เทศน์อบรมฆราวาสหลังกรานกฐิน
ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อค่ำวันที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
เวลาประมาณ ๑๘.๓๕ น.
ให้พากันฝึกหัดจิตใจ
เราก็โซซัดโซเซกลับไปกลับมา ไปศาลาหลังนี้เข้ามานี้ไปศาลาเลย ทั้งวันละวันนี้ ยุ่งตลอดเลย เรานี่มันหมดกำลังแล้วละ กำลังวังชาหมดแล้ว ธาตุขันธ์ก็สะเปะสะปะเดี๋ยวนี้ แต่ใจยกเว้นนะ ธาตุขันธ์นี้สะเปะสะปะไม่เป็นท่าเป็นทางอะไร ธาตุขันธ์มันอ่อนลงพอสะเปะสะปะ ส่วนจิตใจเราไม่พูดล่ะนะ นี่ก็จวนจะตายแล้วอาจจะแย็บออกให้พี่น้องทั้งหลายฟังบ้างนะ ส่วนจิตใจของเราไม่มีปัญหา หมด หมดโดยประการทั้งปวง สว่างจ้าอยู่ตลอดเวลาอกาลิโก นั่นละใจที่ได้ชำระให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วไม่มีที่ต้องติ สว่างจ้าอยู่อย่างนี้ ยืน เดิน นั่ง นอน อิริยาบถทั้งสี่สว่างจ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเวลาไหนจะเศร้าหมอง เวลานั้นผ่องใสเวลานี้เศร้าหมองไม่มี สว่างจ้าอยู่อย่างนั้นละ
นี่การฝึกหัดอบรมจิตใจนะ ฝึกจริงๆ ฝึกใจ กิเลสนี่เป็นตัวสำคัญเป็นตัวภัยทำลายอรรถทำลายธรรม ท่านว่าภาวนาก็คือทำลายกิเลสนั้นแหละ กิเลสตัวมันทำลายธรรมเป็นข้าศึกต่อธรรมเสมอ เพราะอย่างนั้นจึงต้องได้ฝึกหัดกันอย่างหนักนะ การฝึกหัดจิตตั้งแต่บวชมานี้เรียกว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย การภาวนาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ท้อแท้ ไม่อ่อนแอ ฝึกตลอดเวลาเลย จนกระทั่งปัจจุบันนี้จิตใจก็สว่างไสว ใจก็หาที่ต้องติไม่ได้แล้ว สว่างหมดแล้ว
นี่ละการฝึกให้พากันจำเอานะ ถ้าไม่ฝึกเลยนี้ตายทิ้งเปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร นับแต่วันเกิดมาจนกระทั่งวันตาย ตโมตมปรายโน มืดมาตั้งแต่วันเกิดมืดจนกระทั่งวันตาย อันนี้ไม่เป็นท่าเลย ตโมโชติปรายโน มืดในตอนต้นแล้วค่อยสว่างไสวขึ้นไปจนสว่างจ้าในตอนปลาย นั่นเป็นอันดับที่สอง นี่คือการฝึกหัดจิตใจ ถ้าได้ฝึกแล้วอันดับที่สองก็ค่อยสว่างไสวขึ้นไป ถ้าไม่ได้ฝึกเลยก็มืดแปดทิศแปดด้าน ตโมตมปรายโน มืดตลอดไปเลย ท่านจึงสอนให้ได้ฝึกหัดจิตใจนะ
การฝึกหัดจิตใจนี้ตั้งแต่วันเริ่มบวชเราก็ดี พอเข้าบวชแล้วฝึกหัดจิตใจเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ใจก็ได้รับการอบรมสั่งสอนตัวเองตลอดมาก็ค่อยมีความสง่างามขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ฝึกหัดแล้วก็ไม่เป็นท่าละ เกิดมาอย่างไรก็ตายไปอย่างนั้น ถ้าได้ฝึกหัดแล้วจิตใจก็ค่อยสง่างามขึ้นมา ท่านเรียกว่า ตโมโชติปรายโน ในเบื้องต้นมืดบอด ในตอนปลายเข้าไปก็มีความสว่างไสวเจริญรุ่งเรือง นั่นละจิตที่ได้ฝึกหัดแล้วนะ
นี่อายุเราก็ ๙๐ กว่าแล้วนะ อายุ ๙๘ นู่นฟังซิ อายุเรานี้ได้ ๙๘ แล้ว ๙๘ ปี ตั้งแต่มาบวชนั่นละ ฝึกหัดมาตั้งแต่มาบวชเรื่อยมา เวลาไม่บวชเถลไถล เวลามาบวชแล้วไล่เข้าหลักธรรมหลักวินัย ให้อยู่ของหลักเกณฑ์ของธรรมของวินัยของหลักศาสนามันก็ค่อยรู้เรื่องรู้ราวขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นละจิตใจเรา เพราะอย่างนั้นท่านจึงสอนให้ฝึกใจนะ สอนให้พอแล้วอยู่ที่ไหนพอหมด ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นตายเสมอกันหมด จิตใจที่ฝึกเรียบร้อยแล้วไม่ได้มีข้อตำหนิ จะยืนจะเดินจะนั่งจะนอนเสมอกันหมด สว่างไสวอยู่อย่างนั้น การฝึกจิตใจเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ฝึกแล้วก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรนะ ต้องอาศัยการฝึกฝนอบรมถึงจะได้เรื่องได้ราว
ธรรมะนั่นละเป็นเครื่องชำระจิตใจคือตัวกิเลส ตัวเป็นโจรเป็นมารคือตัวกิเลส ผู้ใดมีธรรมก็รู้จักบุญจักบาปแล้วชำระจิตใจของตนด้วยการภาวนา ทำใจให้สงบ ถ้าใจค่อยสงบแล้วก็ค่อยสบายคนเรา ถ้าใจไม่สงบอยู่ไหนก็ไม่สบาย ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าก็ครวญคราง ลงไปใต้นดินก็ไปครวญครางทะเลาะกันกับพวกใต้ดินนี้อีกละ พวกเปรตพวกผีอยู่ใต้ดินก็มี อยู่ข้างบนก็มี ถ้าได้ฝึกหัดแล้วอยู่ที่ไหนก็สะดวกสบายหายห่วง
นี่ก็ได้ฝึกหัดมาตั้งแต่วันบวชล่ะ วันบวชล่ะเป็นวันเริ่มต้นฝึกหัดจิตใจมาโดยลำดับจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ไม่ได้ลดละการประกอบความพากเพียรชำระจิตใจชำระอยู่อย่างนั้น กลางคืนกลางวันไม่ว่านะ มันก็ค่อยสง่างามขึ้นมาแล้วก็ผ่องใสเย็นสบาย นั่นพากันจำเอานะ พี่น้องทั้งหลายให้พากันจำเอา แต่ก่อนก็เป็นอีตาบัวอยู่บ้านตาดนี่ละนะ ออกจากนั้นแล้วก็ไปบวช เริ่มฝึกจากนั้นละ พอเริ่มบวชแล้วก็เริ่มฝึก มีคัมภีร์มีวินัยมีศาสนาครอบไว้ตลอด ชีวิตจิตใจความเป็นอยู่ให้เป็นอยู่ในวงของเขตธรรมวินัย ก็เรียกว่าอยู่ในการฝึกเรื่อยมาอย่างนั้นละ
ฝึกหนักเข้าๆ จิตใจก็สง่างามขึ้นมา จิตที่เดือดร้อนวุ่นวายแต่ก่อนก็ค่อยสง่างามค่อยสงบ พอสงบจิตนี้ด้วยความพากเพียรโดยภาวนา ต่อมามันก็ค่อยเย็นอกเย็นใจเรื่อยๆ ไปอย่างนั้นละ ทีนี้เวลาฝึกหัดให้เต็มที่แล้วเป็นกับตายก็เท่าเดิม ไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากัน เพราะอยู่ก็พอตัว ตายก็พอตัว อยู่กับตายด้วยความพอตัวสบายไปเลย นี่ละจิตที่ฝึกหัด ถ้าไม่ได้ฝึกหัดเกิดมาจนกระทั่งวันตายไม่เกิดประโยชน์อะไร ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอานะ
การฝึกหัดจิตสำคัญมาก สำคัญมากทีเดียว เอาตัวของเรานี้เป็นข้อยืนยัน การฝึกตัวเองฝึกจิตเข้าจิตตภาวนานี้หนักมากนะ ฝึกจิตตภาวนาให้สงบเย็นใจต่อไปก็เย็นสบาย จากนั้นมาแล้วเอาจนกระทั่งจิตมันพอตัว จิตพอตัวแล้วจะอยู่ก็ได้จะไปก็ไม่เป็นอะไร เรียกว่าพอตัว นั่น จิตฝึกให้พอตัวเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่พอตัวอยู่ไหนก็เดือดร้อนนะ ให้พากันจำเอาลูกหลานทั้งหลาย
หลวงตานี้ได้เข้าศาสนามาตั้งแต่วันบวชนู่นละ เข้ามาตั้งแต่นั้นละจนกระทั่งป่านนี้ ตั้งแต่เป็นฆราวาสก็ดูเหมือน ๒๐ กว่าปีหรือ ดูเหมือน ๒๐ ปี จากนั้นก็เข้าบวชแหละก็ฝึกหัดดัดแปลงตนเองเรื่อยมา จนกระทั่งทุกวันนี้อยู่ด้วยการฝึกหัดทั้งหมด เลย อยู่ที่ไหนไปที่ไหนก็เป็นการฝึกหัดอยู่ในตัว ทีนี้การฝึกหัดอยู่ในตัวมันเลยเป็นความเคยชิน เคยชินไปเลย สบาย อยู่ที่ไหนก็สบาย ให้พากันจำเอานะ นี่ได้ฝึกมาอย่างนั้นแหละ ฝึกเอาจนกระทั่งอยู่ที่ไหนสบายหมด ไม่มีขัดข้องภายในจิตใจ เพราะได้ซักฟอกออกหมดอันไหนที่เป็นข้าศึกต่อใจชำระสะสางออกหมดเลย ใจก็สง่างาม เมื่อใจสง่างามแล้วอยู่ที่ไหนก็สง่างาม หลับตื่นก็สง่างามอยู่อย่างนั้นละ ให้พากันจำเอา
การบวชการฝึกหัดมันเป็นไปด้วยกันสำหรับผู้ตั้งใจนะ พอบวชเข้ามาปั๊บความตั้งใจมาพร้อมกัน หมุนกันติ้วๆ เลยการฝึกหัดตัวเอง แล้วก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าบวชมาแล้วไม่ฝึกหัดไม่สนใจก็เหมือนกับฆราวาสเขานั้นแหละไม่ผิดกัน ทีนี้ว่าบวชบวช ว่าฝึกฝึก เอาจริงเอาจังจริงๆ จิตใจก็สง่างามไปเรื่อยๆ นะจนกระทั่งปัจจุบันนี้สง่างาม ปัจจุบันจิตใจไม่มีว้าวุ่นขุ่นมัวที่ไหน มีแต่ความสง่างามอยู่ตลอดเวลา
นี่คือจิตใจได้ฝึกแล้ว ฝึกตลอดไม่หยุดไม่ถอยจิตใจก็สง่างามไปเรื่อยๆ พากันจำเอานะบรรดาลูกหลานทั้งหลายให้พากันฝึกหัดจิตใจของตนให้ดี ฝึกภายนอกมันฝึกนั่นละ เขาก็ฝึกเราก็ฝึก แต่ว่าฝึกลงน้ำลงตมลงโคลนลงนรกอเวจีที่ไหนก็ไม่ทราบ หากว่าตัวฝึก แล้วมันฝึกไปตามกิเลสเสียมากต่อมาก มันไม่ฝึกไปตามอรรถตามธรรม ถ้าได้ฝึกไปตามอรรถตามธรรมก็ดี พากันจำเอานะ
วันนี้จะไม่พูดมากอะไรนัก เพราะมันเหนื่อยมากแล้ววันนี้ เพียงเท่านี้ละ ต่อไปนี้จะให้ศีลให้พรแล้วก็เลิกกัน
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|