภัยซึ่งกันและกัน โทษแห่งความไม่เห็นใจกันเพราะการเป็นอย่างนั้นไม่มีใครมีเจตนาที่จะเป็น แต่มันสุดวิสัยที่เป็นไป ก็ต้องให้เห็นความสุดวิสัยซึ่งกันและกัน เอาสิพิจารณากันให้ลงในทางสันติคือความสงบร่มเย็นอย่าได้ผูกกรรมผูกเวรต่อกันแล้วให้ปฏิบัติอย่างนั้น นี่คนมีธรรมต้องเป็นอย่างนั้น พากันเข้าใจละนะ วันนี้อธิบายเพียงเท่านี้ล่ะ เอาละขอความสวัสดีจงมีแก่พี่น้องลูกหลานทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ ต่อไปนี้ให้พร.....
เอาละพอพูดถึงเรื่องให้อภัย ก็คิดถึงหลวงตาองค์หนึ่งที่วัดสระปทุมนี้ หลวงตาบางองค์จะไม่เป็นอย่างนั้นน่ะ แต่หลวงตานี้น่าชมมากสมชื่อหลวงตาเต็มยศ หลวงตาบัวก็อยากเป็นหลวงตาอย่างนั้น หลวงตาเต็มยศคือหลวงตาที่ดี ท่านไปบิณฑบาตร รถมาเฉี่ยวบ้างมาชนบ้าง คือกลางเฉี่ยวกลางชนท่านก็ล้มลงไป ล้มลงไปเขาก็รีบลงไปช่วย รีบไป ๆ เดี๋ยวตำรวจมาแล้วเค้าจะจับเจ้าแล้วข้อยจะลำบากนะ ของอันนี้หาเอาได้ ข้อยไปบิณฑบาตตามบ้านก็ยังได้ ก็ยังได้เพียงพอ รีบไป ๆ ตำรวจมามันไม่ฟังเสียงเรานะ ไม่ทราบเราจะแก้ตัวว่าไง น่าเป็นคตินะ นั่นแหละที่จริงรถมันก็ไม่ตั้งใจมาชนมาเฉี่ยวนะ มันสุดวิสัยจริง ๆ นี่เป็นคติจึงได้นำมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เรื่องบางเรื่องเกิดได้ทุกแห่งทุกหน มันเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดมันเว้นไม่ได้ มันต้องเกิดจนได้...