วันที่ ๒๘ ตุลา เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๑๙ บาท ๘๒ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๓๐๑ ดอลล์ ทองคำที่ต้องการจะมอบเข้าคลังหลวงนั้น ๔ พันกิโล ที่ฝากและมอบไปแล้วสองรายการนี้เป็น ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากการฝากและมอบไว้คลังหลวงแล้วได้ ๑๙๖ กิโล ๒ บาท ๖๓ สตางค์ นี่ก็จวนจะถึง ๔๐๐ แล้ว คือไปกรุงเทพได้ ๔๐๐ แล้วเราก็หลอม ถ้ายังไม่ถึง ๔๐๐ เราก็ต้องรอ คือได้ตั้งแต่ ๔๐๐ ขึ้นไปถึงจะหลอม หลอมแต่ละครั้ง ๆ ให้ได้อย่างน้อยต้อง ๔๐๐ ขึ้นไป ที่ได้ใหม่นี่ยังไม่ได้หลอมนะ ๑๙๖ กิโล ๒ บาท ๖๓ สตางค์ ถ้าได้ ๔๐๐ กิโลแล้วก็จะหลอมตอนที่เราไปกรุงเทพคราวต่อไปนี้
ไม่เป็นไรละกรุงเทพน่ะ คือเราจะเตรียมรังต่อไปเป็นรัง ๆ ไปเลยเทียว จะไปวางต่อจุดนั้นจุดนี้ มาจุดชนวนกระตุกทีเดียวนี้ เอามาคนนั้น ๑๐ กิโล คนนั้น ๕ กิโล โหย ต่อไล่ต่อยเอานี้ได้มาหมดแหละเราไม่สงสัย เรายังไม่ได้ไปหาต่อเท่านั้นแหละ เตรียมระวังไว้นะ ต่อหาต่อยเอาทองคำซี ส่วนที่มันต่อยหมาก็ออกแล้วนี่ ดูเหมือนออกทางอินเตอร์เน็ตแล้วนะ ต่อต่อยหมา นั่นละเป็นข้อประกอบได้ดี เป็นคติธรรม ก็เราเห็นเองนี่นะอยู่ในวัด ต่อ โหย รังใหญ่นะ คือแต่ก่อนแถวนี้เป็นดงทั้งหมด เป็นป่าทั้งนั้น อันนี้มันโล่งไปหมดเหมือนว่าเป็นโลกใหม่ขึ้นมา แต่ก่อนมันมีเฉพาะบริเวณศาลา นอกนั้นเป็นป่าหนาทึบไปหมด ทีนี้ต่อมันไปทำรังอยู่นั้นไม่มีใครรู้ล่ะซี
ทางภาคกลางดูเหมือนเรียกต้นกะจั๋ง ทางนี้เรียกต้นข้าวสาร มันมีอยู่ทั่วไปต้นข้าวสาร มันเป็นพุ่ม พระก็ไปล้างบาตร มันมีตุ่มใหญ่อยู่นั้น ตุ่มใหญ่ล้างบาตร จากนี้ไปก็เป็นป่า แล้วพุ่มกะจั๋งพุ่มข้าวสารก็อยู่ที่นี่ ต่อมันก็ไปทำรังอยู่นี้ สูงขนาดพอดีกับหัวหมา ทำพอดีกับหัวหมาเลย มันหย่อนลงมา พระเองก็ไม่รู้ว่าที่นั่นมีรังต่อ ล้างบาตรอยู่ทางโน้น แล้วก็สาดไปโน้นสาดไปนี้ หมามันก็เก็บกินอาหาร คือท่านสาดนั้นท่านมีข้าวเศษด้วย สาดไปเพื่อให้หมากินด้วย สาดไปโน้นสาดไปนี้
เมื่อเป็นวันฤกษ์ดียามดีจังหวะเหมาะสมยังไงก็ไม่ทราบนะ ท่านเลยสาดน้ำกับข้าวนี้ไปทางรังต่อ คงจะเป็นฤกษ์ดียามดี พอสาดไปนี้หมามันก็ไปกิน กินก็แย่งกันละที่นี่ แย่งกันก็กัดกัน กัดกันก็ไปโดนเอารังต่อล่ะซี ต่อก็แตกรังออกมาฮือ ไล่ฟัดหมา โอ๋ย เลยไม่มีตัวแพ้ตัวชนะ ได้ยินแต่เสียงร้องแหงกหงัก ๆ ทั่ววัดเลยนะ หมาอยู่แถวนั้นมันเที่ยวต่อยหมดนะ เวลามันได้ต่อยไม่ได้ต่อยธรรมดานะ มันไปต่อยหมดละหมาแถวนั้น คือหมามันกัดกันเข้าไปไปชนรังต่อ มันก็แตกรังออกมาไล่ต่อย หมานี่เสียงร้องลั่นไปหมดเลย ต่อหยุดต่อยแล้วก็ยังร้อง อยู่ ๆ ก็แง็ก ๆ ขึ้น เดี๋ยวแย็ก ๆ คือพิษมันขึ้นเข้าใจไหมล่ะ ไอ้ต่อน่ะมันหยุดแล้วละ มันต่อยมันหยุดไปแล้ว แต่ทีนี้พิษมันจะขึ้นเมื่อไรกับตัวใดอย่างนี้มันก็ขึ้นของมัน เสียงร้องแง็กงัก ๆ มันปวดมากต่อต่อยมัน ร้องแหงกหงัก ๆ รังต่อเหล่านั้นพระพึ่งรู้นะว่าที่นั่นมีรังต่อ หมาไปค้นหาจนเจอ
นี่เราก็จะเตรียมรังต่อนี้ไปเวลาไปกรุงเทพคราวต่อไปนี้ จะเอาไปหลายรังด้วยนะ ไปวางไว้แถวพระโขนง แถวปากน้ำ ไปวางไว้ทุกแห่งนั่นละ เราจึงจะกระตุกทางนี้ให้มันแตกฮือ กรุงเทพแตก แตกออกมาเป็นทองเป็นเงินล่ะซี ไม่แตกแบบร้องแหง็กหงัก ๆ อย่างหมาร้อง ไม่เกิดประโยชน์อะไร ต่อในกรุงเทพต่อยนี้เสียงร้องออกมาเป็นเงินเป็นทอง เราจึงต้องเตรียมหาต่อไว้นะเวลาไปกรุงเทพ
โถ ต่อต่อยมันปวดจริง ๆ มันเคยต่อยเราแล้ว ต่อยเราไม่ใช่ต่อยธรรมดา ด้านหลังนี้หมดเลย เราเข้าไปเดินจงกรมอยู่ในป่าลึก ๆ ริมโน้น เรามานี้พวกเถาวัลย์มันพะรุงพะรังมาลำบาก เลยพาเด็กไปตัดเถาวัลย์ที่ขวางทาง มันปกคลุมพะรุงพะรัง ให้ไปตัดเถาวัลย์ออก ตอนบ่าย ๔ โมงเย็น อันนี้ก็แบบเดียวกัน ต่อมันทำรังอยู่ข้างต้นไม้ แล้วเถาวัลย์มันก็เลื้อยออกไปเกาะทางโน้น คนมาที่นั่นไปจับเถาวัลย์มันก็กระเทือนถึงรังต่อ เด็กก็จับเถาวัลย์นั้นตัดออก มันกระเทือนรังต่อ เพราะมันเป็นดง มันอยู่ข้าง ๆ เราก็ไม่เห็น ผ่านไปผ่านมาก็ไม่เคยเห็น
วันเด็กไปตัดเถาวัลย์กระเทือนถึงมัน มันก็รุมออกมาเลย รุมมาปั๊บเด็กร้องจี๊ก มองดูเป็นต่อแล้วปัดเด็ก เรื่องมันนะ มันเป็นทางช่องแคบ ๆ มันออกมาจากต้นไม้ข้าง ๆ มาต่อยเด็ก เด็กร้องจี๊ก พอมองเห็นมันเป็นต่อเราเลยปัดเด็กออกไป เรายืนกันเลย คือมันเป็นช่องมันรก ยืนกันไว้เพื่อไม่ให้มันตามต่อยเด็ก มันก็ฟัดเรานี้ โถ เราปัดเด็กไปเลยนะ เรายืนกันเอาไว้ มันก็ฟาดเราเสียจน โหย ไม่ทราบกี่ตัว จนเป็นไข้ขึ้นในเวลานั้นเลย คงมากต่อมากละท่า ข้างหลังนี้หมด หัวก็หมด มันทั้งรังนี่ เป็นไข้ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งตีสองค่อยสงบ ตั้งแต่บ่าย ๔ โมงถึงตีสอง
มันกี่ชั่วโมงพิษของมัน บ่าย ๔ โมงมันต่อยเราถึงตีสองมันกี่ชั่วโมง (๑๐ ชั่วโมง) เอ้อ นั่นละค่อยสงบตอนตีสอง จากนั้นมาเป็นไข้ตลอดเลยนะ เด็กก็ดูว่าต่อยตัวหนึ่งหรือสองตัว เด็กก็เป็นไข้ในบ้าน เราก็เป็นไข้ในวัด แต่เราไม่ร้องเหมือนหมาในวัดที่ถูกต่อต่อยนะ เราเฉย ร้องแต่เด็กคนเดียว ร้องแง้กเลยเด็ก เราก็ปัดเด็กไปแล้วยืนขวางเลย เหตุที่มันได้ต่อยเต็มเหนี่ยวก็คือว่าเรากันเด็ก ไม่งั้นตายเด็กจะว่าอะไร ถ้าเราไม่กันไว้เด็กอาจตายได้ ไม่ใช่ไข้ธรรมดา มันต่อยหลายตัวเข้าทนไม่ไหวมันตายได้นะเด็ก เรายืนกันอยู่มันเป็นช่อง พอเรากันมันก็ฟัดเราเลย เราปัดเด็กไป โอ๋ย เป็นไข้เลยนะ พิษของมันมากทีเดียว เราก็ไข้เลยจนกระทั่งตีสองค่อยเบาลง ๆ จึงจำได้ว่าตีสองมันค่อยถอนพิษมัน ที่ต่อต่อยก็มีครั้งนี้ละ หนเดียวเท่านี้ แต่มันต่อยเอามาก ต่อยจนเป็นไข้กับที่เลย
แตนอีกนะนี่ก็ดี เราเป็นสองหน มันเป็นยังไงมันรับเคราะห์ของหมู่เพื่อนทุกที เรารับเคราะห์นะ อย่างเด็กถ้าเราไม่ยืนกันนี้ โอ๋ย ดีไม่ดีเด็กอาจตายได้ เพราะต่อทั้งรัง คือให้มันไปตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางให้ มันไปตัดล่ะซีกระเทือนมันอยู่นี่ มันก็ต่อยเด็ก เด็กร้องจี๊ก มองดูเป็นต่อ พอรู้ว่าเป็นต่อเราก็ปัดเด็กไปเลยแล้วยืนขวางเลย มันก็ฟาดเราหมดรัง นี่เรียกว่ารับเคราะห์ให้คนอื่น เราเองนี่เหมือนต่อไม่ได้ต่อยนะ เฉยเลย ยืนขวางอยู่นั้น จนกระทั่งมันหยุดต่อยเอง ถ้าเคลื่อนไปอีกมันจะตามไปต่อยเด็กล่ะซี เคลื่อนไม่ได้ยืนกัน มันช่องแคบ ๆ มีช่องไปช่องเดียว เรายืนกันไว้มันก็ฟาดแผ่นหลังหมด ออกมาให้หมู่เพื่อนดู ต่ออยู่ตรงนั้น ๆ มันต่อยผมตะกี้นี้ ให้หมู่เพื่อนมาดู โอ๋ย หมดเลยหลังว่างั้น มันเป็นจุดแดง ๆ ที่เหล็กไนมันจี้เข้าไป ๆ หัวก็เต็มไปหมด นั้นครั้งหนึ่ง อันนี้ละครั้งที่รุนแรงมาก เป็นไข้กับที่
ที่หนองผือ อันนั้นมันแตน แตนชนิดที่หนึ่งเหมือนกัน พิษของมันนะ เขาเรียกว่าแตนเหลือง นี้เป็นชนิดที่หนึ่ง ต่อยปวด จำพวกแตน จากนั้นก็ต่อ คือต่อนี่ใหญ่ เป็นชนิดที่หนึ่ง ต่อก็มีสองประเภท ต่อในดินอย่างหนึ่ง ต่อเป็นรังนี้อย่างหนึ่ง คือต่ออย่างหนึ่งมันทำอยู่ในดิน มันโผล่ออกมาเป็นช่องเข้าออก ๆ นี่เขาเรียกต่อหลุมต่อขุม มันอยู่ในหลุมในขุม ต่อในหลุมในขุมนั่นละตัวใหญ่ ต่อรังไม่ค่อยใหญ่นัก
ทีนี้แตนต่อยเราก็แบบเดียวกันอีก อันนี้ก็เฉยเหมือนกันนะ หมดทั้งรังอีกเหมือนกัน คือเอาไม้มาทำทางลงบันไดนี่ ฝนมันสาด แล้วพ่อแม่ครูจารย์ท่านมาว่า โอ๊ย ตรงนี้ฝนสาดมันทั้งแล้งทั้งฝน ใครก็ไม่ดูบ้าง ท่านว่าอย่างนี้นะ ท่านพูดอย่างนั้นละ ลมมานี้ฝนมันสาดใส่บันได เวลาท่านลงมา ตรงนี้มันโล่ง ๆ อยู่นี้ฝนสาดทั้งแล้งทั้งฝน บันไดมันก็เสียน่ะซี ท่านว่าอย่างนั้น นั่นละท่านพูดเท่านั้น ออกจากนั้นเราก็พาพระพาโยมเขาไปดูไม้จะเอามาทำเสาเล็ก ๆ ทำเป็นต้นเสาแล้วเอาสังกะสีมามุงกัน ไม้มันล้มอยู่แล้วก็ไปตัดเอาเลยแบกออกมา
โอ๊ย ใหญ่อยู่ ได้หามออกมามันใหญ่ ยาว ทีนี้พระองค์หนึ่ง สององค์กับเรานี่หามสองคน เราหามข้างหลัง พระอีกองค์หนึ่งหามข้างหน้า พอพระยกขึ้นปึ๊บ เถาวัลย์มันไปเกี่ยวกับรังแตน รังแตนอยู่กับเรานี้เลยเราไม่เห็นมัน พอยกอันนี้ขึ้นเถาวัลย์มันเกี่ยวกันมันกระเทือนก็ฟาดเราเสียจนแหลกเลย เราก็เฉยเลยนะ เพราะสมมุติว่าถ้ามันต่อยปั๊บนี่ ทิ้งอันนี้ปั๊บดีไม่ดีพระคอหัก ไม้ใหญ่ ๆ เราทิ้งมันกระเทือน ดีไม่ดีพระคอหัก นั่นละเรื่องมัน เรายกขึ้นกระเทือนรังแตน ท่านเพ็งยืนข้างหลัง ท่านเพ็งร้องว้าก ๆ เพ็ง ถ้ำกลองเพลนี่ โอ๊ย แตนต่อยครูจารย์ เราก็ยังเฉยอยู่ ปล่อยให้มันต่อยเต็มเหนี่ยว พอองค์นั้นยืนได้ที่แล้วเราก็ออกเลย มันก็รุมเอาหมดรังเลยนั่นก็ดี
นี่เหมือนกัน เหมือนแตนไม่ต่อยนะ เฉยเลย เพื่อรักษาองค์ข้างหน้า ถ้าเราทิ้งตูมนี่ คือมันเจ็บมากมันตื่นเต้นซิคนเรา มันเจ็บก็ต้องทิ้งซิ เราไม่ทิ้ง เราอยู่เฉยเหมือนแตนไม่ต่อย ท่านเพ็งอยู่ข้างหลังร้องว้าก ๆ โอ๊ย แตนต่อยครูจารย์ เราก็เฉย พอไปวางเท่านั้นท่านเพ็งก็มาดู ไหนมันต่อยไหม ไม่ต่อยยังไงดูซิ ดูหมดเลย แตนทั้งรัง อันนี้ก็ช่วยเพื่อนนั่นแหละ อย่างนั้นนะ นี่ก็ช่วยเด็ก ถ้าไม่งั้นดีไม่ดีเด็กตาย เรากันไว้เสียเราก็ยอม อันนั้นถ้าหากว่าเราทิ้งไม้ พอยกอันนี้ขึ้นมามันกระเทือนแตน แตนมาต่อยแล้วเราทิ้งนี้ ไม้บนบ่านี้ทิ้งปั๊วะมันกระเทือน ดีไม่ดีอะไรหักก็ไม่รู้ เราจึงเฉยเลย ปล่อยให้แตนฟาดเอาเสียจนแหลก อย่างนั้นละ
มันเป็นสัญชาตญาณอันหนึ่ง มันเป็นเองนะ เช่นอย่างพอมองเห็นปั๊บ ต่อมันต่อยเด็ก เด็กร้องวี้ก เห็นมันบินมานี่ พอรู้ว่าเป็นต่อเท่านั้นเราก็ปัดเด็กออกไปเลย แล้วก็ยืนกันเลย มันก็ซัดเราเสียเต็มเหนี่ยว ก็อย่างนั้นละ มันเป็นสัญชาตญาณที่รักษากัน เป็นเองนะ อย่างที่แตนต่อยเราทั้งรังนี่ก็เหมือนกันเราก็เฉย จนท่านเพ็งอยู่ข้างหลังนี่ร้องว้าก ๆ เราเฉยอยู่ธรรมดาเหมือนแตนไม่ต่อยนะ เวลาไปดูแล้วหลังหมดเลย อย่างนั้นละ เรียกว่าสัญชาตญาณ ป้องกันหรือรักษากัน สองครั้งนี่ที่แตนต่อยเราหนักที่สุด แตนต่อยกับต่อต่อยมีสองครั้งนี่ละ เอายกรังใส่เลยเทียว โถ ปวดมากนะ ต่อนี้ปวดมากจริง ๆ เป็นไข้ขึ้นทันทีเลยนะ แตนไม่เป็นไข้ ไม่เห็นมีอะไรแตน แต่ต่อนี้เป็นไข้ทันทีเลยเทียว
ที่จะไปกรุงเทพนั้น เราต้องเตรียมไว้ทางศาลาเสียก่อน ให้ใครไปหาต่อหน่อย พวกนี้มันกลัวจะโดนไม่กล้าไปหา เช่นเราบอกให้ไปหารังต่อมาให้คนละรังสองรัง คือเราจะมาวางไว้แถวนี้ เวลาฉันจังหันพระยังไม่ลุกมันรุมมาแล้ว เราจะโยนรังต่อใส่ให้มันแตกฮือเลย พวกนี้ต้องหารังต่อมาแบบนี้ รังต่อฟาดมันหลงทิศไปเลย เพราะมันมากยิ่งกว่าหมา เสียงจะลั่นยิ่งกว่าหมาด้วยนะ แต่วันนั้นหมามันก็หลายตัวอยู่นะ แต่มันสู้คนศาลานี้ไม่ได้ ถึงขนาดนั้นมันยังร้องแง้กงัก ๆ อยู่ทุกทิศทุกทาง ตัวไหนอยู่ที่ไหนพิษมันขึ้นเมื่อไร หมาร้องแง้ก ๆ มันต่อยหนเดียวเท่านั้นไม่ได้ต่อยอีกแหละ แต่พิษของมันขึ้นซิ ตัวไหนอยู่ที่ไหนร้องแง้กงัก ๆ อยู่ตามป่า เสียงที่กัดกันไม่ทราบว่าตัวไหนแพ้ชนะ เสียงร้องเป็นเสียงหมาไปตาม ๆ กันหมดเลย อย่างนั้นแล้ว
ต่อเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นมีนะ อาจจะมี แต่พระท่านเคยเห็นชินกับมันแล้วท่านไม่พูดแหละ มันมีอยู่ทั่วไป พอรู้ว่าต่อมันก็อยู่สบาย พระไม่ยุ่ง ก็คิดดูรังต่อรังนี้มันทำมาตั้งแต่เมื่อไรเรายังไม่เห็น จนกระทั่งหมาเข้าไปทะลึ่งมันมันเอา ถึงได้รู้ว่ามีต่ออยู่ที่นั่น แต่ก่อนมีอยู่ทุกแห่ง มีอยู่ทั่วไป ระยะนี้มันอาจจะไปทำสูงก็ได้ คือแต่ก่อนต้นไม้ไม่ได้สูงอย่างนี้ ต่อมันถึงทำอยู่ต่ำ ๆ ถ้าต้นไม้สูงมันทำอยู่สูง ๆ ก็ได้
วันนี้ยังไม่เห็นทองคำเลยนะ (มาแล้วครับ) มาแล้วเหรอ โถ ทองคำมาแล้ว ไม่ใช่ธรรมลีหรือนี่ ธรรมลีเคยมาเสมอ เมื่อวานซืนนี้ก็มาตั้งกิโลกว่านะ กิโลกับห้าบาทก็ดูเหมือนคราวก่อนนั่นแหละ นี่ธรรมลี เมื่อวานซืนนี้ก็ได้ ๑ กิโลกับ ๕ บาท แล้ววันนี้ธรรมลีก็มาอีก ธรรมลี บ้านนาแอง ได้ทองคำมา ๑ กิโล ๕ บาท ๕๐ สตางค์ และเงินสด ๖,๐๐๐ บาท ดอลลาร์ ๑ ดอลล์ วันนี้ ได้มาจากนาแอง เป็น ๒ กิโลแล้วนะธรรมลีมานี่ ได้ ๒ กิโลกว่าแล้ว อนุโมทนาทุกคน (สาธุ) กุสลธโร ผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาด แปลออกแล้ว เป็นภาษาบาลี กุสลโธ แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งความเฉลียวฉลาด
ทองคำ ๔ พันกิโลวางเป็นพื้นฐานดังที่เราเคยประกาศประจำตลอดมานะ ลดหรือขาดสตางค์หนึ่งไม่ได้ เรียกว่าเด็ดขาดเลย ๔ พันกิโลขึ้นไปเรื่อย ๆ ต่อจากนั้นเราก็จะต่อยอดด้วยเงินที่ได้มาจากที่ไหน ๆ จะรวมเข้าต่อยอด ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ต้อง ๔ พันกิโล ขาดไม่ได้เลยอันนี้
วันนี้พอสายหน่อยเราก็จะไปบ้านภู่ คือบ้านที่อาราธนาหลวงปู่มั่นเรามาพักค้างที่นั่นก่อน ก่อนที่จะไปสกลนคร เพราะท่านสั่งเสียเด็ดขาดดังที่เขียนไว้ในประวัติ คือท่านบอกว่าท่านจะไปตายสกลฯ ท่านบอกอย่างนั้น ทางโน้นเขามีตลาดตเล พอผ่อนเบาลงบ้าง ถ้าตายที่นี่เขาจะเอาสัตว์มาฆ่าพินาศฉิบหาย เราตายคนเดียวสัตว์ตายจำนวนมากมาย ไม่สมควรอย่างยิ่ง นั่นฟังซิท่านพูด เพราะฉะนั้นจึงเอาเราออกไปสกลฯ เพราะสกลฯ นั้นเขามีตลาดตเลอยู่แล้ว จะค่อยแบ่งเบากันไป ท่านสั่งเสียเรียบร้อยด้วยเหตุด้วยผล
เราเคยประกาศเสมอ ประกาศสุดหัวใจของเรานะที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายนี้เราไม่ได้ช่วยเล่น ๆ เราบอกแล้ว เราไม่ทราบจะให้เป็นห่วงทางไหนนะ เราพูดจริง ๆ ถอดออกมาจากหัวใจ ดูเรียบร้อยแล้วค่อยมาพูดนะ ใครไม่เชื่อก็ให้เป็นไปตามทางของกิเลสแล้วจะจมแน่ ๆ นะ พระพุทธเจ้าหนึ่งไม่มีสองในเรื่องความจริงทั้งหลาย ไม่มีเคลื่อนคลาด ไม่มีโกหก กิเลสนี้หนึ่งไม่มีสอง เรื่องความโกหกหลอกลวงโลก ไม่มีอะไรเกินกิเลส ความจริงไม่มีอะไรเกินธรรม เสมอกันเลย ฟังให้ดีคำนี้ น้ำหนักทางดีทางชั่วมีเสมอกันตลอดเวลาของผู้สร้างดีและสร้างชั่ว ผู้สร้างความดี-ดีจะได้ตลอดไปเลย ผู้สร้างความชั่วจะได้ความชั่วตลอดไปเช่นเดียวกัน มีผลเสมอกันจากผู้ทำในฝั่งทั้งสอง ฝั่งชั่วฝั่งดี
ฝั่งดีคือฝั่งธรรม ฝั่งชั่วคือฝั่งกิเลสตัณหาที่หลอกลวงสัตวโลก ทั้งสองฝั่งนี้แข่งกันอยู่ตลอดเวลา กี่กัปกี่กัลป์มาอย่างนี้ ไม่ใช่มีมาวันหนึ่งวันเดียวนี้นะ ใครเชื่อธรรมคนนั้นก็ไปได้ เชื่อฝั่งธรรมไปได้ ใครเชื่อฝั่งกิเลสจะจมลง ๆ อันนี้ที่เราอดคิดไม่ได้ คิดมานาน คิดอยู่ในหัวใจนี้มานาน ควรจะระบายออกตามความรู้สึกที่แน่ที่สุดไม่ผิดพลาด ก็อยากจะระบายออกบ้าง เพื่อผู้มีอุปนิสัยปัจจัยจะได้รู้เนื้อรู้ตัวแก้ไขดัดแปลง ทีนี้ผู้ที่ยังไม่ทำอย่างนั้นก็ให้หยุดให้งดการทำ
นี่เราทำประโยชน์เพื่อโลกเราก็ทำอย่างสุดหัวใจของเรา ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างยิ่ง ครั้นทำลงไป ๆ มันก็ไปโดนเอาพวกสกปรกโสมม ฝั่งสกปรก ฝั่งโสมม โดนเข้าไป มันก็ได้ปะทะกันดังที่เห็นกันอยู่เวลานี้แหละ ดูเอาพี่น้องทั้งหลาย ระหว่างกิเลสกับธรรมปะทะกันดูเอา ตัวอย่างก็ดังที่หลวงตานำพี่น้องทั้งหลายออกช่วยชาติบ้านเมือง เพื่อความสงบร่มเย็น เพื่อความแน่นหนามั่นคงแห่งชาติไทยของเรา เราก็พยายามช่วยเต็มเหนี่ยว ก็ไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะมีอะไร ๆ นะ มีแต่มุ่งหน้ามุ่งตาที่จะพาพี่น้องทั้งหลายบำเพ็ญประโยชน์ ให้เป็นความสงบสุขร่มเย็นแก่ชาติไทยของเรา
ครั้นทำไปแล้ว ๆ ก็ไปโดนอีกฝั่งหนึ่งจนได้ ไม่ทราบฝั่งไหนมาโดนฝั่งไหนเพราะอยู่ด้วยกัน ก็ไปโดนเอาเรื่องราวที่กระเทือนขึ้นมาทั่วประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มแรกเรานำทองคำ สมบัติของชาติว่างั้นเถอะ ที่คนทั้งชาตินับแต่วงศ์กษัตริย์ลงมา อุตส่าห์พยายามขวนขวายกันทั้งชาติ นำเงินเข้ามานี้จะเข้าสู่คลังหลวง ซึ่งเป็นจุดปลอดภัยและเป็นหัวใจของชาติอยู่ในจุดนั้น แล้วก็ไปโดนเอาฝั่งสกปรกโสมมเข้าไปล่ะซี ที่โดนอันนี้โดนรุนแรงเสียด้วยนะ โดนอย่างไม่มีเหตุมีผล
นี่เรื่องของความสกปรก ความชั่วช้าลามก มันจะไม่คำนึงถึงเหตุถึงผลผิดถูกดีชั่วประการใดเลย มันจะเอาตามใจของเจ้าของให้จนได้ เมื่อนำเงินคลังหลวงเข้าไปนี้ก็โดนเลยทันที โดนเบื้องต้นก็ถูกต้มออกมาที่ประจักษ์ชัดเจนว่า เงินนี้จะนำเข้าคลังหลวง เพราะเป็นสมบัติที่คู่ควรแก่ชาติไทยของเราอย่างยิ่งไม่มีอะไรเสมอแล้ว จะนำสมบัติเหล่านี้เข้าสู่คลังหลวง แล้วก็ถูกกีดกันทุกแบบทุกฉบับอย่างหาเหตุหาผลไม่ได้เลย เด็กเขาก็ทำไม่ได้อย่างนั้น ถ้าเด็กจะพอรู้ภาษามนุษย์เราบ้าง อันนี้มันเลยอะไรไปก็ไม่รู้ แล้วกีดกันทุกแบบทุกฉบับ นอกจากนั้นยังเอาสมบัติของเราไปทิ้งไว้นอกถุงใหญ่ แล้วก็มาต้มเราว่าได้เข้าตามความมุ่งหมายของหลวงตาแล้ว หลวงตาในนามของคนทั้งชาตินับแต่วงศ์กษัตริย์ลงมา ทั้งชาติไทยเราเลย ที่นำเงินบรรดาที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้จะเข้าสู่คลังหลวง เข้าไม่ได้
คือเอาเงินของเราต้มเรา เอาเงินไปหลบซ่อนไว้นอกคลังหลวง ไม่ยอมให้เข้าสู่คลังหลวง นี่เป็นเรื่องร้ายแรงขนาดไหนของคนทั้งชาติ กับก้างขวางคอ กับมหาโจรเพียงสองสามคนเท่านั้น มาต้านทานชาติไทยของเราอย่างหนัก จนถึงกับว่าประวัติศาสตร์นี้จะลืมไม่ได้ อันนี้เป็นความกระทบกระเทือนมากที่สุดในวงชาติไทยของเรา เพราะศาสนาเป็นผู้นำด้วย สมชื่อสมนามว่าเราเป็นลูกของชาวพุทธ ทีนี้เวลาพี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นชาวพุทธจะนำสมบัติเงินทองเหล่านี้เข้าสู่คลังหลวง แล้วกลับถูกกีดกัน ถูกต้มถูกตุ๋นทุกแบบทุกฉบับ ตั้งแต่ขณะนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ยังไม่เห็นหย่อนยานลงไปเลยเรื่องความสกปรก เรื่องฟืนเรื่องไฟจะเผาชาติบ้านเมืองของเรา เผามาเรื่อย ๆ อย่างนี้ ก็ต่อต้านกันมาเรื่อยอย่างนี้ตลอดเวลา พี่น้องทั้งหลายก็เห็นกันแล้วเป็นยังไง เราอุตริเหรอ เราเป็นผู้ออกสนามเองที่จะนำพี่น้องชาวไทยให้เข้าสู่ความสงบร่มเย็น มันก็เป็นอย่างจัง ๆ ให้เห็นอย่างนี้
แล้วทีนี้เรื่องที่เกิดเหตุทั้งหลายเหล่านี้ก็เกิด เราก็คิด นี้เรื่องของมนุษย์เราเกิด ย่อมมีความดีความชั่วเป็นธรรมดา แต่เมื่อรุนแรงมากเข้า ๆ ถึงขนาดที่กระเทือนทั่วประเทศไทยก็อดคิดไม่ได้นะ การกระทำของคนชั่วช้าลามก จะเป็นกี่คนก็ตาม กี่คณะก็ตาม เป็นบุคคลและเป็นคณะที่ก่อความพินาศฉิบหายให้แก่ชาติไทยของเรา ซึ่งเป็นการสร้างกรรมอย่างหนัก จุดนี้จุดสำคัญมาก สะเทือนมาตั้งแต่พระมหากษัตริย์ลงมา
พระมหากษัตริย์ก็เป็นท้าวมหาพรหมแห่งชาติไทยของเราจะว่าไง จะไม่กระเทือนยังไง พระองค์ทรงแผ่พระเมตตาตลอดเวลา ประทับอยู่ที่ไหน ๆ ก็อยู่ในวงแห่งชาติไทยของเรา ซึ่งจะต้องแผ่เมตตาครอบทั่วแดนไทยเป็นอย่างน้อยนะ แล้วทำไมพระองค์จะไม่ทรงมีความห่วงใย หรือเป็นทุกข์ร้อนกับพี่น้องชาวไทยเรา ซึ่งได้เกิดความกระทบกระเทือนเพื่อความเสียหายจำนวนไม่น้อยอย่างนี้ ต้องได้คิด นี่ละเรื่องมันกระเทือนมากนะ
ยิ่งเราต่อต้านเข้าไป เรื่องเปรตเรื่องผีก็แสดงเข้ามาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งทีเดียวว่า ตั้งหน้าเป็นมหาภัยต่อชาติ ตั้งหน้าเป็นมหาโจร ตั้งหน้าเป็นก้างขวางคอของคนทั้งชาติเห็นอย่างชัด ๆ มีกี่คนมีกี่เรื่องมา เป็นแบบก้างขวางคอ เป็นแบบทำลาย มันเห็นได้ชัดในคนทั่วประเทศไทย นี้เป็นการกระทบกระเทือนอย่างมาก ถึงขนาดกระเทือนทั่วประเทศไทย จึงอดคิดไม่ได้นะ อันนี้เป็นความกระทบกระเทือนเพียงชาติไทยของเรา เป็นประเภทหนึ่งในเมืองมนุษย์ ทีนี้จากนี้แล้วก็จะไปไหนอีก เหตุเกิดขึ้นที่ไหน ผลจะต้องเกิดติดตามกันไป เหตุชั่วผลจะต้องชั่ว เหตุดีผลจะต้องดี ก็เป็นเหตุให้คิด วิตกวิจารณ์ถึงพวกนี้แหละ
ใครจะว่ายังไงก็ตามเราเอาธรรมออกมาพูด เมื่อทำความกระทบกระเทือนต่อชาติบ้านเมืองของตนถึงขนาดที่ว่าสะเทือนสะท้านไปหมดทั้งประเทศนี้ จะอดคิดไม่ได้ยังไงว่าไม่สร้างกรรมหนักมากทีเดียว กรรมนี้ใครจะเป็นผู้รับ ก็ต้องผู้ทำเป็นผู้รับ ผู้ทำคือใคร ผู้นั้นแลเป็นผู้เหมานรกทั้งเป็นในเมืองมนุษย์ แล้วต่อจากนี้มันจะไปเหมานรกในเมืองผี นี่ก็ทำให้เราวิตกวิจารณ์มาก เราไม่ได้ถือว่าคนนั้นเป็นภัยต่อเรา คนนี้เป็นภัยต่อเรา เราถือว่าความชั่วเป็นภัย ความดีเป็นคุณต่างหาก จะอยู่ในบุคคลผู้ใด ในสัตว์ตัวใด หรือคณะใดในบุคคลทั้งหลายก็ตาม มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้
นี่เราพูดจริง ๆ เราเป็นห่วงมาก วันนี้ได้ระบายออกมา การทำประโยชน์ให้โลกคราวนี้ เราก็มุ่งหมายเพื่อเป็นประโยชน์แก่โลก แต่สิ่งที่จะมากระทบกระเทือนให้สร้างนรกอเวจีใส่ตัวเอง เหมานรกอเวจีใส่ตัวเองแก่บุคคลชั่วช้าลามกนี้มันก็ปิดไม่อยู่ เพราะเป็นด้วยความสมัครใจของเขาเอง เป็นแต่เพียงวิตกวิจารณ์บ้าง เราถึงได้เปิดให้พี่น้องทั้งหลายทราบ นี่ละผลที่เราได้ทำคราวนี้มีทั้งผลดีผลชั่ว ผลชั่วคือความชั่วของคนชั่วที่มาสั่งสมขึ้นจากการทำความดีของคน มันขัดขวางหัวใจเขา แล้วก็มาขัดแย้งแข่งดีซึ่งกันและกัน แล้วก็รบกัน ผู้สร้างชั่วก็สร้างหนักเข้าไป ผู้สร้างดีก็สร้างป้องกันชาติบ้านเมือง มันก็ต้องได้ทำกันอยู่อย่างนี้
สุดท้ายเราก็อดวิตกวิจารณ์ไม่ได้ เพราะธรรมเป็นธรรม ไม่ได้ถือว่าใครเป็นคู่กรรมคู่เวร ไอ้พวกที่สร้างกรรมทั้งหลายเหล่านี้ อันนี้ละที่เราวิตกวิจารณ์มาก ไม่เห็น เห็นแต่การสร้างอันนี้อย่างแบบหูมีตามีก็ได้เห็นได้ยินกันอย่างนี้ แต่กรรมที่ติดตามอันนี้มันไม่เห็นล่ะซี ธรรมเห็นหมดจะว่าไง มันจะไปยังไงต่อยังไง นี่ที่น่าวิตกวิจารณ์มาก การบำเพ็ญประโยชน์คราวนี้ผู้ที่จะก่อกรรมทำความชั่วช้าลามกมีมากมายก่ายกอง และสร้างอย่างหนักเสียด้วยนะ
เวลานี้ยังท้าทายศาสนา ท้าทายประชาชน ไม่มีความเกรงขามอะไรเลย จะเอาตามอำนาจป่าเถื่อนนรกอเวจีของตนโดยถ่ายเดียวเท่านั้น จึงตั้งหน้าตั้งตาคัดค้านต้านทานต่อสู้ตลอดเวลากับความดีทั้งหลาย ซึ่งเป็นการกอบโกยเอาความทุกข์และบาปกรรมทั้งหลายเข้าสู่ตัวเป็นลำดับ ๆ เช่นเดียวกันอีก นี่เป็นเหตุที่ให้เราวิตกวิจารณ์
ใครจะว่ายังไงก็ว่า หลวงตาลงได้ขึ้นเวทีแล้วไม่มีถอย เอาความจริงนี้ออกพูดตลอดเวลา ตายคอขาด-ขาดไปเลย จะให้เราเปลี่ยนแปลงความจริงมาเป็นความปลอม เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คอขาด-ขาดไปเลย ความจริงเราจะไม่เปลี่ยนแปลง
นี้เรานำธรรมมาสอนพี่น้องทั้งหลายด้วยความบริสุทธิ์ใจ ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่วอย่างชัดเจนอยู่นี้ตลอดมา นี่เราพูดถึงเรื่องความวิตกวิจารณ์ของผู้ที่จะกอบโกย ท้าทายศาสนา องค์ศาสดาเอกเสียด้วย ท้าทายนรกอเวจี บาปบุญนรกทั้งหลายบอกไม่มี ๆ และในขณะเดียวกันก็กอบโกยที่ว่าไม่มี ๆ เข้ามาเผาเจ้าของ พอลมหายใจขาดเท่านั้นผึงเลย เวลานี้มันก็เผาในหัวอกแล้ว เผาอยู่เต็มหัวอกทุกคน
อย่าเข้าใจว่าพวกนี้มีความสุขนะ ความทุกข์มากที่สุดคือพวกนี้เอง เผาอยู่ในหัวอก ๆ ในภายในหัวอก พอตายแล้วทีนี้ก็เปลี่ยนสภาพร่างของมนุษย์นี้กลายเป็นร่างผีไปแล้ว ลงละที่นี่ นี่ละท้าทายพระพุทธเจ้าก็เท่ากับท้าทายตัวเอง เป็นข้าศึกกับตัวเองอย่างสุดยอด เพราะเป็นข้าศึกกับพระพุทธเจ้า ลบล้างพระพุทธเจ้า ลบล้างธรรมซึ่งเป็นของมีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ว่าไม่มี เมื่อลบล้างธรรมว่าไม่มีแล้วก็ บาปไม่มี บุญไม่มี มีแต่ความจะเอาตามใจ อันนี้แหละเป็นไฟอันใหญ่หลวงที่จะเผาสัตวโลกให้ลงนรก
ใครอย่าเก่งกล้าสามารถนะ พวกเราทั้งหลายให้ระวังทุกคน ๆ ใครเก่งปล่อยให้มันเก่งไป จะตัดสินกันในแดนนรกนั่นแหละไม่ตัดสินที่อื่น นรกเป็นที่คุมขังและเป็นที่ทรมานของสัตวโลกผู้ทำบาปกรรมหนักเบามากน้อย เป็นหลุม ๆ ขุม ๆ ไป พากันจำเอานะ นี่เราเตือนเราเป็นห่วงเป็นใยเราพูดตามความจริงของเรา เพราะเราไม่มีได้มีเสียกับสิ่งเหล่านี้ ว่านรกสวรรค์พรหมโลกนิพพานก็ดี และเปรตผีอะไรเราผ่านหมดแล้ว เราไม่มีในบัญชีเหล่านี้แล้ว เราเอาธรรมที่นอกบัญชีสิ่งเหล่านี้แล้วมาชี้แจงให้ทราบ
เพราะแดนแห่งความพ้นทุกข์เป็นโลกุตรธรรม ธรรมเหนือโลก เอาธรรมเหนือโลกมาพิจารณาโลกธาตุนี้ ซึ่งอยู่ในขอบแห่งสมมุติอย่างนี้ต่างหากนะ เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสิ่งเหล่านี้ แพ้เราก็ไม่มี ชนะเราก็ไม่มี ต่อผู้ใดคณะใดต่อสัตว์ตัวใด เราไม่เคยมี ความได้ความเสียเราก็ไม่มี แต่เรามีด้วยความเมตตาที่สงเคราะห์โลกเท่านั้น ผิดถูกเราถึงบอกได้ตามตรง ๆ นี้เลย ให้พี่น้องทั้งหลายระมัดระวังทุกคนนะ การสร้างบาปสร้างกรรมไม่ใช่ของดี อย่าเห็นว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคล นั้นแหละคือธรรมชาติที่ไฟเผาตัวเอง ได้แก่ไฟบาปไฟกรรม ไม่ยอมฟังเสียงอรรถเสียงธรรม เสียงศาสนา เสียงครูบาอาจารย์เลย นี้คือเสียงนรกก้องในหัวอกมันแล้วนะ เสียงธรรมจึงไม่ปรากฏเลย วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน เอาละ
มากับใครบ้างล่ะ (มากับคุณสันติ) ชื่อ สันติ ที่เคยส่งสิ่งของมานั่นหรือไง (ไม่ใช่ค่ะหลวงตา คนที่หลวงตาว่าเอาดอลลาร์ให้หลวงตาครั้งแรก) โอ๊ย ดีแล้ว เป็นประวัติศาสตร์อันหนึ่งนะ เหตุที่หลวงตาที่จะได้นำพี่น้องทั้งหลาย คือ คุณสันติที่นำเงินมา ๒๕๐๐ ดอลล์ เพราะเราวิตกวิจารณ์ถึงกับประกาศก้องขึ้นแล้วนะ เริ่มประกาศก้องขึ้นแล้วทำอย่างไรเมืองไทยเราเวลานี้ เดือดร้อนเหลือประมาณ ถ้าไม่มีอะไรจะช่วยเหลือแล้วจะจมแน่ ๆ นะเราว่าอย่างนี้
พอดีคุณสันติ อยู่ ๆ ก็เอาเงิน ๒๕๐๐ ดอลล์มาถวายเราลืมเมื่อไร เอ้อ นี่แหละเป็นเครื่องประกาศแล้ว ทีนี้ได้ตัวพยานแล้ว เราไม่ลืมนะ นี่ได้ต้นเหตุแล้ว จะได้ยกชาติไทยของเราขึ้นด้วยอันนี้เป็นต้นเหตุ จากนั้นก็เอาอันนี้ขึ้นประกาศก้องเลย เราก็ออกสนามเลยตั้งแต่บัดนั้นมา เพราะเงิน ๒๕๐๐ ดอลล์นี้เป็นต้นเหตุ ถ้าหากว่าอันนี้ยังไม่มีก็ยังไม่แสดงนะ ถ้าหากว่าไม่มีเลยอาจจะไม่แสดง มีแต่ร้องแหงกๆ หลวงตาบัวหมดท่าไม่มีเครื่องต่อสู้ นี่ ๒๕๐๐ มาได้เครื่องมือแล้ว เอ้า ฟัดเลย ขอบคุณมาก ๆ นะ เป็นประวัติศาสตร์อันหนึ่งเหมือนกัน เป็นการสร้างมหากุศล นี้เป็นต้นเหตุแห่งการสร้างมหากุศลแก่ชาติไทยของเรา หลวงตาบัวได้เครื่องมือนี้ก็ออกสนามทันทีเลย ดีแล้ววันนี้นะ เราช่วยชาติอย่างนี้ ดังที่หลวงตาอธิบายให้ฟังมานี้
ช่วยสุดเหวี่ยงนะหลวงตา ช่วยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มาอีกแล้ว เริ่มช่วยชาติเบื้องต้นด้วยดอลลาร์ ซึ่งเป็นรากฐานของคนไทยเราที่จะยกตัวเองขึ้น วันนี้ก็มาอีกแล้ว ไม่ใช่เล่นเหมือนนะกัน วันนี้ก็เยอะเท่าไรล่ะ (๓๙๐ เหรียญครับ) เอาละ พอใจๆ คราวก่อน ๒๕๐๐ แล้ว นี่ ๓๕๐ ๒๘๐๐แล้วนี่ เออ ดีแล้ว หลวงตาพอใจ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้อ่านให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ด้วยความฝังใจเรามานานนะ คือเราจะกะเป็นระยะๆ พิจารณาภายในเสียก่อน พิจารณาเรียบร้อยแล้วออกๆ ไม่ว่าจะก้าวเดินแบบไหน
ต้องขออภัย เราไม่ได้อวดดิบอวดดี แต่เราเทิดทูนธรรมสุดยอดแล้วว่า ธรรมนี้เหนือทุกอย่าง เราพิจารณาโดยธรรมทุกอย่างแล้ว เราก็ออกดำเนินตามธรรม เพราะฉะนั้นเวลาเราออกเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย เราจึงไม่ไปปรึกษาหารือกับใครเลย ไม่ไปปรึกษาเลย พิจารณานี้เรียบร้อยแล้วออกเลย ๆ จะออกวิธีการใด ๆ เราจะเป็นผู้สั่งเสีย ๆ พาดำเนินทุกอย่างๆ ตามที่เจ้าของพิจารณาเต็มกำลังแล้วตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้ เราทำด้วยความเต็มอกเต็มใจทุกอย่าง พิจารณาก็พิจารณาเรื่องโลกสงสารนี้
มาคราวนี้ เป็นคราวที่เราพิจารณาเหมือนว่าอกจะแตก ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของโลกทั่ว ๆไปนะ แต่หัวใจเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เรามาเทียบเฉยๆ ด้วยการว่าพิจารณามากที่สุด เกี่ยวกับชาติไทยของเรานะ ความหวั่นไหว ถ้าพูดถึงแบบโลก เรียกว่าหวั่นไหวกระทบกระเทือนไปหมดทั้งหัวอกของเรา คิดเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองของเราด้วยความเมตตาสุดส่วน นี่แหละเรื่องเราคิด เราคิดอย่างนี้ เวลาแสดงออก เราจึงแสดงออกเต็มเหนี่ยวทุกอย่าง การนำสมบัติเงินทองข้าวของจะนำเข้าช่องใด ๆ เราพิจารณาหมดแล้ว เราค่อยออกเข้าช่องนั้น ๆ เป็นลำดับ
เท่าที่ปรากฏผลมาก็ไม่เห็นผิดพลาดที่ตรงไหน สมบัติเงินทอง เช่นทองคำจะเข้าช่องไหน เข้าแล้ว เข้าเป็นลำดับลำดา ดอลลาร์เข้าคลังหลวง ทองคำเข้าคลังหลวงก็เข้าตามนั้นเป็นลำดับลำดามา ไม่ได้รั่วไหลแตกซึมไปไหนเลย แล้วทีนี้ส่วนเงินสดนี้ ทีแรกเราว่าจะออกช่วยชาติบ้านเมืองของเรา เป็นเงินหมุนเวียน แต่ครั้นแล้วความห่วงใยในทองคำมีมาก จึงต้องเจียดเงินจำนวนที่ ๘๕๐ กว่าล้านนี้ออกมาเข้าซื้อทองคำ เงิน ๘๐๐ ล้านนี้เรากำหนดไว้แล้วและประกาศแล้วว่า จะนำไปซื้อทองคำทั้งหมดเข้าสู่คลังหลวงของเรา ส่วน ๕๐ กว่าล้าน ก้ำกึ่งอยู่ อาจจะหมุนไปทางประชาชนตามโครงการที่เรากำหนดไว้เบื้องต้นก็ได้ แล้วก็อาจจะหมุนกลับมาทองคำนี้อีกก็ได้ แล้วแต่เหตุการณ์ซึ่งเราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว เราจะออกเอง เราปฏิบัติจะประกาศพี่น้องทั้งหลายทราบเป็นลำดับๆ ไปเองทีเดียว กรุณาทราบตามนี้
นี่เราช่วยเต็มเหนี่ยวเราช่วยพี่น้องชาวไทย ทีนี้การแนะนำสั่งสอนก็เหมือนกัน ออกทางด้านวัตถุ ออกทางไหนๆ เราเป็นผู้นำเอง การแนะนำสั่งสอนเรียกว่าคนทั้งประเทศเราสอนหมดเลย ประเทศไทยทั่วประเทศเราสอนมานานแล้วนะ ไม่ว่าภาคไหนเราสอนทั่วประเทศไทยมานานแล้ว แต่สอนอยู่ใต้ดิน คือไม่มีการประกาศ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อะไรอย่างนี้ไม่มี เราทำอยู่ใต้ดินเงียบๆๆ การช่วยเหลือโลกเราช่วยเหลือมาตั้งแต่ต้น เริ่มสร้างวัดป่าบ้านตาด จึงไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวเราตลอดมา ถ้าพูดถึงเรื่องความทุกข์จนไม่มีใครเกินหลวงตาบัว แต่ความร่ำลือก็ไม่มีใครเกินหลวงตาบัว ว่าคนเคารพนับถือมากนี้ท่านต้องเป็นมหาเศรษฐีเงินว่างั้น
มหาเศรษฐี มาดูจริงๆ แล้วเขาเรียกอะไร ทุคตะเข็ญใจ ไม่ใครจนยิ่งกว่าเรา ติดหนี้เขาเรื่อยนะ นี่ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบนะ เราติดหนี้เรื่อย ติดเพราะอะไร ติดเพราะความสงสารนั่นเอง เวลาเขามาเสนอถึงความจำเป็น เช่นโรงพยาบาล ส่วนมากจะเป็นโรงพยาบาล ที่เราติดหนี้นี้มักจะติดเกี่ยวกับโรงพยาบาล เครื่องไม้เครื่องมือมีความจำเป็นอย่างนั้นๆ ความจำเป็นของเครื่องไม้เครื่องมือนี้ เกี่ยวโยงไปถึงขนาดไหน เราก็คิดแล้ว เครื่องมือเครื่องนี้มีความจำเป็นต่อคนไข้มากน้อยเพียงไร ทีนี้เงินเราพอที่จะติดหนี้ได้เราก็จะพิจารณา การติดหนี้ไม่มีน้ำหนักเท่าความจำเป็นของคนไข้ทั้งหลายของโรงพยาบาล เราจึงยอม เอา ไม่มีสตางค์ เอาสั่งเลย เราติดหนี้ นั่นอย่างนี้ละนะ
คือเอาความจำเป็นมีน้ำหนักมากกว่า เอ้า ยอมติดหนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงติดมาเรื่อย และลูกศิษย์ของเราก็คงสงสารนั่นแหละ ไม่สงสารไม่ลากออกมาละ ถ้าเราติดหนี้คนติดหนี้ต้องเข้าคุกใช่ไหม นี้ยังไม่ได้เข้าคุกลูกศิษย์ไปลากออกมา พอพ้นออกมาแล้ว เอ้า ความจำเป็นมาอีก เอ้า ติดอีก แล้วก็ไปลากออกมาอีก เรื่อยอย่างนี้ ความช่วยโลกเราช่วยอย่างนี้ตลอดมานะ จึงไม่เคยมีอะไรติดเนื้อติดตัวตลอด แล้วตลอดไปก็จะไม่มีอะไรติดตัวอีก
คิดดูซิว่าเราตายแล้วนี้ เราก็ประกาศแล้วทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว สมบูรณ์แบบแล้วพินัยกรรมของเรา เวลาเราตายนี้เงินทั้งหมด นั่นฟังซิน่ะ ที่เขามาบริจาคทำบุญเกี่ยวกับเรื่องการเผาศพเรานี่ เงินทั้งหมดนี้จะตั้งคณะกรรมการไว้อย่างเข้มงวดกวดขัน ให้ผู้ดูแลรับผิดชอบในเงินจำนวนเหล่านี้ทั้งหมด แล้วจะยกเงินจำนวนนี้ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทั้งหมดเลย เรียกว่าไม่ให้ใครแยกไปทางไหนเป็นอันขาด เช่น จะมาทำนั้นทำนี้ให้หลวงตาบัวที่ตายไปแล้ว ไม่เกิดประโยชน์ เอาที่มันจะเกิดประโยชน์ คือเอาเข้าคลังหลวง เกิดประโยชน์ เอาไปทำนั้นทำนี้ให้หลวงตาบัวไม่เกิดประโยชน์
นี่หลวงตาบัวทำเมรุไว้แล้วนะ เผาตรงนั้นเลย กบเขียดเขาไม่เห็นมีเมรุ เขามีแต่เตาไฟเท่านั้น เข้าใจไหม พวกเป็ด พวกเขียด พวกหมู พวกไก่ พวกกา หรือหมาอาจมีก็ได้เขาไปเผากัน กินหมาก็มีนะ ประเทศไทยของเรากินหมาก็มีเยอะ นี่มันอาจเผาหมาไปก็ได้ เมรุเขาในครัวเรือนเขานะ เมรุเรานี้สำหรับเผาหลวงตาบัว ถ้าใครตายก่อนหลวงตาบัว สมควรที่จะเผาเมรุนี้ หลวงตาบัวให้เผาก่อนไปได้เลย หลวงตาบัวจะเผาทีหลัง นี่ละเราสละขนาดนั้น พูดถึงเรื่องความเสียสละ เงินทั้งหมดที่มาอยู่ในงานเผาศพเรานี้ เราบอกว่าทุกสตางค์เลยนะ ไม่ใช่เว้นสตางค์ สองสตางค์นะ ให้ยกเงินจำนวนทั้งหมดนี้ ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทั้งหมดบอกอย่างงี้เลย พินัยกรรมออกแล้ว เวลาเราตายก็เอาพินัยกรรมมาอ่านป้างๆ ปฏิบัติตามนั้นเลยไม่มีปัญหาอะไร ขนาดนั้นนะ เราเสียสละขนาดนั้นเพื่อพี่น้องชาวไทยเรา
จึงขอได้เห็นใจหลวงตาที่ว่าช่วยชาตินี่ช่วยจริงๆ เหมือนกับเราช่วยเรา จะถึงขั้นสลบไสลมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนด้วยฟัดกับกิเลส ตัวชั่วช้าลามก มันหนักเราต้องหนัก ไม่หนักไม่ทันกัน ทีนี้ผลแห่งการหนักหน่วงทางความดีก็ชนะกิเลสเป็นลำดับมา จนกระทั่งชนะโดยเด็ดขาด จึงไม่มีกิเลสตัวใดที่จะมาผ่านหัวใจเลย แม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่เคยมี ตั้งแต่บัดนั้นที่กิเลสขาดสะบั้นลงไปแล้ว ปี ๒๔๙๓ มาจนกระทั่งบัดนี้ เราไม่เคยเห็นว่ากิเลสตัวใดมาผ่านสายตาแห่งธรรมไปได้เลย นี่ก็คือความเด็ดขาดแห่งความดี
การทำความดีเด็ดขาดทางความดี เด็ดไปเถิดไม่มีเสีย ถ้าเด็ดชั่วเด็ดเท่าไรยิ่งเลว ยิ่งเหลวแหลกไปเลย เด็ดทางความชั่ว ถ้าเด็ดทางความดี เอาดีทั้งนั้นละ ขอให้พี่น้องทั้งหลายเด็ดเพื่อชาติไทยของเรา เด็ดเพื่อเรา เด็ดเพื่อสังคมของเรา ด้วยการสร้างความดี ให้พากันละความชั่ว
ทองคำอย่างน้อยเราตั้งไว้แล้วด้วยการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว พอดีกับกำลังวังชาพี่น้องชาวไทยเราทั้งชาติ อย่างน้อยไม่ให้ต่ำกว่า ๔ พันกิโล นี่เราก็คิดไปเรื่อยๆ แล้วก็จะหาสิ่งเพิ่มเติมเรื่อย เช่น ๘๐๐ ล้านนี้ก็จะเสริมต่อยอด ๆ ส่วน ๔ พันกิโลนี้ให้พี่น้องทั้งหลายหาเอง เข้ามาปักปันเป็นอวัยวะ แล้วก็เอาทองคำหรือเงินจำนวนนอกจากนี้ ซื้อทองคำเข้ามาต่อยอด ๆ เรื่อยๆ ไป ถ้าต่อได้ ๕ พันกิโลยิ่งดี ๖ พันกิโลยิ่งดี วาระสุดท้ายที่ให้จุใจหลวงตาบัวจริงๆ สมกับสละชีวิตออกมาเพื่อช่วยพี่น้องทั้งหลายนี้ ให้ได้ ๑๐ ตัน ถ้าลงได้ ๑๐ ตันแล้ว หลวงตาบัวจะหลับไปเลย ไม่ต้องมากุสลา ธมฺมา ให้เลยนะ ทองคำ ๑๐ ตันนี้จะกุสลาหลวงตาบัวให้หายห่วงเด็ดขาดเลย กุสลาเหล่านั้นไม่ทันหลวงตาบัวให้หายห่วงนะ
ถ้าทองคำได้ ๑๐ ตัน ในการช่วยชาติคราวนี้ หลวงตาบัวพาพี่น้องทั้งหลายขวนขวายหาทองคำได้เข้าสู่คลังหลวง ๑๐ ตันเพียงเท่านั้นแหละ ๑๐ ตันนี้แลเป็นกุสลา ส่งหลวงตาบัวหายห่วงเลย นอกจากนั้นจะนิมนต์พระมาทั่วประเทศไทยมา กุสลา ธมฺมา หลวงตาบัวทำไมด่วนตายนักหนา เราก็ไม่สนใจฟังนะ ถ้าว่าทองคำ กุสลา ธมฺมาทองคำหลวงตาบัวได้ ๑๐ ตันแล้วนา เออ ใช่แล้วไปเลย เข้าใจไหม พากันจำเอานะ นี่จุดสุดยอดของเราอยู่ตรงนั้นนะ จุดเบื้องต้น ๔ พันกิโล จุดสุดยอดของเราอยู่ที่ ๑๐ ตัน คือ ๑ หมื่นกิโล ถ้าได้นั้นแล้วเป็นอันว่าหายห่วงเลยละเรา ให้พร
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com