(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๖๐๐ คน)
ทองคำเมื่อวานนี้ไม่ได้เลย วานซืนก็ไม่ได้นั่นซิ คนทั่วประเทศ ๖๒ ล้านคน ๒ วันนี้ไม่ได้ทองคำสักสตางค์นึงเลย เมื่อวานวันที่ ๓๑ กับวันที่ ๑ นี่ขายหน้าใครถ้าไม่ใช่ขายหน้าชาติไทยของเรา วันที่ ๓๑ กับวันที่ ๑ ผ่านไปเปล่า ๆ ไม่ได้ทองคำสักสตางค์เลย ทั้ง ๆ ที่พวกเรานี้กำลังช่วยชาติบ้านเมือง รู้ทั่วหน้ากันกระทั่งถึงเมืองนอกเขาก็รู้หมด แต่เวลามาถาม เป็นยังไงทองคำได้เท่าไร วันที่ ๓๑ กับวันที่ ๑ ไม่ได้เลย เป็นยังไงฟังซิน่ะ มันน่าฟังไหมล่ะ ก็เวลานี้ต่างคนต่างที่จะช่วยชาติของเราด้วยศาสนาเป็นผู้นำ ศาสนาเป็นผู้นำ ผู้กู้ ผู้อุ้มชาติบ้านเมือง เรื่องของกิเลสเป็นสิ่งที่พาให้ล่มให้จมตลอดมา และหนักเข้า ๆ จนจะไม่มีอะไรเหลือในเมืองไทยเรา สมบัติเงินทองข้าวของก็หมดไป สิ้นไป ๆ สุดท้ายคน ๖๒ ล้านคนก็จะลงเป็นอาหารปลาฉลามในทะเลด้วยความล่มจม เพราะอำนาจของกิเลสมันฉุดลากลง
นี้ก็ได้อาศัยศาสนาอาศัยธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงรื้อฟื้นสัตวโลก ให้พ้นจากหล่มลึกความทุกข์กันดารทั้งหลายมาเป็นลำดับลำดา นี่ก็กำลังจะช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งอยู่ในระหว่างแห่งความจะล่มจะจม ให้รื้อฟื้นขึ้นมาด้วยการบริจาคเสียสละทุกคน ออกจากตัวของเราเข้าไปเป็นกำลังของชาติบ้านเมืองของเรา ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้ทั่วกัน นี่ศาสนาเป็นผู้นำ กิเลสนำก็ดังที่เราเห็นนี่แหละ ปิ้งให้สุกบ้างไม่สุกบ้างมันกินเรื่อยไปนะ ที่เฉือนเอามาจากตัวก็มากินต่อหน้าต่อตา กินสด ๆ ร้อน ๆ กิเลสกินอย่างนั้นนะ กินลาบกินก้อยยังเป็นอีกอันหนึ่ง กว้านมาจากตับพวกเรานี้ไปกลืนกินต่อหน้าต่อตา กิเลสกำลังรุนแรงเวลานี้ จึงต้องเอาศาสนาเข้าไปตีต้อนกันไว้ ไม่งั้นตับปอดพี่น้องชาวไทยจะไม่เหลือ ลงทะเลหมด จึงต้องอาศัยธรรมะเป็นเครื่องฉุดลากขึ้นมา
ต่อไปให้เป็นคนรู้จักความประหยัดมัธยัสถ์ นี่คือการรั้งตัวเอาไว้ไม่ให้เลวจนจมลงไป ถ้าต่างคนต่างมีความประหยัดมัธยัสถ์ มีขอบมีเขตมีฝั่งมีฝาด้วยการกำชับกำชาบังคับตัวเองทุกคน ๆ แล้ว เมืองไทยจะขึ้นโดยลำดับนะ นี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งการเสาะแสวงหา ให้เสาะแสวงหามาเพื่อเก็บเพื่อหนุน อย่าเสาะแสวงหามาเหมือนกับเอาเชื้อไฟแสวงหามาเพื่อไฟ แล้วฉิบหายหมด ได้มาเท่าไรเพื่อกิเลสตัณหา ได้มาเท่าไรก็เพื่อฟืนเพื่อไฟเผาไหม้แหลก ๆ
ดังที่เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว หลวงตาพูดนี้ใครจะหัวเราะก็ตาม แต่เราพูดตามความรู้สึกของธรรม พิจารณาเรียบร้อยแล้วมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง อย่างเปิดเผยนะเวลานี้ พวกเราทุกข์จนกันมากทีเดียว แต่ก่อนเงินหมุนอยู่ในเมืองไทยนี้จนจะกลายเป็นเงินเฟ้อ มันมากต่อมาก เวลานี้เป็นยังไง สินค้าเฟ้อแล้วเวลานี้น่ะ อยู่ตามท้องตลาดถนนหนทางตึกรามบ้านช่องใหญ่ ๆ เต็มไปด้วยสินค้าสินขาย ราคาแพง ๆ หามา จะหาลูกค้าที่เข้าไปติดต่อในร้านค้านั้น ๆ ไม่มี ๆ มีก็เบาบางเอามาก นี้เพราะเหตุไร เพราะขาดเงิน
สินค้าเกลื่อนเงินไม่มีซื้อก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ตามถนนหนทางเขาขายเกลื่อนไป ผลหมากรากไม้มีเต็มไปหมด เราเดินไปสองฟากทางจะเห็นทั่ว ๆ ไป ก็ไม่เห็นมีใครไปซื้อกัน ผู้นั่งขายก็นั่งอยู่อย่างนั้นละ เมื่อวานนี้ก็พอดีเราไปวัดถ้ำผาปู่ ไปนวดเส้นนี่แหละ มีหมอเส้นเก่งคนหนึ่งอยู่ที่นั่น นวดเส้นเก่งรอง ๆ กับพระหมอเส้นเรานี่ ขึ้นรถไปก็อย่างว่านั่นแหละ เขาขายของนี่ โอ๊ น่าสงสาร พอไปถึงสามแยก ทางหนึ่งไปเชียงคาน ทางหนึ่งไปท่าลี่ พอไปถึงนั้นก็บอกให้รถจอดตรงนั้น แม่ค้าอยู่ตรงนั้นมากมาย รอพวกที่เข้าไปซื้อของ ไม่มีใครไปซื้อ เราเอารถไปจอดที่นั่น พวกแม่ค้าเป็นแถวกว้านเข้ามาในรถนี้หมดเลย เลยลืมสินค้านะ
พอมองเห็นหน้าหลวงตา (อู๊ย นี่ใช่แล้ว องค์นี้แล้ว ๆ) องค์นี้อะไร ไปขนของมาใส่รถเรา มาองค์นี้องค์นั้นอะไร ทั้งขนของทั้งจ้องดูหน้า เห็นไหมทีวีมันออกอย่างนั้นละ จำได้หมดนะ ไปกว้านเอาเลยแม่ค้าเมื่อวานนี้ เอาให้เต็มรถ จากนี้ไปถ้ำผาปู่ ๒-๓ กิโลเท่านั้นเป็นไรไป เอ้า หนักก็หนักกว้านเอามาหมดเลย แม่ค้าได้ทุกคน ๆ ยังเหลือสองสามชิ้น ๆ นอกนั้นเรากว้านขึ้นรถหมด นี่เพราะความเมตตาสงสาร ไปที่ไหนก็เห็นอย่างนั้น ๆ
ไปก็ตีตลาดไป เริ่มตั้งแต่วังสะพุงเรื่อยไป สุดท้ายก็ไปเต็มอยู่ที่สามแยกไปเชียงคาน พอดีเต็มรถ นี่พูดถึงเรื่องสินค้ามีอยู่ทั่วไปแต่ไม่มีใครซื้อล่ะซิ เงินไม่มี เงินเบาบางมาก มันไปทางไหนพี่น้องทั้งหลายก็จะพอทราบได้ ไอ้เราก็ไม่อยากพูดมากเขาจะว่ารู้เกินภูมิ หลวงตา ป.๓ ไปหาพูดซอกแซกซิกแซ็ก เขาจะว่า แต่ความจริงเป็นอย่างนั้น อะไรจะละเอียดยิ่งกว่าธรรม ธรรมนี้ซอกแซกเห็นหมด อะไรจะละเอียดยิ่งกว่าธรรมของพระพุทธเจ้า
เวลานี้เงินขาดตลาดมากทีเดียว จนจะไม่มีเงินวิ่งผ่านถนนหนทางเวลานี้ ร้านไหน ๆ ก็แห้ง ๆ เพราะไม่มีใครซื้อ มีแต่สินค้า ดีไม่ดีโรงงานต่าง ๆ ผลิตออกมาไม่มีใครซื้อ แต่คนงานในโรงงานโรงหนึ่ง ๆ มีคนงานเท่าไร กินเงินเดือน ๆ ละเท่าไร ๆ ผลิตสินค้าออกมาไม่มีใครซื้อ โรงงานก็เจ๊งไปได้ หมุนเข้าไปหาโรงงาน อย่าเข้าใจว่าโรงงานมีมากจะไม่เจ๊ง เจ๊งได้ ผลิตออกมาไม่มีใครซื้อ ผลิตออกมาเพื่อขายแล้วไม่มีใครซื้อ จะขายได้ยังไง พวกคนงานก็มีปากมีท้อง ใครหมุนเข้าไปก็เพื่อได้ ๆ เมื่อไม่ได้ก็เป็นทุกข์ล่ะซี จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้คิดเรื่องเหล่านี้ให้มากนะ
ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความไม่รู้จักประมาณ ในการกินการอยู่การใช้การสอยนี้เป็นอันตรายต่อทุกคนไป ต่อทุกคน ต่อสังคม ต้องมีการยับยั้งตัวบ้าง เรื่องความอยาก อยากด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาไม่มีคำว่าพอ ได้เท่าไรเหมือนไฟได้เชื้อ ไสเข้าไปลุกแสดงเปลวจรดเมฆ ๆ ให้ไฟถอยเชื้อไม่มี ไสเข้าไปก็ไหม้หมด ความโลภ ความทะเยอทะยาน มันถอยสิ่งขวนขวายหามาเพื่อมันไม่มีถอย ได้มาเท่าไรหมด ๆ ขอให้พากันยับยั้งตัวเอง ชาติไทยของเราจะค่อยฟื้นฟูขึ้นมาโดยลำดับ ถ้าต่างคนต่างปล่อยเลยตามเลยก็จมไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ ความบ่นบ่นได้ ความจมมันจมไม่ถอย เพราะผู้บ่นนั้นแหละเป็นผู้สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักประมาณ สังหารทรัพย์ตนเอง ต่างคนต่างสังหารทั่วบ้านทั่วเมือง มันก็เป็นเพชฌฆาตสังหารชาติไทยของเราไปในตัวนั่นแล มันจมอย่างนี้นะ
ให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมบ้างซิ เสียงกิเลสเราฟังมานานแล้ว ให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม อย่าคบค้า อย่าให้มันมากตามความอยาก ความอยากไม่มีพอ กิเลสคือความอยากนี้เราอย่าเข้าใจว่าความพอมี แม่น้ำมหาสมุทรยังมีฝั่งมีฝา นตฺถิ ตณฺหาสมา นที ความอยากความทะเยอทะยานนี้ครอบหมด มหาสมุทรน้อยไป ความอยากความทะเยอทะยานไม่มีความอิ่มพอนี้ครอบแม่น้ำมหาสมุทร ใหญ่ไหมฟังซิ เรายังจะไปเสริมมันอยู่เหรอ มีแต่พาจม ๆ นะ ให้รู้เนื้อรู้ตัวบ้างเราเป็นคน คนไม่คิดใครจะคิด สติปัญญาอยู่กับมนุษย์เรา ควรจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์สมความเป็นมนุษย์ อย่าใช้แบบสุรุ่ยสุร่ายเป็นยักษ์สังหารตัวเองใช้ไม่ได้
เดินเข้าไปซิ พี่น้องทั้งหลายเคยไปกราบพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นน่ะ ท่านทำเอาไว้ข้างผนังทั้งสองด้านดูซิ เครื่องบริขารของหลวงปู่มั่น นี้คือคติธรรมอันเยี่ยมทีเดียวให้พวกเราทั้งหลายได้ดู ท่านสุรุ่ยสุร่ายไหม รอยปะรอยชุนผ้าเต็มไปหมดเห็นไหม ท่านไม่ได้เป็นทุกข์นะหลวงปู่มั่น ท่านพอทุกอย่าง เมืองพอท่านมาจากการดำเนินแบบนี้ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ลืมเนื้อลืมตัว นี่คือทางก้าวเดินเพื่อความเจริญจนกระทั่งถึงสุดยอดแห่งธรรม ก็คือหลวงปู่มั่น เป็นผู้ถึงความสุดยอดแห่งธรรม บรมสุขอยู่ในนั้นหมด เป็นสายทางมาจากประหยัดมัธยัสถ์ เราดูซิสองข้างผนัง ไปดูหาอะไร ดูให้เป็นคติซิ บริขารเครื่องใช้ของท่าน ปะ ๆ ชุน ๆ ขาด ๆ วิ่น ๆ ท่านไม่ดิ้นไม่ดีดนะ
ความดิ้นความดีด คนจะตายมันดิ้น คนสบายไม่ดิ้น อยู่ไหนสบาย ๆ ไอ้คนจะตายมันดีดมันดิ้น กิเลสพาคนดีดคนดิ้น หามาบำรุงบำเรอเท่าไรแทนที่จะเป็นสุข มีแต่ดีดแต่ดิ้น เพิ่มความดีดดิ้น เพิ่มความทุกข์เข้าไปตลอดเวลา ทีนี้ใครก็ไม่มีฝั่งมีฝาทั่วประเทศไทยเรานี้ซึ่งเป็นชาวพุทธ หาฝั่งฝาแห่งความพอดิบพอดีไม่มี มีแต่ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม สังหารตนเองและสังคม ตลอดชาติบ้านเมืองของเรา สุดท้ายภายหลังก็สังหารเด็กเล็กเด็กน้อย เกิดขึ้นมาเอาพ่อแม่ตัวฟุ่มเฟือยเอาไปใช้ แล้วสังหารกันไปเป็นลำดับหาความเจริญที่ไหนได้ ต้องเอาธรรมเข้าไปเป็นเครื่องชั่งตวงยับยั้งซิ
พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นเราดูเอาซิ นั่นละจอมปราชญ์ฉลาดหาความสุขจนกระทั่งถึงวิมุตติพระนิพพาน ไม่เป็นอื่นว่างั้นเลย ปฏิปทาของท่านดำเนินมาอย่างนี้ เพื่อความเป็นมหาเศรษฐีธรรม ท่านไม่ได้หาแบบฟุ่มเฟือย แบบฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม กินไม่อิ่มไม่พอ อะไรตกเรี่ยเสียหายไม่สนใจ คว้าข้างหน้าไปเรื่อย ๆ ลิงร้อยตัวนี้ไม่มีเหลือ วิ่งเข้าป่าหมด สู้คนเร็วกว่าลิงไม่ได้ คว้ามับ ๆ อะไรดีทั้งนั้น ๆ เจ้าของจะจมยังดีทั้งนั้นอยู่เลย นี่เห็นไหมกิเลสลากคน มันให้อยู่ในความพอดีสักทีไหม ไม่เคยมี ถ้าธรรมแล้วยับยั้งปุ๊บ เหยียบเบรกห้ามล้อ รถมันจะเหมือนจรวดดาวเทียมก็ตาม เมื่อแตะเบรกเข้าไปมันจะเบาลงทันที ถ้าเหยียบแต่คันเร่งลงคลอง พวกเรามันพวกลงคลอง ไม่มีการยับยั้งตัวเองบ้างเลย
คิดบ้างซิมนุษย์เรา เกิดมานานเท่าไร ตั้งแต่วันเกิดมาถึงป่านนี้ ได้ใช้ความคิดหาประโยชน์ ความได้ความเสียอะไรบ้าง คิดทบทวนตัวเองซิ เราเป็นผู้รักษาตัวเอง ต้องคิดทบทวน อันใดไม่ดีให้ตัดออก ๆ อยากทำก็ไม่ทำ อยากซื้อไม่ซื้อ อยากจ่ายไม่จ่าย อยากอะไรไม่เอา ถ้าจะกลับมาเป็นโทษแก่เราแล้ว ต้องหาประโยชน์อย่างนั้นถึงเรียกว่าใช้ปัญญา อันนี้อะไรก็สุรุ่ยสุร่าย ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย บ้านเมืองของเราทั้งประเทศนี้จะจม ทั้ง ๆ ที่ว่าเป็นชาวพุทธ มันมีแต่คำพูดเฉย ๆ กิริยาท่าทางมีแต่กิเลสความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความโลภ ความโลเล ความไม่รู้จักประมาณ ลากไป ๆ อยู่ที่ไหนลากไป ๆ อย่างนั้นไม่ดี ให้พากันคิดบ้างนะ
นี่เอาศาสนามานำพี่น้องทั้งหลาย ศาสนาพระพุทธเจ้าเอก ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเสมอพุทธศาสนา นี้เลิศเลอ ออกมาจากความไตร่ตรองของพระพุทธเจ้าถึงขนาดได้ตรัสรู้แล้วมาสอนโลก จะผิดไปไหน เรียกว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบทุกอย่างแล้ว ดำเนินตามนี้จะเป็นไปเพื่อความสงบร่มเย็น แน่นหนามั่นคง ถ้าผิดจากนี้แล้วมีแต่วันจะหลุดจะลุ่ยจะขาดไปเรื่อย ๆ ต่อไปก็จมไปได้
เราพูดถึงเรื่องทองคำเป็นที่หนึ่งคือหัวใจของชาติ เอาศาสนามาช่วยอุ้มชูพี่น้องทั้งหลาย อย่างปัจจุบันนี้ใครก็ทราบทั่วกันแล้วว่า หลวงตาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย เหตุที่จะเป็นผู้นำ เราไม่ใช่เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง เราพูดจริง ๆ นิสัยของเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น นี่ก็เพราะอำนาจแห่งความเมตตานั่นเอง อยู่ตามป่าตามรกตามเขาลำเนาไพรเรื่อยมาสบาย ๆ มีเท่าไรแจกทานไปหมด ในวัดในวาไม่มีอะไรเหลือ ทำมาอย่างนี้เรื่อย ทีนี้เห็นความกระทบกระเทือนแห่งชาติไทยของเรามันก็สะดุ้งล่ะซิ นี่ละเป็นเหตุที่จะเคลื่อนออกนำพี่น้องทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่ตัวเท่าหนู แต่จิตใจด้วยความเมตตานี่ท้องฟ้ามหาสมุทรยังแคบไป นี่ละที่ได้เคลื่อนไหวออกมา
เมื่อออกมาแล้ว การนำก็นำอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่เป็นข้อต้องติซุบ ๆ ซิบ ๆ มัว ๆ หมอง ๆ รั่ว ๆ แตก ๆ ซึม ๆ เราไม่มี มีแต่ออกด้วยความเมตตาล้วน ๆ ออกแง่ไหนมุมใด ออกด้วยความเมตตาพิจารณาแล้วค่อยออก ๆ ตลอดมา เงินส่วนไหนที่จะเข้าคลังหลวง ส่วนไหนที่จะแยกไปทางไหน ก็ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันอย่างแจ่มแจ้งไม่มีที่สงสัย ทีนี้การแนะนำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลายก็เรียกว่าหมดไส้หมดพุง หลวงตาบัว ป.๓ เวลามาสอนฟาดถึงปริญญาสองดอกเตอร์ ดอกเตอร์มหาวิทยาลัยรามคำแหงหนึ่ง ดอกเตอร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นหนึ่ง ขึ้นมาอยู่ในหลวงตาบัว ป.๓ นี่ ขึ้นธรรมาสน์มีทั้งแกงหม้อใหญ่ แกงหม้อเล็ก แกงหม้อจิ๋ว ไปพร้อม ๆ กันเลย นี่เราก็สอนเต็มภูมิเหมือนกัน
ทีนี้ก็หมดกำลังวังชาแล้ว เราหยุดแล้วในการแนะนำสั่งสอนทั่ว ๆ ไปดังที่ปฏิบัติมา กำลังวังชาหมดไปแล้ว ก็มีเท่านั้นละ หากว่ามีความจำเป็นจริง ๆ เราก็จะไปเทศน์ให้เฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ ตะเกียกตะกายไปเท่านั้นละ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบ แต่การสอนนี้สอนไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่สงสัยแล้วในธรรมพระพุทธเจ้าที่นำมาสอนพี่น้องชาวไทย เป็นความถูกต้องดีงามทุกอย่าง ขอให้นำไปปฏิบัติก็แล้วกัน อย่ามีแต่ถือศาสนาพุทธ ๆ เจ้าของเลวเท่าไรไม่ดูไม่ได้นะ พุทธศาสนาดูเจ้าของนะ ไม่ดียังไง บกพร่องตกไหน แก้ไขดัดแปลงเข้าไป นี่เรียกว่าพุทธศาสนา
ให้ดูตัวเองอย่าไปดูคนอื่นยิ่งกว่าตัวเอง ดูตัวเองรอบคอบแล้วดูคนอื่นก็เห็นชัดเจน ถ้าดูเจ้าของไม่รอบดูที่ไหนก็มัว ๆ หมอง ๆ ติฉินนินทา โลกแหลกไปด้วยความติฉินนินทา เพราะดูไม่ทั่วถึง ถ้าดูทั่วถึงแล้วตำหนิตรงไหนผิดตรงนั้น นั่นละถูกแล้วให้เสริม ถ้าผิดตรงไหนให้งด ๆ นี้เรียกว่าธรรม ตำหนิอย่างนั้นนะ ไม่ใช่ไปหานินทากันวอก ๆ แวก ๆ เป็นหมาเห่าถัง อยู่ในถังแล้วก็เห่าถังอีก วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละไม่พูดมาก เอาละพอ
เออ พูดถึงเรื่องทองคำขอให้พากันหนักแน่นทุกคน ๆ นะ ทองคำเป็นหัวใจของชาติไทยเรา เพื่อความสง่างามในการที่นำศาสนามาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายคราวนี้ ขอให้สง่างามด้วยทองคำ ขอให้เด่นนะทองคำเรา เวลานี้กำลังคลังหลวงเราบกพร่องมาก คือเรื่องทองคำซึ่งเป็นหัวใจของชาตินั่นแหละ อันนี้เป็นอันดับหนึ่ง ดอลลาร์ก็พูดแล้ว ดอลลาร์มีมากหนุนเงินไทยของเราขึ้น ให้แข็งตัวขึ้นด้วย ถ้ามีน้อยก็ลดลงให้เขาเหยียบเอา ๆ ดังที่พูด เงินเขาดอลลาร์เดียวเท่านั้นฟาดของเราไปตั้ง ๕๐-๖๐ บาท เวลานี้ก็พอก้ำกึ่งกัน พออยู่พอไป พอฟัดพอเหวี่ยง
ให้เห็นคุณค่าแห่งการนำชาติ ต่างคนต่างนำตัวเองเพื่อชาติของตัวเอง แล้วก็เห็นคุณอย่างนี้แหละก็พอฟัดพอเหวี่ยง ให้เน้นหนักทางทองคำเรานะทุกคน ๆ ทองคำเป็นของสำคัญมากในหัวใจของชาติไทยเรา ใครอยู่ที่ไหนเอามา มีมากมีน้อยเอามา เมื่อวานนี้หาทางอุดรฯ เราไม่ได้สักสตางค์เลย พอดีเราไปถ้ำผาปู่ฟาดมาเสีย ๑๐ บาททองคำ เอามาอวดชาวอุดรฯ เรา เสียลวดลายเมื่อไร เสือโคร่งใหญ่ไปไหนไม่ให้เสียลวดลาย เอาละจบที่นี่ พอ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com