ผู้ทำลายชาติมันไม่อ่อนข้อนะ (นักวิชาการ...)
วันที่ 27 กันยายน 2543 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

ผู้ทำลายชาติมันไม่อ่อนข้อนะ

(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๓๐๐ คน)

สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๖ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๐ บาท ๘๙ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๙๔ ดอลล์ รวมทองคำที่ได้ทั้งหมด ๒,๑๒๑ กิโล ยังขาด ๑,๘๗๙ กิโล จะครบจำนวนสี่พัน นี่อ่านให้ฟังทุกวัน ที่อ่านนี้เตือนให้รู้ทุกคน

เมื่อวานนี้เอาของไปส่งโรงพยาบาลศรีบุญเรือง พอมอบแล้วก็ผ่านมาทางโนนสัง ตัดออกมาทางเขื่อนอุบลรัตน์มาเขาสวนกวาง มาแวะโรงพยาบาลโนนสะอาดบ้าง เพราะไม่ได้แวะนานแล้ว โรงพยาบาลโนนสะอาดนี้เป็นโรงพยาบาลที่รับรองภาระทั้งหลาย ซึ่งทางโรงพยาบาลต่าง ๆ ขอมา ๆ มอบให้นี้เป็นภาระ เมื่อเราพิจารณาสมควรยังไง ๆ สั่งยังไง ก็มอบให้ทางนี้สั่ง ๆ ตลอดมา เครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ รถราอะไรก็ตามเกี่ยวกับโรงพยาบาล มอบให้โรงพยาบาลโนนสะอาดเป็นผู้รับภาระทั้งหมด เมื่อวานเลยเข้าไปแวะ เราไปถามเมื่อวานนี้

โรงพยาบาลโนนสะอาดนี่รับภาระมามากเป็นเวลานาน ส่วนที่สงเคราะห์ไปบ้างแล้วนั้นก็สงเคราะห์ แต่เรายังไม่ได้สนิทใจนัก อาจจะขาดเขินอะไรแต่ไม่กล้าขอก็ได้ วันนี้มาเปิดเลย เอ้า มีขาดอะไรให้บอกมา โรงนี้ควรจะได้รับอนุเคราะห์มากในบรรดาโรงพยาบาลอำเภอนี่ เรียกว่ามากกว่าโรงพยาบาลอื่น เราว่างี้ เขาบอกไม่ขาดเขินอะไร พอเป็นไปทุกอย่างเพราะได้รับการสงเคราะห์อยู่เสมอ ตกลงก็เลยไม่ได้ให้อะไรแหละ เพราะเขาบอกว่าไม่ขาดอะไร พอเป็นพอไปพอเหมาะพอดีกับฐานะของโรงพยาบาลอยู่แล้วว่างั้น ก็เลยมา ไป ออกหนองบัวลำภู ตัดใส่ศรีบุญเรือง โนนสัง มาเขื่อนอุบลรัตน์ ตัดมาขอนแก่น เขาสวนกวาง อ้อมไป วิ่งดูเหมือนประมาณสัก ๕ ชั่วโมง

แต่ทั้งนี้เพราะเราพัก เช่น ร.พ. ศรีบุญเรือง ก็ไปนั่งประมาณสัก ๒๐ นาที นาน ๆ ไปทีนึงก็นั่ง ส่วนมากเราไปเราจะไม่ลงจากรถนะ พอจอดกึ๊กเปิดประตูรถ ขนของลง ๆ ใครจะมามากน้อยไม่สนใจ เสร็จแล้วก็ว่า เอาของมาให้เฉย ๆ นะ ขู่ฟ่อแล้วไปเลย ไม่ลงรถ ส่วนมากไม่ลงรถ เอาของมาให้เฉย ๆ เขามากันเต็มก็ไม่สนใจ ไปเลย แต่นี้ ร.พ.นี้นาน ศรีบุญเรือง พักสักประมาณ ๑๕-๒๐ นาที ส่วนโนนสะอาดไปก็ไปนั่งถามเรื่องราวโดยเฉพาะ เกี่ยวกับเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ มีเท่านั้น ถามว่าอะไรก็ไม่บกพร่อง เราก็มาเลยเมื่อวานนี้

ทางศรีบุญเรืองก็ได้ให้เยอะนะ พวกเครื่องมือ ผู้ว่ายังอยู่อุดร ฯ นี้ก็ได้ส่งเอกซเรย์เครื่องใหญ่ไปให้ทางศรีบุญเรืองนะ นี้เป็นเครื่องพิเศษ เอกซเรย์เครื่องนี้เป็นเครื่องพิเศษ หวุดหวิดติดหนี้เขา พอเอาไปถึงนั้นแล้วทางจังหวัดเลยมาขอเอาเครื่องนี้ไปไว้ที่จังหวัด เอาของจังหวัดมา คงจะให้พระตาม กุสลา มาด้วยแหละ เพราะเครื่องโปเกชำรุด เอามาให้ศรีบุญเรือง ทีนี้เราสั่งเครื่องดี ๆ ไปให้ศรีบุญเรือง กลับเอาไปหนองบัวลำภูไปทางจังหวัด แล้วเอาของจังหวัดแบบพระตาม กุสลา ไม่ทันมาให้ มันจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ เครื่องไม้เครื่องมือที่เอามาจากจังหวัด

