วันพรุ่งนี้จะไปเทศน์ที่กิ่งอำเภอสามชัย จ.กาฬสินธุ์ แถวนี้ยังไม่เคยเข้า ดูเหมือนไปทางอำเภอศรีธาตุตัดไปนั้น เทศน์ตอนบ่าย ๒ โมงวันพรุ่งนี้ เรากะว่าเที่ยงถึงจะออก เพราะไปที่นู่นจะไม่มีที่พักละมั้ง เขาไม่ได้บอกมา เที่ยงออกจากนี้ก็พอดีแล้ว รถวิ่งชั่วโมงกว่าไปถึงที่นั่น เขามีเหตุผลอะไรบ้างก็ไม่รู้นะ เขานิมนต์เราไปเทศน์ แต่เราเชื่อที่ว่าเรารับนะ คือเราจำเรื่องราวอะไรไม่ได้ แต่เราเชื่อที่ว่าเรารับ คือเหตุผลต้องพร้อมแล้วที่จะรับ เราเชื่อเอาตรงนี้นะไม่เชื่ออย่างอื่น จำไม่ได้ แต่จำเอาว่าเหตุผลทำไมถึงรับ ความลำบากลำบนเราก็ไม่สะดวกสบายในธาตุในขันธ์ด้วย แล้วทำไมถึงรับ ถามพระว่าเรารับแล้ว ถ้ารับแล้วก็ยอมรับ แน่ะอย่างนั้นนะ จึงต้องไป
ระยะนี้พอออกพรรษาแล้วก็ต่อเรื่อย ๆ เรายกพวกเมืองอุดรเรานี้ไปตีเมืองเชียงใหม่ให้ฟาดลงพม่านะ นี่สองงานแล้วทางเชียงใหม่ กุมภา แห่งหนึ่ง พฤศจิกา แห่งหนึ่ง พฤศจิกาดูเหมือนอำเภอสันกำแพง กุมภานี้วัดเจดีย์หลวง หลังกฐินไปเรียบร้อยแล้วถึงจะต่อโน้น ส่วนในกฐินนี้ใครคงมายุ่งกันไม่ได้ เพราะงานกฐินวัดใด ๆ ก็มาเกี่ยวโยงกับวัดนี้ ๆ เรื่อย ๆ ที่ว่าให้ไปตีเมืองเชียงใหม่คือว่า อยู่ในป่าในเขา เราข้ามเขาไปเลยว่างั้นเถอะ เพราะเราไม่เคยข้ามเขา ข้ามเขาตีลงพม่าเลย สันกำแพงกับเชียงใหม่อยู่ใกล้กันตีดะเลย คงจะไปรถยนต์กะว่าอย่างนั้นนะ คือไปนี้ ๙ ชั่วโมงถึงเชียงใหม่ ทาง ๖๗๕ กิโลถึงเชียงใหม่พอดี เราตั้งเข็มไมล์เรียบร้อยแล้ว ทางสะดวก พอจากนี้ก็พุ่งไปจังหวัดเลย แล้วผ่านนครไทย พอออกจากนครไทยก็ตัดชาติตระการไปอุตรดิตถ์ พุ่งไปลำปางเข้าถึงเชียงใหม่เลย ๙ ชั่วโมง เราตั้งนาฬิกาเรียบร้อยแล้วก็ตั้งเข็มไมล์ดู
ที่ไหนที่ยังไม่เคยไปเราจะตั้งเข็มไมล์ไว้ ให้รู้เวล่ำเวลาที่จะไปมาคราวหน้าคราวหลัง ก็มีเชียงใหม่เป็นพี่เบิ้ม ทางไกลกว่าเพื่อน ๖๗๕ กิโลถึงเชียงใหม่ แล้วก็สวนแสงธรรมดูเหมือน ๖๔๖ กิโล ถึงสวนแสงธรรมจากนี้ แล้วจันท์ ๖๔๐ กิโลถึงจันท์ ๓ แห่งนี่พอเป็นพี่เป็นน้องกันได้ นอกนั้นก็กำหนดไม่ได้แถวนี้ไม่ไกล มี ๓ แห่งนี้ไกล ที่เราเดินทางไกลนะ ทางมันก็ดีตลอดนะ เท่าที่เราไปมาแล้วก็ดีไปตลอด ไปทางสายเชียงใหม่ก็ดี แล้วปีที่ไปเชียงใหม่ครั้งสุดท้ายนี้นั้นเขากำลังเบิกทางจากเชียงใหม่ออกมา ไปคราวนี้คงเรียบหมดแล้ว มันหลายปีแล้วนะ ไปครั้งสุดท้ายเราไปรถยนต์ ส่วนไปเทศน์ไม่ได้ไปสายนี้นะ ไปตามระยะ ๆ ไปเรื่อย ส่วนที่เราไปเราไปเป็นเอกเทศพิเศษของเราที่จะตั้งเข็มไมล์ไป เชียงใหม่ ๖๗๕ กิโลพอดี จากนี้ถึงสวนแสงธรรม ๖๔๖ กิโล ถึงจันท์ ๖๔๐ พอดี ทางสามสายนี้ไกล
เมื่อวานทองคำได้ ๑ บาท ดอลลาร์ได้ ๑๙ ดอลล์ รวมทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๒,๗๕๐ กิโล รวมยอดทองคำทั้งหมดทั้งที่มอบแล้วและยังไม่มอบได้ทองคำ ๔,๓๐๒ กิโลครึ่ง เราจะพยายามไต่เต้าเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ถอยนะ ทีนี้จะเริ่มละนะ ทางบ้านเมืองก็สมบูรณ์พูนผลทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นที่หายกังวลทุกอย่างแล้ว ทางศาสนาก็เราเป็นผู้นำตีเข้าทางโน้นตีเข้าทางนี้ รวมกันเข้า ยังไงก็ต้องขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้ ทีนี้เหมือนว่าตั้งรากตั้งฐานขึ้นมาใหม่เกิดใหม่ก็ได้เมืองไทยเรา พูดตรง ๆ อย่างนี้ละ มันจะจม จนหัวใจหลวงตาบัวจะขาดสะบั้นนะ ฟังซิ เมืองไทยเราจะจม
เวลาเราไปอ่านหนังสือกัณฑ์เทศน์ที่เขาถอดออกมานี้ เราอ่านก็น่าฟัง พอดีกันเลย ๆ กับไอ้นี่ เอากันอย่างหนักเหมือนกัน ไม่งั้นไม่ได้ โธ่ ๆ พวกเปรตพวกผีกินบ้านกินเมืองมันจะกินเอาเสียจนแหลกจนเหลว จะไม่มีตับปอดเหลือติดเมืองไทยเราเลย มันขนาดนั้น มันเลวขนาดไหนคนไทยเราน่ะ คนไทยเราลูกชาวพุทธกลายเป็นเปรตเป็นผีกินบ้านกินเมือง กินตับกินปอดพี่น้องชาวไทย ศาสนามองกันอยู่นี้ก็ต้องออกพูดกันบ้างซิ ให้รู้เรื่องความผิดความถูก เป็นลูกชาวพุทธมากต่อมากนะที่มาเป็นเปรตเป็นผีกินบ้านกินเมือง ทำตัวโอ่อ่าฟู่ฟ่า จนสัตว์นรกเขาย้ายธงจะเป็นจะตาย ธงนี้จะบรรจุได้จำนวนเปรตผีเหล่านี้เพียงเท่านั้นคน อ้าว มาอีกแล้ว ๆ เลยย้ายธงเรื่อยนะ ธงนี้แพ้มันมาเพิ่มเข้าอีก เอาธงสู้เข้ามาอีก สู้นรกเข้าใจไหม เราเลยจะตายผู้ดูธงอยู่นี้น่ะ มันยังไงกันพวกนี้ อดไม่ได้ก็ว่าเอา ๆ ตีธงออก ปิด อย่ามาลงเกินไปนรกนี่
เราอย่าเข้าใจว่านรกนี้จะคับแคบนะ มันอยู่ที่หัวใจคน หัวใจสัตวโลกผู้ทำบาป ขึ้นอยู่ที่นั้น คำว่านรกจะคับแคบ จะได้สร้างนรกใหม่นี้ไม่มี เรือนจำมีการสร้างนะ เช่นอย่างเวลานี้เขาก็มาขอห้องน้ำห้องส้วมจากเรา ๕๐ ห้อง ทั้งนักโทษหญิงนักโทษชาย แล้วอ่างน้ำสำหรับฝ่ายหญิงฝ่ายชายอีก ๒ อ่างใหญ่ คำนวณเงินก็ล้านกว่า เราก็จ่ายเป็นระยะ ๆ ที่เขาไปสั่งซื้อสิ่งของ ส่วนคนงานเขาเอานักโทษในเรือนจำทำเอง เราจึงไม่ยุ่ง คอยแต่จ่ายเงิน เขาไปซื้อสิ่งของมากน้อยเพียงไรมาก็ค่อยจ่ายเป็นระยะ ๆ ไป ก็ได้ช่วยอยู่อย่างนี้จนอกจะแตกแล้วนะหลวงตา อยู่ในเมืองคนเราก็ยังได้ช่วย ช่วยลากออกจากคุกจากเรือนจำ แล้วก็ช่วยลากออกจากนรกอีก มันจะตายแล้วนะเวลานี้ จะไม่ให้พูดได้ยังไง
ธรรมพระพุทธเจ้ามีได้มีเสียจากใคร มีแต่ความเมตตาล้วน ๆ มันจะจมกับมนุษย์สัตว์ทุกคน ตกลงไปจม ฟังซิคำว่าจม จมน้ำเป็นยังไง อันนี้ยิ่งจมในนรกกี่กัปกี่กัลป์มันถึงจะขึ้นมา ใครจะมาอวดพระพุทธเจ้าอย่ามาอวด ให้รีบแก้ไขตัวเองเสียตั้งแต่บัดนี้นะ เรื่องลมปากเฉย ๆ มันอวดได้นั่นแหละ อวดจากลมปากเฉย ๆ แต่ความจริงมีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ใครจะไปอวดได้ไปลบได้สิ่งเหล่านี้ นี่ที่เราวิตกวิจารณ์ เรารู้สึกว่าถ้าหากว่าพูดภาษาของโลกก็เรียกว่าวุ่นสุดขีดเลยเกี่ยวกับชาติไทยของเราคราวนี้ เรียกว่าเราวุ่นสุดขีด นี่เป็นเรื่องของธรรม เป็นไปด้วยความเมตตาล้วน ๆ
เขาจะร้อนเราก็ไม่ร้อน เต็มไปด้วยเมตตา ฉุดขึ้นมา ๆ เท่านั้นเอง ถ้าหากเป็นแบบทุกข์ร้อนด้วยกันแล้วเราจมก่อนใครเลย ในเมืองไทยทั้งหมดเราจะต้องเป็นคนแรกจมก่อนเพื่อน ความห่วงใยพี่น้องชาวไทยอุ้มชาติบ้านเมืองเรา ถึงขนาดนั้นนะ เพราะฉะนั้นจึงเอาอย่างหนักทีเดียว เราไม่ได้ทำเล่น ๆ ทำอะไร เอาธรรมออกกางเลย คอขาด-ขาดไปเลย ขอให้คอพี่น้องชาวไทยเรายังเหลืออยู่ คอหลวงตาบัวนี้ได้พูดเต็มอรรถเต็มธรรมเต็มสัดเต็มส่วน แล้วโลกทั้งโลกของเมืองไทยเรานี้ไม่มีใครยอมรับ เราจะยอมรับคนเดียว จะคอขาดคนเดียว หลวงตาบัวจะคอขาดคนเดียว พูดอรรถพูดธรรมให้พี่น้องทั้งหลายเต็มเม็ดเต็มหน่วย ว่าถูกต้องแล้วโดยสมบูรณ์ ไม่มีใครยอมรับแล้ว หลวงตาบัวจะยอมรับคนเดียว คอขาดไปคนเดียวเลย พี่น้องทั้งหลายอยู่คอไม่ขาด แต่หลวงตาบัวคอขาดไปคนเดียว สะเทือนมากไหมพิจารณาซิ
พูดโดยอรรถโดยธรรมด้วยความถูกต้องแม่นยำทุกอย่างแล้ว กลับถูกประหารชีวิตตัดคอลงไปเลยหลวงตาบัว รองพี่น้องชาวไทย พี่น้องชาวไทยซึ่งโอ่ ๆ อ่า ๆ เป็นแบบเต่าอยู่ในกระดอง หัวหดอยู่ในกระดองอย่างนี้ดีไหม เต่าหัวหดอยู่ในกระดอง คนหนึ่งคอขาด กับคนหนึ่งหัวหดอยู่ในกระดอง อันไหนเลวร้ายกว่ากัน เอาเทียบเข้าไปซิ หลวงตาไม่เสียดายคอนะ ตัดขาดเลย เหตุการณ์อะไรก็ตามถ้าลงได้ธรรมกางลงไปแล้วคอขาดตามเลยเทียว จะให้มีความเสียดายในคอไม่มี นี่ละอำนาจแห่งธรรมเป็นอย่างนั้น ไม่ได้เสียดายยิ่งกว่าธรรมคือเหตุผล เมื่อพูดถูกต้องแล้ว เอ้า ขาด-ขาดไปเลยคอเรา พี่น้องชาวไทยไม่ขาดก็อยู่อย่างเก้ง ๆ ก้าง ๆ คอเราขาดเราไม่เก้งก้าง ขาดด้วยความเมตตาสงสารสละเพื่อชาติบ้านเมืองของเราขาดไป มีคุณค่ามีราคาขนาดไหน ไอ้งุ่ม ๆ ง่าม ๆ ต้วม ๆ เตี้ยม ๆ อยู่ในกระดอง ๆ นั่นซีมันดูไม่ได้นะไอ้พวกอยู่ในกระดอง เป็นยังไงพิจารณากันซิ
ชาติเป็นของเรา สมบัติของชาติเป็นของเรา ใครทำไมจะไม่มีความรักสงวน ตั้งแต่ของอยู่ในบ้านเรา เรายังรักสงวน ไก่ตัวหนึ่งอยู่ในบ้านใครมาแตะได้เมื่อไร ถ้าไม่จงใจให้กันแล้วมาแตะไม่ได้คอขาด นั่นเห็นไหม นี่เจ้าของทรัพย์เขาพิจารณาซิ ไก่อยู่ในบ้านตัวเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้ตกลงให้กันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้ว มาก็คอขาด นั่นฟังซิน่ะ ถ้าให้กันแล้ว ยกมาทั้งคอกไก่ก็ให้ได้เลยไม่มีปัญหาอะไร ด้วยความพอใจ อันนี้ชาติไทยของเราไม่ได้มีความพอใจด้วยความล่มจมจากเปรตจากผีทั้งหลายนี้ คอเราขาดก็ให้ขาดไปเลย คอเราไม่ขาดก็คอเขาขาดเท่านั้น เจ้าของทรัพย์กับมหาโจรปล้นกันเป็นยังไง มันต้องอย่างนั้นซิจึงเรียกว่าชาติไทยเรา
ชาติไทยเป็นชาติแห่งชาวพุทธ ชาวพุทธเสียสละ เป็นก็เป็น ตายก็ตายไปเลย เป็นตายด้วยความถูกต้องตามอรรถตามธรรม เราเป็นเจ้าของทรัพย์นี่ว่าไง ถูกต้องไหมเจ้าของทรัพย์ มหาโจรถูกต้องที่ไหน พิจารณาซิ เราเป็นเจ้าของทรัพย์ทุกคน ๆ ต้องมีความเสียสละต่อคำสัตย์คำจริงในสมบัติของตัวเอง คิดดูตั้งแต่ไก่ในบ้านเขาตัวเดียวมาแตะไม่ได้นะถ้าไม่ได้ตกลงกัน ถ้าตกลงกันแล้ว เอา เมืองไทยของเรานี้จะจมไปด้วยกันทั้งหมดในเมืองไทยด้วยความชอบธรรมแล้ว เอ้า จม จมนี้เพื่อไปสวรรค์ เอ้า จม ถ้าจมนี้เพื่อลงนรกไม่จม ต้องอย่างนั้นซิ ต้องมีข้อยอมรับกันซิ ต้องเอาให้จริงให้จังทุกคนนะ
เวลานี้กำลังเริ่มจะตั้งชาติบ้านเมืองของเราขึ้นด้วยทั้งสองฝ่ายตีตะล่อมเข้าหากัน ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างปรึกษาหารือกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคงของชาติ ไม่เป็นไร ต่างคนต่างมุ่งหน้ามุ่งตาต่อผลประโยชน์สำหรับชาติบ้านเมืองแล้วพูดกันได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรขัดข้องกัน พากันจำเอานะ ให้ทุกคน ๆ พากันเสียสละ เราอย่าเห็นความเสียดายแก่เงินในกระเป๋าเรายิ่งกว่าชาติสมบัติอันใหญ่หลวง คือหัวใจของคนทั้งชาติอยู่กับคลังหลวงของเรา ตรงนั้นนะ เอา ค่อยสละเข้าไป มีมากมีน้อยให้สละลงไป ๆ เรื่อย ๆ ใหญ่ทางโน้นแล้วซุกหัวนอนที่ไหนได้เรา ถ้ามีหลักเกณฑ์ประกันชาติไทยของเราแล้วอยู่ที่ไหนได้นะ ถ้าไม่มีหลักเกณฑ์ประกันนี้ลองดูเถอะน่ะ
ใครอย่าอวดนะ อยู่ไม่มีถิ่นมีฐานมีบ้านมีเรือน ไม่มีหลักมีเกณฑ์ อยู่เหมือนสัตว์ป่านั่นแหละไม่มีเจ้าของ เขายิงป้างทีเดียวตายหมดจะว่าไง เจ้าของมีนี้ไปยิงไม่ได้นะ ตั้งแต่เสียงปืนดังขึ้นที่ไหนเขามองดูสัตว์ของเขาแล้ว เห็นไหมล่ะ ลองมาแตะสัตว์เขาดูซิเขารักษาอยู่นั่น อันนี้ก็เหมือนกันสมบัติของเราทั้งชาติใครมาแตะได้ว่ะ ต้องจริงจังทุกคนซิ อย่าอืดอาดเนือยนายนะ อย่าใจอ่อนแอท้อแท้นะไม่ถูก ถึงคราวเข้มแข็งต้องเข้มแข็ง ถึงคราวอ่อน-อ่อนเป็นธรรมดาคนเรา เมื่อมีเหตุการณ์แล้วอ่อนไม่ได้ ต้องเป็นอย่างนั้นซิ ให้พยายามขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปนี้ก็จะค่อยก้าวเรื่อย ๆ ตั้งรากฐานใหม่ขึ้นมาค่อยเป็นค่อยไป
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อเป็นที่แน่ใจแล้ว คนเราย่อมมีแก่ใจจะต้องเสียสละด้วยกัน ถ้าไม่แน่ใจไม่ว่าเขาว่าเรา ลงใจไม่ได้อะไรก็หลุดมือออกไปไม่ได้ ถ้าลงใจแล้วถึงไหนถึงกันเลย นี่เรากำลังเริ่มเข้าสู่ความลงใจได้แล้ว ทั้งทางชาติทางศาสนาตีตะล่อมเข้ามาเพื่อความอุ้มชูชาติบ้านเมืองของเรา จะค่อยเป็นค่อยไปนะ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้แหละ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com