บาปละ บุญบำเพ็ญ
วันที่ 18 กันยายน 2553 เวลา 8:05 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อเช้าวันที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๓

บาปละ บุญบำเพ็ญ

          ทองคำเรานี้น่าจะได้มากอยู่นะ (ทองคำหลวงตาได้ ๑๒ ตัน ๒๕๐ กิโลกรัม เอาเข้าคลังหลวงครับ ดอลลาร์ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์เข้าคลังหลวงครับ ตึกสงฆ์ ๑๐ ชั้น ที่หลวงตาเมตตาตั้งงบประมาณไว้ ๕๐๐ ล้านบาท ทั้งตัวตึก ทั้งเครื่องมือแพทย์ ตอนนี้ได้แล้ว ๓๙๖,๒๘๙,๖๕๖ บาทครับ) ตั้งไว้ ๕๐๐ ล้าน ได้แล้ว (๓๙๖,๒๘๙,๖๕๖ บาท)

          เรื่องบุญเรื่องกุศลนี้เป็นสิ่งที่ควรแก่มนุษย์เราอย่างยิ่งทีเดียวนะ มนุษย์ฉลาดรู้จักบุญจักบาป ในขณะเดียวกันก็ให้รู้จักบาปด้วย ละ เมื่อรู้จักบุญแล้วก็ให้รู้จักบาป บาปละบุญบำเพ็ญจะอบอุ่นนะ คนมีจิตใจใฝ่ธรรมเป็นคนอบอุ่นภายในใจ ใจใฝ่ธรรมแล้วดี ใจใฝ่แต่ฟืนแต่ไฟไม่ดี

          บ้านหนึ่งๆ มีวัดประจำๆ วัดต้องเป็นหัวใจของบ้านเพื่อได้บำเพ็ญธรรม หรือเป็นที่อบอุ่น พระก็พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หาที่ต้องติตนเองว่าแยกจากธรรมวินัยไปไม่มี ตั้งใจประพฤติปฏิบัติชุ่มเย็นพระ ประชาชนญาติโยมเข้ามาเกี่ยวข้องก็ชุ่มเย็น พระก็ร้อนประชาชนก็ร้อน พระเย็นประชาชนก็เย็นด้วย นี่ละสำคัญ เพราะอย่างนั้นพระจึงนำหน้าเสมอ ไปปลูกบ้านสร้างเรือนที่ไหนต้องมีวัดประจำ บ้านน้อยวัดน้อย บ้านใหญ่วัดใหญ่ อยู่อย่างนั้นละ นี่ประเพณีของชาวพุทธเราที่พาดำเนินมาแล้วเรียกว่าถูกต้องแม่นยำ ไม่ควรจะเคลื่อนคลาดจากนี้

เราเป็นลูกชาวพุทธเกิดมาให้มีศีลมีธรรมประจำตน วันหนึ่งพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่ควรให้ขาดจากหัวใจ ไปที่ไหนให้ระลึกเสมือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ ลากสัตว์ทั้งหลายให้ขึ้นจากนรกไปสวรรค์นิพพานมีน้อยเมื่อไร จึงไม่ควรประมาท

นี่สอนโลกมาด้วยความเมตตา ไม่ได้เพื่ออะไร สอนด้วยความเมตตาล้วนๆ เช่นดุด่าว่ากล่าวเหมือนกันไม่พ้นจากความเมตตาไป ไม่ใช่ดุด่าว่ากล่าวด้วยความกริ้วโกรธภายในใจไม่มี ดุด่าว่ากล่าวด้วยความหยอกความเล่นก็มี ดุด่าว่ากล่าวหาความจริงใส่ความจริงก็มี อย่างนั้นละ ศาสนาพุทธเรานี้เป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว ให้พากันยึดไว้ให้ดีนะ

คนไม่มีศาสนานี้มันเลวกว่าสัตว์นะ คนถือวัดเป็นข้าศึกก็เลวกว่าเทวทัตไปอีกมี คนที่ถือวัดว่าเป็นข้าศึกของตัวคือไม่ยอมลง ตามทิฐิมานะเดิมที่มีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ปู่ย่าตายายพาเป็นมาด้วยความมืดบอดอย่างนั้น พอธรรมะแย็บเข้าสู่หัวใจนี้เหมือนกับว่าเกิดข้าศึกแล้วในใจ ไม่ได้เป็นความชุ่มเย็น อันนี้ระวังให้ดีอย่าให้มีในใจของเรา ในบ้านในเรือนของเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ววัดกับบ้านจะเข้ากันไม่ได้นะ ถือวัดเป็นข้าศึก พระพูดอะไรไม่ยอมฟังเสียง เพราะทิฐิมานะดั้งเดิมมันฝังอยู่ภายในจิตใจเรียกว่าในสันดาน เป็นสันดานแล้ว ให้พากันระวังนะ อย่างหนึ่งถือว่าเป็นพวกพ้องอันเดียวกันสอนก็ไม่ลงกัน ธรรมะไม่ใช่พวกพ้องอันเดียวกันนะ เป็นที่พึ่งเป็นพึ่งตาย ให้ยึดหลักธรรมนั้นละเป็นสำคัญนะ

นี่เฒ่าแก่มาเท่าไรจิตยิ่งผูกพันกับธรรมเข้าโดยลำดับ จนกระทั่งธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วไม่หาอะไร พอ ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันนั่นละถึงเมืองพอ ท่านว่าพอถึงนิพพาน นิพพานคือเมืองพอ ถ้าไม่พอก็เร่งเข้าเร่งเข้า เหมือนเรารับประทานอาหารหิวขนาดไหนก็มาเถอะ พ้นความรับประทานไปไม่ได้ ต้องอิ่ม นี่เราก็ให้บำเพ็ญความดีงาม อย่าอยู่ไปเฉยๆ ทั้งที่ที่มีวัดมีวา เห็นครูบาอาจารย์เลยเป็นข้าศึกก็มี อันนี้มีเยอะ เพราะจิตใจเป็นเทวทัตอยู่ภายในใจมีอยู่ทั่วไป ไม่ยอมฟังเสียงมี แต่ไปพูดก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่สอนกลางๆ ให้เอาไปพิจารณานะ

พระพุทธเจ้าท่านก็เกิดกับมนุษย์นั่นแหละ แต่ท่านเป็นศาสดาเอกของโลกได้เพราะอะไร เพราะท่านฝึกท่าน ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ไม่ได้ฟังเสียงทิฐิมานะ โกรธแค้นซึ่งกันและกันห้ากัปห้ากัลป์ก็ไม่เลิกแล้ว แล้วกลายเป็นผู้ก่อกรรมก่อเวรกันไปมีเยอะนะ พากันจำเอา

วันนี้ไม่เทศน์มาก เทศน์เท่านี้แหละ เหนื่อย เดี๋ยวนี้เหนื่อยนะ ไม่เหมือนแต่ก่อน เหนื่อย เดินไปก็โซซัดโซเซ พูดก็เหนื่อย ไม่เหมือนแต่ก่อน ต่อไปนี้จะให้พร

อยู่ในป่าในเขาเวลาจำเป็นจริง ๆ มันสละนะ ทีแรกก็กลัว ไปอยู่ที่ไหนก็กลัว ในป่าในเขาลึกเท่าไรยิ่งกลัว ความกลัวตายนี้กลัวกันทั้งโลกแล้วก็ตายกันไปทั้งโลก ไม่เห็นใครพ้นจากความกลัวเป็นคนไม่ตายได้เลย สอนเจ้าของ จากนั้นเราจะปฏิบัติตัวอย่างไร สอนเจ้าของให้กล้าหาญต่อความตาย เอาเสียจนกล้าหาญจริงๆ สละหมดเสียจริงๆ แล้วเหมือนว่าไม่มีค่ามีราคาคนเรานะ เมื่อสละหมดทุกอย่างไม่มีค่ามีราคา มีแต่ธรรมภายในใจเลยเกิดความกล้าหาญขึ้นมา ชุ่มเย็นหมด ในป่าในเขาซึ่งเป็นที่น่ากลัวกลายเป็นที่ร่มเย็นไปหมด เป็น นี่เป็นในหัวใจเราเคยเป็น เวลาไปรบกับความกลัวในสถานที่น่ากลัวมากๆ นั้นละเป็นนะ ฝึกเจ้าของ

นี่ขี้ขลาด ตั้งแต่เป็นฆราวาสขี้ขลาด ขี้ขลาดมากทีเดียว พี่ชายเขากล้าหาญ  เขาจะไปที่ไหนเขาไป กลางคืนมันก็ไป ชื่อคำไพ เรื่องอาจหาญนี้คำไพได้ตา ตาเป็นคนอาจหาญจะไปที่ไหนกลางวันกลางคืนไปเลย ไอ้คำไพพี่ชายได้กับตา ตาบัวคนขี้ขลาดไปที่ไหนไม่ได้ เสือทั้งโลกนี้จะมากินเราคนเดียว เป็น แต่ว่าไม่พ้นความฝึกหัดนะ ทั้งสอนเจ้าของหาอุบายสอนเรื่อยแล้วมันก็กล้าหาญเอง เข้าฝึกกรรมฐานอยากเห็นฤทธิ์อยากเห็นดำเห็นแดงกันให้เข้าฝึกกรรมฐาน ที่ใดกลัวยิ่งไป จนกล้าหาญแล้วสุดท้ายก็ชิน อยู่ที่ไหนมันก็กลัวก็ไม่เห็นตาย แน่ะ เขาอยู่ในบ้านเขาก็กลัวเขาไม่ตาย เราอยู่ในป่าทำไมจะกลัวตายคนเดียว ตายคนเดียววะ หาญ ไม่กลัว เอาละนะเลิกกัน ให้พรแล้วนะ

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz

            พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก