เราได้หนักใจกับพระนะเราพูดจริง ๆ มันอะไรก็ไม่รู้ ดูแล้วมันกีดมันขวาง ออกมาทางเรื่องสติปัญญามันนอนหลับครอก ๆ สอนเท่าไรมันก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว มองไปไหนขวาง ๆ ถ้าใช้สติปัญญาแล้วจะไม่ขวางมากนะ อันนี้ดูเหมือนจะไม่ใช้เลย แบบขอนซุงทั้งท่อน ๆ นี่ละกิเลสเหยียบหัวสัตวโลกดูเอาซิ มันเหยียบอย่างนี้ เจ้าของเซ่อไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ยังภูมิใจที่กิเลสเหยียบและมัดคอ มันของเล่นเมื่อไรกิเลสน่ะ เราจึงสลดสังเวชในการที่จะสอน พระพุทธเจ้าทรงท้อพระทัย ไม่ท้อยังไงว่างั้นเลย ใครจะไม่ท้อ นอกจากพวกเรานี่แหละ พวกหลับครอก ๆ นี้ไม่ท้อ ให้มาอีก ดีไม่ดีมันจะขอเอาโคตรกิเลสมาเหยียบกันอีกนะ กิเลสตัวเดียวสองตัวไม่พอ ให้มาหมดทั้งโคตรมาเหยียบคอให้ว่าอย่างนั้นนะ ยังภูมิใจได้โคตรกิเลสมาเหยียบคอ ฟังซิน่ะ โห มันสลดสังเวชนะ
ศาสนาจะหมดจริง ๆ เวลานี้จะยังเหลือแต่สัตว์ไม่มีหางคือมนุษย์เรานี่ สัตว์ไม่มีหางสัตว์หางด้วนมนุษย์เรานี่ ถ้าว่าติดหางปั๊บไอ้หยองนี้วิ่งเข้าป่าเลย พวกอยู่ในกรงนี้กรงแตกเลยอยู่ไม่ได้ แตกหมดเลยถ้าลงติดหาง คือมนุษย์เก่งมากยิ่งกว่าสัตว์ แต่เวลานี้ไม่มีหางก็เก่งแล้วเรื่องความเซ่อซ่า ไม่มีธรรมในหัวใจเลยนี้ แหม สลดสังเวชนะ ให้ลูกหลานทั้งหลายพิจารณานะ ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นของเล่นเมื่อไร พวกเราหลับหูหลับตา ดูอะไรฟังอะไรมีแต่กิเลสลากไป ๆ เพลินไปไม่มีความอิ่มพอ ถ้าเป็นเรื่องกิเลสไม่มีคำว่าอิ่มพอ ถ้าเรื่องของธรรมแล้ว โอ๋ย ขยะ ๆ เป็นอย่างนั้นนะ จึงสลดสังเวชซิ จะหมดแล้วนะศาสนาเวลานี้
ความรู้ทั้งหมดที่พวกเราว่าบ้านเจริญเมืองเจริญ มีแต่เรื่องกิเลสความรู้ของกิเลสเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กันไม่ว่าประเภทไหนล่ะน่ะ ใครจะเก่งขนาดไหนก็ตาม ว่าเจริญรุ่งเรือง มีแต่ฟืนแต่ไฟทั้งนั้น เอาธรรมจ่อเข้าไปมันเห็นหมดจะว่าไง ขนาดนั้นนะ ให้พิจารณานะลูกหลาน อย่าภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็นกิเลสตัณหาที่จะทำเจ้าของให้เสียหาย เฉพาะอย่างยิ่งราคะตัณหาเวลานี้ทั้งหญิงทั้งชาย พวกไวไฟนะนี่ มองเห็นกันติดปุ๊บ ๆ มันเป็นหลักธรรมชาติ ไม่ว่าสัตว์ว่าบุคคล เรื่องราคะตัณหาหญิงชายไม่ได้กลัวกันนะ เห็นกันติดกันเลยพันกันเลย ๆ แล้วก็เพลินกันเลย ธรรมะจับเอา ๆ ที่เพลินกันเลยนั้น นั้นละคือเหยื่ออยู่ปลายเบ็ด เพลินกันเลยแล้วไฟก็เผาไปเลย นั่นคือเบ็ดอยู่ข้างใน
อย่าลืมเนื้อลืมตัวจนเกินไป สิ่งเหล่านี้มีกับโลกมาตั้งกัปตั้งกัลป์ และพาโลกให้ล่มจมมานานแล้ว ควรจะได้เอามาพินิจพิจารณาแยกส่วนแบ่งส่วนบ้าง เราจะมีทางออกนะ อย่าปล่อยให้มันอย่างเดียว ความโลภอย่าปล่อยให้มันอย่างเดียว บ้านเมืองและเราจม ราคะตัณหาถ้าปล่อยมาก ๆ แล้วตัวนี้ตัวฟืนตัวไฟมากที่สุดในโลกนี้ โลกนี้ชอบมากที่สุดคือราคะตัณหา ตัวเป็นภัยที่ลึกซึ้งมากที่สุดคือตัวนี้ สัตวโลกไม่มีคำว่าอิ่มพอ จึงเกิดตายไม่มีคำว่าอิ่มพอ ยังเพลินไปอีก ได้เมียคนหนึ่งได้ผัวคนหนึ่งไม่พอ ยังเพลินไปอีก เห็นไหมมันพอเมื่อไรธรรมชาติอันนี้ ให้ลูกหลานจำเอานะ มาศึกษาเล่าเรียนกับอรรถกับธรรม ธรรมเป็นเครื่องยับยั้งชั่งตัว เป็นน้ำที่สะอาดซักฟอก ๆ อันไหนไม่ดีซักฟอก ฝืนซักฟอกมันนะลูกหลาน
หลวงตาจวนจะตายแล้วนะ สอนลูกหลานทั้งหลาย อย่ามาเข้าใจว่าหลวงตาดุด่าอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ละพลังของธรรมชะล้างสิ่งที่สกปรก มันสกปรกมาก น้ำที่สะอาดคือธรรมชะล้างลงไปรุนแรง ไม่งั้นหาความสะอาดไม่ได้ เอาละที่นี่หลวงตาจะให้พร
หลังจังหัน
สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๑๙ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑ บาท ๘๗ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑,๑๖๑ ดอลล์ ดอลลาร์เรารู้สึกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ระยะนี้เพราะจวนวันแล้วนะ จวนวันเราเร่งใส่ดอลลาร์ นี่ค่อนข้างจะแน่แล้วในสมุดบัญชีอุดร ๗ หมื่น แล้วทางกรุงเทพ ๒ หมื่น กว่านั้นตัดออกเอาเป็นนกต่อไว้ในบัญชี สองบัญชีนี้ก็แน่แล้วว่าได้ ๙ หมื่น เงิน ๑๐ ล้านฟังว่าได้ ๒๒๐,๐๐๐ แน่นอนแล้ว รวมกับในบัญชีนี้ก็เป็น ๓ แสน ๑ หมื่น จากนี้ไปถึงวันออกเดินทางก็จะได้ ไปกรุงเทพก็คิดว่าจะได้อยู่ในวันที่ ๒๕ ตอนเช้าก่อนที่จะออกเดินทางไปเมืองกาญจน์ ฉันเสร็จแล้วกว่าจะออกเดินทางไปเมืองกาญจน์ก็มีเวลาพูดอยู่ เราก็ได้เตือนไปบ้างแล้ว ทางวิทยุออกไปหมด ให้เตรียมพร้อมไว้เราบอก
เมื่อวานนี้เอาของไปส่งโรงพยาบาลภูเรือ อยู่ในหุบเขา ทางผ่านไปด่านซ้าย จากจังหวัดเลยไป ๔๙ กิโลถึงภูเรือ ถึงโรงพยาบาล ๕๐ กิโล ลึกอยู่ เอาของไปให้ ปัจจัยสำหรับอาหารคนไข้ ครัวคนไข้เราให้เดือนละ ๑ หมื่นตลอดมา ให้เป็นประจำ ๆ ถ้าอันไหนเป็นภาระของเราเองเราก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเขา เช่น นายูงก็ ๒ หมื่น ภูเรือนี้เราไปมอบให้เอง อันไหนที่สั่งให้เขามอบเป็นเรื่องของเขาไปเลยเราก็ไม่เกี่ยว เช่น หนองวัวซอ หนองหาน อย่างนี้ ถึงเวลาเขาก็ไปจัดการเอง อันไหนเป็นหน้าที่ของเราเราก็จัดการของเราเอง
นี่ก็ยังทำให้หวุดหวิด ๆ อยู่นะนี่ ทำให้เราวิตกวิจารณ์ได้ไปถามเขาที่จะไปภูวัวนี่น่ะ มันจวนเวลาที่จะเข้ากรุงเทพด้วย เลยทำให้เราคิดวกวนนะ ไปกรุงเทพก็วันที่ ๒๔ วันที่ ๓๐ กลับมา นี่ในช่วงนี้ช่วงที่จะไปส่งอาหารภูวัว แล้วคนที่เขาจะไปส่งก็ต้องติดตามกับเราไปด้วย ยังไม่ได้ถามเขาดูจะเอาช่วงไหนในระยะนั้น คือถ้าปลาตกมาแล้วเมื่อไรไปได้ ปลานี่เราสั่งเขมรผ่านโคราช พอมาถึงโคราชส่งมาถึงนี้แล้วเราก็ไปได้ อันนี้เป็นของสำคัญ ถ้าอันนี้ยังไม่ถึงยังไปไม่ได้ รออันเดียวนี่ละ คือปลาย่างไปแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า ๘๐ กิโล เอาอย่างดีนะ ส่วนมากก็ ๘๓-๘๕ ในย่านนี้
เผื่อคนครัวเขาจะได้ทำเป็นน้ำพริกน้ำอะไร ๘๐ กิโลนี้ก็วันละ ๒ กิโล ให้เป็นประเภทน้ำพริกน้ำอะไร เป็นปลาดี ๆ ด้วยนะ มาจากเขมรโดยเฉพาะ เขาติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ทางโคราชเขาซื้อขายกันเป็นประจำ เราไปแทรกกับเขาก็เลยแบ่งมาทางเราด้วย เขาจะทำเป็นน้ำพริกหรือแกงใส่ผักหวานอะไรก็แล้วแต่เถอะ ในภูเขาผักหวานมีอยู่เยอะ แต่เวลานี้มันแก่แล้วแหละผักหวาน ผักอื่นก็มีถ้าไม่สิ้นท่า ถ้าไม่โง่จนขนาดสิ้นท่า อันนี้หมายถึงพวกอาหารยาว บางปีท่านก็เตือนเหมือนกัน ปลาย่างไม่อยากให้ส่งมามากมันเสีย เพราะฝนตกชุก ไม่มีแดดไม่ได้ตาก เราก็เฉย เราก็ส่งไปเท่าเดิม ปลาย่างเท่านั้นมันยากอะไร
ที่ถ้ำเต่าก็ไปพบกับท่านอุทัยเหมือนกัน เราก็สอนซ้ำอีก ท่านบอกว่า โอ๋ย เข้าไม่ได้เลยเดี๋ยวนี้ วันนั้นท่านมายังบอกเข้าไม่ได้อยู่นะวันที่ ๑๖ น่ะ แล้วท่านเถลไถลออกมายังไง เอารถเล็ก ๆ เท่ากำปั้นออกมาท่านว่า พอออกได้ นอกนั้นไม่ได้ ท่านว่างั้นนะ เลอะหมดตั้งแต่ทางที่จะเข้าวัดจนกระทั่งถึงทางออก เพราะทางออกเขาซ่อมใหม่ พอดีฝนตกมันเลยเลอะหมดไปไม่ได้เลย เสียหมดทางนั้นที่กำลังซ่อม ตกลงต้องเดินซอกซอนออกไป เข้าทางใหญ่ไม่ได้เลยกำลังเลอะ ไปไม่ได้เลย ท่านอุทัยพูดให้ฟังชัดเจนมาก
ท่านเป็นหัวหน้าพาตั้งอกตั้งใจปฏิบัติจริง ๆ แล้วเราก็ได้กำชับกำชาเรื่องพระ พระท่านรับมากผมไม่ว่า เพราะผมได้เปิดแล้วว่า พระที่ตั้งใจปฏิบัติจริง ๆ เพื่ออรรถเพื่อธรรมแล้วให้มา มาเท่าไรผมรับเลี้ยง แต่ก็มีแป้วใจอยู่อันหนึ่งว่าพระที่เลอะ ๆ เทอะ ๆ อาจแทรกเข้าไป ให้ท่านพิจารณาด้วยดีนะ อย่าเอาเลอะ ๆ เทอะ ๆ เข้าไป สถานที่นี่เป็นสถานที่คัดเลือกพระ จะเข้าสนามรบฟาดกับกิเลสล่ะซี เตือนท่านอีก รับมากรับน้อยไม่สำคัญอะไร สำคัญที่มีดีมีชั่วมันจะแทรกเข้าไป ให้ระมัดระวังให้ดี เดี๋ยวไปเพียงองค์เดียวเลอะไปหมดนะ แต่ก่อนเราก็พูดแล้ว เมื่อวันนั้นซ้ำเข้าอีกทีหนึ่ง เพราะเราสงวนจริง ๆ สงวนพระ
สงวนพระสงวนธรรมไว้สำหรับโลกชาวพุทธเราได้กราบไหว้บูชา พอเป็นขวัญตาขวัญใจ วันหนึ่งระลึกถึงพุทโธได้คำหนึ่งก็ยังดีกว่าที่โลกเขาที่ไม่มีพุทธศาสนานี้เขาไม่ระลึกกันเลย เราดีกว่าเขาแม้ระลึกพุทโธได้คำเดียว ยังดีกว่าเขาที่ไม่ระลึกนะ แต่ทีนี้เราเป็นชาวพุทธมาระลึกพุทโธคำเดียวต่อหน้าหลวงตานี้ฟาดเลยนะ เหอ พ่อมึงระลึกอย่างนี้เหรอ พ่อมึงไม่เคยว่าเหรอ ซัดเลยทั้งพ่อทั้งลูกตีหมดเลย เพราะเป็นลูกชาวพุทธเรา ภายนอกเขาไม่รู้พุทธศาสนา เขาระลึกได้พุทโธคำหนึ่งเราพอใจนะ ถ้าเป็นเมืองพุทธเรานี้ พ่อมึงพาระลึกพุทโธเท่านั้นเหรอ แล้วแม่มึงว่ายังไง ไล่เข้าไป โคตรมึงระลึกอะไรบ้าง ซัดเข้าไปล่ะซี นี่ถ้าเป็นคนของเราตีเข้าไปอีก มันหลายขั้นหลายตอนนี่นะ
โห พุทธศาสนานี้เลิศเลอจริง ๆ นะ ใครเกิดมาไม่พบไม่เคารพเลื่อมใส เรียกว่าหมดคุณค่า ยันด้วยหัวใจนี้เลย อะไรจะเลิศยิ่งกว่าพุทธศาสนา พุทธศาสนานี้มีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ เป็นแบบเป็นฉบับของพระพุทธเจ้าที่สิ้นกิเลสแล้วทุกพระองค์เป็นเจ้าของศาสนา การรู้เห็นธรรมทั้งหลายและการสอนโลกจึงไม่ผิดเพี้ยน จึงเรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว ทุกพระองค์แบบเดียวกันหมด เห็นอย่างเดียวกันแล้วจะค้านกันได้ยังไง ท่านไม่ได้มาแบบงู ๆ ปลา ๆ เหมือนคนมีกิเลสนะพระพุทธเจ้า
ศาสนาทั้งหลายเราก็ไม่ได้ประมาท ก็พูดตามหลักความจริง คือศาสนาที่เจ้าของศาสนาเป็นคลังกิเลสเป็นคนมีหัวใจแล้วก็เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ต้องผิด ๆ พลาด ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ดีไม่ดีเข้าตัว อะไรชอบใจก็ว่าอันนี้ถูกไปเลย พระพุทธเจ้าไม่เข้าใคร ตั้งแต่เสด็จไปกรุงกบิลพัสดุ์ นั่นฟังซิ พระราชบิดาไปต่อว่า ก็พ่อกับลูกนี่ ทำไมเข้ามาถึงพระราชวัง จึงไปบิณฑบาตตามบ้านนั้นบ้านนี้ ท่านรับสั่งว่า นี้คือประเพณีของพระพุทธเจ้า ประเพณีของพ่อกับลูกเป็นอันหนึ่งต่างหาก เห็นไหมล่ะ ท่านเอาพ่อกับลูกมาเป็นแบบฉบับเมื่อไร เอาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงบิณฑบาต ส่วนเขานิมนต์เป็นปลีกเป็นย่อยไป เรื่องบิณฑบาตเป็นกิจของพระพุทธเจ้า พระราชบิดาก็ไม่ทรงค้านเลย ยอมรับ นั่นท่านเข้ากับพระราชบิดาเมื่อไร ท่านเข้าพระพุทธเจ้า นี่ละแบบฉบับเป็นมาอย่างนี้ ยกพระพุทธเจ้ามาปึ๊บเดียวเท่านั้น พระราชบิดาหมอบ ๆ กราบเลย
คือพระราชบิดานั้นอายชาวบ้านชาวเมือง พ่อก็เป็นกษัตริย์ปกครองหมดทั้งบ้านทั้งเมือง ลูกชายไปบิณฑบาตขอทานเขา อู๊ย ขายหน้า นี่ละเกียรติของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้ นั่นเห็นไหมเวลาท่านตอบ เกียรติพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น เกียรติของโลกเป็นอย่างนั้น มันต่างกัน ทีนี้พระราชบิดาก็ยอม ไม่เห็นค้านพระพุทธเจ้ารับสั่งคำไหน นี่ตรงไปตรงมาไหมศาสดา ท่านทรงเล็งญาณดูเสียก่อน พระพุทธเจ้าทรงดำเนินมายังไง ๆ ท่านพิจารณาเล็งญาณดูตามพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ทรงบำเพ็ญมายังไง ๆ ท่านจะดำเนินตามนั้น ๆ ญาณหยั่งทราบไปหมดเลย ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้า วันขี้เกียจก็ไม่ไปอย่างหลวงตาบัว แต่กินเร็วยิ่งกว่าลิง
ทุกวันนี้ไม่บิณฑบาตนะ เข้าทางจงกรมเลย ถึงเวลาแล้วค่อยมากิน แต่ก่อนจะพูดว่าขยันก็ไม่ผิด คือเราไม่เคยขี้เกียจในเรื่องเหล่านี้เลยก็มาลดเอาตอนนี้ ตอนไปไม่ได้ ทีนี้พอฟื้นขึ้นมายังบิณฑบาตไม่ได้ก็เข้าทางจงกรม เวลาเข้าทางจงกรมมาทดสอบบวกลบคูณหารกับการออกเดินบิณฑบาตเกี่ยวข้องกับประชาชน แล้วเกี่ยวข้องกับบาตร รับแล้วก้มแล้วเงย ๆ เดินไปไม่ถึงไหนมันก็วิงเวียน ไม่สุดสายแหละ นี่เอาละนะมันจะล้มแล้ว ต้องกลับมา เรื่องราวมันเป็นอย่างนั้น บิณฑบาตแทนที่จะเป็นประโยชน์สำหรับธาตุขันธ์และจิตใจของเราเพื่อประโยชน์แก่โลก สู้เข้าทางจงกรมไม่ได้ พี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบเอานะ ที่หลวงตาไม่บิณฑบาตทุกวันนี้ เราพูดจริง ๆ เราไม่ได้ขี้เกียจ แต่เราเทียบเหตุเทียบผลเวลาเราออกบิณฑบาตผลได้น้อยมาก แล้วก็มากระทบกระเทือนธาตุขันธ์ของเราซึ่งจะทำประโยชน์ให้แก่โลกอยู่โดยดี
ทีนี้ถึงเวลาพระท่านออกบิณฑบาตเราเข้าทางจงกรมแล้ว นี้พิจารณาทุกแง่ทุกมุม เปิดให้ฟังเสียนะ เรื่องอรรถเรื่องธรรมนี้จะเปิดออก พิจารณาทุกแง่ทุกมุม มันหากเป็นของมันไปเองนี่อันหนึ่ง อันหนึ่งเรื่องเมตตาธรรมนี้ก็กระจายทั่วโลกธาตุเต็มเม็ดเต็มหน่วยเวลานั้น เวลาออกบิณฑบาตนี้เมตตาก็เมตตาตั้งแต่พวกนี้ยังไม่ได้ใส่ ๆ สอดบาตรไปหาคนนั้นไปหาคนนี้มันก็ไม่ทั่วถึงใช่ไหม แผ่เมตตานี้กระจายทั่วโลกธาตุ เทียบกันอย่างนี้ซิ นี่เต็มเม็ดเต็มหน่วยในเวลาเช่นนั้น การพิจารณาอรรถธรรมนี้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จิตใจสะดวกสบายทั้งธาตุทั้งขันธ์ไปพร้อม ๆ กันในขณะนั้น เวลามาเทียบกันนี้ได้ผลเกินคาด เพราะเหตุนี้เองเราจึงไม่ได้บิณฑบาต ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอานะ
เรื่องขี้เกียจเราไม่ขี้เกียจ รู้แล้วว่าเป็นกิจจำเป็นประเภทหนึ่งของเรา ทีนี้กิจจำเป็นประเภทนี้เป็นยังไงเอามาเทียบกันอีก เมื่อเทียบทางนี้เหนือกว่าแล้วก็เลยไปทางนี้ จึงไม่ได้บิณฑบาต จะไปเมื่อไรก็ได้ทุกวันนี้ แต่ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ละ เรื่องธาตุขันธ์ก้มเงย ๆ ไม่นานนะ เทบาตรแล้วก้มเงย ๆ แล้วยุ่งนั้นยุ่งนี้มีแต่ยุ่งตลอดเวลาในสายบิณฑบาต หาความสงบสบายในธาตุในขันธ์ จิตใจที่จะคิดในแง่ธรรมต่าง ๆ ไม่มี มีแต่ยุ่งกับข้าวกับกับ คนนั้นยังไม่ใส่ คนนี้ยังไม่ใส่ ยื่นบาตรให้คนนั้น ยื่นบาตรให้คนนี้ เลยจะตาย
เวลาเข้าทางจงกรมปั๊บหายเงียบเลย เรื่องเหล่านี้ไม่มี มีแต่พิจารณาอรรถธรรมโดยสะดวก ๆ ตลอด ทั้งกว้างทั้งแคบ ลึกตื้นหนาบางอะไร มันจะเป็นของมันไปเอง อันนี้พูดให้ใครฟังไม่ได้ กับเรื่องเมตตาจิตเมตตาธรรมครอบโลกธาตุตลอดเวลา ในขณะนั้นเป็นเวลาที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มันเป็นระยะ ๆ นะ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเสีย ที่ว่าไม่บิณฑบาตเพราะเหตุนี้เองที่เราไม่ไป ใครจะว่าอะไรเราพิจารณาของเราเต็มเหนี่ยวแล้ว เราจะเชื่อธรรม เราไม่เชื่อความคิดเห็นของคนจำนวนมาก ซึ่งสับปนไปด้วยทั้งดีทั้งชั่วไปด้วยกันนั่นแหละ นี่ละที่เราไม่บิณฑบาตขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบเสีย อย่างนี้ละเรื่องราวมัน
ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๒,๗๕๐ กิโล รวมทองคำทั้งหมดทั้งเข้าคลังหลวงและยังไม่เข้าได้ ๔,๓๒๑ กิโล ต่อไปนี้ก็จะเพิ่มเรื่อยนะ อย่าอ่อนนะพี่น้องทั้งหลายให้ฟังหัวหน้า ๆ เข้มแข็งพวกลูกศิษย์ลูกหาบริษัทบริวารอ่อนแอไม่ได้นะ เข้ากันไม่ได้นะ หัวหน้าเป็นผู้ก้าวเดิน ๆ ลูกศิษย์ก็เดินตามหลังไป ให้พากันเข้มแข็งทุกคน มีเท่าไรทานลงไป สมบัติในคลังหลวงเรามีมากน้อยสง่างามตลอด ในกระเป๋าของเราสู้ไม่ได้นะ สมบัติในคลังหลวงมีมากเท่าไรยิ่งสง่างาม เป็นคนทุกข์คนจนในประเทศไทยของก็สง่างามไปด้วยกันนะ ถ้าหากว่าคลังหลวงของเราไม่มีสมบัติติดตัวเลยแล้ว ใครจะมีเงินกระเป๋าเป้ง ๆ เท่าท้องช้างก็ตามไม่ได้มีความหมายนะ มันไปมีความหมายอยู่กับคลังหลวงนะ
หัวใจของชาติอยู่คลังหลวง ไม่ได้อยู่กับกระเป๋าของเราแต่ละคนๆ ให้จำข้อนี้ให้ดี อันนี้สำคัญมาก ยังไงก็ขอให้คลังหลวงของเรานี้เต็มเถอะ เราจะผาสุกสบาย ทุคตะเข็ญใจนอนอยู่ตามร่มไม้สบายไปหมดเพราะหลักใหญ่ประกันไว้เรียบร้อยแล้ว เงินในกระเป๋าของเราจะใหญ่ขนาดไหน ไม่ได้ประกันคนทั้งชาติได้นะ อันนั้นประกันได้ จำให้ดีคำนี้ จึงเร่งเสมอ เร่งตลอดเวลานี้ไม่อ่อน จะเร่งตลอด ในระยะที่ควรเร่งได้นี้จะพาพี่น้องทั้งหลายเร่งให้เต็มเหนี่ยว บทเวลาไปไม่ได้ไม่ได้นะ เวลาปิดแล้วเปิดไม่ได้ มันถึงกาลปิดแล้วปิด สักเดี๋ยวก็ปิดโลงผีเท่านั้นซิ
จะหามโลงผีไปเรี่ยไรพี่น้องทั้งหลายมันไม่ได้เหมือนโลงผีเป็นนี่นะ โลงผีตายหามไปที่ไหนเขาแตกฮือ ๆ สตางค์หนึ่งไม่ได้ละ ถ้าโลงผีเป็นนี้เขาไม่ให้ไล่ตีกระเป๋าเอาเลย ฉีกกระเป๋ามาเลย โลงผีนี้มันดื้ออยู่นะ ไอ้โลงผีตายมันไม่ดื้อ หามไปไหนมีแต่คนแตกฮือ ๆ จะเอาแบบไหน จะเอาแบบหามโลงผีไปเขาแตกฮือ ๆ หรือจะเอาโลงผีสดนี้ไป ไปที่ไหนต้องระวังกระเป๋าไว้ไม่งั้นฉีกขาดเลย คว้าได้เงินแล้วไปเลย กระเป๋าฟาดเข้าป่าใครเอาไปไหนช่างเถอะ อย่างมากก็บอกไปหามาใหม่เท่านั้นเอง
ลูกหลานจำเอานะที่หลวงตาสอน ทุกอย่างให้พากันไปปฏิบัติ ภาคเรียนภาคปฏิบัติให้ไปด้วยกัน ถ้ามีแต่การศึกษาเล่าเรียนเฉย ๆ ไม่ว่าวิชาทางโลกไม่ว่าวิชาทางธรรมไม่เกิดประโยชน์ทั้งนั้น มีเรียนแล้วมีภาคปฏิบัติไปด้วย เช่นอย่างพระท่านบวชมานี้ ภาคปฏิบัติศีลต้องมีสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ขณะที่รับศีลออกมาจากอุปัชฌาย์ นั่นเป็นภาคปฏิบัติแล้ว ทีนี้การระมัดระวังสำรวมก็เป็นภาคปฏิบัติ การจิตตภาวนาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะจิตนี้เป็นเหมือนลิงเทียวนะ ต้องบังคับจิต ใครไม่เคยเข้าไปภาวนาบังคับจิตเสียก่อน อย่าเข้าใจว่างานใดหนักในโลกนะ งานที่หนักในโลกนี้คืองานบังคับจิต อันนี้หนักมากทีเดียว
เพราะข้าศึกใหญ่ได้แก่กิเลสทุกประเภทอยู่ในจิต ตัวนี้รุนแรงมาก ต้องเอาธรรมจ่อเข้าไป ธรรมจ่อเข้าไปทางนั้นตีพิษออกมา ทางนี้ตีเข้าไป สู้มันไม่ได้หงายหมาลงมาดังที่หลวงตาเคยพูดให้ฟังนั่นแหละ น้ำตาร่วง ๆ คือสู้มันไม่ได้ เวลามันรุนแรง ๆ ขนาดนั้นนะกิเลส มันเห็นประจักษ์กับหัวใจของเราถึงขนาดน้ำตาร่วง ไม่มีทางสู้ได้เลย ประจักษ์จริง ๆ มันถึงสด ๆ ร้อน ๆ ซิเวลาเคียดให้กิเลส นี่ละเวลามันรุนแรง ตีเข้าไม่ถอย ๆ อันนั้นค่อยสงบลง ๆ ความดีของเราเริ่มขึ้น ๆ ความดีก็เป็นผลขึ้นมาให้มีความสงบเย็นใจสบายขึ้นเรื่อย ๆ นี่อำนาจแห่งการต่อสู้กับกิเลสซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟ กลายเป็นน้ำเป็นท่าขึ้นมาจากผลแห่งการปฏิบัติธรรมของเรา เราจะชุ่มเย็น
อยู่บ้านอยู่เรือนก็เหมือนกัน ให้มีภาคปฏิบัติรักษาตัวให้ดี อย่าเร่ ๆ ร่อน ๆ อย่าเตร็ดอย่าเตร่ อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม อย่าลืมเนื้อลืมตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเราทุกคนรู้ เกิดมาจากพ่อจากแม่ตั้งแต่อยู่ในท้อง ยาครรภ์รักษาเห็นไหมล่ะ ครรภ์รักษาคือยารักษาท้อง มีลูกอยู่ในท้องแม่ก็ต้องได้ระมัดระวังรักษา สงวนตัวอย่างมาก ไม่อย่างนั้นกระทบกระเทือนแก่ลูกที่อยู่ในท้อง นี่เรียกว่ายาครรภ์รักษา ให้แม่รับประทานยานี้เพื่อบำรุงเด็กในครรภ์ด้วย ไม่ให้เป็นพิษเป็นภัยแก่เด็กในครรภ์ด้วย พอตกคลอดออกมาทีนี้ภาระของพ่อของแม่นี้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สละชีวิตต่อลูกทุกคน ๆ ลูกทุกคนได้รับการสละชีวิตจากพ่อแม่ทั้งนั้น เราอย่ามาทะนงตัวเรานะ เราเกิดจากพ่อจากแม่ใหญ่กว่าพ่อกว่าแม่ไม่ได้นะ
พ่อแม่ของเรานี้สละชีวิตทุกสิ่งทุกอย่าง พอเกิดขึ้นมาปั๊บ สิ่งใดที่ควรแก่ลูกของตนพ่อแม่จะหามาทันที ๆ เลย จากนั้นมาก็ค่อยเริ่มขึ้นมา ๆ เลี้ยงดูมาเรื่อย ๆ พอส่งเข้าศึกษาเล่าเรียน ทีนี้หาเครื่องร่ำเครื่องเรียน เรียนก็ต้องหาครูหาอาจารย์มาสอน ฟังซิน่ะ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างเครื่องไม้เครื่องมือการแต่งเนื้อแต่งตัวกระดาษดินสอ ออกมาจากพ่อจากแม่ทั้งนั้น เครื่องแต่งตัวทุกคนเราไม่มีปัญญาหามาได้นะ พ่อแม่ทั้งนั้นหามาให้เรา ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายพ่อแม่ขวนขวายแทบเป็นแทบตาย ขอให้ลูกได้ใช้ได้สอยได้อยู่ได้กินพ่อแม่เป็นที่พอใจ อดอิ่มพ่อแม่ไม่ค่อยเป็นอารมณ์ยิ่งกว่าเป็นอารมณ์กับลูกแต่ละคน ๆ นี่ละที่ว่าพ่อแม่มีบุญมีคุณต่อลูกมาก มีอย่างนี้เอง
คือสละชีพมาตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว ตกคลอดออกมาแล้ว ทั้งพ่อทั้งแม่เป็นตายไปด้วยกันเลย ๆ งานใกล้งานไกลควรไปแต่พ่อ-พ่อวิ่งหา งานใกล้ควรแก่แม่-แม่วิ่งหาอยู่ภายใน ภายนอกนี้ไม่ได้หยุดได้อยู่ จนลูกตกคลอดออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งเข้าไปเรียนหนังสือ หนังสือหลายขั้นหลายภูมินี่นะ เรียนหนังสือขั้นนี้ ๆ ความเปลี่ยนแปลงของวิชาความรู้ก็ต้องซื้อหามา ๆ เครื่องแต่งเนื้อแต่งตัวก็เป็นระยะ ๆ ตลอดถึงการกีฬายังมากวนพ่อกวนแม่อีกนะ เครื่องเล่นก็มากวนพ่อกวนแม่ พ่อแม่เลยจะตาย ทีนี้ส่งเข้าโรงเรียนไหนพ่อแม่ต้องเป็นตัวประกัน หาเงินไปเข้าโรงเรียนซิ หาเงินไม่พอไปกู้ไปยืมเขามา พ่อแม่เป็นบ๋อยกลางบ้านกลางเรือน ไฟเผาหัวอกพ่อแม่จนจะเป็นจะตาย ลูกยังเพลินเป็นบ้าอยู่ในโรงร่ำโรงเรียน ไม่รู้เนื้อรู้ตัวใช้ไม่ได้นะ
ให้ตั้งใจปฏิบัติ ให้คิดถึงคุณพ่อแม่ก่อนอื่น ที่ท่านว่า มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ ให้ปฏิบัติอุปัฏฐากดูแลพ่อแม่ อย่าลืมเนื้อลืมตัวนะให้ดูแลพ่อแม่ จะทุกข์จนอะไรก็เถอะ พอจะเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ด้วยวิธีการใด ให้เลี้ยงดูเต็มกำลังความสามารถ แล้วอย่าฝ่าฝืน พ่อแม่สั่งสอนในทางที่ถูกที่ดี ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตนให้เป็นคนดี นี่ละเป็นคนดีเด็กดี ๆ โรงเรียนเราเรียนมาเท่าไรมีภาคปฏิบัติอยู่ประจำโรงเรียนของนักเรียนทุกคน แล้วดีไปทั้งนั้นเด็ก ครูก็เบาใจ ครูก็เป็นแบบพิมพ์ของเด็ก ไม่ใช่ครูโกโรโกโสปฏิบัติเร่ร่อน กะล่อนกะแล่นเป็นครูมาสอนเด็ก ใช้ไม่ได้อย่างนั้น ต้องเป็นครูที่ดีเป็นแบบอย่างอันดีงามแก่เด็ก เด็กเห็นแล้วเคารพนับถือเชื่อฟัง แล้วมีแก่ใจที่จะสำเหนียกศึกษาจากครูจากอาจารย์ในบรรดาวิชาต่าง ๆ นี่ละครูก็เป็นสำคัญ
เวลาเด็กเรียนเข้าไปก็มีภาคปฏิบัติ-ปฏิบัติตัวให้ดิบให้ดี เวลาเรียนหนังแส่หนังสือขั้นใดภูมิใด อย่าปล่อยเรื่องอรรถเรื่องธรรม ธรรมนี้เป็นเครื่องกระตุกไม่ให้ลืมตัว ไม่ว่าเรียนชั้นสูงชั้นต่ำชั้นใดก็ตาม ธรรมจะเป็นเครื่องกระตุกให้รู้เนื้อรู้ตัวตลอดเวลา ถ้าไม่มีธรรมกระตุกแล้วไปใหญ่นะ ให้ลูกหลานจำเอาให้ดี วันนี้พูดเพียงเท่านี้ เอาละพอ
คนไม่ได้เบาบางนะ แน่นตลอดเวลา เต็มอยู่ข้างใน พระก็เต็มของพระ ปีนี้ ๕๐ ไม่ใช่เล่น นี่เป็นบริเวณของพระ ใครไปแตะไม่ได้นะ เราเด็ดขาดทุกอย่าง ใครไปยุ่งไม่ได้บริเวณจากนี้เข้าไปแล้วเป็นบริเวณของพระเต็มไปหมด ที่เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา มีแต่พระล้วน ๆ ประชาชนแยกจากนี้ออกไปโน้น แถวนี้จึงว่าแหลกหมด ปลูกนั้นสร้างนี้ยุ่งไปหมด ทางพระไม่ให้แตะเลย จากนี้เข้าไปหากุฏิเราก็เหมือนกันใครเข้าไปยุ่งไม่ได้
หมาเราน่ารักนะ เราดู มันก็รู้เรื่องเหมือนกัน พอถึงเวลาพระปัดกวาดออกมานี้ เขาจะต่างตัวต่างด้อม ๆ มามองพระ เราอยู่ข้างในเราสังเกตดูหมา พอพระปัดกวาดออกไปช่องทางนี้เขาจะรุมเลย แอบไปตามพระ พระปัดกวาดไปเขาจะแอบไปคอยสังเกตพระไป พอไปใกล้ ๆ ประตูนี้เขายิ่งจ้อง พอพระเปิดประตูนี้รุมทีเดียวออกหมดเลย เขาอยากเที่ยว แต่ไม้เรียวพระละซิ เวลารุมไปท่านก็ไม่ว่าอะไร ปล่อยเขาไป พอรุมออกไปพอสมควรแล้วท่านไล่ไปเท่านั้น โหย แตกฮือวิ่งเข้าหมดเลย คือเขาอยากออกเที่ยว เหมือนเขาติดคุกเหมือนกันนะ คือเข้าข้างในก็ไม่ให้เข้า มันมีสัตว์อยู่ข้างใน ครั้นไปปากเขาเป็นสุขค่อยยังชั่วละซิ ไปเห็นสัตว์ต่าง ๆ แล้วไล่กัด พระไม่ให้เข้า แถวนี้ก็ไม่ให้เข้า มันก็เข้าไปแอบในครัวได้ตัวสองตัวเท่านั้น
มันน่าดูตอนที่เขาแอบ เวลาพระปัดกวาดออกไปจวนจะออกประตูเท่าไร เขายิ่งด้อม ต่างตัวต่างด้อมจ้องดู โหย เขาฉลาดเหมือนกัน ไม่ออกหน้า เวลาพระปัดกวาดนี้เขาไม่ออกไปข้างหน้ากลัวพระจะเขกเขา เขาแอบอยู่ข้างหลัง พอปัดกวาดไป ๆ พอใกล้ประตูแล้วเขาจะจ้อง พอเปิดประตูปั๊บพรึบเดียวออกหมดเลย น่าดูนะ พระท่านก็ไม่ว่าอะไร เพราะท่านติดตามอยู่นี่ พอออกไปสมควรแล้วท่านก็ไล่ไปกลับ ยกไม้กวาดแล้วแตกฮือเข้าหมดเลย น่าดูเหมือนกันนะเขาฉลาด ไอ้จ้ำหลอดกับไอ้ดำนี่สำคัญมาก
วันพรุ่งนี้จะได้จ่ายเช็คละ เครื่องมือแพทย์มาแล้ววันพรุ่งนี้จะจ่ายเป็นล้าน ๆ ละนะ ใครรู้เมื่อไรเวลาหลวงตาจ่าย นอกจากเราบอกมันถึงจะรู้ จ่ายแต่ละฉบับ ๆ ๗ แสน ๘ แสน เป็นล้าน เป็น ๒ ล้านของเล่นเมื่อไร เพราะมันตกมา ๆ ดูบิลจ่ายตามนั้น ๆ วันพรุ่งนี้ก็เริ่มจ่ายเลย วันนี้บอกไว้ให้รอก่อนวันนี้ เราไม่จ่ายเพราะวันศุกร์ยังมี สุดสัปดาห์จ่าย