พระเลยยุ่งใหญ่ ตาม กุสลา ไม่ทัน เดี๋ยวเครื่องนี้พระยังไม่ได้ไปเอาย่ามบนกุฏิ คือเครื่องนี้ไปมันจะตายกลางทางพูดง่าย ๆ เดี๋ยว กุสลา ไม่ทัน เข้าใจไหม คือเอาเครื่องดีที่ศรีบุญเรืองเวลานี้มาให้หนองบัวลำภู เครื่องนี้ดี คือเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ แพง ถึงขนาดหวุดหวิดติดหนี้ พอเอาไปศรีบุญเรือง ทางหนองบัวลำภูก็เลยไปขอ เห็นว่าสมควรกันเพราะหนองบัวลำภูฐานะเป็นจังหวัดเป็นโรงพยาบาลใหญ่ ก็เลยเอามานี่เสีย เครื่องนี้เอาไปโน้นก็ใช้ได้ตามฐานะของอำเภอธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่เครื่องที่เอามาหนองบัวลำภูจากศรีบุญเรืองนี้เป็นเครื่องพิเศษ ถ้าหากว่าฐานะก็เหมาะสมกันกับจังหวัดว่างั้นเถอะ

เครื่องนี้ดีจริง ๆ เราตัดสินใจสั่งมา มันหวุดหวิดจะติดหนี้ เอ้าติดก็ติด เอามา พอดี พอของมาถึงปั๊บ จะเป็นเทวดาทางโน้นก็ไม่ทราบนะ ไปเที่ยวตีกระเป๋าเงินประชาชนศรัทธาทั้งหลายมาให้พอดีเลย ก็เลยไม่ติดหนี้ รอดตัวออกมา คอยแต่จะเข้าตะรางนะหลวงตานี่ ลูกศิษย์ไปฉุดลากออกเรื่อย จีวรขาดกลางหลังก็ไม่รู้นะ คอยจะติดหนี้อยู่เรื่อยอย่างนั้น คนนั้นลากออกมาใช้หนี้ให้ อ้าว ความจำเป็นมาอีกแล้ว เรื่องราวเป็นอย่างนั้นนะ คือเราจะถือเหตุผลเป็นสำคัญ การติดหนี้มีน้ำหนักเท่าไร ความจำเป็นมีน้ำหนักเท่าไร ถ้าความจำเป็นมีน้ำหนักมากกว่าการติดหนี้ เรายอมติดหนี้ เอาเลย อย่างนั้นนะ ไม่ใช่ทำสุ่มสี่สุ่มห้า ขอพี่น้องทั้งหลายทราบนะ

เราทำทุกอย่างไม่ใช่คุยนะ ตั้งหน้าทำด้วยความเมตตาละเอียดลออทุกอย่าง เพราะฉะนั้นสิ่งของสมบัติพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคผ่านหลวงตาบัวนี้เข้าไปสู่คลังหลวง ที่ไปติดแจอยู่เวลานี้ เราติดตามตลอด เห็นไหมล่ะ ฟัดกับทางธนาคารกับทางรัฐบาล ใครเป็นผู้ฟัดถ้าไม่ใช่หลวงตาบัวจะเป็นใคร แล้วใครมาทำให้ฟัด เอาตรงนั้นซิใช่ไหม ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมาธนาคารมาก็ไม่เคยเห็นมีเรื่องอย่างนี้ ที่จะมารบรากับพระกับศาสนา อันนี้มันมารบรากับพระกับศาสนา มันก็ฟัดกันบ้างซิ

ศาสนาก็ของคนมีชีวิต พระพุทธเจ้าศาสดาองค์เอก พระทัยเปี่ยมด้วยเมตตา มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต อยู่ ๆ จะมาทำอย่างนั้นได้เหรอ เด็กอมมือเขาก็ไม่ทำ นั่นซิที่มันฟัดกัน มันทำอะไรเลวจริง ๆ พูดง่าย ๆ ว่างั้น ถ้าพูดถึงเรื่องสายตาของธรรมจะดูไม่ได้เลย เรื่องความเลวร้ายของคน ประหนึ่งว่าเรียน ก.ไก่ ก.กา มาเป็นผู้ใหญ่ว่างั้นเถอะ ไม่สมฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ที่ปกครองบ้านเมือง สมบัติเหล่านี้มาจากไหน มาจากคนทั้งชาติตั้งแต่วงศ์กษัตริย์ลงมาจะเข้าสู่คลังหลวงซึ่งเป็นของคู่ควรกัน ทำไมเข้าไม่ได้ เอามาขวางไว้ทำไมก้างขวางคอ ก้างยักษ์ก้างผีมันเป็นภัยต่อชาติไม่รู้หรือ เด็กอมมือมันก็รู้ นี่ซิได้ฟัดกันเข้าใจไหม มันมีเหตุมีผลอย่างนี้ ถึงได้พูดกัน

ศาสนานี้ต้องตรงไปตรงมาไม่งั้นเป็นที่ตายใจของสัตว์โลกไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรเป็นอะไรถึงต้องตรงแน่ว ๆ ชีวิตจิตใจไม่มีความหมายยิ่งกว่าธรรม สำหรับที่จะเป็นความร่มเย็นแก่สัตว์โลก พระพุทธเจ้าประทานโอวาทไว้อย่างนั้นตลอดมา ธรรมเป็นอย่างนั้นตลอดมา อย่างที่เห็นนี่ ควรว่าก็ต้องว่าซิ เหตุผลเท่านั้นเรา อย่างอื่นมายุ่งเราไม่ได้ ถ้าเหตุผลนี่ ผมเส้นเดียวเราไม่ผ่าน พูดจริง ๆ นะ

เอ้า เราจะยกตัวอย่างให้ฟัง เอากันใกล้ ๆ นี่ ไอ้ทิดหรวด ตัวมันอยู่นี่ มันเป็นเณรอยู่นี่ มันคงรำคาญตาเราไปทำขายหน้า มันอยู่ศาลา เราทำธุระอยู่นั้นมาดูนาฬิกา คือ บ่าย ๔ โมงปัดกวาด ก็รู้กันหมดทั้งวัด วันนั้นดูเหมือนบ่าย ๔ โมง ๒๐ นาที ยี่สิบนาทีมันเหมือนว่าเป็นเข็มสี่โมง เราดูนาฬิกา โธ้ นี่มันตั้งสี่โมงกว่าไปแล้ว ปุ๊บปั๊บลากไม้กวาดแล้วก็ปัดกวาด แต่ก่อนเราทำข้อวัตรปฏิบัติเหมือนพระทั้งหลายนะ พึ่งมาเริ่มลดละตอนนี้แหละ ปัดกวาดออกมาผึงผัง ๆ พระนี้เงียบหมดวัด นี่พูดทางเหตุผลเข้าใจไหมล่ะ ออกมาก็มาเห็นเณรจรวด

มันคงรำคาญตาเห็นเราเป็นบ้าคนเดียว บ้าแล้วยังไม่แล้ว บ้าแล้วยังอาละวาดอีกด้วยนะ ปัดกวาดออกมาหน้าวัดไม่เห็นใคร เณรนี้มันก็เอาไม้กวาดออกไปปัด เณร พระวัดนี้ตายหมดแล้วเหรอ ใครจะไปกุสลากัน โน่นน่ะฟังซิ กฎเกณฑ์มีอยู่ว่ายังไง วันนี้ทำไมพระตายหมดทั้งวัด ใครจะกุสลาใคร ถึงเวลาปัดกวาดทำไมไม่เห็นใคร (มันพึ่งบ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที) หือ อย่างนั้นเหรอ พอว่าอย่างนั้น เราเลย เณร ๆ หยุด อย่ามาเป็นบ้าด้วยกัน ให้เราเป็นบ้าคนเดียว เราจะไปแก้บ้าเราปุ๊บเลย นั่นเห็นไหม ขนาดจะเอาพระทั้งวัดเลยนะ

พอว่า พึ่งได้ ๓ โมง ๒๐ นาที เหมือนกับว่าสี่โมงเข้าใจไหม นั่นละเวลามันเป็นบ้า เลยบอกเณรให้รีบกลับ เดี๋ยวมันจะเป็นบ้ากันไปหมดทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเรา กลับปุ๊บเลย นั่น เห็นไหมเหตุผล กำลังเป็นไฟจะเผา พอเหตุผลมา นี่เรียกว่าผมเส้นเดียว ไม่ผ่านเลย นั่นละเรียกว่าเหตุผล เป็นอย่างนั้น เราปฏิบัติมาอย่างนั้น ความถูกต้องมีอยู่ เราผิดต้องบอกว่าผิดซี เราต้องไปแก้ความผิดของเรา ถึงขั้นบ้าเราก็จะไปแก้บ้าของเรา จึงบอกว่า เณรให้รีบกลับ เดี๋ยวจะเป็นบ้ากันทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเรา นั่นเห็นไหมล่ะ เราไม่ลืม นี่ละเรื่องธรรมเป็นอย่างนั้น ธรรมต้องเป็นธรรมตลอดเลย ใครจะใหญ่กว่าธรรม เหนือธรรมไม่ได้

ดังที่ว่า ผมเส้นเดียวไม่ข้ามถ้าเป็นธรรม ถ้าเป็นเรื่องภัยเรื่องเครื่องทำลายไม่ใช่ธรรมแล้วปัดทันที เอาไว้ไม่ได้ อย่างนี้ไม่เป็นธรรมต่อชาติบ้านเมือง เป็นข้าศึกต่อชาติบ้านเมือง จะไม่ให้ว่ากันยังไง สมบัติของคนทั้งชาติหามา นับแต่วงศ์กษัตริย์ลงมาเพื่อจะเข้าสู่คลังหลวงอันเป็นของคู่ควรอย่างยิ่ง ว่าอย่างนั้นนะ ไม่ใช่คู่ควรธรรมดา แล้วมากีดมาขวางไว้ทำไม ข้าศึก ได้อำนาจเหนือเมฆมาจากไหน เหนือคนทั้งชาติ นั่นเอากันตรงนั้นนะ

ตั้งแต่นั้นมาเราไม่ได้ไว้ใจ จึงได้บอกอยู่เสมอ ที่ว่าของได้เอาเข้าสู่คลังหลวง เราเพียงรับทราบเท่านั้น นั่นเห็นไหม ยังไม่ได้รับรอง ต้องไปเข้าถึงเหตุถึงผลกันเสียก่อน เพราะถูกต้มแล้วต้องเข็ดจะว่าไง เราก็ตายใจ เป็นผู้นำของชาติ เป็นที่ไว้ใจของประชาชนทั้งชาติ ทำไมจึงมาทำอย่างนี้ได้ลงคอ นั่นซิที่มันเอากันนะ มันฟังได้ยังไง คนทั่วประเทศเขาเป็นคนทั้งนั้น ทำไมเรามาเป็นข้าศึกศัตรูต่อชาติอย่างโจ่งแจ้ง อย่างหน้าด้านอย่างนี้ หน้าด้านที่สุดพวกนี้ เป็นยังไง

แล้วเวลานี้ใครจะเป็นผู้ใหญ่อีก เป็นคนประเภทนี้หรือมาเป็นผู้ใหญ่ปกครองชาติบ้านเมือง ถ้าอยากให้จม เอ้า เขียนใบจมไว้เลย แล้วไปหาเอาพวกนี้มาทั้งโคตรทั้งแซ่มาเป็นผู้ใหญ่ นับแต่นายกรัฐมนตรีลงมา คณะรัฐมนตรีมนแตรไปหากันมา เขามีโคตรมีแซ่ไปลากเขามาทั้งหมด ให้มาเหยียบเมืองไทยให้แหลกเหลวกันไปหมด นี่ละเรื่องของข้าศึกศัตรูต่อชาติไทย มันเห็นอยู่อย่างนี้จะไม่ว่ายังไง ธรรมความถูกต้องมีอยู่มันทำไมไม่ดูไม่ฟัง เขาไว้ใจกันทั้งชาติเขาถึงยกให้เป็นผู้ใหญ่ แล้วทำไมจึงมาเหยียบย่ำทำลายคนทั้งชาติ ให้เป็นปูเป็นปลาเป็นหมูเป็นหมาไปเสียหมดมีอย่างเหรอ มันฝังใจลึกนะอย่างนี้ พี่น้องทั้งหลายให้ฝังใจทุกคน เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เรื่องทำลายชาติโดยตรง ทำลายศาสนาไปในตัวด้วย

พระเป็นผู้นำ เราเองเป็นผู้นำ นำด้วยความถูกต้องดีงามทุกอย่าง มากีดมาขวางไว้อย่างหาเหตุผลไม่ได้ ฟังไม่ได้เลยนี้มีอย่างเหรอ ชาติไทยเราเป็นชาติแห่งชาวพุทธ ทำไมจึงมาทำกันได้อย่างนี้ลงคอ นั่นซิมันน่าคิดอยู่มาก ฝังลึกด้วยนะอย่างนี้ ไม่ใช่ธรรมดา

เวลานี้ก็กำลังจะตั้งผู้นำบ้านเมืองอีกนะ กำลังติดประกาศดังที่พูดสองสามวันนี่ ติดประกาศที่ไหน ๆ มีตั้งแต่โฆษณาหลอกโลกทั้งนั้น เริ่มหลอกโลกไปแล้วเดี๋ยวนี้ อยู่ตามเสาโทรศัพท์ละแส็บที่ไหน ที่ไหนมีทั่วไป มีตั้งแต่กลมายาของการหลอกลวงจะต้มตุ๋นโลกทั้งนั้น ไม่ได้เป็นความจริงตามประกาศนั่นซิ ตัวหัวมันเองตัวเลวที่สุดมาประกาศความดีโอ้อวดโลกหาอะไร ใครมีหูมีตามันก็ฟังทุกคนรู้ทุกคน อวดหาอะไร ถ้าว่าสมัครก็สมัครมาซิ มีอะไรก็แสดงความดีความชอบให้โลกเขาเห็น เขาเห็นเอง ตั้งแต่เขาทำอยู่ลึกลับอยู่ใต้ดินเขายังเห็นเขายังรู้จะว่าไง

เวลานี้เมืองไทยของเรานี้ถูกควานอยู่ใต้ดินนะ มันรังควานอยู่ใต้ดินเดี๋ยวนี้ หมุนติ้ว ๆ อยู่ใต้ดิน มันจะโค่นชาติไทยของเราให้จมเห็นไหมเวลานี้ อยู่ใต้ดินยังเห็นจะว่าไง แล้วมาอยู่เหนือดิน มาประจบประแจง เลียแข้งเลียขาประชาชน ความประจบประแจงใครก็จะไม่รู้ล่ะ ก็รู้เหมือนกันซี ไม่ประจบก็รู้ จริงก็รู้ ปลอมก็รู้คนเรา มาหลอกกันหาอะไร ถ้าสามารถเอาออกมาเขาพอใจแล้วเขาจะเลือกเอง ไม่ต้องมาประกาศหลอกเขาละ ประกาศนี้แทนที่จะให้เขาเชื่อ เขาไม่ได้เชื่อนะ นอกจากคนตาบอดหูหนวก ประกาศไม่ประกาศมันเชื่ออยู่แล้วพวกนี้ เชื่อจนขี้แตก หัวหดตดแตกมันเชื่อเขา พวกนี้ละจะทำให้บ้านเมืองล่มจม พวกมีเหตุมีผลจะไม่ทำ เอากันจริงทุกอย่างซี

ประการหนึ่งที่สำคัญก็ว่า อะไร ๆ ก็มีแต่นักวิชาการ ๆ ออกแถลงอย่างนั้นแถลงอย่างนี้ มันก็มีแต่ลมปาก หน้าที่การงานของนักวิชาการที่จะมาทำให้โลกได้เห็นเป็นตัวอย่างไม่เห็นค่อยมีในเมืองไทยของเรา มีแต่นักวิชาการเรียนมาสำเร็จชั้นไหน ๆ เอาความรู้ที่จำมา ๆ นั้นมาประดับปากหลอกโลกเขาเท่านั้น ส่วนที่จะนำไปปฏิบัติให้โลกได้เห็นเป็นคติตัวอย่างไม่ค่อยเห็นมี อันนี้อันหนึ่งที่แป้วมากทีเดียว บกพร่องมากในชาติไทยของเรา มักจะมีแต่น้ำลายอวดกัน ความจริงไม่ค่อยแสดง ไม่ค่อยออกอวด หัวหดเหมือนหัวเต่าหดอยู่ในกระดอง นี่เสียมากนะเมืองไทยเรา ไม่ได้มีความกล้าหาญชาญชัยต่อเหตุผลกลไกอันใดเลย แล้วจะปกครองบ้านเมืองไปได้ยังไงคนแบบนี้น่ะ ว่างั้นเถอะ มันมีแบบไหนอยู่ในคนไทยทุกคน เอาไปคิดกันซิ

นี่ละธรรมเอามาประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบ พระพุทธเจ้าไม่ใช่คนหัวหดตดแตกนะ ศาสนาไม่ใช่ศาสนาหัวหดตดแตกพอที่จะมาโปะในชาติไทยของเรา ให้หัวหดตดแตกกันไปทั้งบ้านทั้งเมืองนะ เป็นศาสนาจริง ๆ สอนมาด้วยหลักความจริง พระพุทธเจ้าเป็นสักขีพยานในการดำเนินหน้าที่การงาน จนถึงขั้นวิเศษวิโส เอาธรรมวิเศษวิโสออกมาจากภาคปฏิบัติที่เอาจริงเอาจังมาสอนโลก พระสงฆ์สาวกท่านก็นำมาอย่างนั้น ครูบาอาจารย์ที่เป็นอรรถเป็นธรรมท่านก็นำมาอย่างนั้น ท่านไม่ได้เอาตั้งแต่หลักวิชามาอวดกัน เรียนได้ชั้นนั้นชั้นนี้มาอวด ประสากระดาษอวดกันหาอะไร

ความชั่วความเลวมันอยู่กับคน ดีอยู่กับคน ต้องปฏิบัติตัวคน เรียนมาเพื่อปรับปรุงตัวเอง อันไหนไม่ดีแก้ไข อันไหนดีเสริมกันขึ้น อย่างนั้นถึงเรียกว่าเรียนมาเพื่อภาคปฏิบัติ ให้เป็นผลขึ้นมาแก่โลกได้ชมเชยบ้างซิ อันนี้มันไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นักวิชาการอย่างนั้น นักวิชาการอย่างนี้ เราฟังแล้วเราอยากเอาก้นแหละฟัง เราไม่อยากเอาหูฟัง เราอยากเอาก้นฟัง มันเบื่อ เบื่อนักวิชาการ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร มาคุยโม้อวดเฉย ๆ แล้วผลไม่เห็นมี อวดกันไปอย่างนั้นแหละ ตัวมันเองมันหัวหดตดแตก ขี้ป้าดออกมานั่นละจะว่าไง มันได้เรื่องได้ราวอะไร

ศาสนาดู-ดูได้หมดนี่ ศาสนาจริงทุกอย่าง ไม่ได้มาเหลาะ ๆ แหละ ๆ อย่างนี้นะเรื่องศาสนา แล้วพวกเราเป็นยังไงชาวพุทธ จะหัวหดตดแตกกันอยู่อย่างนี้หรือ นี่ละทางที่จะให้เมืองไทยล่มจม ทางควาน-ควานอยู่ใต้ดินเวลานี้รู้กันไหมเวลานี้น่ะ มันของเล่นเมื่อไร มันจะเอาชาติไทยให้จมเรายังไม่รู้อยู่เหรอ ธรรมจับไปหมดจะว่าไง จะมานอนใจกันอยู่เหรอ ให้จริงจังทุกอย่างนะ เฉพาะอย่างยิ่งอย่างที่พูดนี่ ให้คัดเลือกผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ใครเป็นเปรต ใครเป็นผี ดูหน้ามันตลอดโคตรแซ่ของมันเสียก่อน ก่อนที่จะหย่อนบัตรให้สืบสาว คนนี้มาจากหน่วยไหน มาจากก๊กใด มาจากคณะใด ที่เข้ามาแทรกมาแซงนี้มีโคตรมีแซ่เหมือนกัน ตามดูโคตรแซ่ของมันก่อนที่จะหย่อนบัตรให้มัน ต้องอย่างนั้นซิ ใครมาก็หย่อนให้ ๆ เดี๋ยวเขาเอาขี้มาหย่อนใส่ปากเราเป็นยังไงล่ะ ไม่รู้นั่นซี ขี้มันมาตามความเซ่อนั่นแหละจะมาจากไหน

เมืองไทยเราเดือดร้อนอยู่เวลานี้เพราะความสุ่มสี่สุ่มห้าของชาติไทยเรานั่นเอง จึงขอให้จริงจัง เอาศาสนาออกนำ นำให้จริงจังทุกอย่าง อย่ามาทำเหลาะ ๆ แหละ ๆ อย่างนี้นะ เสียชาติบ้านเมืองจริง ๆ มันจะจมจริง ๆ เวลานี้ล่อแหลมมากทีเดียว ทางใต้ดิน ถ้าเป็นต้นไม้ก็ยังเหลือตั้งแต่ใบอยู่ข้างบนอวดดินฟ้าอากาศ ทางใต้รากมันจะกุดจะด้วนไปหมดแล้ว ถูกควานอยู่ข้างล่างนู่น นี่ผู้ที่จะทำลายชาติไทยมันควานอยู่ข้างล่างไม่อ่อนข้อนะ มีทุกแง่มีทุกแบบที่จะมาขัดมาขวางมาโค่นมาทำลาย มีอยู่ทุกแบบนะ ให้จำเอาไว้คำนี้ก็ดี

เราเป็นเจ้าของของชาติไทยทุกคน อย่านอนใจมันจะจมจริง ๆ นะ ถ้าศาสนาเอาขึ้นไม่ได้แล้วไม่มีใครเอาขึ้นได้แหละ ศาสนาเป็นความแม่นยำทุกอย่าง พูดตรงไหนถูกตรงนั้น พระพุทธเจ้าสอนไม่ได้ผิดพลาดนะ ควรที่จะนำมาปฏิบัติต่อตนเองและชาติไทยของเรา อย่าอ่อนแอท้อแท้ เขามาประจบประแจงอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นบ้าไปแล้ว หลับไปแล้ว ก็บอกแล้วว่าแนวหน้าแนวหลังมันมี ฟังซิธรรมกระจายขนาดนั้นนะ แนวหน้ามันจะประจบประแจง เลียแข้งเลียขาเหมือนหมา มันไม่ได้เสียดายละยศถาบรรดาศักดิ์ มันหวังจะเอาอันใหญ่โตยิ่งกว่านั้น มันก็ต้องยอมเสียสละซิคนเรา เสียสละน้อยแต่ได้ผลมากใครจะไม่ยอมเสียสละ มันก็มีความหมายอยู่อย่างนั้น

ทั้งผู้หญ้าผู้หญิงเป็นผู้ใหญ่ผู้โต เป็นที่ควรเคารพนับถือของประชาชนทั้งหลาย เป็นที่ตายใจของประชาชนทั้งหลาย นั้นละตัวสำคัญตัวจะออกเกลี้ยกล่อมพี่น้องชาวไทยเรา ให้ฟังให้ดี จะอย่างนั้นจะอย่างนี้ แล้วก็เคลิ้มหลับไปตาม ข้างหลังมันคืออะไรดูซิ ฉากหลังมันคืออะไร อยู่ข้างหลังนั่นน่ะ อันนี้เหยื่อล่อยังบอกแล้ว ข้างหลังมันควานอยู่ตลอดเวลามันจะเอาให้จม ในเมืองไทยของเรานี้ไม่มีที่ไหนแหละ มีอยู่ในเมืองไทยของเรานี้ ให้พากันตั้งอกตั้งใจ

หลวงตาบัวพูดอย่างชัดเจนเลย ไม่มีสะทกสะท้านกับความเป็นความตาย เพราะความเป็นความตายเป็นคติธรรมดา เราเรียนจบหมดแล้วเรื่องความเป็นความตาย เราไม่พรั่นพรึงหวั่นไหวกับมัน ที่เราพรั่นพรึงหวั่นไหวเวลานี้มีแต่ห่วงพี่น้องชาวไทยเรา กลัวจะล่มจะจมไปเสียทั้ง ๆ ที่ธรรมเครื่องฉุดลากมีอยู่ แต่ไม่มีผู้มาสอนให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วก็ไม่ทราบจะยึดยังไง นี่จึงสอนให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย ตายกับเป็นหลวงตาบัวไม่มีน้ำหนักต่างกันนะ เรื่องชีวิตของเรานี่เราพูดตรง ๆ เราจึงไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องการเป็นการตายของเรา

อย่างทางราชการลูกศิษย์ลูกหา ไปที่ไหนเขาคอยสอดคอยแนมตามรักษาเรา กลัวพวกเปรตพวกมารพวกผีจะตามฆ่าเรา ฆ่าก็ฆ่าซี แน่ะเราตอบ เราไม่อยากให้ยุ่งกับเรา นี่วงราชการผู้ดี ลูกศิษย์ลูกหาผู้เป็นมงคลแก่ชาติบ้านเมืองยังมีอยู่ เขาก็ต้องรู้หนักรู้เบา เช่นอย่างเรานี่ประหนึ่งว่าเป็นภัยต่อโจรมารมหาภัยทั้งหลาย เหมือนกับว่าเขาจะตามติดตามฆ่าเรานั้นแหละ แต่เรามันไม่สนใจ จึงได้บอกบรรดาข้าราชการมีตำรวจเป็นต้น ที่สอดที่แนมที่คอยจดคอยจ้องอยู่ เราพูดตรง ๆ อย่างนี้แหละนะ เพราะความเป็นห่วงเป็นใย เห็นใจบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายที่มีเจตนาดีต่อชาติต่อศาสนา

แต่เราก็เปิดความจริงของเราให้ฟังบ้างว่า เราไม่ใช่คนหัวหดตดแตกอย่างนั้น เราจะไปไหนไปเลย ปวดขี้ ขี้ที่ไหนขี้ไปเลย เราไม่ได้สนใจว่ากล้าว่ากลัว ความเป็นความตายมีน้ำหนักเท่ากันสำหรับเราเอง ไม่มีอะไรต่างกัน ที่ความเป็นอยู่มีน้ำหนักมากกว่าความตายไป ก็เพื่อทำประโยชน์ให้โลก เมื่อมีชีวิตอยู่มากน้อยเพียงไร ก็จะทำประโยชน์ให้โลกเท่าที่ควร เมื่อตายไปเสียประโยชน์ที่ควรจะได้จากความเป็นอยู่ก็ฉิบหายไปด้วยกัน เราจึงยกน้ำหนักความเป็นอยู่ของเรา ให้มีน้ำหนักมากกว่าความตายไป เราจึงอุตส่าห์พยายามมานี้

แต่ที่จะให้เรากล้าเรากลัวกับสิ่งเหล่านี้ บอกเราไม่มี ไปที่ไหนก็ไปเลย อันนี้ประสากระดูก ประสาเนื้อ ประสาหนัง มันตายด้วยกันทั่วโลกดินแดน ไปหวงอะไรแต่เราคนเดียว สอนโลกเพื่อความเสียสละ รู้เท่าทันทุกสิ่งทุกอย่าง เราถ้ารู้เท่าทันมาหลงมันอะไร ก็มีเท่านั้น เราจะทำประโยชน์ให้โลกเต็มกำลังความสามารถของเรา ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก จึงเรียกว่าศาสนา ศาสนาเป็นอย่างนั้น ไม่มีลูบหน้าปะจมูก เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องทั้งหลายตั้งตัวให้ดี อย่าเอนเอียงง่าย ๆ พิจารณาให้ดี

เฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่จะหาผู้นำที่ดีมาปกครองบ้านเมืองให้สงบร่มเย็น เหมือนว่าได้พ่ออันดี แม่อันดี มาปกครองบ้านเมืองแก่ลูกแก่หลานก็ชุ่มเย็น พิจารณาให้ดีนะ พวกเปรตพวกผีมาแทรกในนามของพ่อของแม่มีเยอะนะเวลานี้ ให้ระวังให้ดีอันนี้ คนไหนไม่เป็นท่าชี้หน้ามันเลยอย่าว่าแต่ไม่หย่อนบัตรให้มัน นี่โคตรมึงก็ไม่ดี ตัวมึงก็ไม่ดี มึงจะมาเอาโคตรแซ่กูทั้งหมดให้จมไปเหรอ ฟาดอย่างนั้นเลยทีเดียว เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้แหละ เอาละให้พร

(ทองคำติดกัณฑ์ ๑ บาทครับ) นี่มันมีแง่อยู่นะ พอปั๊บมานี้มันออกรับแล้วนะ อย่าพูดมาสุ่มสี่สุ่มห้านะ บอกแล้ว เดี๋ยวสวนหมัดนะ นี่ฟัง จะพูดให้ฟังมันขบขันดี นี่พี่น้องชาวไทยเราไม่เคยได้ฟัง ตอบปัญหา พวกบ้านแพงก็มีอยู่แถวนั้น เราพูดนี้เราจะไม่พูดให้บ้านแพงฟัง เราจะพูดให้ชาวอุดรฯ และทางกรุงเทพภาคอื่น ๆ ฟัง สำหรับบ้านแพงยกเว้น เราไม่พูด อย่าฟังนะพวกนั้น มีหูปิดเสียก่อน คือเราไปในงานทอดกฐินปีกลายนี้ คนมามาก ๆ เต็มศาลา นี่ฟังนะปัญหามันสวนกัน อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ทราบมาจากไหน ก็คงจะบ้านแพงนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเราถึงบอกบ้านแพงอย่าฟังนะ มาก็บอกว่า เวลานี้ไม่มีลูก มีผัวแล้วไม่มีลูก อยากได้ลูก มาขอลูกกับหลวงตา ทางนี้ก็ตอบปั๊บ ต้องไปหาผัวมาสัก ๑๐ คนอย่างน้อย ไปหาผัวใหม่ ผัวคนนี้ไม่เป็นท่าไล่มันไป ไปหาผัวใหม่มา ผัวใหม่ ๑๐ คนนั้นเอามาเปิดดู โค็ยนี้จะมีลูกไหม ๆ ๑๐ โค็ยดูทุกคน โค็ยไหนแน่ใจแล้วค่อยเอา เราว่าอย่างนั้นแตกฮือเลย เห็นไหมเขาถามมาเราก็บอกแล้ว อย่างไหนมันไม่ได้ก็ต้องทำอย่างนั้นซีจะได้ใช่ไหมล่ะ มันหากมาพูดอย่างนั้น มันก็ออกปั๊บทันทีเลย เราพูดขบขันเฉย ๆ สนุกเฉย ๆ เข้าใจไหม เราพูดถึงเรื่องปัญหา ปั๊บเข้ามานี้มันจะออกรับกันทันที เพราะฉะนั้นอย่าพูดมานะ กัณฑ์เทศน์เท่านั้นกัณฑ์เทศน์เท่านี้ เวลาเอา-เอาใหญ่กว่านี้นะ ขบขันดี

มันทำไมจึงมาขอได้คนมาก ๆ มาขอลูก ถ้ามาคนเดียวเราก็จะพูดธรรมดาคนเดียว เข้าใจไหม คือปัญหาก็มีหลายขั้นหลายตอน ถ้าเขามาพูดคนเดียวไม่มีคน เราก็จะพูดธรรมดา มันก็มีอีกแง่หนึ่งที่จะตอบ อันนี้คนตั้งเต็มศาลาบ้านแพง กฐินคนมากน้อยขนาดไหน ยังมาป้าง ๆ ต่อหน้าคน ทางนี้ก็ป้างรับกันซิ มันก็พอดีกัน อย่างนั้นก็มาถามนะปัญหา แล้วคนมาก ๆ เสียด้วย มาถามอย่างอาจหาญ ทางนี้ก็ตอบอย่างอาจหาญเลย อันนี้ที่พูดมาอุ่นพูดนะ ไม่ได้มีรสมีชาติเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนออกสด ๆ ร้อน ๆ เข้าใจไหม อันนั้นออกสด ๆ ร้อน ๆ รสชาติเต็มเหนี่ยวเลย อันนี้เอามาอุ่น ก็เหมือนอาหารเอามาอุ่นกินทีหลังนั่นแหละ ถึงอาหารประเภทเก่ารสมันก็ไม่ดีใช่ไหม เพราะเป็นอาหารที่มาอุ่นกิน อันนี้ก็เป็นประเภทที่มาอุ่นพูด มันก็อย่างนั้นแหละ ถ้าอยากให้ถึงพริกถึงขิงก็ให้เป็นผู้ทำเองนะ ไปนี้ไปหา ผัวคนไหนมีเมียไม่พอบอกมันไป ไปหาเมียมาอีก ให้ไปบอกผู้ชายตัวเก่ง ๆ เข้าใจไหม แต่ผู้หญิงคนไหนเก่ง ๆ แล้วบอกมาหาหลวงตาบัว จะฟาดมันหลงทิศไปเลย

เป็นยังไงล่ะผู้ว่าฯ ฟังเทศน์วันนี้ (ปลุกใจทุกวันครับ จิตใจมันก็ขึ้นเหมือนกัน) คึกคักขึ้นเลย (ครับ) โห ไม่ปลุกไม่ได้นะ นอนใจ ศาสนาไม่ได้นอนใจ ซอกแซกดูหมด จึงเรียกศาสนาปกครองโลกซิ โลกไม่เห็น ธรรมเห็น (เวลาใจฟุ้งซ่านไม่สงบ เปิดเทปพ่อแม่ครูจารย์ฟัง มันยอมนิ่งฟังของมัน บางทีไม่มีเทปก็เอาหนังสือพ่อแม่ครูจารย์มาอ่าน มันก็คึกคักขึ้นมา มันฟิตขึ้นมาเลย) นั่นละที่มันฟุ้งซ่านก็คือข้าศึก ทีนี้ปราบกันก็คึกคักใส่กันเลย เรียกว่าปราบข้าศึก ข้าศึกเมื่อกำลังทางปราบเหนือแล้วมันก็หมอบ ท่านจึงว่าธรรมกับกิเลสต้องเป็นข้าศึกกันตลอด ถ้ากิเลสหนัก ธรรมะต้องหนัก ไม่หนักแก้กันไม่ตก จนกระทั่งกิเลสอ่อนเท่าไร ๆ คือมันสู้กำลังของธรรมไม่ได้มันก็อ่อนลง ๆ ทางนี้ก็เหนือ ๆ ทีนี้เหยียบไปเลย ท่านจึงสอนให้อบรมให้ฝึกให้ฝืนกัน พระพุทธเจ้าฝืนมาแล้วได้ผลมาแล้วจึงมาสอนพวกเราจากธรรมที่ได้ผลแล้ว จึงไม่ผิดไปไหน นอกจากเราไม่ปฏิบัติตามท่านมันก็ผิดไปวันยังค่ำ

เรื่องเหล่านี้ผู้ปฏิบัตินั่นแหละจะเป็นผู้จัดเจนมาก ในวิธีการต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายคือกิเลสประเภทต่าง ๆ คือผู้ปฏิบัติ เรียนมาเฉย ๆ ไม่ได้ออกแนวรบนี้ก็เหมือนอย่างทหารนั่นแหละ ไปเรียนวิชารบมาด้วยกัน คนหนึ่งออกแนวรบ คนหนึ่งได้แต่วิชา มันก็ได้แต่หลักวิชามาพูดก็ผิวเผินใช่ไหมล่ะ ผู้ที่ออกแนวรบนั้นเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ๆ ในหลักวิชามีหรือไม่มีก็ตาม มันเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เอามาพูดนี้เต็มเม็ดเต็มหน่วย มันต่างกัน นี่ผู้เรียนมาเฉย ๆ ไม่ได้ออกแนวรบกับกิเลส กับผู้เรียนแล้วออกปฏิบัติรบกับกิเลส น้ำหนักหรือความรู้ความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างกิเลสกับธรรม จะกระจ่างแจ้งมากกว่ากันทีเดียว ท่านถึงได้สอน ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปฏิเวธคือผลของการปฏิบัติ สืบเนื่องมาจากปริยัติซึ่งเป็นแถวทางเดิน หรือเป็นแบบแปลนแผนผัง แล้วนำแบบแปลนนั้นมากาง แล้วฟาดไปตามนั้น ผลก็ปรากฏขึ้นมาเป็นปฏิเวธเท่านั้นเอง

ถ้ามีแต่เรียนเฉย ๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์ อย่างที่พูดตะกี้นี้แล้ว นักวิชาการวิชาแกนอะไร มันฟังขวางหูตลอด เราไม่เคยพูด วันนี้จึงพูดเสียบ้างซิ มีแต่นักวิชาการมาบรรยายน้ำลาย ไม่ได้เรื่อง สุดท้ายบ้านเมืองก็จะจม เพราะมีแต่น้ำลาย ผู้ที่มันควานอยู่ข้างล่างมันไม่หยุด นั่นเป็นภาคปฏิบัติของเขา ด้วยความเอาจริงเอาจัง แล้วมาพูดอวดน้ำลายเฉย ๆ มันเข้ากันได้เหรอ มันถึงโมโหล่ะซี ฟังอยู่ ดูอยู่ คิดอยู่ ตลอดเวลา เอะอะก็นักวิชาการ ๆ วิชาการอะไรไม่เห็นเกิดผลประโยชน์ เอามาประดับร้านเฉย ๆ ประดับปากเฉย ๆ ภาคปฏิบัติให้เป็นสารประโยชน์แก่โลกทั้งหลาย จากหลักวิชาที่เรียนมาไม่ค่อยเห็นมีกัน นี่ซิมันทุเรศนะเรา ทางศาสนาก็เหมือนกัน มันเข้ากันแล้วเวลานี้นะ เรียนมาเท่าไร ๆ ก็เอาแต่หลักวิชามาเรียน ก็เรียกว่านักวิชาการเหมือนกัน นักวิชาการทางพุทธศาสนา แต่ไม่มีหลักปฏิบัติมันไม่เกิดประโยชน์อะไร วิชาเรียนมาเพื่อปฏิบัติก็บอกอยู่แล้ว เราไม่ได้ปฏิบัติผลจะเกิดได้ยังไง แต่ก็มาภาคภูมิกับหลักวิชาการที่เรียนมา เอามาเป็นตนเป็นตัวเสีย ภาคปฏิบัติไม่สนใจ จะเป็นตนเป็นตัวกันได้ยังไง มันไม่คิด เอาละไป เลิก

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก