นายกฯ ผู้ชนะหัวใจประชาชน
วันที่ 31 พฤษภาคม 2544 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

นายกฯ ผู้ชนะหัวใจประชาชน

เมื่อวานนี้มีมาหลาย ๆ แห่ง ได้เทศน์หรือเปล่าเมื่อวานนี้ (เทศน์ครับ) นั่นละ ตอนบ่ายสามโมงกว่า พวกประชาชนมาหลายจังหวัดนะ จังหวัดละไม่กี่คน รวมกันหลายจังหวัดคนก็มาก มากกว่านี้นะ เมื่อวานนี้เต็มไปหมด (มีชาวลาวมาด้วยครับ) ประเทศลาวก็มาดูเหมือนสามสี่คน เขาก็ดูทีวีเหมือนกันทางนู้น เขามาอยู่เรื่อย ๆ ประเทศลาว นี่ละที่ว่าเราติดหมัดเขา เขามาหา ว่าทำไมจึงรู้ มายังไงต่อยังไง ถามไปถามมาใครบอก มาได้ยังไงถึงได้มาที่นี่ เคยพบเห็นหลวงตาบัวที่ไหนเราถามเขา ถึงได้มาที่นี่ เขาตอบประโยคเดียวเท่านั้น เขาบอกว่าดูทีวีทุกวันเท่านั้นเราหงายเลย ก็เวียงจันทน์กับนี้ใกล้กันนิดเดียว หนองคาย เวียงจันทน์ ไม่ได้ห่างไกล เขาตอบประโยคเดียวเท่านั้น เขาบอกเขาดูทีวีทุกวัน หมดท่าเลย

เขาจะนิมนต์เราให้ไปเวียงจันทน์ ไปเทศน์ เราบอก อู๋ย หลวงตางานมากไม่มีโอกาสแหละ พิจารณาเสียก่อนว่างั้น เมื่อวานเขาก็มาที่นี่ เมื่อวานนี้ฟังพูดธรรมะยังไม่จบเขาจะรีบไปเกี่ยวกับเรื่องทางด่านทางอะไรเข้าวันเข้าค่ำอะไรจะไม่ทัน ต้องรีบไป พวกนี้เป็นเนื้อหนังของชาวพุทธเหมือนกันกับเมืองไทยเรา มันก็เป็นพวกเดียวกันอย่างว่า พวกกอเดียวกัน ตั้งแต่เริ่มที่เราได้ดูพงศาวดาร แล้วก็เป็นชาวพุทธด้วยกัน เพราะฉะนั้นเวลามีอะไรมาทำให้แตกแยกมันถึงเดือดร้อนกันมากทีเดียว อย่างลัทธิอุบาทว์ แต่ก่อนเราก็เคยไปเสมอเวียงจันทน์ เขามีงานเรื่อยเขามาติดต่อนิมนต์เราไปเรื่อย จะทำยังไงก็ต้องไปให้เขาเรื่อย ๆ ข้ามไปเวียงจันทน์

ทางโน้นมีวัดกรรมฐาน พระกรรมฐานก็ไปจากทางนี้ ดูจะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ขาวเรา ไปตั้งสำนักอยู่ทางโน้น มีสองสามสำนัก ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทุกสำนักนั่นแหละ เขามานิมนต์เราไปเราก็ไปที่นั่นไปพักเรื่อย ๆ หลังจากนั้นแล้วเรื่องราวอะไรก็เกิดอย่างว่านั่นแหละ ลัทธิอะไรเราเลยไม่ไปอีก เขาก็ไม่กล้ามานิมนต์ เราก็ไม่ไป ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ปรากฏว่าเขามานิมนต์เรา เราก็ไม่ได้ไปก็เพราะลัทธิอันนี้เข้ามาตี จะทำอะไรก็ทำลำบากลำบน แต่เวลานี้ค่อยดีขึ้นโดยลำดับ เพราะเนื้อแท้เป็นทารุณ อันนี้เข้ามาแฝงชั่วกาลชั่วเวลา ไม่นานพวกนี้ก็ร่วงโรยไป ๆ พื้นเพเก่าของเขาก็มีดั้งเดิม เขาก็งอกเงยขึ้นตามเดิมเกี่ยวกับเรื่องชาวพุทธนะ เป็นชาวพุทธตามเดิมของเขา

แต่ก่อนเขาไม่ออกหน้าออกตา คงจะพวกนี้มาตีเขาแหลกพวกเทวทัต เขาก็สงบเงียบ ๆ แต่ก็เห็นเขามานิมนต์ทางนี้ไปอยู่ฝั่งโน้นทุกวันนี้ หัวหน้าเขาไม่ขัดข้องอะไรนิมนต์พระไปอยู่ทางโน้น เขามานิมนต์พระทางบ้านแพงไปอยู่ทางโน้น ว่าทางโน้นไม่ค่อยมีพระ เขาไม่ขัดข้อง เราเองก็เคยช่วยแล้ว ทางบ้านแพงทางโน้นก็สร้างโรงเรียนให้ทั้งหลัง โรงเรียนใหญ่เสียด้วย ดูเหมือน ๕๐ เมตรมั้งหรือ ๔๘ เมตรเราจำไม่ได้ ความยาว ความกว้างเท่าไร ให้ตามอัตราของเขาแหละ นี่เราก็สร้างให้ โรงร่ำโรงเรียนก็ให้ บางทีเอาข้าวไปลงบ้านแพงแล้วให้เขามารับไปข้ามไปฝั่งนั้น เราเอาไปลงที่บ้านแพงให้เขาข้ามมาเอา

เราช่วยอยู่อย่างนั้นนะ เพราะเราไม่ได้ถือว่าใครเป็นใคร สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลาย มันครอบไปหมด พื้นของจิตของเรามันเป็นอย่างนั้น สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลาย เป็นพืดไปหมดเลย ไม่มีอะไรว่าแบ่งสัดแบ่งส่วนแบ่งวรรคแบ่งตอนไม่มี เพราะฉะนั้นเราถึงทำประโยชน์ต่อโลกได้สนิท แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน สนิทเหมือนกันหมดเลย นี่ทางโรงพยาบาลก็ช่วย ทางฝั่งลาวก็หลายแห่งอยู่นะ สี่ห้าแห่งกระมังที่เราไปช่วย ตึกดูเหมือนสามหลังตึกโรงพยาบาล เครื่องเอ็กซเรย์ รถแอมบูแลนซ์ ก็ให้ นอกจากนั้นก็พวกประเภทอาหาร ใส่รถสิบล้อฟาดเป็นแถวยาวเหยียดเลย ไปเขาก็เปิดทางโน้นเลย ทางนี้ไปให้ขึ้นเลยไม่ต้องถ่ายเท ทางหัวหน้าเขามาต้อนรับอยู่ทางโน้น เปิดให้เข้าถึงโกดังที่เก็บเลย รถทางนี้ไปก็บึ่งขึ้นเลย ๆ เทลง ของเราเอาไปนะ อย่างนั้นละเราช่วยอยู่อย่างนั้น

พวกข้าวสาร พวกเครื่องกระป๋อง สามสี่คันรถเต็มเอี๊ยด ๆ ข้าวสารก็เต็ม เครื่องกระป๋องเป็นลัง ๆ ก็เต็ม ๆ หัวหน้าเขาก็รอรับ ทางนี้ไปก็เปิดเข้าเลย เขาก็ขนลงเลยปุ๊บ ๆ เข้าโกดังเขาเป็นระเบียบเรียบร้อย เขามีหัวหน้าควบคุมทางโน้น เราเทของให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มา มาลงแม่น้ำโขง ดูเหมือนไปสองเที่ยวหรือไง จากนั้นมาเราก็ไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือได้ ทั้งกำลังทรัพย์ก็ไม่พอ หนุนอยู่เมืองไทยของเรานี้ก็จะเป็นจะตายอยู่แล้ว ก็เลยห่าง เขาขอมาเราก็ให้พักไว้เสียก่อนเราบอก เพราะเรากำลังหนักมาก ก็บอกตรง ๆ อย่างนี้ จากนั้นมาเขาก็ไม่ได้มาติดต่ออีก

เรื่องความจำเป็นอยู่ที่ไหนมันจำเป็นหมดนั่นแหละจะว่าไง เราพูดอย่างเต็มหัวใจเราเลยว่า เราช่วยโลกนี้กิริยาที่เราช่วยนี้ช่วยด้วยธรรมโดยธรรม ๆ ล้วน ๆ ไม่มีเรื่องโลกอะไร ๆ ที่เป็นความสกปรกโสมมเข้ามาแฝงเลยนะ เพราะฉะนั้นเราจึงพูดได้ทุกอย่างที่เป็นทางของธรรมก้าวเดิน จะเดินตามทางของธรรมนี้ ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก จึงเรียกว่าธรรม ไม่เอนไม่เอียง ใครผิดบอกว่าผิด ใครถูกบอกว่าถูก เพราะธรรมไม่เหมือนโลก จะให้มาใช้แบบโลกก็สกปรกเป็นส้วมเป็นถานไปเหมือนโลกนั่นแล ธรรมไม่ใช่ส้วมใช่ถาน เป็นที่พึ่งของสัตวโลก สามแดนโลกธาตุนี้อาศัยธรรมทั้งนั้น เป็นของเล็กน้อยเมื่อไร เพราะฉะนั้นเวลาเราออกทำประโยชน์ เราก็เอาทำธรรมล้วน ๆ นี้ออกเลย ไม่ว่าที่ไหน ควรว่าอย่างไรว่าได้ตามทางของธรรมที่ก้าวเดิน ๆ ไม่มีอะไรมาคัดค้าน ผิดถูกบอกไปตามเรื่องตามราวไปเลย

เราพูดอย่างตรงไปตรงมาเพราะเราช่วยโลกจริง ๆ ไม่ได้ว่าช่วยคนนั้นช่วยคนนี้ พรรคนั้นฝ่ายนี้เราไม่มี ใครผิดใครถูกก็ตีตะล่อมเข้าหากันเพื่อความสงบร่มเย็น อันเป็นทางที่ถูกต้องของธรรม เราก็ตบเข้าไปหาตรงนั้น ที่จะตีให้แตกให้แยกนี้ธรรมไม่มี มีแต่เครื่องประสาน ตีรวมเข้าให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนเป็นเนื้อเป็นหนัง แล้วก็มีความแข็งแรงมั่นคงขึ้นด้วยความพร้อมเพรียง ด้วยสิ่งทัพสัมภาระรวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เช่น ศาลาหลังนี้ ไม้มาจากที่ไหนมีกี่ประเภท มารวมกันนี้ ต่างอันต่างมารวม มาจากถิ่นใดก็ตามชิ้นใดก็ตาม มารวมแล้วเป็นศาลาสำเร็จประโยชน์ คุณค่าแห่งการรวมทัพสัมภาระก็สำเร็จประโยชน์เป็นศาลา เป็นกุฏิ สร้างโรงร่ำโรงเรียนกี่ชั้น ล้วนแล้วแต่สิ่งที่มารวมสามัคคีกัน ไม่มีสิ่งใดมาแตกสามัคคีนะ

นี่ละศาสนาพุทธของเรา เราพิจารณาซิผิดที่ตรงไหน มีแต่การซ่อมแซมดัดแปลงแก้ไขบำรุง การทำลายไม่มี อย่างพุทธศาสนานี้ไม่มี เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นอันใดที่ไม่ถูกต้องดีงามมันก็ขัดต่อธรรม เมื่อเราเป็นผู้เกี่ยวข้องกับธรรมสั่งสอนโลกแล้วเราก็ต้องพูดไปตามนั้น พูดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ทีนี้มันก็เป็นเรื่องของโลก โลกกับความสกปรกมันเป็นอันเดียวกัน มันก็ต้องโจมตีธรรมเป็นธรรมดา อันนี้เราก็ไม่ได้ถือ เราพูดตามหลักธรรมความจริง จะทำให้เป็นยังไงก็เป็นไปไม่ได้แล้ว คือความจริงได้แก่ธรรม แน่ะ เราก็พูดไปตามนั้นดำเนินไปตามนั้น ควรชมเราก็ชม ควรตำหนิเราก็ตำหนิ

ไม่ว่าอะไรก็ตามแม้แต่สัตว์ ควรดุก็ดุ ควรเฆี่ยน-เฆี่ยน ควรตี-ตี หมาในวัดนี้ไม้เรียวถูกหลังมันทุกตัวนะ คือถูกเฆี่ยนถูกตี ส่วนที่จะไม่ถูกบ้างก็คือตัวมันใจดีมาก เป็นหมาดีไม่ค่อยได้ตีนะ ถ้าตัวไหนมีลักษณะแปลก ๆ เพื่อนเขา ไปที่ไหนเราจะเห็นไม้เรียวหรือไม้อะไรติดหลังมันไป นี่คือหวดหลังมันเรื่อย นั่นคือตัวมันดื้อ ตัวมันไม่ดื้อไม้เรียวไม่มี หมานี่หมาดีก็เยอะ ที่มันแฝง ๆ หมู่เพื่อนก็ต้องมีไม้เรียวติดแนบกับมัน ตั้งแต่หมาก็ยังสอนเพื่อให้มันเป็นหมาดี ทำไมสอนคนจะสอนให้เป็นความชั่ว ทางธรรมไม่มีมีแต่ทางดีทั้งนั้น สอนให้ดี

นี่เมืองไทยเรานี้ก็เป็นอวัยวะของคนไทยทั้งชาติ ธรรมะจึงไม่มีความประสงค์อย่างยิ่งเลยที่จะมีการแตกการแยกด้วยความแตกร้าวสามัคคี ด้วยความอวดดีคืออวดชั่ว อวดเด่นคืออวดเลว เข้ามาตีกัน เอาไฟมาเผากันในชาติบ้านเมืองของเรานี้ ไม่ใช่ทางของชาวพุทธ จึงไม่ควรนำเอามาใช้เลย ดีชั่วก็มีด้วยกันอยู่กับทุกคนนั่นแหละ เพราะคำว่ามีกิเลสต้องเป็นภัยอยู่กับกิเลส สำหรับธรรมไม่มีภัย เมื่อมีกิเลสอยู่ในหัวใจของทุกคนย่อมมีมากมีน้อย ให้พยายามตีกิเลสตัวที่มันเป็นเสี้ยนเป็นหนามต่อตัวเองและส่วนรวมออก ต่างคนต่างชำระสะสาง ไม่ดีตรงไหนก็ให้แก้ไขดัดแปลง อันนี้เป็นความถูกต้องที่จะบำรุงอวัยวะของชาติไทยเราให้มีความแน่นหนามั่นคง ด้วยความรักชาติและด้วยความสามัคคีต่อกัน นี่คือทางเดินของธรรม

ทางเดินของกิเลสไปที่ไหนต้องเห็นแก่ตัว มีแต่เอารัดเอาเปรียบดูถูกเหยียดหยามเขาไป ยกตนขึ้นเหยียบคนอื่น นี้คือกิเลส แล้วเลวที่สุดต่ำที่สุดก็คือกิเลสที่ตัวว่าสูง ๆ นั่นแหละ ธรรมท่านไม่ว่าสูงว่าต่ำท่านเสมอภาค ถ้าว่าสูงก็สูงเลยโลกแล้ว

เวลานี้เราก็เกี่ยวกับการช่วยบ้านช่วยเมือง การช่วยบ้านช่วยเมืองก็เรื่องความสกปรกโสมมนั่นละมันเอาเข้ามาเปรอะมาเปื้อนทำให้เสียความสะอาด ความแน่นหนามั่นคง ชำรุดทรุดโทรมไปตาม ๆ กันด้วยสิ่งทำลาย มีมากมีน้อยทำลายทั้งนั้น ๆ ทีนี้การทะนุถนอมการบำรุงก็ต้องได้ช่วยกัน ทะนุบำรุงรักษากันถึงถูกต้อง การทำเหล่านี้ไม่ว่าอะไรแม้แต่ในครัวเรือนของเราก็มีหัวหน้า หัวหน้าครอบครัว พ่อกับแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวของลูก บ้านหนึ่งก็มีหัวหน้า มีผู้ใหญ่บ้าน มีกำนัน แล้วมีอำเภอมีจังหวัดเรื่อยไปจนกระทั่งถึงใหญ่โตถึงขั้นสูง ที่นิยมใช้กันในเวลานี้ว่าถึงขั้นนายก รวมเป็นกลุ่ม ๆ แล้วนายกเป็นผู้ต่อยอดให้สูงกว่าเพื่อน เป็นผู้คอยดูแลบำรุงรักษาชาติบ้านเมือง คอยแนะนำตักเตือนสั่งสอน เพื่อให้ต่างคนต่างปฏิบัติตัวดีเพื่อชาติบ้านเมืองของตน นี่ก็ต้องมีผู้นำ

ถ้าผู้นำไม่ดีนี้ก็ผู้นำนี้แลเป็นตัวเสนียดจัญไรมากที่สุด ทำความฉิบหายล่มจมให้ได้ไม่ต้องสงสัย ผู้ใหญ่นี่สำคัญมากนะ ใหญ่ในทางที่เสียฉิบหายได้ไม่สงสัย ใหญ่ในทางที่ดีก็พยุงขึ้นได้ไม่สงสัยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่จึงเป็นของสำคัญมาก อย่างบ้านเมืองไหนเขาก็มีผู้ใหญ่ ๆ เมืองไทยเราก็มีผู้ใหญ่ ตั้งแต่ครอบครัวขึ้นไปเป็นลำดับลำดาเป็นขั้นเป็นตอนจนกระทั่งถึงขั้นนายก

เวลานี้ใครก็ทราบแล้วว่า คุณทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็อยู่ในสายตาและจิตใจของพี่น้องชาวไทยจะจ้องมองกันดูให้ทั่วหน้ากันด้วย ยกตัวอย่างเช่นเวลานี้ คุณทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ใครก็ดู ๆ ควรชมก็ชม ตามีหูมีมาตั้งแต่วันเกิด ใจมีมาตั้งแต่วันเกิด ดูสิ่งที่ดีที่ชั่วเข้ามาสัมผัสสัมพันธ์จะไม่รู้ดีรู้ชั่วได้ยังไง ใจเป็นนักรู้ เรื่องนี้มันจึงทราบเข้ามา ๆ ตั้งแต่คุณทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีมานี้ประมาณ ๓ เดือน เสียงชมเชยสรรเสริญมีเข้ามาทั่วหน้า ๆ เราเป็นจุดศูนย์กลางและเราเป็นธรรม เราจะต้องพูดตามหลักธรรมพูดอย่างอื่นไปไม่ได้

บรรดาพี่น้องชาวไทยเราส่วนมากต่อมาก ที่เข้ามาผ่านจุดศูนย์กลางคือเรา ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านศาสนาอีกด้วย มีแต่ความยกยอสรรเสริญ อยากให้ผู้นำอย่างนี้มีความจีรังถาวรด้วย อายุ วัณโณ สุขัง พลัง คืบหน้าขึ้นไป เพื่อจะได้นำชาติไทยของเราให้ขึ้นสู่ความสง่าผ่าเผย เวลานี้กำลังเบ่งบาน นี่ละชาติไทยเราพูด เราเอาคำพูดของชาติไทยมาพูด ไม่ได้เอาคำโกหกมาพูด เวลานี้ชาติไทยเรากำลังเริ่มจะเบ่งบานในหัวใจของพี่น้องชาวไทยเรา จากสายตาที่มองดูและได้ยินได้ฟังมา คุณทักษิณก็ตั้งหน้าตั้งตาทำเวลานี้ก็ทราบ นี่ก็เป็นลูกศิษย์ลูกหามาพูดให้เราฟัง

พอมาเป็นนายกแล้วก็ติดต่อ ในการซื้อการขายต่างประเทศไม่ว่าใกล้ว่าไกลอุตส่าห์พยายาม คนคนเดียวเท่านั้นแหละแต่อุตส่าห์พยายาม เพราะใหญ่ด้วยภาระที่แบกหาม ต้องไปเกี่ยวข้องกับประเทศนั้นประเทศนี้ ติดต่อในการซื้อการขาย เพื่อเข้ามาหนุนชาติไทยของเรา นี่ก็คือหัวหน้า ตาสีตาสาไปทำได้ยังไง ทำไม่ได้นะ แต่นายกทำได้ ไม่ว่านายกคนใดถ้าเป็นผู้สามารถทำได้ทั้งนั้นเพราะมีอำนาจที่จะทำได้ นี่ก็ได้ยินคำเยินยอสรรเสริญมาทั่วหน้ากันในประเทศไทยของเรา ว่าคุณทักษิณเวลานี้กำลังจะทำชาติไทยของเราให้เบ่งบานขึ้นด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ใกล้กับความสมหวังเพื่อความแน่นหนามั่นคงแห่งชาติไทยของเราไปทุกวัน ๆ ว่าอย่างนี้นะ

พี่น้องชาวไทยนั้นแหละมาพูดให้หลวงตาฟัง มาจากทุกแง่ทุกมุม เพราะหลวงตามีลูกศิษย์มาก เอาความจริงออกมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เพราะฉะนั้นเราจึงได้พูดตามหลักความจริง อันไหนไม่ดีก็บอกไม่ดี อันไหนที่ดีก็บอกว่าดี เช่นเวลานี้คุณทักษิณรู้สึกว่าอยู่ในสายตาที่เย็นตาเย็นใจ ชื่นอกชื่นใจของพี่น้องทั้งหลายมาก ประหนึ่งว่าตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมานี้ เขาพูดอย่างนี้ก็มีไม่ใช่น้อยปากนะ หลายปาก ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมาเป็นลำดับลำดาก็ธรรมดา ๆ เรื่อยมา มีฟูขึ้นฟุบลง มีหนักมีหน่วงถ่วงชาติไทยของเราลงเป็นลำดับถึงขั้นจะล่มจมก็มี เขาพูดถึงขนาดนั้นแหละ แต่เวลานี้มาเจอผู้นำคือคุณทักษิณนี้ มีแต่ความฟื้นฟูตลอดเวลา เจ้าของจะเป็นจะตายอะไรไม่ว่า แม้ที่สุดสมบัติส่วนตัวเจ้าของก็ออกเจือจานไปหมด

อันนี้เราก็ทราบ เป็นความจริงอะไรก็แล้วแต่ผู้มาเล่าให้ฟัง แต่ผู้ที่มาเล่าให้ฟังแน่ใจว่าไม่โกหกเรา คุณทักษิณสละเงินส่วนตัวออกไปช่วยชาติบ้านเมืองมีจำนวนเท่าไร ๆ ในวงราชการทราบดีกว่าเรา แล้วก็มาเล่าให้เราฟัง เราก็พูดตามนี้เอง นี่เราก็ไม่เคยเห็นที่นายกรัฐมนตรีเอาสมบัติส่วนตัว ไปเจือจานช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยผู้ทุกข์ผู้จน สถานที่จำเป็นอะไร ๆ นี้ เราได้ทราบมาอย่างนั้น หากว่าผิดก็ขออภัยด้วยเพราะเราไม่มีเจตนา เรื่องอย่างนี้เราได้ยินมาชัดเจนมาก คนทุกข์คนจนที่ไหนนี้ ไม่ได้มองดูแต่สูง ๆ นะ หามองดูคนจนนี้ถูกต้องกับคนที่จะทำดีแก่ตัวเองและชาติบ้านเมือง ที่ไหนต่ำต้องถมขึ้นพูนขึ้น

คนทุกข์คนจนอยู่ที่ไหนความจำเป็นอยู่ที่นั่น ทราบว่าคุณทักษิณนี้ช่วยเต็มกำลังความสามารถ ดูคนจนมากกว่าคนมี ไปที่ไหนช่วยเหลือๆ ไปหมด เราหาผู้นำที่ไหนประเภทนี้น่ะ เราอยากจะพูดอย่างนี้นะ เมื่อประมวลคำพูดของพี่น้องชาวไทยมาถึงหลวงตาแล้ว หลวงตามาวิจารณ์นะ ไม่ใช่จะมาวิจารณ์เพื่อยกโทษคนนั้นคนนี้ วิจารณ์เอาเหตุเอาผลดีชั่วจะรู้ตามคำได้ยินได้ฟังมา นี่ก็ปรากฏเด่นอย่างนั้นแหละ ไม่มีความเห็นแก่เนื้อแก่ตัวถือเนื้อถือตัว เข้าได้หมดนี่อันหนึ่ง ใครเข้ามาติดต่ออะไรพูดเป็นกันเองๆ ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่สูงต่ำพูดได้หมด นี่ผู้นำคนหนึ่งอันนี้ก็หายาก

แล้วการทำประโยชน์นี้มุ่งหน้าต่อชาติบ้านเมืองอุ้มชูชาติบ้านเมืองจริงๆ นี่เราก็พึ่งได้มาเห็นตามที่เราได้ยินได้ฟังมานี้แหละ เราก็ไม่เคยเห็นแหละหน้าที่การงานที่เขาทำ แต่อาศัยที่เราได้ยินได้ฟังจากบรรดาลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดติดพันกับเรื่องราวเหล่านี้มาพูดให้เราฟัง เราก็พูดให้ฟัง เราก็พอได้สรรเสริญไปด้วย เพราะเราหาคนดีอยู่แล้ว นี่ก็ได้ทราบเด่นชัดเวลานี้ คุณทักษิณรู้สึกว่าถ้าจะพูดแบบโลก เรียกว่าชนะหัวใจประชาชน คำว่าชนะนี้ชนะด้วยความดี คือคุณทักษิณนี้จูงหัวใจประชาชนที่หวังดีอยู่แล้วให้ดีเพิ่มขึ้นไป ตามเจตนาและความขวนขวายของคุณทักษิณที่มีเจตนาหวังดี แล้วขวนขวายเพื่อความดีต่อโลกอย่างแท้จริง นี่เราก็อนุโมทนาด้วย แล้วท่านผู้ใดจะเห็นขัดข้องยังไงกับสายธรรม

เราพูดนี้เราพูดด้วยธรรมนะ เราไม่ได้ยกได้แยกเหยียบย่ำทำลายผู้ใด เรานำคำกลางๆ ที่เขานำมาพูดแล้วมาประมวล แล้วแยกออกมาพูดให้ฟัง เท่าที่เด่นชัดก็คือว่าคุณทักษิณเวลานี้ ตั้งแต่วันเป็นนายกรัฐมนตรีมีตั้งแต่การขวนขวายเพื่อชาติบ้านเมืองโดยถ่ายเดียว เป็นสัดเป็นส่วนเป็นวรรคเป็นตอน ตั้งหน้าตั้งตาทำการทำงานจริงๆ วันนี้เราจึงขอขอบคุณและอนุโมทนากับท่านนายกรัฐมนตรีคือคุณทักษิณ ชินวัตร พร้อมกับคณะผู้ตั้งหน้าตั้งตาทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองอย่างถึงใจมาพร้อมนี้ด้วยนะ (สาธุ) เราคอยประมวลข่าวเพราะเราเป็นจุดศูนย์กลางของข่าว ประมวลข่าวทั่วประเทศไทยเข้ามาสู่จุดศูนย์กลางคือหลวงตาบัว ทีนี้หลวงตาบัวก็เอาข่าวกลางนี้ออกกระจายให้รู้ทั่วถึงกัน

สรุปทองคำดอลลาร์วันที่ ๓๐ ซึ่งเป็นวันบำเพ็ญมหากุศลอันยิ่งใหญ่ต่อชาติทั่วสามแดนโลกธาตุนี้ ผลปรากฏดังนี้ ทองคำได้ ๖ กิโล ๒๙ บาท ๓๙ สตางค์ดอลลาร์ได้ ๕,๔๓๙ ดอลล์ ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงเวลานี้ ๔,๐๐๐ กิโลและมอบเรียบร้อย ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ยังไม่ได้หลอมจำนวน ๔๑๗ กิโล ๓๓ บาท ๓๔ สตางค์ รวมทองคำที่ได้ทั้งหมดเวลานี้เป็นทองคำ ๒,๔๘๐ กิโล ซึ่งเท่ากับ ๒ ตันกับ ๔๘๐ กิโลจากนี้มันก็ต่อกันไปเรื่อยหละต่อเข้า ๆ แล้วกุดด้วนเข้ามา สิ่งที่เศษเหลือไม่พอกุดด้วนเข้ามา ต่อไปก็เต็มเปี่ยม

เราไปกรุงเทพฯ คราวนี้อาจจะได้หลอมทองก็ได้ เพราะทองนี้มันถึงแล้ว ตามธรรมดาเราหลอมได้แล้วนะ คือ ๔๑๗ กิโล นี้แน่ใจว่าพอ ๔๐๐ กิโลคือเราเผื่อไว้ทองคำประเภทต่างๆ ที่ไม่ใช่ทองแท่งนะมันลด ทองประเภทนั้นลด ส่วนทองแท่งไม่ลด นี้เราเผื่อสำหรับทองแท่ง พอหลอมแล้วอย่างน้อยต้องให้ได้ ๔๐๐ กิโลเราถึงจะหลอม กรุณาทราบตามนี้ เราขวนขวายไปเรื่อยๆ อย่างนี้ละ

บรรดาพี่น้องทั้งหลายที่ต่างท่านต่างมีศรัทธาร่วมกันมาทั่วประเทศไทยจังหวัดไหนๆ มาได้มาที่นี่มาสร้างบุญกุศลเพื่อเป็นมหากุศลยิ่งใหญ่แก่ชาติไทยของเรา ตลอดถึงการเผื่อแผ่เมตตาทั้งหลายไปทั่วถึงสัตว์ทั่วแดนโลกธาตุ นับว่าได้ประโยชน์แก่พวกพี่น้องทั้งหลายเรานี้เป็นอย่างมากในงานคราวนี้ หลวงตาจึงขออนุโมทนากับพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกัน

งานเราก็มีเป็นพักๆ วัดป่าบ้านตาดเลยกลายเป็นวัดของงานไปแล้ว แต่ก่อนไม่มีนะวัดนี้ไม่ให้มีเลย เดี๋ยวนี้กลายเป็นวัดงาน เราก็ต่างคนก็ต่างคนต่างทำประโยชน์เพื่อชาติไทยของเราหลวงตาบัวทุกข์ก็ทนเอานะ คือทนเพื่อชาติจิตใจนี้แข็งแกร่งเลยนะ เรื่องธาตุขันธ์เท่านั้นมันไม่อำนวย แต่เรื่องจิตนี้ไม่ต้องบอกว่างั้นเลย ขาดสะบั้นไปเลยเพื่อความเมตตาต่อโลกสงสาร เราเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราไม่มีคำว่าอ่อน

ไปกรุงเทพฯ เหรอ เป็นโรคอะไรล่ะ ถึงได้ไปอยู่เรื่อยๆ ล่ะ (โรคเก่าครับไปฉายแสงครับ) ฉายแสง เราก็เป็นห่วงเดี๋ยวเข้าโรงพยาบาลๆ ไม่ดีนะ ถ้าเข้าบ่อยๆ เดี๋ยวเข้าไม่ออกมันเป็นอย่างนั้นนะ กับผ่าตัดบ่อยๆ นี้ไม่ดี ผ่าไปผ่ามาก็เป็นแตงโมไปเลย ตกไปคนละเสี่ยง ๆ ไปเลยไม่มาติดกันเป็นแตงโมให้นะถ้าผ่าหลายครั้งหลายหน มันเป็นอย่างนั้นนะ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก