เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม
เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒
หูเรามันฟังมามากต่อมาก ส่วนมากมีแต่ฟังทำลายตัวเอง ฟังเรื่องเพลิดเพลิน เรื่องลืมเนื้อลืมตัว เรื่องไม่มีป่าช้า ทั้ง ๆ ที่ตายกันอยู่ทุกวี่ทุกวันนั้นแหละ หาที่เผาศพกันไม่ได้เวลานี้ เพราะคนตายสัตว์ตาย สัตว์ตายเขามีที่เผาศพเขาคือครัวไฟของคนนี่แหละ สัตว์ตายแล้วเอาไปเผาที่ครัวไฟ คนตายแล้วหาที่เผาไม่ได้กันแล้วเวลานี้ นั่นแหละพากันจำไว้นะ
วันเช่นนั้นของเรามีอยู่ทุกรูปทุกนามอย่าประมาท พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างไรอย่าลืม คำสอนของพระพุทธเจ้านั่นแหละเป็นที่ยึดที่เกาะ ที่ฝากเป็นฝากตายได้ ให้พากันยึด อย่าพากันลืมเนื้อลืมตัว ความลืมเนื้อลืมตัวมันทำลายตัวเอง ลืมไปจนทุกสิ่งทุกอย่าง ระลึกพุทโธก็ไม่ได้ ถ้าระลึกพุทโธแล้วมันบีบมันบังคับ พวกเรายังไม่รู้อีกหรือ
นี่พูดด้วยความถึงใจนะ มันสลดสังเวชจริง ๆ นะ มองไปที่ไหนนี่ตา ฝ้า ๆ ฟาง ๆ มันอดไม่ได้นะ ที่กิเลสบีบคนบีบคนนะ เพราะฉะนั้นเทศน์ให้พระให้เณรฟังมันจึงเอากันหนักทีเดียวนะ ถึงขนาดนั้นมองไปยังเห็นกิเลสบีบคออยู่ ทุขัง เหมือนเขาฝึกมวยนั่นแหละ จะฝึกซ้อมมวยกับลูกศิษย์ ฝึกอย่างเต็มที่เต็มแดน เสร็จแล้วขึ้นไปบนเวที ไปเป็นกระสอบให้เขาต่อยเขาเตะ โถครูแทบจะกระอักเลือดตาย นี่ก็เหมือนกัน สอนแทบเป็นแทบตาย มองไปทีไรเห็นว่ากิเลสมันต่อย มันเตะ มันตี เป็นเหมือนกระสอบ พวกเรานี่ มันว่ายังไง เอ้อ ดีดีไปหมดนั่นแหละ ถ้ากิเลสว่าดีไปหมด ถ้าเป็นธรรมว่าแล้วขอเวลาก่อน อย่างนั้นนะพวกเราพวกเสียเปรียบจริง ๆ นะ
ก็อยากให้ท่านทั้งหลายได้เห็นเรื่องความจริงของพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงรู้ทรงเห็นมาแล้วจริง ๆ มาสอนโลก มันเป็นคนละโลกจริง ๆ นะ สิ่งจริงที่ทรงสอนไว้นี่สด ๆ ร้อน ๆ ทีเดียวนี่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจริง ๆ นรกมีอยู่จริง ๆ ไม่เคยว่างจากสัตว์ที่ไปตกนรก สัตว์ที่ใจชั่ว ในเลวทรามนั่นแหละไปตกนรกนะ ที่ใจดีก็มี ที่บรรลุแล้วสวรรค์ไม่รู้ว่ากี่ชั้น พรหมโลกนิพพานนี่สำหรับคนดี
พระพุทธเจ้าท่านสอนทั้งสองแง่สองมุม คือสอนว่าความชั่วอย่าทำ ทำความชั่วเท่ากับเอาไฟมาจี้ตัวเอง มาเผาตัวเองนั่นแหละ ผู้ที่บอกนั่นแหละถึงจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม เอามาจี้ลองดูซิ ถึงท่านผ่านไปแล้วเช่น หลวงตาบัวบอกนะ ไฟมันร้อน ท่านทั้งหลายอย่าเอาไฟมาจี้ตัวเองนะ พอหลวงตาบัวกลับไปวัดป่าบ้านตาดแล้วลองดูนะ หลวงตาห่างไกลแล้ว เอาไฟมาจี้ดีดโดดผลุงเลย นั่นความจริงมันอยู่ตรงนั้น มันไม่ได้อยู่กับความพรากจากไปของพระพุทธเจ้านะให้จำเอา นรกก็มีอยู่อย่างนั้น บาปก็มีอยู่อย่างนั้น สวรรค์พรหมโลกมีอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นให้พากันอุตสาห์พยายาม
นี่ก็จะก้าวเข้าปีใหม่แล้ว ปีใหม่ต้องพากันฝึกหัดดัดแปลงตัวเอง ส่วนไหนที่ยังไม่ดี ให้รีบแก้ไขดัดแปลงตัวเองให้ดีให้เป็นที่อบอุ่น เราพึ่งอะไรไม่ได้ถ้าไม่พึ่งตัวเราเอง ชั่ว ๆ ก็คือเรานั่นแหละเป็นภัยแก่ตัวเอง ทำความชั่วก็เป็นภัยต่อตัวเอง ให้แก้ความชั่วเสีย ทำความดีจะเป็นคุณต่อตัวเอง นี่เป็นมาแต่กาลไหน ๆ ปราชญ์จึงไม่เคยขาดจากโลก เพราะสัตว์โลกเป็นอย่างนั้น
สิ่งที่ย่ำยีตีแหลกสัตว์โลกมีอยู่เป็นประจำหัวใจ แต่ธรรมนั่นมีมาเป็นกาลเป็นสมัย พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แต่ละครั้ง นั่นแหละเปิดธรรมขึ้นมาให้เห็น เปิดทั้งดีทั้งชั่วให้เห็น พอพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปก็ทีนี้หุบเข้า เหี่ยวเข้า มืดเข้า ตื้อทีเดียว มองไม่เห็นบาปเห็นบุญ มีแต่ความหยาบความทะเยอทะยานนั่นแหละคือตัวบาปมันลากคนให้ตกนรกตกอเวจีอยู่ตรงนี้ล่ะนะ เป็นยังไง ให้พากันจำ
ใจเรามันอยากอะไรวันหนึ่ง ๆ มันอยากอะไรมากกว่ากัน มันไม่อยากธรรมนะ มันอยากจะเผาเจ้าของนั่นแหละ อยากอรรถอยากธรรมเป็นคนดีนี่มีน้อย หัวใจเรานั่นแหละอย่าไปดูหัวใจคนอื่นนะ ไปดูหัวใจคนอื่นมันผิด ให้ดูหัวใจเราแล้วพยายามแก้ไข ยากลำบากก็ตาม ยากลำบากเพื่อความปลอดภัยไม่เป็นไร แต่ง่ายก็ตามง่ายเพื่อจะเผา เจ้าของอย่าง่าย ง่ายแบบนี้ไม่ดีเลย
ไม่มีใครที่จะเฉลียวฉลาดยิ่งกว่าพระพุทธเจ้านะ ทรงทราบมาเห็นหมดเลย เหตุการณ์ทุกอย่างทั้งดีทั้งชั่ว เคยพูดแล้วว่านรกพระพุทธเจ้าเคยตกตั้งแต่สมัยเป็นคนสามัญธรรมดาอย่างเรา เหนือสัตว์ทั่วไป ต้องทำชั่วทำดีก็ด้วยกัน เพราะกรรมอันหนาทั้งหมดทำได้นี่นะ ครั้นทำแล้วก็ตกนรกเหมือนกับพวกเรานี่ เวลาผ่านเรื่องผ่านไปหมดแล้ว สามารถรู้แจ้งเห็นจริงไปหมดแล้ว จึงมารู้โทษของสิ่งเหล่านี้ ก็มาสอนสัตว์ทั้งหลายให้พวกเราทั้งหลายได้บำเพ็ญ วันหนึ่ง ๆ อย่าลืมเนื้อลืมตัว
หนังสือที่ให้นี้ให้เอาไปอ่าน ไปพินิจพิจารณาอ่านธรรมะกับอ่านเรื่องของโลกไม่ได้ประมาทนะ มันผิดกัน เพราะก็เคยผ่านมาแล้ว อ่านนรกอ่านเท่าไรยิ่งดีดยิ่งดิ้น ยิ่งเป็นบ้า ทั้งสด ๆ ร้อน ๆ เข้าไปอ่านธรรมะมันจิตใจพาให้สงบ มันเย็น ถ้าเป็นนรกก็มีเปรต ห้ามล้อในสถานที่ควรห้าม เร่งในสถานที่ควรเร่ง
เช่น หน้าที่การงานที่เป็นผลเป็นประโยชน์ ให้มีความขยันหมั่นเพียร อุตส่าห์พยายามทำนี่แหละ ท่านว่าเร่งคันเร่ง ถ้าสิ่งใดผิดท่านให้เหยียบเบรกห้ามล้อ พวงมาลัยหมุนไปหาตามหน้าที่การงาน ความประพฤติอันไหนที่ดีหมุนพวงมาลัยไป หมุนตัวไปในทางที่ดี ถ้าอันไหนไม่ดี อย่าหมุนพวงมาลัยไป เดี๋ยวลงคลอง ให้จำเอาไว้อย่างนั้น เราเป็นผู้ขับขี่ของเราไปที่ปลอดภัย แล้วเราเองนั่นแหละจะเป็นผู้บังคับเราให้จมลงในนรก เพราะความอยากทะเยอทะยานของเรานี่ไม่รู้ดีรู้ชั่วนะ เวลาเป็นขึ้นมาในหัวใจนะ
อยากอะไรก็ไม่เหมือนอยากอำนาจของกิเลส เราอยากข้าวอยากน้ำ หิวนอน นี่นอนแล้วมันก็อิ่มได้ หิวข้าวอยากข้าวกินแล้วมันก็อิ่มได้ แต่หิวโหยเพราะกิเลสนี่ไม่มีวันอิ่มพอนะ ให้เท่าไรมันก็เหมือนไฟได้เชื้อเสริมเท่าไหร่ ก็ส่งเปลวขึ้นจรดเมฆ นี่แหละความทะเยอทะยานคือความหิวโหย ความไม่อิ่มพอ นี่ให้พากันระมัดระวัง อันนี้มันเป็นภัยต่อโลกมานานแสนนาน และเป็นภัยต่อเราด้วยนะ คำว่าโลกต้องนับเราแต่ละคน ๆ เข้าไปมันถึงสมบูรณ์นะ คำว่าโลกให้พากันแก้ไขตัวเอง นี่ปีใหม่ก้าวเข้ามาแล้ว นี่ให้พยายามดัดแปลงแก้ไข ตัวเองไม่ดีตรงไหน ให้รีบพากันแก้ไข ปีใหม่ไม่เสียท่าเสียที ปีใหม่ไปเฉย ๆ เจ้าของไม่แก้เจ้าของ ไม่พากันเกิดประโยชน์อะไร ให้พากันจำไว้นะ
นี่จวนเวลาแล้ว จะขอลาพี่น้องลูกหลานกลับอุดรก่อน ทางโน้นก็ภาระมากเหมือนทางนี้แหละ ให้พากันอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ถืออรรถถือธรรมเป็นข้อคิดเครื่องดำเนิน แล้วจะพากันไปด้วยความแคล้วคลาดปลอดภัย มีความสุขความเจริญ สามีภรรยาก็จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะอำนาจแห่งตัณหาไม่มีเมืองพอ ตัณหาไม่มีเมืองพอนี่เดี๋ยวนี้กำลังลุกลามนะ มากจริง ๆ กำลังจะเป็นบ้าสด ๆ ร้อน ๆ มนุษย์เรา มีหนึ่งอยากได้สอง มีสองอยากได้สาม มีสามอยากได้สี่ แล้วเอามาเผากันแหลกหมดเลย ของเหล่านี้มีแต่เครื่องเผาทั้งนั้นแหละ
รู้ไหมว่ากาฝากคืออะไร ผัวกาฝาก เมียกาฝาก เข้ามาแล้วมันมาดูดมาซึม เอาเนื้อเอาหนัง เอาตับเอาไต เอาสมบัติเงินทอง เอาความสุขสงบเย็นใจของเราไปหมด เอาฟืนไฟเผาไหม้เข้ามาแทนที่ อันนั้นนี่แหละพวกกาฝาก ผัวกาฝากเมียกาฝาก ความอยากกาฝาก ความอยากอยู่ในขอบเขตที่มีความพอดี มีธรรมเป็นเหมือนรั้วกั้นนั่นแหละ มีความร่มเย็นเป็นสุข ถ้าความอยากให้เอาฟืนเผาไหม้เข้ามาเสริม ตายเลย ทีนี้ความอยากกาฝากไม่เป็นของดีนะให้พากันจำเอาไว้นะ คำนี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้านะ
พระพุทธเจ้าไม่เคยหลอกลวงโลก กาฝากเป็นอย่างไร แล้วเห็นไหมต้นไม้ต้นไหนที่มีกาฝากมาก ๆ ตาย พอเป็นตัวเป็นตน มันเป็นเนื้อเป็นหนัง มันดูดมันซึมต้นไม้นั้นเป็นอาหารของมัน เสร็จแล้วต้นไม้นั้นซึมไปแหลกหมด เสร็จแล้วสุดท้ายลูกเต้าหลานเหลนหาที่เกาะที่ยึดไม่ได้ วุ่นไปหมด แล้วว่าตัวเองฉลาด เรียนมาสูง สูงอะไร นี่น่ะมันสูงตายสูงอะไรถึงกิเลสเหยียบหัว ถ้าสูงก็ต้องเหยียบหัวกิเลสน่ะซิ จึงจะเรียกว่าเรียนสูง เอาละพอ.. เหนื่อยแล้วเราจะให้พร.