ทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อเช้าวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
ผู้สิ้นกิเลสคือผู้หมดงาน
วัดถ้ำกลองเพลเมื่อไร (วันที่ ๒๙ ครับ) วันที่จำไม่ได้ พอจำได้บ้างแต่ว่าได้ไป (เอาของไปให้ ๑๐ คันรถ) ไม่ใช่รถเปล่าเหรอ ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านเพ็งนานแล้ว ตั้งแต่หลวงปู่ขาวเสียไปเราก็ห่างไป ไปวัดถ้ำก็ห่างไปๆ ระยะนี้ห่างมากก็เลยไปเยี่ยมท่านเพ็ง ไปเยี่ยมแล้วก็มา (เอาของไปให้ ๑๐ คันรถ) เอาของไปให้ จัดกี่คัน (๑๐ คันครับผม) ๑๐ คันรถไปวัดถ้ำกลองเพล ผู้มีก็เฉลี่ยกันไปซี ผู้ไม่มีอดจริงๆ ผู้มีกินท้องแตกได้เลย ต้องเฉลี่ยกันไป เฉลี่ยให้ทั่วถึงกัน
หลวงปู่ขาวท่านเสียไปหลายปีเหรอวัดถ้ำกลองเพล ดูเสียไปหลายปีแล้ว นั่นก็เพชรน้ำหนึ่งนะหลวงปู่ขาว ได้เคยฟัดกันว่าอย่างนี้เลยละ ต่างคนต่างเตรียมใส่กัน ทราบมาร่ำลือว่าท่านอาจารย์ขาวเป็นอย่างนั้นๆ ทางนู้นก็ร่ำลือมาอีกว่ามหาบัวเป็นอย่างนั้นๆ ทีนี้ก็อยากจะทราบเรื่องราวความจริง เอากันจริงๆ ไปก็ซัดกันเลย โอ๋ยรื่นเริงนะ ธรรมะต่างเข้าหากันอย่างนี้นะรื่นเริง แล้วท่านก็จริงของท่านเด็ด ขาดสะบั้นไปเลยกิเลส อยู่ที่นั่นๆ ท่านบอกเลยนะ เราก็ซ้ำอีกเต็มเหนี่ยวเราเหมือนกันนะ (โรงขอด อำเภอพร้าว) ได้ยินว่าโรงขอด อำเภอพร้าว เราไม่ทราบว่าบอกหรือไม่บอก แต่คงทนไม่ไหวล่ะ ลงได้ขนาดนั้นแล้วต้องใส่ตูมเลย อยู่ที่ไหนๆ
(ที่หลวงตาได้คุยกันตั้งแต่ ๒ ทุ่มยัน ๒ ยามใช่ไหมครับ พอ ๒ ยามแม่ชียุวดีมานั่งฟังจนหมด) แม่ชียุวดี ขึ้นไปวันนั้นไม่มีใคร เปิดเต็มที่ต่างคนต่างเปิดใส่กัน หลวงปู่ขาวก็เปิดเตมที่ เราก็เปิดเต็มที่ นั่งอยู่ข้างใน ข้างนอกมันมีฝาแม่ชียุวดีมานั่งอยู่ข้างนอก ติดกัน เรานั่งพิงเสาอันนี้ แม่ชียุวดีพิงเสาจะว่าพิงเสาก็ได้มาอยู่ข้างนอก ฟาดกันเต็มเหนี่ยวเลย พอเสร็จแล้วเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว แอะๆ นั่นใครมาแอะๆ อยู่นี่ ดิฉันชื่อยุวดี มาแต่เมื่อไร มาแต่ ๒ ทุ่ม ๒ ทุ่มขึ้นเวที มาหาอะไร ว่าอะไรก็ว่าซิมันเต็มท้องมัน แล้ว ไล่มันก็ไปไม่ไล่มันก็ไปมันอิ่มล่ะ.....ใส่กับหลวงปู่ขาวเอากันเต็มที่
มีเท่านั้นละหลวงปู่ขาวหนเดียว ให้สมกับหิวกระหายอยากพบกันเรื่องธรรมภายใน ท่านก็เปิดเต็มที่เราก็เปิดเต็มที่ใส่กัน พอเสร็จแล้ว แอะๆ อยู่ข้างๆ นี่ นั่นมันใครมาอยู่ที่นี่ ดิฉันชื่อยุวดี หมดตับว่ะ หมดจริงๆ ก็เราเปิดใส่กันเต็มเหนี่ยว เรียกว่าหมดไส้หมดพุงพวกเรา มันเอาไปกินหมด ไม่ไล่มันก็ไป มาอะไรไป ไม่ต้องบอกมันเต็มท้องแล้วมันก็ไปเลย หลวงปู่ขาวเอากันเต็มที่ เอาจนสถานที่เป็นอย่างไรๆ เราก็เหมือนกันนั่นละ เปิดเต็มที่เหมือนกัน
ธรรมะภายในเวลาออกมันโล่งหมดเลยนะ มันไม่เหมือนภายนอกที่เราจดจำเอามาจากที่นั่นที่นี่ อันนั้นมันหนอนแทะกระดาษ แทะตัวเลยมันถึงกระจ่าง นี่เอาตัวเลยนะนี่ ฟาดกิเลสหายเงียบเลย นั่นเห็นไหม เวลาหมดงาน พระอรหันต์หมดงาน ไม่มีงานทำ ท่านผู้สิ้นกิเลสแล้วหมดงาน งานก็มีแต่งานฟัดกับกิเลส พอกิเลสม้วนเสื่อลงแล้วหมดงาน เรียกว่าคนหมดงาน ถ้าว่าจะทำอะไรไม่ทำอะไรไม่เห็นมีอะไรเดือดร้อนเลย ไม่มี วันนี้ได้ทำอะไร วันนี้ได้ทำอะไรอย่างนี้ไม่ได้คิดล่ะ คือมันโล่งอยู่แล้ว โล่งอยู่ในหัวใจ เปิดโล่งหมดเลย ท่านเรียกคนหมดงาน ท่านจึงหมดแท้หมดงาน ไม่มีงานทำ ถึงจะทำอะไรอยู่ธรรมดาก็เหมือนไม่ทำ เพราะงานใหญ่ระหว่างกิเลสกับธรรมฟัดกันมันม้วนเสื่อลงแล้วมันก็โล่งไปหมดละซิ
นี่พูดจริงๆ เอาถึงขนาดนั้นแหละ เอาถึงกิเลสม้วนเสื่อเลย โล่งหมดเลย ตั้งแต่นั้นมาโล่งตลอด ไม่เห็นมีวันคืนปีเดือนอะไร ก็มีแต่มืดกับแจ้งเท่านั้นละ คิดว่าจะไป อย่างไรมาอย่างไร ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนๆ หมดปัญหาโดยประการทั้งปวง หมดอยู่ที่หัวใจ ขาดสะบั้นไปจากกันหมดระหว่างสมมุติกับวิมุตติ ขาดจากกันมันขาดอย่างนั้น ให้มันเห็นชัดๆ ภายในใจซิผู้ปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติเฉยๆ สักแต่ว่าปฏิบัติ สักแต่ว่าสักแต่ว่า ถ้าทำเอาให้มันจริงจังซิ นี่เอาจริงๆ นะนี่ ถ้าว่าทำอะไรเอาจริงๆ นะ ถ้าไม่ทำหากไม่ทำ ถ้าลงทำแล้วเอาจริง
นี่ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนไม่มี หมด หมดในหัวใจ ขาดหมดเลยระหว่างสมมุติกับวิมุตติขาดจากกัน ขาดสะบั้นเลย ทีนี้มันก็โล่งตลอดซิ ไม่คำนึงถึงวันคืนปีเดือน งานการได้อะไรเสียอะไรไม่มี มันหมด ท่านจึงเรียกว่าหมด ไม่มีงาน พระอรหันต์ไม่มีงานทำ ว่างงาน คนว่างงานคือท่านสิ้นกิเลส ถ้ากิเลสยังมีอยู่มากน้อยงานมี กิเลสสิ้นซากลงไปหมดแล้วหมด งานไม่มี ไม่มีงาน ตื่นขึ้นมาแล้วเป็นอันตื่น หลับก็หลับไป ที่จะไปคิดถึงนั้นถึงนี้ไม่มี มันหมด มันหมดอยู่ในปัจจุบัน มันขาดสะบั้นจากกันอยู่ในนั้นแล้วไม่มีเงื่อนต่อ มันก็หมดของมัน อย่างนั้นซิการภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้น
นี่เอาจริงล่ะนี่ ถ้าว่าเอาเอาจริงๆ นิสัยอันนี้เป็นอย่างนั้น ฟาดกับกิเลสก็ขาดสะบั้นเลย โล่งหมดตลอด ตั้งแต่วันนั้นโล่งเลย ไม่มีวันไหนที่ว่ากิเลสมาแทรก เหอ กูนึกว่ามึงตายหมดแล้วทั้งโคตรมึง มึงเอาโคตรไหนมานี่มาซัดกับกูนี่ไม่มีเลย หมด อย่างนั้นซี ผู้สิ้นกิเลสแล้วนั่นละคือผู้หมดงาน กิเลสสิ้นไปแล้วหมดงาน อยู่ก็อย่างว่างเปล่าเลยผู้สิ้นกิเลสแล้ว ผู้สิ้นกิเลสยังมีอยู่ตัวยุ่ง ยุ่งทั้งวันทั้งคืน หลับตื่นลืมตายังฝันเป็นบ้าไปอีก นั่นละกิเลส พอกิเลสขาดสะบั้นลงไปแล้วไม่มี ไม่มีงาน หมด คนว่างงานคือผู้สิ้นกิเลสแล้ว ว่างงานนั่นว่างแท้ ว่างตลอดเลย เรียกว่าคนว่างงาน
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|