เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๙ บาท ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๘๕ ดอลล์ ก็ได้ไปทุกวัน ๆ ไม่มากก็ได้ ๆ ก็มีขาดไป ๓ วันติดกัน เลยไม่ลืมนะ เพราะทองคำนี้ไม่เคยขาด อย่างมากก็เว้นวันหนึ่ง วันนี้มาแล้ว ๑ กิโลกับ ๔๑ บาท มันขาดไป ๓ วัน ไล่ตีมันตกทะเลนู่น อยู่ ๆ ปุบปับมาขาด ๓ วันติดกัน ทีนี้ลบหลังมันเลยเทียว
ให้ขึ้นเรื่อย ๆ นะ เราไม่ทราบมันหากเป็นอยู่ในหัวใจนี้ มันเชื่อพี่น้องชาวไทยเราถึงยังไม่ได้ ก็ยังแน่ใจว่าจะได้เป็นลำดับลำดา เราเชื่อพี่น้องชาวไทยเราว่าเป็นผู้รักชาติมาดั้งเดิมแต่บรรพบุรุษของเรา เวลานี้เป็นเวลาที่เราจะซ่อมแซมในจุดบกพร่องเอนเอียง ตีขึ้น ๆ ด้วยกำลังความรักชาติ อันดับต่อมารักชาติแล้วก็ต้องเสียสละเพื่อชาติ มันก็ติดกันมาเรื่อย ๆ นี่เรากะไว้ทีแรกว่าจะได้ ๑๒๑ แท่ง เดี๋ยวนี้มันขึ้นถึง ๑๒๔ แท่ง ยังอีกร้อยล้านที่จะออกประมาณวันที่ ๒๐ กันยา แล้วก็ซื้อทอง ก็จะได้อีก ๒๐ แท่ง รวมเป็น ๑๔๔ แท่ง
คราวนี้ทองคำเรารู้สึกจะมากกว่าทุกครั้งตั้งแต่เราเริ่มมอบทองคำเข้าคลังหลวงมานะ เพราะครั้งนี้เราโหมโครงการช่วยชาติเข้าด้วย โครงการช่วยชาติที่เรากำหนดไว้คราวนี้ ๘๐๖ ล้านนั้น ก็เรียกว่าจะผ่านไปวันที่ ๒๐ กันยา ผ่านไปแล้ว ๗๐๐ ล้าน ยังอีกร้อยล้านจะเป็น ๘๐๐ ล้านวันที่ ๒๐ กันยา เราก็ได้เตือนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ พูดนี้ออกทางวิทยุทุกวัน ๆ ก็ให้เข้าหัวใจคนไทยทุกคน ๆ ว่า เงินสดนั้นเราจะนำออกไปช่วยพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศโดยถ่ายเดียวไม่เข้าคลังหลวง ครั้งแรกที่เราประกาศก่อนที่เรายังไม่ได้ไปดูทองคำ วันที่ดูทองคำก็คือวันที่ไปมอบทองคำ พอหลังจากมอบเสร็จแล้วเราก็เข้าไปดูทองคำ กลับมาเลยพลิกใหม่ ไปเห็นทองคำในคลังหลวงเราแล้ว เงินสดที่ว่าจะช่วยพี่น้องชาวไทยทั้งหมดบรรดาเงินสดเงินไทยเรานี้ เลยพลิกกลับมาฟาดเสีย ๘๐๐ ล้าน เงินทั้งหมดระยะนั้นมี ๘๕๐ ล้าน เราหักมาตั้ง ๘๐๐ ล้าน ยังเหลือไว้เพียง ๕๐ ล้านเท่านั้น นอกนั้นเข้าหมด
ทีนี้เราก็ประกาศว่าเงินสดต่อไปนี้เราจะแยกเข้าทองคำ ๆ ออกช่วยพี่น้องชาวไทยเราเป็นเพียงถูไถ เข้าในคลังหลวงนี้เรียกว่าไสเข้าเลย ๆ เราจะเจียดไว้ตลอด ๆ เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายที่จะบริจาค โอนเข้ามาธนาคารใดก็ได้โครงการช่วยชาติของเรา เข้าไหนก็มาหาหลวงตาบัวเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง แล้วจะเจียดเงินจำนวนที่ได้มามากน้อยนี้ออกช่วยชาติบ้านเมืองของเรา กิ่งก้านสาขาดอกใบ ทั้งเข้าสู่หัวใจชาติบ้านเมืองของเราคือทองคำ เงินสดเวลานี้จึงแปรได้อย่างนั้นไม่ได้ออกถ่ายเดียวดังที่ว่านะ เราจะเป็นผู้พิจารณาเอง ๆ เราต้องการทองคำมากทีเดียวนะ จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เชื่อ ผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้คือเป็นผู้ได้เข้าไปดูทองคำเอง กลับออกมาแล้วพลิกใหม่หมดเพื่อทองคำ ๆ หนุนทองคำหัวใจของชาติเราให้มากเท่าที่จะมากได้ นอกนั้นก็ถูไถกันไปอย่างนั้น
สำหรับดอลลาร์เวลานี้ก็ได้ ๕ หมื่นตั้งแต่เรากลับมาจากกรุงเทพแล้ว คือมาได้ที่อุดรนะ เวลานี้กรุงเทพก็เงียบดอลลาร์นะ พอเรามาทางนี้ดอลลาร์ ทองคำ ก็ตามเรามา เราไปกรุงเทพก็ตามเราไปทางโน้น เวลานี้ดอลลาร์จึงไม่มีทางกรุงเทพนะ มีเล็กน้อย เพราะเราถอนดอลลาร์เข้าคลังหลวงคราวที่แล้ว ทีนี้มันก็หมด จึงตั้งรากฐานใหม่ ได้มาเอาสองหารเลย ทางอุดรกับทางกรุงเทพ ดูเหมือนได้ทางละหมื่นกว่า ทีนี้พอตั้งรากฐานใหม่แล้วเราก็มาอุดรเสีย ดอลลาร์จึงขึ้นทางอุดร เวลานี้ได้ ๕ หมื่นแน่นอนแล้ว ถ้าได้แสนขึ้นไปแล้วอาจมอบ ถ้าต่ำกว่านั้นก็ไม่อยากจะมอบ คราวที่แล้วดอลลาร์ ๓ แสน คราวนี้ไม่มีดอลลาร์เลยมันยังไง ทองคำตั้งตันครึ่งกว่า ทำให้แป้ว ๆ อยู่นี้ละ
เราไปกรุงเทพเราจะให้เขาเตรียมพร้อมเรื่องดอลลาร์นะ โอนปั๊บทันทีถ้าพอจะได้ เราสั่งโอนปุ๊บโอนได้ทันทีไม่ให้ล่าช้า คิดว่าจะได้อยู่นะดอลลาร์เรา นี่ได้ ๕ หมื่นแล้ว ทางกรุงเทพเรายังไม่อยากนับ ก็ได้เท่าที่แบ่งกัน เราจะพยายาม เวลากลับไปกรุงเทพคราวนี้น่าจะได้ดอลลาร์ติดแนบไปกับคลังหลวง ถึงจะงามตางามใจ ดอลลาร์ก็ได้ ทองคำก็ได้ นี่ทองคำได้ตั้งตันกว่า ๆ แล้ว ดอลลาร์ไม่ติดเลยนี้มันยังไงกัน เอานะ เตรียมนะพี่น้องเราทุกคน ให้ได้ดอลลาร์ติดแนบไปกับทองคำคราวที่จะมอบนี้รู้สึกมากกว่าทุกครั้งนะทองคำเรา
เราจะพยายามพยุงพี่น้องชาวไทยเราให้หนุนตัวขึ้นมั่นคง ๆ ด้วยทั้งทางชาติทั้งทางศาสนารุมกันเข้าช่วยกันเข้าไปเวลานี้นะ เราก็แน่ใจด้วยว่าเวลานี้กำลังราบรื่นดีงาม การดำเนินเพื่อการอุ้มชูชาติไทยของเรารู้สึกราบรื่น เราโล่งในหัวใจ ดูที่ไหนก็ไม่พ้นจะดูที่นี้ก่อน อย่าว่าคุยนะ จะดูที่ไหนต้องดูนี้ก่อน ดูนี้ ๆ ออก นี่เราก็รู้สึกว่าโล่งใจ เมื่อหัวหน้าโล่งใจ บรรดาพี่น้องทั้งหลายก็โล่งใจแล้วมันก็โล่งทุกอย่างที่จะออก ขอให้แน่ใจเถอะน่ะคนเรา ถ้าไม่แน่ใจกำอยู่ติดมือนี้มันก็ติดอยู่นั้นไม่ยอมออก ถ้าลงแน่ใจปั๊วะเดียวหมด ถึงไหนถึงกัน ไหนเอามาอีกว่างั้นเลย ขอให้ลงใจเถอะน่ะ
เดี๋ยวนี้เราเริ่มเข้าขั้นลงใจแล้วนะ พี่น้องทั้งหลายลงใจ ชาติบ้านเมืองของเราคราวนี้ต่างคนต่างพยุง ลงใจทุกคน มีมากมีน้อยไม่ต้องไปคำนึงเรากินน้ำปลาก็ได้เป็นไรไป ขอให้คลังหลวงของเราเหลืองอร่ามอยู่ด้วยทอง เรากินน้ำปลาอวดทองคำในคลังหลวงก็ยังได้ ถ้าคลังหลวงไม่มีทองคำกินอะไรก็ไม่เป็นท่า กินอยู่กับฝั่งมหาสมุทรทะเลหลวงที่มันจะพาจม กินอยู่ฝั่งมหาสมุทรมีเหรอ จมได้ กินยังไม่อิ่มจมเลย กำลังกินจมก็ได้ ถ้าคลังหลวงเราเหลืองอร่ามแล้วเรากินที่ไหนก็ได้ นอนขาขัดห้างอยู่ก็ได้ เข้าใจไหมล่ะ เอาให้ได้เป็นขาขัดห้างนะ ให้ได้ทุกคน มากน้อยไม่ว่า
ผู้ใดก็ตามเราเป็นชาติไทยทุกคน เด็กเกิดปั๊บขึ้นมาแม้แต่อยู่ในท้องแม่ก็เป็นเด็กไทยแล้วเห็นไหมล่ะ พอตกคลอดออกมาเต็มตัวเห็นกระจ่างแจ้งแล้ว ต่างคนก็จะได้เห็นความบกพร่องสมบูรณ์แห่งชาติของตนเอง เมื่อตกคลอดออกมาแล้วเห็นละ เมื่อเห็นแล้วต่างคนต่างมองดูเพื่อความช่วยเหลือบำรุงอุดหนุนให้ดีขึ้น ๆ หลวงตาก็โล่งใจกับบรรดาพี่น้องทั้งหลายว่า ต่อไปนี้จะค่อยก้าวไปเรื่อย ๆ สม่ำเสมอละคราวนี้ เรื่อย ๆ เลย เพราะเราเป็นที่แน่ใจแล้วว่าต่อไปนี้จะค่อยราบรื่นไป
สำคัญที่ฟังหัวหน้านะ หัวหน้าสำคัญมากทีเดียวทั้งทางโลกทางธรรม หัวหน้าที่ควรจะฟังใคร ๆ ดูก็รู้ ไม่ควรจะฟังดูก็รู้ นี่เราก็รู้เต็มกำลังของเราแล้วเราจึงได้มาเผดียงพี่น้องทั้งหลายว่าราบรื่น ทั้งทางบ้านเมือง ทั้งทางศาสนา จะไปด้วยกันราบรื่น แล้วอุ้มชาติไทยของเราเอื่อย ๆ ขึ้นไปเรื่อย เพราะชาติไทยหนัก คน ๖๒ ล้านคนฟังซิน่ะ นี่อย่างน้อยนะ แล้วอุ้มมันจะไปขึ้นได้ง่าย ๆ หรือ ถ้าแบบอุ้มฟักแฟงแตงโมก็อุ้มได้ มันหนักตกลงไปก็อุ้มขึ้นมาอีก เพราะมันหวังจะได้กิน นี่อุ้มคนทั้งคนถ้าอุ้มไม่ได้แล้วก็เหลวเลย ไม่เอามากินได้นะ จมไปเลย ต้องอุ้มขึ้นมาอย่าให้หลุดมือ
เอา หนุนทุกคน เราอย่าไปคำนึงว่าเรามีมากมีน้อย มีเท่าไรแบ่งสันปันส่วนไปเพื่อชาติอันใหญ่หลวงของเรา ชาติคือความใหญ่หลวงมากที่สุดครอบหัวของเราทุกคน ๆ คำว่าชาติแล้วครอบหมด เพราะฉะนั้นจงอย่าลืม มีมากมีน้อยแบ่งไว้เพื่อชาติเสมอ ๆ ทุกคนให้จำเอาไว้นะ หลวงตาเองไม่ทราบว่าแบ่งไม่แบ่ง จนกระทั่งเป็นทุคตะเข็ญใจโดยใครเขาไม่เชื่อนะว่าหลวงตาบัวเป็นทุคตะเข็ญใจ คนเขาไม่เชื่อ
วันหนึ่ง ๆ คนบริจาคมาเท่าไร ๆ ดูเอาซิ ก็บริจาคมาอย่างนี้ ส่วนใดที่หลวงตาจะเอาออกช่วยชาติบ้านเมือง เป็นหน้าที่ของหลวงตาเอง สงเคราะห์สงหาชาติบ้านเมืองไม่มีใครรู้ นี่ซิเวลาหลวงตาเอาออก เช็คแต่ละใบนี้กี่แสนกี่ล้านใครรู้เมื่อไร พอรายจ่ายตกมาปุ๊บ ๆ ดูรายจ่ายเสร็จแล้ว ๆ บริษัทใด ๆ เขียนเช็คปุ๊บ ๆ ใส่ปึ๋งไปเลย เงียบ ไม่รู้ นี่ละทุคตะเข็ญใจ ท่านทั้งหลายไม่รู้ เวลาได้มาเห็นทุกคน ใครมาบริจาคที่ไหนเห็นด้วยกัน แต่เวลาหลวงตานำออกไม่เห็น
จะทราบตั้งแต่ที่เข้าสู่คลังหลวง เช่น ดอลลาร์กับทองคำนี้เป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ๆ ส่วนเงินสดนี้เราแบ่งเป็นสองภาคแล้ว เราคิดไว้ตลอด แต่ยังไงก็ตามเราแน่ใจในความคิดความเห็นของเราว่าจะแยกไปทางไหน เราคิดเรียบร้อยแล้วค่อยแยก คิดดูซิตั้งแต่เขามานิมนต์เราไปเทศน์วันนี้ เราสงสัย เอ๊ นี้รับเขาแล้วเหรอ เราเหน็ดเหนื่อยไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ไป พระท่านบอกรับแล้ว เอ้อ ถ้ารับแล้วเราเชื่อความรับของเรา นั่นเห็นไหมล่ะ เรารับแล้วต้องมีเหตุผลทุกอย่างเรียบร้อยแล้วถึงรับ ถึงเราจำไม่ได้ก็ตามเรายอมรับว่าเรารับแล้ว นั่นเป็นความแน่นอนแล้ว เป็นอย่างนั้นนะ ก่อนจะทำอะไรลงไปเจ้าของจำไม่ได้ก็ตาม ถ้าลงได้รับแล้ว เช่นอย่างรับนิมนต์แล้ว เป็นอันแน่นอนแล้วว่ารับแล้ว พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างลงรอบจุดนี้ปุ๊บประกาศออกมาผาง ใช่แล้ว เป็นอื่นไปไม่ได้ถ้าเหตุผลไม่เหนือกว่านี้ เรื่องเงินสดก็เหมือนกัน เราคิดอย่างนี้มาตลอด คราวนี้ยิ่งเข้มงวดกวดขันที่จะนำเงินสดนี้เข้าสู่ทองคำ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com