พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เทศน์อบรม ที่กุฏิองค์หลวงตา ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
วันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
(พูดธรรมะให้พระ และคณะแพทย์ที่มาถวายการรักษาฟัง)
...มันตั้งเป็น มันสะดุดใจพระท่านไม่รู้ หลังจากนั้นถาม!! จิตดู...เห็นพระกรรมฐานเดินตามทาง นี่ท่านจะมีสติหรือไม่หนานั่น สติสพฺพตฺถ ปตฺถิยา สติแว่นกำจัดภัย ถ้าไม่มีสติก็ไม่มีความเพียร ถ้ามีสติแล้วมีความเพียร นี่ฟัดซะพอแล้วนะนี่ ฮื่อ... ไม่ใข่ไม่ฟัดนะกับกิเลส เอาจนกระทั่งกิเลสหมอบเลยนี่ นี้เดินซอมซ่อๆ นี้ เป็นยังไงภายในนี่ เราอยากถามว่า เป็นยังไงภายในของท่านะว่ะ เราอยากถามว่าอย่างนั้น เดินกรรมฐานโก้เก๋ไป สง่างามอยู่ภายใน ไปไหนมีสติเครื่องกำจัดภัย เรียกว่าปลอดภัยตลอด เป็นอย่างนั้นแหละ นี่ไม่คุยเฉยๆ นะ เดินไปนี้ซอมซ่อๆ เหมือนไม่มีค่าไม่มีราคา นะ แต่หัวใจสง่างามจ้าอยู่นี่นั่น ให้มีเครื่องกำกับสติ มีเครื่องบังคับ เครื่องเช่นนี้ไม่ค่อยเจอง่ายๆ นะ แต่เขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว จิตนี่ฟาดกิเลสหมอบราบลงเท่านั้นแหละไปที่ไหนสง่างามกว้างไกล บางคนเขาไม่รู้เรื่อง เขาจะไปรู้อี้เหยียง (เขาจะไปรู้อะไร) พระพุทธเจ้าตรัสรู้สะเทือนโลกมานานเท่าไร ผมก็ไม่สนใจ พระองค์ก็ปล่อยแล้วปล่อยให้รู้ไปอย่างนั้นแหละ นี่เวลาจะว่าเลยว่าอย่างนั้นแหละ ก็ไม่ทันท่าน นี่ได้ฆ่ากิเลสมาแล้ว กิเลสหมอบราบเพราะธรรมมาแล้วนี่ กรรมฐานไม่มีค่า เพราะทำตัวเองไม่มีค่านี่ ถ้าทำตัวให้มีค่าแล้วไปไหนสง่างาม ไม่มีอะไรเกินกรรมฐานล่ะ ไอ้เรื่องเชื่อมีเทวดาอินทร์พรหม... ลอยลอยรอบ อนุโมทนาสาธุการด้วย ว่าจะไม่มีเทวดาหรือ ทั้งๆ ท่านที่ทรงธรรมภายในสง่างามเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมแห่ตาม แต่ท่านไม่พูด ที่พูดเขาจะว่าบ้า เขาเป็นบ้าล่ะ ถ้าท่านพูด พูดแล้วเขาก็จะว่าท่านเป็นบ้าล่ะ
แพทย์ : หลวงตาครับพอดีหลวงตามีไข้ขึ้นครับ
หลวงตา : หา
แพทย์ : พอดีหลวงตามีไข้ขึ้นนะครับ ก็เลยจะขออนุญาตตรวจสักนิดหนึ่งครับ
หลวงตา : ไม่ตรวจ หลวงตาตรวจเจ้าของตลอด
แพทย์ : ขอวัดความดันสักหน่อยหนึ่งครับ
หลวงตา : เราตรวจเราตลอด มันละเอียดละออยิ่งกว่า...ตัวนี้ เข้าใจไหมล่ะพูดอย่างนี้
แพทย์ : ครับเข้าใจครับ
หลวงตา : อย่าว่าหลวงตานี้เป็นบ้าอีกนะไอ้เจ้าของเป็นบ้าไม่รู้ ใช่หรือเปล่าล่ะ
แพทย์ : ครับๆ
หลวงตา : เห่อะๆ เพียงเท่านั้นก็เป็น เทศน์ให้ฟัง เทศน์บ้างล่ะวันนี้นานๆ พูดฉากคนนั้นฉากคนนี้ที...
แพทย์ : ครับๆ |