ทหาร ตำรวจเป็นสำคัญ จะรักษาชาติไทยไว้ได้ (คณะโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบก-สดุดีหลวงตาภาษาจีน)
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2543 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

ทหาร ตำรวจเป็นสำคัญ จะรักษาชาติไทยไว้ได้

ก่อนจังหัน

(โอวาทคณะนายทหารโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบก)

ท่านทั้งหลายเป็นทหาร เป็นลูกของชาติไทยเรา ไม่มีใครที่จะรักชาติไทยเรายิ่งกว่าทหาร ตำรวจ นี้เป็นหัวใจของชาติไทยเรา เวลานี้ชาติไทยเราก็ดี ก่อนหน้ามาตั้งแต่บรรพบุรุษก็ดี ถือปัจจุบันนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่ว่าศูนย์กลางก็ดี และจะเป็นไปข้างหน้าก็ดี ทหารทุก ๆ ท่านคือลูกแห่งชาติไทยของเรา ลูกกับพ่อกับแม่นี้จะแยกกันไม่ออก อะไรผ่านเข้ามาที่จะมาทำลายพ่อแม่นี้ ลูกต้องเอาคอขาดแทนเลย นี่เรียกว่าลูกรักพ่อรักแม่ ทหาร ตำรวจ ของเราก็เช่นเดียวกัน คือลูกแห่งชาติไทย อันใดที่จะมาแตะต้องทำลายส่วนรวมซึ่งเป็นหัวใจของชาติไทยเรา ซึ่งเป็นเหมือนกับพ่อกับแม่แห่งเราทั้งหลาย ซึ่งเป็นตำรวจ ทหาร ตลอดพลเรือนทั่ว ๆ ไปนั้น เราต้องต่อสู้ ต้องรักษาสุดเหวี่ยง เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อชาติไทยของเรา คือพ่อแม่ของเรานี้โดยถ่ายเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นไม่เรียกว่าทหาร

คือคำว่าทหารนี่ต้องเป็นนักสู้เพื่อตัวเอง ชาติของตัวเอง สมบัติทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเอง พร้อมกับคนไทยทั้งชาติ นี้เรียกว่าทหารคือลูกที่ดีของพ่อของแม่คือชาติไทยของเรา วันนี้ท่านทั้งหลายก็ได้มาเยี่ยมหลวงตาบัว ทางศาสนานี้ก็คือว่าศาสนานี้ครอบหมด ทั้งประเทศชาติ ทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ที่เป็นลูกแห่งชาวพุทธของเรานี้ เรียกว่าศาสนาเป็นเครื่องครอบทั้งหมด แล้วศาสนานี้เป็นคุณต่อโลกต่อสงสารมานาน ไม่เคยมีพิษมีภัยแม้เม็ดหินเม็ดทรายต่อสัตวโลกแต่อย่างใดเลย ทำประโยชน์ให้โลกเรื่อยมา ดังพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมานี้ก็สั่งสอนสัตวโลก ประพรมให้มีความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดมาถึงพุทธศาสนาที่มีอยู่ในเมืองไทยของเรา เรียกว่าเราเป็นลูกแห่งชาวพุทธ

เวลานี้ก็พอดีเป็นจังหวะที่หลวงตาบัว ซึ่งจะพูดว่าเป็นลูกศิษย์ตถาคตก็ไม่ผิด เพราะลูกศิษย์ตถาคตก็คือพระ ตั้งหน้าปฏิบัติด้วย สุปฏิปนฺโน อุชุ ญาย สามีจิปฏิปนฺโน ผลได้มาเป็นที่พึงพอใจ คือองค์นั้นสำเร็จโสดา องค์นี้สำเร็จสกิทาคา องค์นั้นสำเร็จ อนาคา องค์นี้สำเร็จอรหันต์ตัดกิเลสขาดสะบั้นไปจากจิตใจ แล้วนำสรณะทั้งสามนี้มาสั่งสอนสัตวโลก หลวงตาบัวแม้จะเป็นตัวเท่าหนูก็ตาม แต่จิตใจเราก็เป็นลูกศิษย์ตถาคต นำธรรมคือความร่มเย็นนี้มาประพรมให้พี่น้องทั้งหลาย ด้วยการแนะนำสั่งสอนทุกแง่ทุกมุม เริ่มตั้งแต่ช่วยชาติบ้านเมือง ออกมาเป็นเวลาเกือบ ๓ ปีนี้แล้ว นี่เพื่อจะเอาน้ำมาดับไฟคือความทุกข์ร้อนแห่งชาติไทยของเรา เรียกว่าไฟ

ไฟมีอยู่กับทุกคน น้ำคือธรรมก็มีอยู่กับทุกคน ได้เอาน้ำนี้มาดับไฟ เพื่อพี่น้องชาวไทยทั้งหลายจะได้รับความร่มเย็นเป็นสุข และแน่นหนามั่นคงต่อไปด้วยการรักชาติ ด้วยการบำรุงชาติ เสียสละโดยทั่วกัน ชาติไทยของเราจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยเราทั้งหลายที่เป็นลูก คือ ทหาร ตำรวจ นี้เป็นสำคัญมาก จะรักษาชาติไทยของเราไว้ได้ นอกนั้นไม่มีใครรักษาได้ เพราะอำนาจสิทธิ์ขาดทุกอย่างอยู่กับเราที่เป็นลูกของชาติ ได้แก่ทหาร จึงขอฝากความไว้วางใจและความร่มเย็นเป็นสุขนี้ให้อยู่กับชาติไทยของเราทุกคน มีตำรวจ ทหาร เป็นต้นที่จะรักษาสมบัติอันนี้ คือความแน่นหนามั่นคงจากความรักชาติของเรานี้โดยทั่วกันนะ

ต้องขออภัยเวลาพูดนี้หลงหน้าหลงหลัง ไม่เหมือนแต่ก่อน ต่อไปนี้ก็จะให้ศีลให้พร พากันจำเอานะ แล้วผู้หญิงก็เป็นทหาร ผู้ชายก็เป็นทหาร ฟังอีกบทนี้บทสุดท้ายนะ ผู้หญิงเป็นทหาร ผู้ชายเป็นทหาร แทนที่จะไปต่อสู้กับข้าศึกศัตรูและสิ่งไม่ดีทั้งหลายพวกเมืองนอก เดี๋ยวมาเป็นหมากัดกัน แทนที่จะไปต่อสู้กับข้าศึกศัตรูและสิ่งไม่ดีทั้งหลายเมืองนอก เดี๋ยวมาเป็นหมากัดกัน ผัวกับเมียทะเลาะกันใช้ไม่ได้นะ เอาละพอ ทีนี้ให้พร…

เออ เอาละ ฝากทั้งอรรถทั้งธรรม ฝากทั้งทางโลก การอยู่ร่วมกันผัวเมีย คำว่าผัวเมียนี้ตามศัพท์ธรรมะนะ จะอยู่ด้วยกันเป็นผาสุก เพราะผัวเมียมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่เรียกว่าธรรม แต่ถ้าเป็นเรื่องของกิเลสตัณหาแล้วเป็นข้าศึก ผัวเมียกลายเป็นหมากัดกันไป ผัวก็จะไปหาอีหนู เมียก็จะไปหาไอ้หนู ต่างคนต่างหาไม่พอ ได้มาแล้วเป็นผลเรียกว่าหมากัดกัน ผลที่สำคัญคือว่าเจ็บทุกตัว ผัวก็เจ็บ เมียก็เจ็บ ให้ต่างคนต่างเย็น แล้วฝากคำสุดท้ายไว้ฟังให้ดีนะ คำสุดท้ายนี้เป็นคำสำคัญมาก ผู้หญิงมีกี่คนก็ตาม ไม่ได้ผิดอะไรกับเมียของเราคนเดียวนี้ ทุกอย่างมีครบทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วผู้ชายมีเต็มโลกก็ตาม ไม่ได้ผิดอะไรกับผัวของเราที่มีครบครันทุกอย่าง เครื่องให้ความอบอุ่นตายใจซึ่งกันและกัน คือฝากเป็นฝากตายต่อกัน มีผัวเดียวเมียเดียวเท่านั้นซึ่งเป็นที่เหมาะสมมาก อย่าให้เลยนี้ไปจะเป็นวิชาหมากัดกันไม่หยุดไม่ถอย เอาละครั้งที่สอง พอ

หลังจังหัน

เมื่อวานนี้ได้พูดแล้วว่าลืมสนิท..ผ้าห่ม โถ แปลกอยู่นะ มันเป็นยังไงไม่ทราบ กรรมทางไหนหนัก กรรมทางไหนเบา เตรียมท่าไปเมื่อวานนี้ไปเกษตรสมบูรณ์ตั้งใจไปถามเรื่องผ้าห่มนะ พอไปมันเริ่มผิดตั้งแต่แรก เข้าไปทางหน้าโรงพยาบาลที่ควรจะไปจอดที่นู่น ฟาดไปจอดที่หลังโรงพยาบาล ดูซิน่ะ จากนั้นก็ผิดไปเรื่อย ไปเลยพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้จบแล้วมาเลย จนกระทั่งจะถึง จ.หนองบัวลำภู ถึงระลึกได้ โอ๊ย ตาย ที่จะพูดเรื่องผ้าห่ม หายเงียบ ตั้งแต่จากนี้ไปละลืมเลย ไม่ได้คิดสักนิดเดียวตั้งใจจะพูดถึงผ้าห่มนะ ได้ปรึกษากับพระที่ไปด้วยกันแล้วจะทำยังไง เลยตกลงกันว่า ไปทางโน้นแล้วถามว่า ควรติดต่อทางไหนก็เอา..ผ้าห่ม ติดต่อทางโรงพยาบาลแล้ว บอกให้โรงพยาบาลมาติดต่อทางร้านแล้วส่งให้

ปรึกษาหารือกันดิบดีนะ ไปแล้วลืมเงียบเลย จนกระทั่งมาถึง จ.หนองบัวลำภู กลับมาถึงระลึกได้ โอ๊ย ตาย พระท่านก็ไม่กล้าจะเข้าไปตอนนั้น มีแขกคนเต็ม ท่านอยู่ห่าง ๆ หรืออาจจะลืมไปด้วยกันก็ไม่ทราบ เราก็เลยลืมสนิทเลย ก็มีแต่ถามเป็นคำกลาง ๆ ไปว่า แล้วมีความจำเป็นอะไรบ้าง จะควรจะแยกจะแยะอะไร เราว่าอย่างนั้นแล้วก็ยังมีอีกว่า ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นมากนักก็ขอผ่านไป เราก็ว่าอย่างนี้นะ ทางนั้นก็บอกว่าเวลานี้ยังพอเป็นไปยังไม่มีอะไรจำเป็น เอ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ให้เราหมุนไปทางอื่นเสียก่อน เราก็ว่าอย่างนั้น พูดอย่างนั้นแล้วยังระลึกผ้าห่มไม่ได้เลยนะ อู๊ย มันแปลกเหลือเกิน กลับมาจนกระทั่งจะถึง จ.หนองบัวลำภู ถึงสะดุดกึ๊ก อู๊ย ตาย เอ๊ มันกรรมยังไง กรรมความเซ่อของเราหรือกรรมของเขา ทำให้คิดนะ ก็เตรียมไปแหละช่วยผ้าห่มเป็นอันดับหนึ่ง เพราะทางโน้นอยู่ใกล้ภูเขามันหนาว แล้วลืม

ทางก็ดีอยู่ จากนี้ไปชุมแพแล้วพุ่งใส่ภูเขียว พอไปถึงตัว อ.ภูเขียวแล้วพุ่งตะวันตกเลย พอถึงภูเขียวแล้วเรียกว่าถึงตลาดว่างั้นเถอะ แล้วตัดออกตะวันตกแน่วเลยนะ ทางตรงแน่วเลย ๒๒ กิโล จากภูเขียวไปเกษตรสมบูรณ์ ๒๒ กิโล รถวิ่งไม่ถึงไหนก็ถึงแล้ว ๑๔-๑๕ นาทีด้วยซ้ำ เพราะทางตรงแน่วด้วย รถไม่มี ไม่ต้องรอที่ไหน

ทองที่โยมแม่ท่านวันชัยเอามาเมื่อวานนี้ ๒ กิโล ๗ บาท ๕๖ สตางค์พึ่งจะมานับวันนี้ ดอลลาร์ ๑๗๑ ดอลล์ ที่เราได้เมื่อวานนี้นะ เราไปกรุงเทพคราวนี้ เวลานี้ได้ ๒๐๗ กิโลแล้ว ถ้าได้ ๔๐๐ กิโลก็หลอม ไปคราวนี้ก็ต้องหลอม แต่ถ้ายังไม่ถึง ๔๐๐ กิโลเราก็ยังไม่หลอม เรียกว่าไปเร่ง ว่างั้นเถอะ เร่งให้ถึงนั้น ไปคราวหลังก็หลอม ไปคราวนี้มีสองอย่าง ถ้าพอได้หลอม คือ ๔๐๐ กิโลแล้วเราก็หลอม ถ้าไม่ถึง ๔๐๐ กิโลเราก็เร่งใส่จุดนั้น พอไปเที่ยวหน้าก็หลอมเลย กะไว้อย่างนั้น

รวมทั้งหมดทองคำเราเวลานี้ได้ ๒,๒๗๐ กิโลแล้วเวลานี้ รวมทั้งหลอมและยังไม่หลอม ที่ยังไม่หลอมเวลานี้ได้ ๒๐๗ กิโล ๕๕ บาท ที่หลอมแล้วและทั้งมอบทั้งฝากอยู่ในแห่งเดียวกัน อันนี้ยังไม่เข้า ๒๐๗ กิโลนี้ฝากไว้ที่ตู้นิรภัยตามธนาคารต่าง ๆ เสียก่อน พอหลอมแล้วทีนี้ก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าฝากหรือมอบ แล้วแต่เหตุการณ์ที่ควรแบบไหน ที่เราเป็นที่ลงใจ เกี่ยวกับส่วนรวมลงใจแล้วเราก็มอบ ถ้ายังไม่ลงใจไม่มอบ

อย่างไรก็ตามเราเชื่อในเจตนาของเราที่สุดยอดเลยนะ เชื่อพี่น้องชาวไทยเรา อย่างน้อยคราวนี้พื้นฐานของทองคำเราต้องให้ได้ ๔,๐๐๐ กิโลเลย จึงได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า ขาดสตางค์หนึ่งไม่ได้ เรียกว่าเด็ดขาดจุดนั้น ถ้าทองคำนี้ได้ขาดไปหนึ่งสตางค์จากจำนวน ๔,๐๐๐ กิโลแล้ว คอเมืองไทยเรานับแต่คอหลวงตาบัวไปต้องขาดหมดเลย นี่ละความเด็ดเด็ดขนาดนั้นนะ ทีนี้ทองคำจะขาดหนึ่งสตางค์นี้ เงินสตางค์หนึ่งเหรอตัดคอชาติไทยของเราทั้งชาติได้ ใครจะไปยอมตัด อย่าว่าแต่สตางค์หนึ่งเลย ฟาดมาสักกี่โลว่างั้นเลย เข้าใจไหม คอใคร ๆ ไม่รักไม่สงวน ทองคำเพียงสตางค์สองสตางค์นี้มาตัดคอคนทั้งชาติมีอย่างเหรอ ต่างคนต่างฟัดเลย ทองคำสตางค์หนึ่งตกทะเลไม่รู้ตัวเลย เข้าใจไหม ต้องอย่างนั้นซิถึงเรียกว่านักรบ ไม่ใช่นักหลบ

พูดอย่างนี้เราก็ยังไม่ลืมพ่อแม่ครูจารย์พูดให้เรา พอลงมาจากภูเขา คราวนั้นมันผิดปกติ เราก็ไม่ได้ป่วย ปกติฝึกเจ้าของถ้าลงขึ้นเวทีก็อย่างว่า ไม่มีกรรมการแยก ซัดกันเต็มเหนี่ยวทุกกิทุกกี แต่คราวนี้ไม่เหมือนคราวที่แล้ว ๆ มา แต่ก่อนซูบผอมมีแต่หนังห่อกระดูกลงมาทุกครั้ง ๆ ท่านก็ดูธรรมดา ท่านก็รู้นี้มันคงเอาเต็มเหนี่ยว คงว่างั้นนะ แต่ครั้งนี้ไม่เป็นอย่างนั้น มันจะเป็นดีซ่านหรืออะไรไม่รู้ อยู่บนภูเขาเหมือนกันไม่ฉัน พอลงมาหาท่าน ตัวนี้เรียกว่าซูบผอมเหมือนแต่ก่อนนั่นแหละ แต่สีผิวมันเหลืองไปหมดทั้งตัวเหมือนทาขมิ้น เหลืองหมดทั้งตัว พอมาก้มกราบท่าน ท่านคงอะไร ภาษาโลกเขาว่าท่านตื่นหรือตกใจนั่นแหละ เพราะนอกจากซูบผอมดังที่เคยเป็นมาแล้ว ยังเหลืองหมดทั้งตัวอีกด้วย นี่ผิดปกติมาก ท่านคงจะคิดอย่างนั้น

ท่านขึ้นทันทีเลย พอกราบท่าน เฮ๊ย ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ ท่านพูดขึ้นมาอย่าง ลักษณะทางโลกเขาเรียกว่า ตกใจ เฮ๊ย ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ เราก็นิ่งคอยท่านจะออกแง่ไหน จอมปราชญ์ของเล่นเมื่อไร คอยฟังท่านจะออกแง่ไหนคราวนี้ เรานิ่งเฉย สักเดี๋ยวขึ้นแล้ว พอพูดออกมานั้นเหมือนหนึ่งว่าจะทำให้เราจิตใจอ่อนลงไป ไม่มีกำลังต่อสู้ต่อไป เหมือนกับว่าทำให้อ่อนลง ท่านพูดมาประโยคหลังนั่นแก้กันทันที มันต้องอย่างนี้จึงเรียกว่านักรบ นั่นเห็นไหมล่ะ ท่านปลุกขึ้นทันทีเลย ท่านพูดอย่างนั้นเหมือนกับว่าจะทำให้ใจเราอ่อนลง กำลังไม่เข้มแข็ง ท่านเลยปลุกเสียใหม่ มันต้องอย่างนี้จึงเรียกว่านักรบ เท่านั้นพอ เราก็ฝังใจไม่ลืม

ทองคำเราก็เหมือนกัน เราต้องเอาแบบนี้เข้ามาใช้ แบบเราที่ทำมา แบบพ่อแม่ครูจารย์เตือน ปลุกใจ ทั้งสองอย่างได้เป็นแบบทั้งสองเลย ถ้าว่า เฮ๊ย ทำไมเป็นอย่างนี้ ทหารจะอ่อนตัว กำลังรบไม่พอแล้ว ดีไม่ดีแพ้ พลิกทีหลัง เอ้า มันต้องอย่างนี้จึงเรียกว่านักรบ คึกคักเลย ฟังซิอุบายของท่าน ท่านจะทำให้เสียประโยชน์อะไร ก็ท่านสอนเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่หลวงอยู่แล้ว ท่านพลิกทันทีเลย

บางทีท่านพูดหยอกเล่นเหมือนกัน เพราะท่านเห็นนิสัยผาดโผน ท่านรู้แล้วนิสัยของเรามันผาดโผนแต่ไหนแต่ไรมา ว่าอะไรมันผึงเลยทันที เวลาจะไป ขู่พระทั้งหมดแล้ว พอว่าจะไปองค์เดียว เอ้อ ขึ้นเลยทันที ใครอย่าไปยุ่งท่านนะ ชี้เลย ชี้ไปทางข้าง ๆ พระนั่นแหละ ใครอย่าไปยุ่งท่านนะ ท่านมหาไปองค์เดียว ใครจะไปยุ่งก็ร่มโพธิ์ร่มไทรอยู่นั่น ไอ้เราก็ไม่เคยสนใจกับใคร มีแต่มุ่งต่อเราอย่างเดียว ท่านขึ้นทันทีเลย เอ้อ ใครอย่าไปยุ่งท่านนะขึ้นเลย เสียงเข้มแข็งเสียด้วยนะ ชี้นิ้วส่ายไปอย่างนี้ด้วย ใครอย่าไปยุ่งท่านนะ ท่านมหาจะไปองค์เดียว

บทเวลาจะไปจริง ๆ เราเตรียมแล้ว เวลาจะไปท่านพูดหยอกเล่นเราไม่ลืมนะ เอาดี ๆ นะท่านว่า ท่านก็รู้อยู่แล้วเราเป็นยังไง ท่านพูดหยอกเล่น เอาดี ๆ นะ เราก็รู้ บางทีท่านก็ยังมีฟังซิ เวลาพูดกับเรา เอาดี ๆ นะ เราก็ไม่ลืมอย่างนี้ มาหาท่านทีไรเป็นอย่างนั้น เราไม่อยากจะพูดว่ามีสับกันบ้างอย่างนี้ไม่มี มีแต่อย่างเดียว หนังห่อกระดูกลงมาเลยเทียว เรียกว่าเต็มเหนี่ยว ทำขนาดไหนไม่รู้ แต่ร่างกายนี้บอกชัดเจนว่าฟัดเต็มเหนี่ยว อย่างนั้นทั้งนั้น เพราะฉะนั้นท่านจึงบอกไม่ให้ใครไปด้วย ให้ไปองค์เดียว คนอื่นไม่ได้นะ แม้แต่ไปสององค์ยังไม่ยอมให้ไปก็มี ไปสององค์ให้ไปก็มี คู่กันไปมี บางทีไปสององค์ยังไม่ให้ไป ไม่ให้ไป นั่นท่านชี้ขาดเลย ท่านพิจารณาเรียบร้อยแล้ว อย่างนั้นก็มี แต่เรานี้ เอ้อ ท่านมหาไปองค์เดียว ใครอย่าไปยุ่งท่านนะ อย่างนั้นก็มี

นี่เราพูดถึงเรื่องว่าเราช่วยพี่น้องชาวไทยเรา ขอได้เห็นใจ ใจของหลวงตาบัวอยู่กับพี่น้องชาวไทย อุ้มทั้งประเทศเลยนะ ไม่ได้อ่อน เพราะฉะนั้นกิริยาที่แสดงออกมาจึงออกมาจากกำลังใจทั้งนั้น กำลังใจที่จะอุ้มชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะเด็ดเดี่ยวขนาดไหน ดุดีอย่างไหนก็ตาม มีแต่แบบยกทั้งนั้นเราไม่มีแบบทำลาย เราพูดได้ตรง ๆ ในหัวใจเราไม่เคยปรากฏเลยว่ามีแบบทำลายต่อพี่น้องชาวไทยทั้งชาติเรา ไม่เคยมี จะเด็ดจะเดี่ยวออกขนาดไหนมีแต่ยก ๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจึงขอให้เห็นใจและต่างคนต่างอุตส่าห์พยายาม

มีมากมีน้อยเหมือนฝนตกทีละหยดละหยาด ตกไม่หยุดไม่ถอยมันก็เต็มขึ้นเอง ท้องฟ้ามหาสมุทรเต็มด้วยน้ำได้ทีละหยดละหยาดนั่นแหละ ไม่ได้ตกแบบลูกเห็บตูมลงมาเหมือนภูเขาทั้งลูก ตกทีละหยดละหยาด สามารถทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มได้เพราะตกไม่หยุด อันนี้ก็เหมือนกัน เราก็เอาอย่างนั้น มีมากมีน้อยได้บ้างเสียบ้างอะไร เอาไป หยุดพักเครื่อง ติดเครื่อง เร่งเครื่อง ไปอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะเราจะก้าวเดินให้ถึงจุดที่หมายเป็นจุดสำคัญของเรา หมุนกันไป ๆ อย่างนี้

ระยะนี้เงินเพื่อหมุนเวียนรู้สึกว่าร่อยหรอมากทีเดียว เงินหมุนเวียนนี้ไม่ได้หยุดนะ มาทุกช่องทุกมุมเทียว มาขอ ๆ เรื่อยตลอด เราก็ไม่ไหวนี่ซิ อันนี้เราก็เอาเงินหมุนเวียนที่ว่านี่ เงินหมุนเวียนนี้ยังไม่ใช่เงินก้อน เงินจำนวนฝากไว้ธนาคารนะ เงินหมุนเวียนที่ได้มาเหล่านี้แหละเราแยกออกช่วย ๆ ช่วยไป ส่วนเงินอันนั้นเราถอนเมื่อไรพี่น้องทั้งหลายจะทราบทุกครั้งเลย อย่างที่ถอนมา ๕,๗๐๒,๒๘๐ เหมือนกันนะ นี่ก็พึ่งถอนหนเดียว เราก็ประกาศให้ทราบแล้ว ถอนออกมาเพื่อเป็นทองคำนำกฐินเพื่อชาติของเรา นอกนั้นเราก็ไม่ถอน

ต้องเอาภายนอกนี่แหละถูไถกันไปเสียก่อน นอกจากจำเป็นจริง ๆ แล้วเราถึงจะไปแยกเอา แต่แยกทีไรก็ต้องบอกพี่น้องทั้งหลายให้ทราบทุกระยะไปเลย เวลาไม่แยกก็ไม่แยกอย่างนี้ แต่เราเตรียมไว้ อยู่ในความพิจารณาของเรา รับผิดชอบของเราทั้งหมด อันนี้ก็เรียกว่าเพื่อชาติทั้งนั้นว่างั้นเถอะ อันไหนจะเป็นประโยชน์หนักเบามากน้อยเพียงไร เราจะพิจารณาเต็มกำลังแล้วออก แล้วเก็บอยู่อย่างนั้นตลอด

เวลานี้เงินที่ฝากไว้ตามธนาคารต่าง ๆ ไม่ค่อยมีใครโอนเข้ามานะเดี๋ยวนี้ รู้สึกว่าร่อยหรอไปมากนะเวลานี้ แทบจะปรากฏว่าไม่มี นี่ก็แสดงความจืดชืดของจิตใจเราลงทั้งประเทศนั่นแหละ เพราะอันนี้เป็นเงินของประเทศ หัวใจของประเทศ หนุนก็หนุนประเทศ ถ้าขาดก็ขาดประเทศ ควรจะพิจารณาพี่น้องทั้งหลาย รู้สึกว่าเบาบางมาก ไม่ค่อยมีใครโอนเข้ามาในบัญชีโครงการช่วยชาติ รวม ๆ แล้วบัญชีทั้งสี่ห้าธนาคารนี้ ที่เรียกว่าบัญชีโครงการช่วยชาติ ซึ่งเราเก็บไว้เวลานี้ยังไม่ถอนเลย ไม่ค่อยปรากฏเข้ามานะ

การเทศนาว่าการในที่ต่าง ๆ ก็เข้าทั้งโครงการ แยกทั้งออกเป็นเงินหมุนเวียนไปตาม ๆ กัน ตามแต่ความจำเป็นที่เราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว แต่ระยะนี้เงินหมุนเวียนไม่ค่อยได้เข้า คือเงินโครงการไม่ค่อยมี จืดไปมาก จางไปมากทีเดียว ประหนึ่งว่าเราหยุดการช่วยชาติของเราแล้ว ก็เท่ากับจะปล่อยให้ชาติล่มจมไปนั่นเอง ซึ่งเวลานี้ชาติกำลังเรียกร้องหาความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวไทยทั่วหน้ากันหมดตลอดเวลานะ เราควรจะระลึกรู้คำนี้เอาไว้

แล้วหัวหน้าก็อย่างพี่น้องทั้งหลายทราบนั่นแหละ ไม่เคยจืดจางนะ เทศนาว่าการก็ฟังซิน่ะ ทุกเช้า ๆ เพื่ออะไร เพื่อหัวใจของประชาชนเรา จากนั้นผลต่อไปก็เพื่อสมบัติข้าวของเงินทองเข้าสู่ชาติไทยของเรา นอกจากทางด้านจิตใจเกี่ยวกับด้านธรรมะแล้ว ยังด้านวัตถุ เพื่อเข้าชาติไทยของเราทั้งนั้น นี้เราประกาศก้องมาตลอด อย่างกำลังพูดอยู่นี้ ติดเทปแล้วก็จะออก ออกทุกเช้า ๆ เรายังอุตส่าห์พยายามเทศน์ พี่น้องพิจารณาดูซิ เทศน์ทุกเช้า ๆ มานี้กี่ปีแล้ว ดูเหมือน ๑๐ กว่าปีแล้วมัง ทีแรกก็มีทางวิทยุ ทางอุดรออกสถานีเดียวเป็นประจำมานานแล้วแหละที่เราพูดอย่างนี้ ครั้นต่อมาก็เรื่อย ๆ อย่างนี้ จนกระทั่งถึง ๘ สถานี วิทยุอุดรออกหมด แล้วออกทั่วประเทศไทยทางกรุงเทพ สถานีใหญ่ก็ออกทั้งนั้น แล้วยังกระจายออกไปทางอินเตอร์เน็ตเตอแหนดอีกด้วยฟังซิ

เราหยุดเมื่อไรเทศน์นี่ ไปหาโวหารมาจากไหน อยากถามว่าอย่างนี้นะ หลวงตาบัวก็ตัวเท่าหนู ได้เทศน์วอก ๆ ทุกวัน ไปหาโวหารมาจากไหน ยังอุตส่าห์มาเทศน์ให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ก็แสดงว่าตะเกียกตะกายมาเต็มกำลังความสามารถนั่นแหละ ที่จะได้มาเทศน์แต่ละคำ ๆ นี่ ต่อไปนี้มันก็ยังเหลือคำเดียวเท่านั้นเอง เวลานี้ยังเก็บอาวุธอันสำคัญนี้ไว้ก่อนยังไม่เอาออกใช้ ถึงเวลาก็งัดออกมาเอง เวลาจนตรอกจนมุมไม่มีทางไปแล้วก็สูนี่ เท่านั้นเองเข้าใจไหม ขึ้นตรงนี้แหละก็มันหมดแล้ว งัดออกมาล่ะซีใช่ไหม งัดออกมาสูนี่ ออกจากนั้นก็อย่ายุ่ง เราจะตายแล้วจะว่าไง หนักขนาดนั้นนะ

เรานี้เชื่อแน่ละที่ ๔ พันกิโลที่ตั้งเป็นฐานไว้นี้ เราก็ยังเขยิบขึ้นไปอีก เรายังเกริ่นไว้ถึง ๑๐ ตันนู่นนะ ให้สมกับชาติไทยของเราที่ช่วยตัวเองในคราวนี้ โดยมีศาสนาเป็นผู้นำ ไม่ควรจะให้ด้อย ให้มีเป็นจุดเด่นของชาติไทยซึ่งเป็นลูกชาวพุทธออกช่วยตัวเองในคนทั้งชาติ ให้เห็นเป็นจุดเด่นให้โลกภายนอกเขาได้เห็นบ้าง นี่ละสมชื่อสมนาม สมบัติเงินทองข้าวของเราเข้าสู่คลังหลวงเราแล้วยังไม่แล้ว ชื่อเสียงของเรา ศักดิ์ศรีดีงามแห่งชาติไทยของเราก็ขจรออกไป การคบค้าสมาคมกับชาวเมืองนอกเมืองนาเขาไม่จืดไม่ชืด เขาไม่อิดหนาระอาใจ เขาพอใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเรา ที่มีน้ำใจจริงจังต่อชาติไทยของเรา ถึงกับทำชาติไทยของเรามีความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง เป็นโดยลำดับไปอย่างนี้ เป็นเครื่องประกาศให้โลกภายนอกเขาได้เห็นด้วยนะ ไม่ใช่มีแต่โลกภายในของเรา

หลวงตานี้คิดหมดนะก่อนที่จะนำมาพูด ไม่ได้พูดแต่เมืองไทยของเรา ถ้าหากพูดตามธรรมดาในเมืองไทยของเราไม่อดว่างี้เลยนะ พูดยันเลย อดอะไรไปที่ไหนก็มีแต่ข้าวแต่น้ำเต็มไปหมด ตามท้องไร่ท้องนา ถนนหนทางมีแต่ผักแต่หญ้า คว้าที่ไหนเป็นผักเป็นหญ้ามาอดที่ไหน นั่น แต่สำคัญที่จุดใหญ่นั่นซี จุดใหญ่เป็นจุดวัดกันระหว่างประเทศต่อประเทศ ประเทศเขาประเทศเราเป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องหามาเพื่อชื่อเสียงเหล่านี้ เพื่อกิตติศัพท์กิตติคุณของชาติไทยเรา จะได้สม่ำเสมอกับชาวเมืองนอกเขา การไปมาหาสู่ การซื้อการขายก็ไม่ถูกกดขี่จนเกินไป ด้วยความดูถูกเหยียดหยามละ มันมีผลรายรับตามมานะ ถ้ามีชื่อเสียงกิตติศัพท์กิตติคุณแน่นหนามั่นคงอยู่ในชาติของตนเองแล้ว ไปที่ไหนก็มีความสง่างาม การติดต่อซื้อขายก็ไม่มีใครจะมากดขี่บังคับเอาอย่างง่ายดาย ด้วยความเกรงขามกันมีอยู่ เหล่านี้นะ

สำหรับ ๘๐๐ ล้านก็แน่แล้วละไม่ต่ำกว่า ๒ พันกิโลนะ กะว่าจะได้ถึง ๒ พันกิโล แต่มันจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะเงินจำนวนนี้ที่เก็บไว้แล้วไม่แตะ แล้วนอกจากนั้นถ้าได้ออกมาที่ว่าจากโครงการช่วยชาตินี้เท่าไร เราจะค่อยตีตะล่อมเข้าไปเรื่อยๆ นะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ออก ออกทางหมุนเวียน อันนี้ถือเป็นหลักใหญ่กว่าเพื่อนนะ ทองคำนี้จึงเจียดไว้เสมอ ๆ แล้วค่อยตีเข้าไปเรื่อยๆ หากจำเป็นจริงๆ ก็ช่วยออกทางเป็นเงินหมุนเวียนไป ไม่จำเป็นนักหมุนเข้าเรื่อยๆ เราจะพยายามให้ได้ทองคำมากๆ คราวนี้นะ

ทองคำในคลังหลวงของเราไม่มีมากนะ นี่ที่เราวิตกวิจารณ์ ออกมาประกาศป้างเลยทันที ตั้งแต่บัดนั้นไม่เคยจืดจาง ประกาศเรื่องทองคำเข้าสู่คลังหลวงนะ หมุนเข้าเรื่อยๆ อันนี้เป็นหลักใหญ่ของชาติไทยเรา เจ้าหน้าที่เขาเป็นธรรมนี่นะ สมที่ว่าเขานิมนต์เราไปดู เราไม่ได้ทะลึ่งนะ เราเอาทองคำเข้าไปมอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็มานิมนต์ให้เราไปดูทองคำ ไปเฉพาะเรานั่นแหละ เข้าไปดู ทุกซอกทุกมุมเขาให้ดูหมด วางไว้เป็นแท่ง ๆ เป็นเอ๊ย พูดไม่ถูกนะ เขาจัดไว้อย่างเป็นระเบียบว่างั้นเถอะน่ะ ไอ้เรามันดูไม่มีระเบียบ

ออกจากนั้นก็มาประมวลถามเรื่องทองคำที่อยู่ในนี้ ก็ทราบว่าอยู่ในนี้แล้ว ทีนี้ทองคำเราทั้งหมดไปอยู่ที่ประเทศไหนบ้าง ๆ เพราะมันเกี่ยวโยงกัน แน่ะผิดไหมหลวงตาถาม ถามนี้คือความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติๆ บางทีเราอาจติดหนี้ติดสินเขามากน้อยเพียงไร ต้องมีเครื่องประกันไว้เขาจึงจะให้ติดหนี้ ประกันคืออะไร ต้องทองคำเป็นที่หนึ่งเราคิดไว้หมดแล้ว พอถามปั๊บก็เขากันได้เลย นั่น เราคิดแล้วในประเทศนั้นมีทองคำอยู่ประจำประเทศนั้นเท่าไร ๆ ถามเข้าเป๋ง ๆ เลย ใครมาบอกเรา เราทำไมถามได้ไม่ใช่คุยนะ

เพราะเรื่องเหล่านี้มันเกี่ยวโยงกันทั่วโลกก็ยังบอกแล้ว เขาก็บอกไว้อยู่ที่นั่นมีเท่านั้น ๆ อยู่ที่เมืองไทยเรามีเท่านั้น รวมทั้งหมดมีเท่านั้น นั่น พูดเฉพาะสองต่อสอง ไม่ให้ใครทราบด้วยนะ คุยกันเฉพาะสองต่อสองจริงๆ พวกนั้นเขาไม่ยุ่งละเขาอยู่ข้างนอก เราตั้ง(ใจ)ไปคุยกันจริงๆ นี่ก็สมชื่อสมนามว่าผู้รักษาสมบัติคลังหลวงนี้ก็เป็นผู้เป็นธรรมอย่างยิ่ง นิมนต์เราให้ไปดู ก็คงมีความมุ่งหมายว่าเราดูนี้มีส่วนอะไรๆ บ้างกับทองคำนี้ เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่เรากำลังเอาทองคำเข้าช่วยชาตินี่นะ ท่านเหล่านี้จึงต้องนิมนต์เราไปดู ไปก็ดูทุกซอกทุกมุมจนกระทั่งเป็นที่แน่ใจแล้วถึงได้ออกมาประกาศพี่น้องทั้งหลายทราบทุกวันนี้ จึงไม่จืดจางเลยนะ

พากันให้เร่งนะ ทองคำเป็นหัวใจของชาติร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ไม่ใช่อะไรเป็นหัวใจของชาติอันสำคัญนะ ทองคำเท่านั้น จากนั้นก็ดอลลาร์หนุนกันไป ๆ เงินไทยเราถึงจะตีสะพัดออกได้ ถ้าเหล่านี้ไม่มีเงินไทยออกไม่ได้นะ เวลานี้เห็นไหมเงินขาดตลาด ไปที่ไหนมีแต่สินค้าสินขายเต็มบ้านเต็มเมือง ตลาดลาดเล อดอยากที่ไหนสินค้า ไม่ว่าถนนหนทางมีแต่สินค้าสำหรับขาย ๆ แต่คนที่จะซื้อมองหาแทบไม่เจอ นั่นเป็นยังไง นี่ก็บอกชัดเจนว่าเงินนี้ขาดตลาดมากทีเดียว มีแต่สินค้าเงินไม่มี เท่ากับว่าความหมายของมันก็จะไม่มีเหมือนกัน นั่น ถ้ามีเงินมีสินค้าก็สมดุลกันไปได้สะดวก เราคิดไว้หมด

จึงต้องได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันอย่างไม่ปิดบัง พูดตรงๆ เลย ต้องได้ช่วยกันเต็มกำลัง เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะช่วยชาติบ้านเมือง ด้วยการออกหน้าออกตาได้ไม่สะทกสะท้านกับผู้ใด เพราะมีผู้นำ ผู้นำกับศาสนาสมกับว่าเราเป็นลูกชาวพุทธเป็นผู้นำด้วย เป็นผู้นำทางศาสนามาลากมาเข็นกันไป พี่น้องชาวไทยเราให้ต่างคนต่างตื่นเนื้อตื่นตัว อย่าจืดอย่าชืด เวลาเข้มแข็งให้เข้มแข็ง เวลาจริงต้องมี เวลาเล่นก็มีคนเรา ถึงคราวจริงให้จริง เวลานี้เป็นคราวที่เราจะจริงจังต่อชาติบ้านเมืองของเรา เราต้องจริงจังทุกคน

เช่นอย่างเงินที่มาฝากไว้ตามธนาคารต่างๆ เวลานี้การโอนเข้ามาไม่ค่อยมีนะ นี่ก็ทำให้หลวงตารู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน จึงต้องได้เตือนพี่น้องทั้งหลายให้ทราบ จะเข้าทางไหนเข้าเถอะ เข้าคลังหลวงทั้งนั้น เราจะเป็นผู้จัดการพิจารณาเอง แยกไหนๆ เราแยกได้ทั้งนั้น สมควรแก่เหตุผลอะไร เราจะเป็นผู้จัดผู้แยกเอง เพื่อประโยชน์แก่ชาติไทยของเรา จะเข้าในซอกใดมุมใดก็ตาม เป็นซอกมุมที่จะไหลเข้าสู่คลังหลวงทั้งนั้น ในความรับผิดชอบของเรา ขอให้พากันตั้งอกตั้งใจพิจารณา ฟื้นจิตใจของเราเรื่อยๆ มันจะนอนใจแล้วหลับครอกๆ ไป มันจะไม่ได้เรื่องนะ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้ละ ว่าไม่พูดมากมันก็ได้พูดอยู่นะวันนี้ มีอะไรว่าซิ

ผมที่มาวันนี้มีอยู่ ๒ เรื่องครับ เรื่องแรกคืออยากจะมาขอกล่าวสดุดีท่านหลวงตา คือคนทั้งประเทศมีความซาบซึ้งในรสพระธรรมของท่านหลวงตามาก ท่านได้เคยกล่าวไว้ว่า ตอนนี้หลวงตาอายุมากแล้ว ชรามากแล้ว แต่ยังสู้อุตส่าห์เหน็ดเหนื่อยทำผ้าป่าช่วยชาติ แม้ท่านนิพพานท่านก็จะสั่งลูกศิษย์ลูกหาขอพระราชทานเพลิงศพไม่รอช้า เงินที่ทุกท่านทั่วประเทศช่วยมา ท่านให้นำเข้าคลังหลวงเป็นเงินก้อนสุดท้ายครับ ผมในฐานะเป็นลูกคนไทย เชื้อสายจีนนะครับ ขอกล่าวสดุดีท่านหลวงตาเป็นภาษาจีนกลางนะครับ (พูดภาษาจีนกลาง) ความหมายก็คือ ช่วยชาติสุดชีวิต แม้นิพพานแล้วเป็นเถ้าผุยผงก็ยังช่วยชาติผ้าป่าอีกครับ

เอาละหลวงตาพอใจ ทีนี้ในขณะเดียวกันหลวงตาผู้ช่วยชาติก็นำพี่น้องทั้งหลายช่วยชาติ หลวงตาเป็นผู้ช่วยชาติ พี่น้องทั้งหลายนอนหลับครอกๆ แครกๆ ใช้ไม่ได้นะเข้าใจไหม เอาตรงนี้ละ เข้าใจ

มีเรื่องที่สองครับ

เรื่องที่สอง เอ้า ว่ามา

ทางจังหวัดสุรินทร์ กราบเรียนนิมนต์รับผ้าป่าช่วยชาติ ในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๔๔ เวลา ๑๔.๐๐ น.และทำบุญครบรอบมรณภาพหลวงปู่สาม วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ เวลา ๗.๐๐ น.ณ วัดป่าไตรวิเวก จังหวัดสุรินทร์

ก็ขอมาในวันที่ ๓๑ มกรา และวันที่ ๑ กุมภา สองวันนี้ใช่ไหม เราไม่ได้ดูปฏิทิน ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีงานอะไรมาใหญ่โตยิ่งกว่านี้ ก็เป็นอันว่าเอารับตามนั้น วันที่ ๓๑ มกรานี้ก็เป็นปลายเดือนของต้นปี ก็ไม่มีอะไรละพิจารณาดูแล้ว ถ้าเป็นวันที่ ๓๑ ธันวากับมกรานี้จะมีว่างั้นเถอะนะ ไม่มีแง่ใดก็ต้องมีแง่หนึ่ง ในปีเก่าปีใหม่ชนกันนี้ทุกปีแหละ เป็นอันว่ารับแล้วนะ เอาเท่านั้นละ

มีสุดท้ายครับ ผมขอขอบคุณท่านเพื่อนลูกศิษย์หลวงตาทุกท่านที่นี่และไม่อยู่ครับ ที่ไปช่วยชาติทำผ้าป่าที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเดือนกันยายน ๔๑ ครั้งที่สองเดือนกุมภา ปี ๔๓ นี้ครับ อันนี้ก็ปี ๔๔ ขอบคุณทุกท่านครับ

เออเอาไว้นี่ เซ็นอะไรไม่ต้องเซ็นละ เอาละไม่ต้องเซ็น ไม่จำเป็นต้องเซ็น รับแล้วรู้ทั่วกันหมด เอาละพอใจแล้วๆ ได้ยินไหมล่ะ ที่บอกมาเรียบร้อยนี้บอกไปด้วยความพอใจ ถ้าจะให้เซ็นจะไม่พอใจ มันก็ต้องแก้กันหมัดนั้นน่ะซี ใช่ไหมล่ะ มันต้องมีหมัดแก้หมัดรับหมัดต่อยซี เอาละพอ ทางนั้นพอใจหรือทางนี้ไม่เซ็น ทางนั้นพอใจหรือยัง (พอใจครับ) ถ้าไม่พอใจเอาโหวตขึ้นมาว่างั้นน่ะ ยกทัพใส่ทีเดียวเดี๋ยวหลงทางเมืองสุรินทร์จะว่าไม่บอก

( ๒ บาทครับลูกสาวอาจารย์ชาลี) เออ นี่ลูกสาวอาจารย์ชาลีๆ เป็นอาจารย์ใหญ่ของเรานะเป็นครูเรา ต่อมาลูกศิษย์เป็นครู ครูเลยกลัวใหญ่เลย แต่ก่อนลูกศิษย์เป็นลูกศิษย์ ทั้งกลัวทั้งเคารพทั้งรัก อ้าวจริงๆ นะเราไม่เหมือนใคร เรารักมากจริงๆ รักอาจารย์ชาลีครูของเรานี้ พูดที่ไหนเราพูดได้เต็มปากด้วยหัวใจจริงจัง ท่านก็รักเราด้วย ไปไหนเอาไปด้วย แปลกนะ จนกระทั่งจากกันไป แล้วทีนี้กลับมาเราเป็นครูท่านเลยกลัวเราใหญ่ เลยกลัวลูกศิษย์แล้วเดี๋ยวนี้

นั่นมาอีกแล้ววันนี้ พู่นน่ะ เต็มไปหมด ไปตั้งไว้อีก เอามันหมดวันละวันนี้ พูดได้ทุกแบบนะ คำพูดของเราไม่มีใครเอาเข้าบัญชีแหละ เราก็ไม่เคยจะสนใจเข้าบัญชีนะ คำพูดของเราไม่มีบัญชี ว่าไปได้ทุกแบบ แบบไหนก็แบบนั้นไปเหมือนกันหมด แบบหายเงียบไปเลย ๆ ต่อไปนี้จะให้พร…

ขอเตือนพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศ เวลานี้เรากำลังช่วยชาติบ้านเมืองของเราทุกด้านทุกทาง ที่จะให้เป็นไปได้นะ แต่เวลานี้เรื่องบัญชีโครงการช่วยชาติของเรารู้สึกว่าร่อยหรอมากแทบจะไม่ปรากฏเลย จะเป็นประกาศว่าเราหยุดการช่วยชาติแล้วคอยจะให้เมืองไทยล่มจมเท่านั้น คำนี้ฟังให้ดีนะ เป็นคำหลวงตาที่อุ้มพี่น้องชาวไทยมาเต็มสัดเต็มส่วน ได้ประกาศบอกพี่น้องทั้งหลายทราบให้ตื่นเนื้อตื่นตัว ให้พยายามทุกคนๆ ตลอดไป จนกว่าหลวงตาบัวว่าปิดบัญชีแล้วหลวงตาบัวจะตายแล้ว หลวงตาบัวจะประกาศเองนะ เอาละพอ จำให้ดีคำนี้นะ เวลานี้บัญชีโครงการช่วยชาติของเรารับร่อยหรอมากทีเดียวแทบจะไม่ปรากฏนะเวลานี้ นี่แสดงถึงความจืดชืดของชาติไทยเรา ไม่สมกับเราซึ่งเป็นผู้นำเข้มข้นอยู่ตลอดเวลามา เอาจำให้ดี เอาละพอ

ปล่อยหมาเรา เปิดทางมัน ไอ้กี้เอาใหญ่เลย เอาใหญ่ๆ ตีๆ ฟาดเลยๆ (เสียงหมาเห่าและกัดกัน)บักหมีนี่เอามันเลย ไอ้หมีมันอยากจองหองอยู่นะ ฟาดมันเลย เตือนมาเรื่อยนะเห็นไหมล่ะ บอกจนกระทั่งหมา ไอ้หมีตั้งแต่ตัวมันเล็กๆ หัวมันเท่ากำปั้นนะมานี้ ดูแล้วหมาตัวนี้ ให้ระวังนะ บอกตั้งแต่ต้นจนป่านนี้ผิดไหมล่ะ มันตกคลอดออกมาใหม่ๆ เอามานี้ มองดูหมาตัวนี้มีท่าอยู่นะสูนะ บอกเด็กๆ ด้วยบอกพระเณรด้วย ระวังหมาตัวนี้มีท่าใหญ่นะมันจะรังแกเขานะหมาตัวนี้ พอกัดมันกัดนะ ให้เอาไม้เรียวแนบติดตลอด แล้วเป็นยังไงเห็นไหมตะกี้นี้ ร่ำไอ้หมีเห็นไหม ก็อย่างนั้นละ ผิดไหมล่ะ เป็นมาตลอดนะ แต่กับตัวเล็กๆ มันดีอย่างหนึ่ง กับไอ้หยอง ไอ้กี้ทำอะไรก็ตาม โดดกัดมันก็หลบพับ กัดทางนี้หลบพับ กัดไปกัดมา มันหลบมันรำคาญวิ่งหนีเลย พวกนี้วิ่งตาม ดีอย่างหนึ่งกับลูกหมาไม่รังแกนะ ไม่ถือสาเลย ไอ้ตัวนี้กับตัวนั้นไล่กัดมัน โดดใส่คอ หลบพับทางนี้ โดดไปทางนี้หลบพับทางนี้ หลบไปหลบมาคงรำคาญ เล่นกับเด็กคงว่างั้นนะ วิ่งหนี ไอ้สองตัววิ่งตาม น่าดูอยู่นะ แต่กับตัวใหญ่มันเป็น เพราะฉะนั้นจึงได้ขนาบเรื่อย

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก