เมืองไทยเราตั้งชื่อเสียใหม่ก็ดี
วันที่ 20 กันยายน 2543 ความยาว 29.51 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(Real)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

เมืองไทยเราตั้งชื่อเสียใหม่ก็ดี

(ผู้ฟังเทศน์นักเรียน ร.ร.อุดรพิทยฯ ๑๒๐ คน ประชาชน ๖๐๐ คน)

ก่อนจังหัน

พระไม่ค่อยฉันจังหัน ดูซิพระตั้งเกือบ ๕๐ องค์ เห็นมาฉันจังหันไม่กี่องค์ เห็นไหมท่านฝึก ไม่ใช่ไม่ทุกข์นะ อดอาหารเป็นทุกข์ แต่ทำไมท่านทนอดทนหิว ทนเพื่อความเป็นพระดีคนดี ให้ดูตัวอย่าง พระพุทธเจ้าสลบไสลถึง ๓ หนเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ไอ้เสื่อไอ้หมอนมันพาใครไปสวรรค์นิพพาน ไปถามดูหมดทั้งบ้านตาด อุดรฯ นี้ รายไหนได้ไปสวรรค์นิพพานเพราะเสื่อหมอนส่งไปมีไหม มีแต่การฝึกทรมานตนให้เป็นคนดีทั้งนั้น อยู่ ๆ จะให้ดี ๆ ไม่ดี ฟังให้ดีนะ นี่เราคันฟันถ้าพูดคันฟัน ถ้าว่าโมโห-โมโหมานานนะ เอาศาสนาจับโลก มันไม่ได้มีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์อะไรเลย เหลวไหลมากเมืองไทยเรานี้

ไม่กระตุกบ้างมันจะไม่รู้เนื้อรู้ตัว มันเห่อจริง ๆ เมืองไทยเราคือเมืองบ้าเห่อ เห่อจนเมืองนอกเขาจะเข้ามาไม่ได้ จะมาตื่นบ้าเห่อนี่ พวกนี้จะสลบไสลกลับบ้านไป เขาไม่อยากสลบเขาก็ไม่ค่อยมาเมืองไทยเรา เพราะเมืองไทยนี้เต็มไปด้วยความบ้าเห่อ เห่อไม่มีหลักมีเกณฑ์ไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกชาวพุทธ พระพุทธเจ้าเป็นยอดแห่งเหตุแห่งผลทุกอย่าง แล้วเมืองไทยเรามาปฏิบัติทำไมมันเหลวแหลกแหวกแนวนักหนา

นี่ดูซิพระท่านฝึกทรมาน ทำไมอดข้าวจะไม่หิวจะไม่เป็นทุกข์มีเหรอ แล้วทำไมท่านอด การอดข้าวเป็นเครื่องสนับสนุนการภาวนาให้สงบละเอียดเรียบร้อย ถ้าเป็นด้านปัญญาก็คล่องตัว ๆ เพื่อมรรคเพื่อผล หนุนความสุขความเจริญขึ้นไป ด้วยความอดหิวอันนี้แหละเป็นปุ๋ย ส่งเสริมเราให้เป็นคนดี ท่านจึงฝืนทน ฝืนอดฝืนหิว แต่ท่านไม่ได้หวังเอาตรัสรู้ด้วยการอดอาหาร อันนี้เป็นเครื่องสนับสนุนเพื่อความเพียรแก้กิเลสต่างหากท่านถึงอด อันนี้เป็นเครื่องสนับสนุน ให้พากันเข้าใจเอาไว้ ท่านทุกข์ท่านลำบากขนาดนี้

พระร่วม ๕๐ องค์มีอยู่กี่องค์ดูซิ มี ๓-๔ องค์เท่านั้น ทำไมท่านถึงทำ ทำไมจะไม่ทุกข์ เด็กมันก็รู้หิวข้าวหิวนม เด็กรู้ ทำไมพระอดข้าวจะไม่รู้ ท่านรู้ แต่ท่านทนต่อเหตุผลเพื่อความเป็นคนดีจากการอดข้าวแล้วภาวนาสะดวก พากันจำเอานะ ให้พากันไปฝึกไปฝนตนบ้างซิ อย่าแหวกแนว ๆ ตลอดเวลา ไปดูที่ไหนมันจะดูไม่ได้นะเวลานี้ เอาศาสนาจับดูมันจะดูไม่ได้นะเมืองไทยเรานี่ เหลวไหลจริง ๆ หลักลอยเอามากทีเดียว หาหลักหาเกณฑ์ของชาติไทยเราเป็นเนื้อเป็นหนังไม่ค่อยเห็นมีที่ไหน เห็นแต่ความเหลวแหลกแหวกแนว บ้าเห่อกันทั้งประเทศเรา

เมืองไทยเราไปตั้งชื่อใหม่เสียก็ดี เขาเรียกเมืองไทย ๆ ยังไม่เหมาะสม ถ้าตั้งให้เหมาะสมก็ว่า เมืองบ้าเห่อ ว่างั้นเข้าใจไหม เมืองไทยคือเมืองบ้าเห่อ ใครไม่อยากตกทะเลหลวงอย่ามาสู้เมืองไทย ในเรื่องการบ้าเห่อนี้ยกให้เป็นแชมเปี้ยนเลย พากันเข้าใจนะ ให้พร

หลังจังหัน

อย่างว่าเช้านี้ก็เหมือนกัน เมืองไทยเราจะเหลวแหลกตรงนี้นะ ความไม่มีขนบประเพณี ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีฝั่งมีฝา นี้คือสิ่งทำลายชาติไทยของเราได้อย่างง่าย ๆ ไปโดยลำดับ ไม่มีคำว่าจะทำลายได้ยากนะ ถ้าหากว่าไม่มีข้อบังคับกฎเกณฑ์ให้เป็นหลักใจของพวกเราแต่ละคน ๆ ทั่วประเทศไทยแล้วจะจมได้นะ ให้พากันพิจารณาให้ดี ศาสนาสอนทุกแง่ทุกมุม สอนถูกต้องแม่นยำไม่มีผิด เรื่องกิเลสนี้มันหวานปากหวานทุกอย่างกิเลส หลอกทุกอย่าง ไม่มีของจริงแฝงอยู่นั้นเลย หลอกตลอด ๆ เพราะฉะนั้นมันถึงต้มไปทุกแห่งทุกหน ไปที่ไหนหวานปากหวานคอ ประจบประแจง ดีไม่ดีควรเลียแข้งเลียขามันก็จะเลีย ขอให้ได้หลักใหญ่ส่วนใหญ่ สละเพียงเลียเท่านี้เป็นไร ส่วนใหญ่จะเอา นี่สำคัญมากนะ

อย่าไปฟังอะไรง่าย ๆ ให้มีหลักมีเกณฑ์ฟัง ดูก็ดี ฟังก็ดี ให้นำมาคิดทุกอย่าง อย่าเห็นแก่ได้แก่ทำไม่ดีเลย เป็นนิสัย ไม่รอบคอบเลยว่างั้นเถอะ เป็นนิสัยทำลายตัว ต้องมีหลักมีเกณฑ์ ศาสนาพุทธเรานี้เป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้วในไตรภพ ไม่มีศาสนาใดเสมอแล้ว เพราะพุทธศาสนานี้เป็นศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้สิ้นกิเลสแล้วทุกพระองค์ มาสอนโลกด้วย โลกวิทู รู้แจ้งกระจ่างไปเลย นำออกมาสอนจึงถูกต้องแม่นยำตลอดมา ท่านจึงให้นามว่า สวากขาตธรรม สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม คือตรัสไว้ชอบแล้ว ๆ ไม่มีผิดเพี้ยนเลย คือธรรมของพระพุทธเจ้า

เราเป็นชาวพุทธควรจะมีวี่แววของธรรมพระพุทธเจ้าติดหัวใจกายวาจาความประพฤติหน้าที่การงานบ้าง นี่ดูมันจะไม่มีอะไรติดนะเวลานี้ มองไปไหนเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมดเลย มีแต่เรื่องของกิเลสตัวทำลายศาสนาล้วน ๆ ทำลายพวกชาวพุทธเราเวลานี้ แต่ก่อนเราก็รู้ก็เห็นแต่ยังไม่เข้าไปเกี่ยวข้องใกล้ชิดติดพันเหมือนคราวนี้ คราวนี้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดติดพัน ถึงสละเป็นสละตายเพื่อพี่น้องชาวไทยได้ เนื่องจากการนำพี่น้องชาวไทยเราคราวนี้

เราจึงได้แสดงออกให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วกันว่า เมืองไทยเรา ไอ้สิ่งที่ตำหนิมานี้ไม่ใช่มาบกพร่องเฉพาะเวลาเรานำชาตินะ มันบกพร่องมาเป็นประจำนิสัยของชาวไทยเรา แต่เมื่อยังไม่มีเหตุการณ์ที่ควรจะเข้าแก้ไขดัดแปลงและแนะนำสั่งสอนก็ปล่อยไว้ ๆ แต่นี้ก็เป็นกาลเวลาที่เหมาะสม ถ้าไม่แก้เวลานี้เมืองไทยจมไปแล้วถึงจะแก้ คนตายแล้วถึงจะเอายาไปใส่เกิดประโยชน์อะไร คนตายแล้ว

นี่เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองตายแล้ว เป็นเมืองที่….ถ้าเป็นโรคก็คอยหมออยู่แล้ว คอยยาอยู่แล้วเพื่อจะฟื้น นี่อรรถธรรมคือยา ธรรมโอสถ ครูบาอาจารย์สั่งสอนนั้นคือหมอ พระพุทธเจ้าเป็นหมอชั้นเยี่ยม พระสาวกทั้งหลายรองกันลำดับลงมาก็เยี่ยม ๆ เหมือนกัน นี่เรียกว่าหมอ พวกเราคือพวกคนไข้ กิเลสเต็มตัวเต็มหัวใจ มาแนะนำสั่งสอนตรงไหนเหมือนวางยาลงไป ๆ แนะอุบายวิธีการอยู่การกินของคนไข้ยังไง การอยู่หลับนอนเป็นยังไง หมอต้องแนะคนไข้เพื่อความปลอดภัย อันนี้ครูอาจารย์ธรรมท่านก็สอนแนะพวกเราเพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัยในความเป็นอยู่ของเราแต่ละคน ๆ จนกระทั่งทั่วประเทศไทย ให้ได้อยู่ดีกินดีด้วยอรรถด้วยธรรม มีขอบเขตบังคับ กำจัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา นั่นถึงถูกนะ

เมื่อวานนี้ก็เทศน์มีดุเดือดบ้าง คล้ายคลึงกับวันนี้ เมื่อมันมาเกี่ยวโยงกันก็เทศน์กันไป ๆ จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายปรับเนื้อปรับตัวนะ เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองผ้าขี้ริ้ว เมืองไทยเรา ไม่ควรทำตัวให้เป็นผ้าขี้ริ้วไร้ราคา ต้องทำตัวให้มีคุณค่ามีราคา การประพฤติเนื้อประพฤติตัว ก็ดังที่พูดนั่นละ การอยู่การกินการใช้สอยเหล่านี้ เป็นหลักใหญ่มากทีเดียว ที่เราจะควรนำมาปฏิบัติให้ได้ทุกคน ๆ ไม่มากก็น้อย แล้วเสริมกันเข้าเมืองไทยเราก็มีความแน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น การสุรุ่ยสุร่ายในสามสี่อย่างแล้วเป็นการทำลายชาติไทยของเราเป็นลำดับไปเลย

ดูซิอย่างพระพุทธเจ้าท่านสอนพระเริ่มแรกเลยนะ พอบวชให้แล้วบอกที่อยู่เลย พระพุทธเจ้าแต่ก่อนท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านประทับอยู่ที่หอปราสาทราชมณเฑียร เวลามาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วแทนที่ท่านจะสอนไปว่า นี่บวชแล้ว ตถาคตตั้งแต่เป็นกษัตริย์อยู่หอปราสาทนะ บวชแล้วให้ไปหาอยู่ปราสาทโก้ ๆ เก๋ ๆ นะ ไม่ได้ว่านะ พอบวชแล้ว รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย นี่เป็นพระโอวาทบทแรกเลย พอบวชเสร็จโอวาทนี้จะต้องเข้าทันที พระทุกองค์จะต้องได้รับพระโอวาทอันนี้เหมือนกันหมดจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ไม่มีองค์ใดที่จะไม่ได้รับพระโอวาทข้อนี้แม้องค์เดียว เพราะมีเป็นข้อบังคับอยู่ในตัว

ถึงอุปัชฌาย์จะไม่สนใจใยดีกับการเที่ยวป่าเที่ยวเขาก็ตาม แต่อุปัชฌาย์องค์นั้นเวลาบวชกุลบุตรแล้วต้องสอนธรรมข้อนี้ คือธรรมการอยู่ในป่าในเขา ตะกี้นี้ยกบาลีขึ้นมายังไม่ได้แปล แปลบาลีที่ยกขึ้นมาตะกี้นี้ว่า บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ตามรุกขมูล ร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำเงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ หรือที่ใดที่เป็นที่สงัด ให้ไปอยู่ในที่เช่นนั้น เป็นความสะดวกในการประกอบความเพียรชำระกิเลสเครื่องรกรุงรังสกปรกโสมมอยู่ภายในใจ แล้วจงทำความอุตส่าห์พยายามอยู่อย่างนั้นตลอดชีวิตเถิด ฟังซิน่ะ ไม่ได้ให้ไปอยู่วันหนึ่งวันเดียว คือให้ทำความอุตส่าห์พยายามอยู่ตลอดชีวิตเถิด ๆ นี่พอบวชแล้วก็บอกจุดนี้เลย

เป็นบทอันดีเยี่ยมสำหรับเราเป็นลูกชาวพุทธจะนำมาปฏิบัติ ไม่ควรจะหาอยู่ฟู่ ๆ ฟ่า ๆ หรู ๆ หรา ๆ จนเกินเหตุเกินผลเกินเนื้อเกินตัว แล้วก็เป็นการสร้างกองทุกข์ความกังวลวุ่นวายขึ้นจากการสร้างที่อยู่เกินเหตุเกินผลเกินฐานะของตัว เราอยู่ที่ไหนเราอยู่พอเหมาะพอดี เราเป็นมนุษย์ สัตว์เขามีรวงมีรัง เช่น กบ เขียด ก็อยู่ในรู ส่วนหนู กระรอก กระแต ก็อยู่ตามโพรง เป็นรวงเป็นรังอยู่ นั่นเรียกว่าบ้านเขาเรือนเขา เรือนกระรอกกระแต ไปหาเอาซิวัดป่าบ้านตาดมีเรือนกระรอกกระแต โพรงไม้มี นั่นละเขาอยู่ตามสภาพของเขา

อันนี้มนุษย์เราเป็นมนุษย์ก็ปลูกบ้านปลูกเรือนอยู่ตามความจำเป็น เช่น เมืองไทยเราเป็นเมืองดินฟ้าอากาศขนาดไหน การปลูกบ้านเรือนก็พอเหมาะพอดีกัน เมืองนอกเมืองนาที่ดินฟ้าอากาศหนาวจัดอย่างนี้ เขาก็ปลูกบ้านปลูกเรือนให้พอเหมาะพอสม ไม่ได้ทำเป็นแบบฟู่ ๆ ฟ่า ๆ อย่างเมืองไทยเรานี้มันฟู่ฟ่าทุกอย่างนะ ปลูกบ้านปลูกเรือนไม่คำนึงถึงดินฟ้าอากาศ คำนึงถึงแต่ความโก้ความเก๋ อยากมีชื่อมีเสียง อยากให้เขายกยอสรรเสริญ ตึกใหญ่ ๆ บ้านใหญ่ ๆ มีกี่ชั้น ๆ มันจะไปโดนพวกเทวดาตกสวรรค์ก็ได้ เพราะบ้านเรามันสูงกว่าหอปราสาทเทวดา ไม่ได้คิดถึงเรื่องว่าเทวดาจะลำบากเพราะความดิ้นดีดเป็นบ้าของมนุษย์เลย มนุษย์ไม่มีประมาณจะไปทำลายจนกระทั่งเมืองเทวดา

ไปทำลายอะไรปลูกบ้านปลูกเรือนยังไม่สำเร็จ เดินไปตามถนนดูเอาซิปลูกบ้านปลูกเรือนเกลื่อน ไม่เสร็จ บางแห่งนี้ต้นไม้เกิดเต็มไปหมด ปลูกเสร็จเรียบร้อยแล้วปิดตายไว้ไม่มีใครเข้าอยู่ ไม่มีใครเช่า ไม่มีใครซื้อ แล้วเงินจำนวนเหล่านี้เป็นยังไง เงินนี้มาจากไหน พื้นฐานเจ้าของเป็นผู้ขวนขวายหามา เมื่อไม่พอไปหากู้หายืมมา กู้ยืมมาดอกติดตามมา หนี้ติดตามมา สำเร็จที่จะได้เงินคืนไปหาเขารู้สึกว่าน้อยมากนะ มันไม่สำเร็จ ทางธนาคารเขาก็จนตรอกจนมุมจะทำยังไง เคยให้กู้ กู้ไปแล้วกลับมาเวลาได้ ได้ตึกรามบ้านช่องร้าง ๆ ที่ดินร้าง ๆ มาแทนธนบัตรในธนาคาร เขาก็เข็ดเขาก็ไม่ให้กู้ยืมแหละ

แล้วดูซิเกลื่อนถนน ไม่ว่าจังหวัดไหนอำเภอใดไปดู ตามี เราไม่ได้หาเรื่องอุตริ นี้ไปไหนจ้องดูตลอด ภายนอกก็ดู..ตา ภายในก็ดู เรื่องใจเป็นอย่างนั้นนะ ที่เอามาสอนพี่น้องทั้งหลายไม่ได้มาสอนแบบลูบ ๆ คลำ ๆ ไปตึกรามบ้านช่องนี้เกลื่อนไปหมด ทำแล้วไม่มีใครเข้าอยู่เข้าอาศัย ไม่มีใครซื้อใครหากัน ร้างไปหมด ๆ นี่เพราะความโลภมากเข้าใจไหม อยากให้เขาร่ำเขาลือดีเด่น สุดท้ายก็ชิงดีชิงเด่น ไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองและความฉิบหายที่จะติดตามมาเลย ความหวังอยากร่ำอยากรวย ความอยากความทะเยอทะยานมันลากไปเลยไม่ให้มองดูหน้าดูหลัง ความผิดถูกชั่วดี ควรไม่ควรประการใดบ้าง ลากไป ๆ

การทำอย่างนี้ไม่รู้จักประมาณ ทำความเสียหายแก่ชาติของตน เฉพาะอย่างยิ่งผู้ดีดดิ้นนั่นแหละได้รับความทุกข์ก่อนอื่น กระเทือนทั่วประเทศไทย เวลานี้เงินขาดตลาดเห็นไหม ไปที่ไหนเกลื่อน มีแต่สินค้าเต็มไปหมด ไม่ว่าร้านใหญ่ร้านเล็กร้านน้อยตามถนนหนทาง ไปที่ไหนมีแต่สินค้าเพื่อขาย ๆ แต่หาคนเข้าไปซื้อไม่ค่อยมี ก็เพราะไม่มี ซื้อเอาอะไรไปซื้อ ก็ต้องเอาเงินไป เงินไม่มีเอาอะไรไปซื้อ เงินขาดตลาด ถูกกินถูกกลืนทุกแบบทุกฉบับ มีแต่แบบทำลายชาติบ้านเมือง

ตั้งแต่ส่วนใหญ่มาหาส่วนย่อย ส่วนใหญ่ก็กินใหญ่ เอาให้ฉิบหาย เผาผลาญกันแหลกเหลว ส่วนย่อยก็พวกประชาชนทั้งหลาย ใครมีห้าฟาดมันจ่ายไปสิบ ยืมเขาอีกห้าบาทหรือห้าร้อยห้าพันหรือห้าหมื่น แล้วต่างคนต่างดีดต่างดิ้นอย่างนี้ ทำไมเมืองไทยจะไม่จมได้ล่ะ นี่พูดถึงเพียงการอยู่เท่านี้ก็พอแล้ว หรูหราฟู่ฟ่า

ทีนี้การกินอีก กินอะไรก็ไม่พอ ปากนี้ไม่มีเวลาว่าง ไปมองที่ไหนจั๊บ ๆ แจ๊บ ๆ ทั้งคุยทั้งกินทั้งโม้ทั้งดุทั้งด่าทั้งร้องรำทำเพลง บ้าปาก ออกจากปากนี้ทั้งหมด เพราะใจมันดีดใจมันดิ้น ถ้าใจไม่ดิ้นปากก็ไม่ดิ้นนะ หัวใจพาให้ดิ้น พาให้ดีดให้กิน ทุกอย่างออกจากปาก ๆ นี้ นี่การกิน การใช้สอยก็ไม่รู้จักประมาณ ไปดูซิ ห้องหนึ่งจนเจ้าของจะเข้าอยู่ไม่ได้ บ้านหลังหนึ่งห้องหนึ่งเจ้าของจะหาที่หลับที่นอนไม่ได้ มีแต่เครื่องแต่งเนื้อแต่งตัวเต็มหมดในห้องนั้น เพียงคนเดียวก็เต็มห้องแล้ว มันบ้าแต่งตัว บ้าฟู่ฟ่าหรูหรา เมืองไทยเราเมืองบ้า ปลูกบ้านปลูกเรือน แทนที่เจ้าของจะได้อยู่ ได้วิ่งออกไปนอนนอก ระเบียงนู่น เพราะข้างในมีแต่เครื่องแต่งตัวของพวกบ้าหรูหราหมด พิจารณาซิ นี่ละเครื่องใช้ไม้สอย

แล้วตีกระจายออกไปซิ คำว่าเครื่องใช้มีอะไร ๆ บ้าง ตีกระจายออกไป มีแต่เรื่องดีดเรื่องดิ้น ไม่ใช่เอามาใช้ด้วยความจำเป็น มีแต่เรื่องดีดเรื่องดิ้น แล้วเป็นยังไงเมืองไทยเรา ฟังเสียงศาสนาไหม พระพุทธเจ้าสอนว่ายังไง การอยู่การกินการใช้การสอย การคบค้าสมาคมไม่เลือกหน้า ไม่ว่าหญิงว่าชายคบได้คบไป ความเสียหายไม่คำนึง นี้มีแต่เรื่องทำลายตัวเองทั้งนั้น ทั่วประเทศเขตแดนเป็นนิสัยอย่างเดียวกันหมด ทำลายด้วยกันหมด พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้เป็นแบบเป็นฉบับ รุกฺขมูลเสนาสนํ สอนที่อยู่ให้พอเหมาะพอดีไม่ฟุ่มเฟือย นั่นสำหรับนักบวช ท่านสอนอย่างเข้มงวดกวดขัน

สำหรับฆราวาสก็ให้อยู่ตามสภาพของตน อย่าให้ดีดให้ดิ้นจนเกินเนื้อเกินตัว ท่านก็ลดลงมาเป็นลำดับ ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ ก็เหมือนกัน การบิณฑบาตอาศัยกำลังปลีแข้งของตน ไปเที่ยวบิณฑบาตเขามาฉันในวันหนึ่ง พอยังมีชีวิตให้เป็นไปเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ ให้มีความสง่างามด้วยธรรมทั้งหลายภายในจิตใจ นั่นเป็นข้อที่สอง ไม่ให้ฟุ่มเฟือยนะ การบิณฑบาตได้อะไรมาก็พอแล้ว พอยังอัตภาพให้เป็นไป

แล้วทีนี้เรื่องหยูกเรื่องยาก็เหมือนกัน เรื่องหยูกเรื่องยานี้ยิ่งเขียมมากทีเดียว พูดแล้วไม่อยากมีใครเชื่อ มะขามป้อม สมอ ฟังซิ ยาของพระกรรมฐาน พระพุทธเจ้าประทานยาให้ ตั้งแต่มะขามป้อม สมอ ลงมา กินจิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ พอเท่านั้นแหละ พวกสัตว์ทั้งหลายเขาไม่มีโรงพยาบาลเขายังสืบพันธุ์มา เขาไม่เห็นมีหยูกมียาอะไรมากมายก่ายกอง เขายังสืบพันธุ์ของเขามา เขาไม่ได้ฉิบหายพันธุ์นะ ที่ฉิบหายก็เพราะมนุษย์เป็นยักษ์ไปเที่ยวฆ่าเขาเอามากินนั่นซิ ที่เขาตายเพราะเขาไม่มีหยูกยารักษาเขาไม่เห็นมี แต่เรานี้ดิ้นตายไปเรื่องหยูกเรื่องยา

หมอเรียนมาหลักใหญ่ก็คือ เรียนมาเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บของผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยความเมตตาสงสาร สิ่งตอบรับกันก็มีบ้างเป็นธรรมดาไม่ถือเป็นหลักใหญ่โต เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องหมอที่เรียนมาเพื่อรีดเพื่อไถไปแล้วนะ เห็นไหมกิเลสมันพาโลภ อะไรก็ตามดึงเข้าหาความจำเป็นในวิชาหมอ หมอคนนี้ชำนาญทางไหน คนไข้เข้าไปลากเข้าไปหาวิชาที่หมอเรียนมา จำเป็นอย่างนี้ ๆ ลากเข้าไป ๆ เพื่อจะกินจะกลืนไปเรื่อย ๆ หมอเลยเป็นปอบเป็นผีไป แล้วคนไข้วิ่งเข้าไปหาหมอ เป็นคนจนตรอกจนมุมทั้งนั้น วิ่งเข้าไปหาหมอ หมอจะรีดจะไถเอาอะไร ๆ ก็ได้ ก็เลยเป็นเรื่องเรียนเพื่อรีดเพื่อไถไปแล้ว ไม่ได้เรียนเพื่อบรรเทาเบาทุกข์แก่กันและกันซึ่งเป็นความจำเป็น กลายเป็นเรื่องอย่างนั้น นี่ละเรื่องกิเลส ความโลภไปไหนดิ้นไปอย่างนั้น ทำให้ฉิบหายไปหมด

พระพุทธเจ้าท่านสอนสามสี่อย่างดังที่ว่า การอยู่ กิน ใช้สอย การคบค้าสมาคม พระพุทธเจ้าสอนสามสี่ประเภทนี้กับพวกเราทั้งหลาย การอยู่การกินการใช้การสอยแบบเดียวกัน ขอให้มีขอบเขตการใช้สอยบ้าง การอยู่การกินก็เหมือนกัน อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินเนื้อเกินตัว ไม่ดีเลยนะ ถ้าฝืนธรรมพระพุทธเจ้าแล้วนี้ บ้านเมืองเรานี้จะจมไปโดยลำดับแล้วจะจมไปได้เลยยังเหลือแต่ชื่อ ไอ้ชื่อตั้งที่ไหนก็ได้ ตั้งขึ้นจรวดดาวเทียมก็ได้ เจ้าของจมอยู่ในนรกมีความหมายอะไร ขอให้เจ้าของดีซิ อยู่ที่ไหนดีหมด มันดีอยู่กับเจ้าของ

ควรจะฟังเสียงอรรถเสียงธรรมนะที่พูดเหล่านี้ พระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ได้สอนให้ฟุ่มเฟือย สอนให้อยู่พอดิบพอดีจะไม่สร้างกองทุกข์ขึ้นมากมายด้วยความกังวลวุ่นวายและดีดดิ้นต่าง ๆ นะ จะอยู่ผาสุกเย็นใจ การดูถูกเหยียดหยามกันก็มีน้อย ๆ ถ้าเรื่องดีดเรื่องดิ้นเรื่องทะเยอทะยานนี้ เอามาเพื่อดูถูกเหยียดหยามกันเพื่อยกตนแล้วก็ข่มท่านนั่นเอง โห คนนี้เขาดีอย่างนั้นอย่างนี้นะ คนที่เขาไม่เป็นอย่างนั้นก็เข้าหน้ากันไม่ได้ เลยแบ่งชั้นแบ่งวรรณะฐานะสูงต่ำกันไปในตัว ด้วยอำนาจแห่งความโลภความทะเยอทะยาน โลภในทรัพย์สมบัติเงินทอง โลภในยศถาบรรดาศักดิ์ ในชื่อในเสียง โลภไปแล้วก็เหยียบกันทับกัน นี่มนุษย์เราอยู่ด้วยกันไม่ผาสุก เพราะกิเลสเข้าเป็นตัวการแล้วทำลายกันได้สบาย

ถ้าเป็นธรรมแล้วอยู่ไหนอยู่ไป เกิดมาจากท้องแม่ไม่ได้มีสมบัติอะไรติดตัวมาอย่างนี้ด้วยกันทุกคน สัตวโลกเกิดด้วยกรรม ให้ต่างคนต่างปฏิบัติตัวให้ดี พยุงกัน มีแก่ใจมีน้ำใจต่อกัน อย่าได้ถือสีถือสากันมนุษย์เรา เมืองไทยควรจะเป็นเมืองที่รักชาติมากที่สุด เพราะอะไร เพราะเป็นเมืองพุทธ พระพุทธเจ้าสอนว่ารักนี้รักจริง ๆ รักเป็นศีลเป็นธรรม สงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น เมืองไทยเราจึงควรจะเป็นเมืองรักชาติยิ่งกว่าเมืองทำลายชาติ เมืองฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เดี๋ยวนี้มันเป็นเมืองฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เมืองทำลายชาติไม่รู้ตัวนะ ไม่ได้เข้ากับคำว่า พุทธะ ๆ ชาวพุทธได้นะ ให้พากันจำให้ดี

วันไหนก็ได้เทศน์ทุกวัน ๆ ไม่ทราบว่าจะทำยังไง หากได้พูดอยู่นั้นละ วันนี้ก็ได้เทศน์สามสี่อย่าง การอยู่การกินการใช้การสอย การคบค้าสมาคม นี่เทศน์ย้ำ ๆ ย้ำแล้วย้ำเล่าเพราะมันเป็นอยู่ตลอดเวลา เทศน์นี้เป็นกาลเป็นเวลานะ ความเสียหายที่มนุษย์สร้างขึ้นมาในวงชาติไทยและชาวพุทธของเรา มันสร้างขึ้นทุกระยะเวลา สอนก็ต้องสอนย้ำแล้วย้ำเล่าอยู่อย่างนี้ เหมือนเราใส่ยา ใส่อันนี้ไม่หาย เอ้า ใส่นั้นอีก อย่างนั้นแหละ

การอยู่การกินการใช้การสอย พระพุทธเจ้าสอนอย่างพอเหมาะพอดีไม่ให้ฟุ่มเฟือย แล้วใครทรงความสุขได้เหมือนพระพุทธเจ้าและสาวกของพระพุทธเจ้า ที่ปฏิบัติตามแนวทางด้วยความราบรื่นดีงาม ผลเป็นความสุขความเจริญขึ้นมาจนกระทั่งถึงเลิศเลอ การปฏิบัติถึงขั้นเลิศเลอได้ ไอ้ฟุ่มเฟือยนี้เป็นบ้าดีดดิ้นกันอยู่ทั้งวันทั้งคืน เอารายไหนมาอวดธรรมพระพุทธเจ้าว่า คนนี้เขาดีดเขาดิ้นมาจนเขาจะเป็นจะตาย ผลรายได้ของเขาที่ได้มานี้ ธรรมทั่วแดนโลกธาตุนี่สู้ไม่ได้ เขาชนะคนเดียว เอามาแข่งซิมีไหม รายไหน

ครั้นไปที่ไหนเห็นแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายทั่วโลกดินแดน ถามคนนี้เป็นยังไง อู๋ย เอาความทุกข์ออกมาทันที มันอยากมี ๕ ปาก ๑๐ ปาก เวลาถามเป็นยังไง สบายดีเหรอ สบายดีตายยังไง นู่นน่ะมันขึ้น มันอยากได้ ๕ ปาก แล้วก็แสดงเหตุผลออกมา ความไม่พึงพอใจ ความอัดอั้นตันใจ ถ้ากิเลสมันพาคนหาได้ความสุขความเจริญ ตามที่มันลากจมูกเข็นจมูกพวกเราอยู่ทุกวันนี้ เมืองไทยเรานี้ยิ่งเป็นเมืองเห่อเหิมด้วยแล้ว จะเป็นเมืองที่มีความสุขมากกว่าเมืองทั้งหลายนะ แต่นี้กลับจะจมคือเมืองไทยเรา เพราะกิเลสลากลง ๆ นั่นเห็นไหมกิเลสมันลากลง

ให้เชื่อธรรม ไม่เชื่อธรรมจมได้นะ จมได้ทั้งเขาทั้งเรา หมดประเทศเขตแดนของชาติไทยเราจมได้ไม่สงสัย คนเราถ้ายิ่งเห็นแก่ตัวแล้วทำลายได้อย่างง่ายดายมากทีเดียว ต้องเห็นแก่เพื่อนแก่ฝูงแก่มิตรแก่สหาย แล้วต่างคนต่างพยุงกัน ชาติไทยของเราจะขึ้นได้นะ ถ้าเห็นแก่ตัวแล้วพังเลย คนเห็นแก่ตัวเป็นคนเสนียดจัญไร เป็นเนื้อร้ายของชาติบ้านเมือง ไม่อะไรนะ เนื้อร้าย เอาละวันนี้เทศน์เพียงเท่านั้น เทศน์ทุกวัน ๆ เอาละให้พร

วันนี้ไปเผาศพน้องสาวหล้า เขาตายวันนี้ เอาไปเผา เผากันไปว่างั้นเลยเรา พวกกบพวกเขียดมันเผาอยู่ตามเตาฟืนเตาไฟเกลื่อนไปหมด ไม่เห็นดิ้นดีดเป็นบ้าอะไร เผาคนดิ้นอะไรเราว่าอย่างนี้ เราพูดเท่านั้น ก็มันไม่แปลกกัน ถูกไหมที่พูดนี่ ก็ว่าอย่างนั้นแล้วใครจะว่าบ้าก็ตาม แต่เราไม่ได้เป็นบ้านี่ หูเขาต่างหากเป็นบ้า เผาคนจะยากอะไร เผากบเผาเขียดก็เหมือนนั่นแหละ ความตายกับความเกิดมันอยู่ด้วยกัน เสมอกันหมด ไม่มีใครยิ่งหย่อนกว่าใคร ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ไปตามวาระ ๆ เท่านั้นเองตื่นหาอะไร เรียนจบแล้วก็สบายไม่ยุ่ง.......ไปละ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก