อรรถธรรมเป็นของดีมาแต่กาลไหน ๆ
วันที่ 27 ตุลาคม 2544
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(Real)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)   วิดีโอแบบ(Real)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

อรรถธรรมเป็นของดีมาแต่กาลไหน ๆ

สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๖ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๐ บาท ดอลลาร์ได้ ๒๑๗ ดอลล์ ได้ไปทุกวัน ๆ มันก็มากเอง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมยอดทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วได้ ๔,๕๖๒ กิโลครึ่ง เท่ากับ ๓๖๕ แท่ง รวมทั้งที่ยังไม่ได้มอบและมอบแล้วเป็นจำนวนทองคำ ๔,๖๔๑ กิโล

เราสลดสังเวชนะเราพูดจริง ๆ มันกระเทือนเอามากนะคราวนี้ กระเทือนจริง ๆ เพราะธรรมสะอาดสุดยอด ๆ เลย เราจะตัวเท่าหนูก็ตามเราสะอาดเต็มเหนี่ยวของเรา เราไม่เคยสงสัยตัวของเราตั้งแต่ศีลขึ้นไปเลย ว่าเราได้ทำความด่างพร้อยต่อศีลด้วยเจตนาลามกที่ตรงไหน ไม่มีว่างั้นเลย ก็เรารักษามาตั้งแต่วันบวชแล้วทำมา ๆ ก็อยู่กับพระกับเณรก็มีแต่พวกเดียวกัน ปฏิบัติกายวาจาความประพฤตินี้ก็เหมือนกัน ๆ ส่วนภายในใจก็มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงตามบุญตามกรรมของแต่ละท่าน ๆ นี้ไม่มีข้อตำหนิกัน แต่กิริยาที่จะออกมากระจายสังคมกันนี้ ต้องเป็นกิริยาของศีลของธรรมแห่งนักบวชทั้งหลาย ถึงจะอยู่ร่วมกันได้

ถ้านักบวชมาอยู่ร่วมกัน คนหนึ่งสกปรก คนหนึ่งรักษาอยู่ คนหนึ่งทำลาย อยู่ด้วยกันไม่ได้ นี่ที่แตกเป็นนิกายต่าง ๆ เพราะเหตุนี้เอง ไม่ยอมรับกัน จึงแตกเป็นนิกายต่าง ๆ กันไป ผู้รักษา-รักษาอยู่ รักษาคือความสะอาด แล้วผู้ทำสกปรกมาโปะเข้า ๆ ทนได้ยังไง มันก็แตกแยกกัน นี่ละเรื่องศีลเรื่องธรรม พูดมาถึงขั้นนี้เราก็ปฏิบัติตัวของเรามาอย่างนั้น ครั้นเวลาเจอ เจอก็พูดอย่างจัง ๆ ธรรมต้องพูดอย่างนั้นนี่นะ เราไม่เคยคาดเคยคิดที่จะไปเจอเอาอย่างที่ว่า โอ๋ย สลดสังเวชจริง ๆ นะ เราทนไม่ทนเรากลับหลังหันหนีเลยนะ

ทีนี้มาคิดถึงเรื่องชาติบ้านเมืองทั้งชาตินี้ทำยังไง นี่ละเหตุที่เราจะได้หันหน้าหมุนเข้าไปเพื่อชาติบ้านเมืองของเรา เราไม่ได้หมุนด้วยความดื้อด้าน ไม่ได้มีอย่างนี้ในหัวใจเรา นี่คือความเมตตาต่อพี่น้องชาวไทยของเรา เฉพาะอย่างยิ่งก็คือชาวพุทธเรา ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย อยู่ตามประสีประสา เวลาเข้าไปโดนเอาอย่างจัง ๆ แหม ทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ระเบิดมือขึ้นไปเครื่องสังหารชาติไทยเรา ระเบิดมือ ปืนแก๊ปปืนอะไรเข้าไป ปืนคาบศิลา ฟาดเข้าไประเบิด จนกระทั่งปรากฏทุกวันนี้คือคลังแสง มีอาวุธชนิดใดบ้าง เหล่านี้แหละถ้าเทียบแล้วนะ สิ่งเหล่านี้ที่เป็นความชั่วช้าลามก ออกจากหัวใจคนสกปรก ซึ่งเรียนตั้งแต่วิชาโลกล้วน ๆ เข้ามาแล้วเป็นอย่างนี้กันทั้งนั้น ไม่มีวิชาใดที่จะสอนคนให้เป็นอย่างนั้น แต่หัวใจของคนซึ่งกิเลสเป็นเจ้าอำนาจของหลักวิชาต่าง ๆ มันก็ดึงหลักวิชาเข้ามาเป็นเครื่องมือสังหารชาติของตนได้อย่างป่นปี้ ถ้าไม่มีอะไรต้านทานแหลก พูดตรง ๆ อย่างนี้เลย

เราถึงได้สลดสังเวชตลอดมา เจอเหตุการณ์มาแล้วผ่านมาแล้ว แต่เรื่องความเสียหายไม่ได้ผ่าน มันอยู่กับเมืองไทยเรา ต้องได้นำมาพูดอยู่เสมอ เพราะความกระเทือน ไม่ว่าไปไหน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไปที่ไหนมันก็สัมผัสสัมพันธ์เรื่องความได้ความเสีย ความดีความชั่ว ไปตลอดเวลา แล้วมันต้องเอามาพูดจนได้นั่นแหละ เราจึงได้พูดขึ้นถึงเรื่องว่า ถ้ามีแต่วิชาโลกล้วน ๆ แล้ววิชาไหนก็มาเถอะบอกตรง ๆ เลย ถ้าไม่มีวิชาธรรมเข้าไปแทรกแล้ว หงายกันทั้งนั้นว่างี้ เพราะหลักวิชาเหล่านี้เป็นเครื่องมือของกิเลสซึ่งเป็นเจ้าอำนาจของหลักวิชาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เมื่อธรรมไม่เข้าแทรกทางนี้ก็สนุกนำออกถลุงแหลกไปเลยโลกนี่

ด้วยเหตุนี้จึงควรจะมีหลักวิชาธรรมเข้าไปแทรก เพื่อเป็นเครื่องสะดุดใจ ๆ เมื่อมันพุ่งไปนี้สิ่งห้ามล้อก็มี รถทั้งคันเขามีอะไรบ้าง คันเร่งก็มี เบรกห้ามล้อก็มี พวงมาลัยหมุนซ้ายหมุนขวาตามความต้องการก็มี อันนี้หลักวิชาเราเรียนมาต้องให้เป็นอย่างนี้ที่เหมาะสมที่สุดกับเมืองไทยของเราซึ่งเป็นชาวพุทธ นี่เราดูไปที่ไหนมันไม่มี สุดท้ายหลักวิชาต่าง ๆ ในโรงร่ำโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องศาสนานี้ไม่มี ๆ ไปเลย เอ๊ ทำไมถึงเหลวไหลไป เพียงคิดเท่านั้น แต่ก่อนเราก็คิด แต่ไม่ได้คิดด้วยเหตุการณ์ที่โดนกับเราเข้าไปอย่างนี้ อันนี้มันโดนเข้าอย่างจัง ๆ มันถึงระเบิดออกล่ะซี ก็เราพิจารณามาหมดแล้วไม่พูดเฉย ๆ ทางบ้านทางเมืองเป็นยังไงก็ยกให้ทางบ้านเมือง ดีชั่วอะไรใครจะมาอวดเราได้เหรอ

ลูกศิษย์เรามีทุกกระทรวงเราบอกแล้วนี่นะ กระทรวงไหนไม่มีลูกศิษย์ไม่มี แล้วส่วนมากลูกศิษย์มักจะเป็นคนดี ๆ เขามาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ วงราชการงานเมือง เราเก็บไว้ในลิ้นชัก ๆ บางส่วนปลงธรรมสังเวชไปก็มี ๆ เป็นลำดับลำดามา เก็บไว้ในหัวอกนี่นะ ไม่พูด ลูกศิษย์มากขนาดไหนฟังซิ ผู้ดีนั่นแหละเขามาพูด ผู้ชั่วไม่มาพูดแหละ เก็บไว้ ๆ ครั้นเวลาเราดำเนินงานเพื่อชาติ เพราะเหตุใดพี่น้องทั้งหลายทราบนี่ พอก้าวเข้าไป ๆ ก็ไปเจอเอาอย่างที่ว่านี่ เมื่อเจอเข้าไปแล้วทำยังไง ถ้าเป็นธรรมดาแต่เราคนเดียวแล้วหันหลังกลับหนีเลย โอ๊ย เล่นกองมูตรกองคูถสกปรกสุดยอดแล้ว เท่านั้นพอ ธรรมกับอันนี้เข้ากันไม่ได้แล้ว ทำยังไง

ทีนี้คนทั้งประเทศเป็นยังไงอีก คนดีนี้มีอยู่มากมายไม่ใช่มีแต่คนชั่วอย่างนี้ทำลายชาติโดยถ่ายเดียว คนดีมีจำนวนมากกว่านี้เป็นไหน ๆ จะปล่อยให้ฉิบหายล่มจมไปตาม ๆ กันนี้ทำไง แล้วเอาอะไรมาเป็นเครื่องชะล้างต้านทานกัน ของสกปรกก็มีน้ำสะอาดชะล้างกัน ของชั่วก็มีของดีคือธรรม ของชั่วคือกิเลส ของดีคือธรรม เป็นเครื่องชะล้างกัน เราจึงได้หันเข้ามา หันเข้ามาก็เจอเข้าไปเรื่อย ๆ ทีนี้มันก็เอากันล่ะซิ พี่น้องทั้งหลายทราบอย่างนี้ เราไม่ใช่เป็นพระหน้าด้านที่จะไปหาญสู้ ทั้ง ๆ ที่บ้านเมืองเขาก็เป็นบ้านเป็นเมืองมาแต่ไหน ๆ ศาสนาก็เป็นมาแต่ไหน ๆ แล้วทำไมจึงไปโดนกัน ๆ ดังที่เห็นนี่ พี่น้องทั้งหลายก็ทราบแล้วไม่ใช่เหรอ นี่ละเหตุการณ์ที่โดนก็เพราะเหตุนี้เอง

อยู่ ๆ ก็เอามูตรเอาคูถมาโปะ ๆ บ้านหลังไหนเรือนใดผู้ใดก็ตาม มีแต่มูตรแต่คูถเต็มบ้านเต็มเมือง หาความสะอาดนิดหนึ่งไม่มี มันก็ได้คว้าเอาธรรมออกมาล่ะซี ที่เราทั้งหลายได้เห็นอยู่นี่ ถ้าไม่มีธรรมแล้วจมบอกตรง ๆ เลย เด็ดขาดด้วย ใครอย่าอวดเก่ง เรื่องความรู้ของกิเลสต้องเป็นเจ้าอำนาจทำโลกให้ฉิบหายเท่านั้น อย่างอื่นไม่มี ที่จะให้เลิศเลอรุ่งเรือง ๆ ว่าโลกเจริญอย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่เจริญด้วยฟืนด้วยไฟ ด้วยความดีดความดิ้นทั้งนั้นแหละ หัวใจเป็นสำคัญ วัตถุเป็นเครื่องสนองตามเรื่องราวไปเรื่อย สนองไปเรื่อย หัวใจเป็นผู้สั่งการสั่งงาน คนนั้นดีดคนนี้ดิ้น คนนั้นแซงหน้าคนนี้แซงหลัง ว่าแซงเพื่อดีเพื่อเด่น เพื่อเลวมันไม่ได้ว่านะ กิเลสมันไม่ให้เห็นนั่นซี ดีดเท่าไรมันก็ยิ่งความทุกข์ความทรมานมากขึ้น ๆ เมื่อธรรมความเพียงพอความรู้จักประมาณจับเข้าพับนี้ อันไหนมันพอดีก็ให้รู้ อันไหนมันจะเลยเถิดก็พักเอาไว้ อันไหนมันบกพร่องหนุนเข้าไป นี่เรียกว่าธรรม แล้วโลกก็อยู่ร่มเย็นเป็นสุขได้ คนเราก็พอมีเมืองพอ มีความสงบสุขบ้าง

ความไม่พอใครอย่าว่าเป็นความสุขนะ ความหิวความโหย เอาเงินมากองเท่าภูเขาหาความหมายไม่ได้ถ้าจิตไม่พอกับความหิวเสียอย่างเดียว ลงมันได้หิวแล้วแหลกไปหมดเลย นี่ละอำนาจของกิเลสตัวนี้ตัวสำคัญ สมบัติเงินทองหามาได้มากน้อยเป็นเชื้อไฟได้เป็นอย่างดี ถูกความโลภนี้กลืนกินหมด ๆ หาใหม่ ๆ สุดท้ายเจ้าของผู้รับเคราะห์นั่นแหละตาย สมบัติเขาไม่ได้มีอะไรนะ เจ้าของผู้รับเคราะห์นั่นแหละตาย

เราจึงได้พิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้ก็เลยพูดขึ้นบ้าง ตอนนี้ละตอนออกช่วยชาติบ้านเมือง เพราะนี้ทนความวิตกวิจารณ์ไม่ได้ ที่มันเป็นมาเหล่านี้ทำบ้านเมืองให้ล่มจม ไม่ใช่ตาสีตาสาตามท้องนานะ มีแต่เรียนมาชั้นสูง ๆ มีแต่สูงพวกนิวเคลียร์นิวตรอนทั้งนั้นที่จะทำลายบ้านเมือง ไม่มีธรรมเข้าไประงับดับกันเป็นอย่างนี้ จึงเป็นเหตุให้วิตกวิจารณ์ แล้วก็พูดออกมาว่า โอ๊ ถ้ามีแต่เรื่องวิชาทางโลกจริง ๆ แล้วจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไป แล้วจะจมได้นะถ้าไม่มีธรรมเข้าแทรก

เริ่มตั้งแต่เด็กขึ้นไป ผู้ใหญ่ต้องเป็นผู้นำของเด็ก แล้วนำวิชาธรรมนั้นออกมาป้อนให้เด็ก ๆ ตามโรงร่ำโรงเรียนชั้นต่าง ๆ ให้เขาได้รู้เรื่องรู้ราวของศาสนาซึ่งเป็นน้ำดับไฟ ๆ ตั้งแต่ต้นมือคือตั้งแต่เป็นเด็ก จะค่อยเป็นเด็กดีแทรกเข้าไป ๆ ไม่เป็นเด็กชั่วตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ถ้ามีตั้งแต่กิเลสมาตั้งแต่ในท้องแม่เลย ถ้ามีธรรมเข้าแทรกแล้วก็จะดีมา แม่ก็พาดี ลูกพาดีซิ ต่อไปเด็กก็ดี ส่งเข้าโรงร่ำโรงเรียน หลักวิชาทางธรรมเป็นยังไง ทางโลกเป็นยังไง เอามาเทียบเคียงกัน

ทางโลก เช่นอย่างการฉกการลักการปล้นการสะดมนี้ หลักวิชาไม่มี แต่อำนาจของกิเลสนำหลักวิชามาใช้ได้อย่างคล่องตัวนะ ผู้ที่เรียนมามากสูง ๆ เป็นนักเลงโตได้ เพราะหลักวิชาสูง แล้วกิเลสเป็นเจ้าอำนาจเอาอันนี้มาใช้งานแหลกหมด ถ้าธรรมะต้านกัน ๆ นี้ไม่ใช่ของดี นั่น ต้านทานกัน แต่เด็กเขาก็รู้นี่ทำไมผู้ใหญ่ไม่รู้ของชั่วของดี นั่น นี่ธรรมะตีเข้าไป ๆ

เราเป็นผู้ใหญ่เราต้องเรียนให้รู้จักทางดีทางชั่ว รู้จักละรู้จักเว้นรู้จักบำเพ็ญถึงจะถูกต้อง เอาหลักวิชาของผู้ใหญ่ที่ดำเนินตัวเองอย่างนี้แล้วสอนเด็กลงไป ๆ เด็กก็จะค่อยดีขึ้นไป ๆ นี่ละที่เราได้วิตกวิจารณ์ ที่จะเอาหลักวิชาทางด้านธรรมะออก เราเห็นด้วยเลยเทียว เพราะเราคิดมานานแล้วเป็นแต่เพียงว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของบ้านเมืองเขาไป เรามีอะไรเราก็ปฏิบัติตามเรื่องของเรา แล้วการออกคบค้าสมาคมกับสังคมต่าง ๆ นี้เราก็ไม่เคย แต่ก่อนไม่ยุ่งนะ อยู่ตามป่าตามเขาอย่างนี้ละ ออกจากป่าจากเขาก็มาปะ(มาเจอ) อันนี้ ก็มีแต่ชุมนุมชน มีแต่พวกลูกศิษย์ลูกหาไม่มีเรื่องมีราวอะไรพอที่จะมากระทบกระเทือนจิตใจเหมือนสิ่งภายนอก

สิ่งภายนอกมันอยู่ไกลไม่ยุ่งกับเรา เราก็ไม่ยุ่งกับมัน เราก็อยู่ไป จนกระทั่งมันเกี่ยวข้องกับเรา จนกระทั่งฟาดออกกลางสนามรบไปเลยอย่างนี้ มันก็ต้องเอากันใหญ่ละซี นี่ละเรื่องราว เพราะฉะนั้นการศึกษาเล่าเรียนทางด้านอรรถธรรมจึงเป็นของดีมาตั้งแต่กาลไหน ๆ เราอย่าเห็นว่าธรรมครึธรรมล้าสมัย ใครเห็นว่าธรรมครึธรรมล้าสมัย นั้นคือคนหมดค่าหมดราคา เป็นเศษมนุษย์แล้วคนประเภทนั้น ว่าสูงเท่าไรยิ่งต่ำคนประเภทนี้นะ ธรรมเป็นของสูงสุดมาตั้งแต่ดั้งเดิมแต่กาลไหน ๆ ทำไมจะมาต่ำได้ด้วยปากคน ด้วยความสำคัญของมูตรของคูถกดลงเท่านั้น ธรรมต้องสูงตลอดเวลา ผู้กดนั้นแลคือมูตรคือคูถจะเป็นผู้ใดที่ไหนไป

เพราะฉะนั้นเราไม่อยากเป็นมูตรเป็นคูถให้พยายามฟิตเนื้อฟิตตัวให้ดีนะ ลูกหลานทั้งหลายเรียนแล้วเอาไปปฏิบัติ ไปในบ้านในเรือนตัวของเราแหละไป ดีอยู่กับเรา ชั่วอยู่กับเรา เราเป็นผู้ปฏิบัติตามสิ่งเหล่านี้ ควรตัด-ตัดออก ส่วนที่ดีเสริมเข้า ๆ ได้หลักวิชาธรรมมาท่านสอน ๆ แล้วเอานั้นมาเป็นเครื่องมือไต่เต้าขึ้นไปก็เป็นเด็กดีคนดี บ้านเมืองสงบได้ด้วยมนุษย์ ถ้ามนุษย์มีธรรมสงบได้ ถ้ามนุษย์ไม่มีธรรมมันขนาดไหนแหลกด้วยกันหมดไม่มีความหมายอะไรแหละ ให้พากันจำเอานะ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก