เทศน์อบรมฆราวาส
ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา
เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
เวลาประมาณ ๑๒.๓๐ น.
ลมหายใจคอยเรา
มาก็ไม่มาหาอะไรละ ไม่เอาอะไร มาเอาน้ำใจของพี่น้องทั้งหลายละ น้ำใจถึงกันแล้วชุ่มเย็นมากนะ น้ำไหนสู้น้ำใจไม่ได้ล่ะ น้ำใจมาถึงกันนี่แล้วกลับไปด้วยน้ำใจ ผู้อยู่ก็อยู่ด้วยน้ำใจ อันนี้สำคัญมากน้ำใจ
(คณะลูกศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์ถวาย ๓,๔๐๐ บาท ทองคำ ๒ สลึงครับ) บุญจันทร์ทางวัดไชยวานเหรอ (วัดป่าสันติกาวาส ไชยวานเจ้าค่ะ) เออใช่วัดไชยวานท่านบุญจันทร์ นั่นก็ลูกศิษย์ล่ะ ท่านบุญจันทร์ลูกศิษย์ ท่านป่วยหนักเราก็ไปเยี่ยมนะ ท่านบุญจันทร์เวลาท่านป่วยหนักเราไปเยี่ยม ไปเยี่ยมพอดีแล้วเราก็ดูอาการ อาการเพียบมากน่าจะไม่พ้นวันพรุ่งนี้ไป วันพรุ่งนี้เราจะมาว่าอย่างนั้นนะ พอฉันเสร็จแล้วเราจะมา เหมือนว่าท่านรอ ลมหายใจรอเราอยู่นะ พอฉันเสร็จแล้วเราก็ออกเดินทางไปเลย ท่านเหมือนว่าหายใจรอเรา พอเราไปถึงปั๊บ ยังอยู่นะเราว่า พอไปเข้าไปถึงตัวเลย ยังอยู่นะ มาถึงแล้ว ทีนี้พอเรายืนอยู่นะ เรายังไม่นั่งนะ ยังอยู่นะ ลมหายใจคอยกันนี่นะ เราว่าอย่างนั้นละ พอเราไปยืนอยู่นี้ดับขณะนั้นเลย พอเราไปถึงไปยืนดู อ่อ..ยังอยู่ เพียบมาก แล้วพอว่าอย่างนั้นดับเดี๋ยวนั้นเลยนะ เหมือนว่าลมหายใจคอยเรา..ท่านบุญจันทร์
(พระอาจารย์โสภา วัดแสงธรรมวังเขาเขียว ขอน้อมกราบถวายบูชาคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยปัจจัย ๒๖๘,๓๗๐ บาท เช็คเงินสดเป็นเงิน ๓๔,๐๐๐ บาท ทองคำน้ำหนัก ๕ บาท เพิ่มมาอีก ๑,๒๐๐ บาท รวมทั้งหมดเป็น ๓๐๓,๕๗๐ บาทครับ) เอาไปแยกกันเลย
เหนื่อยแล้ว ต่อไปจะไม่ได้มาเยี่ยมพี่น้องทั้งหลายบ่อยๆ อีกเหมือนเก่านะ อ่อนลงๆ ทุกวัน เพลีย ไปไหนมาไหนเพลีย เดี๋ยวนี้อ่อนมากแล้ว ปีนี้รู้สึกว่าอ่อนกว่าทุกปี อายุมันเท่าไรแล้ว นู่นน่ะ อายุ ๙๘ แล้วนี่ มันจวนแล้ว บวชมาก็นานนะ ๙๘ ปีเป็นของเล่นเมื่อไร (๑๐๐ กว่า) เราตายแล้ว ผู้แบกขันธ์นี้คือเรา นอกนั้นพูดเฉยๆ ไม่ได้แบกขันธ์ เราแบกไปแบกมามันก็เหน็ดก็เหนื่อย อยากทิ้งเสียสบาย ทิ้งขันธ์ปั๊วะแล้วสบายเลย เพราะจิตไม่มีอะไร มีแต่ขันธ์เท่านั้นหนัก จิตไม่มีอะไร ไม่ได้แบกได้หามละจิต สบาย ขันธ์นี้ทิ้งปั๊วะเลย มีแต่จิตดีดปึ้งไปเลย สะดวกสบาย
นั่นดี รูปพ่อแม่ครูอาจารย์สูง รูปเราอยู่ต่ำ เราให้เอาลงนะนี่ ไม่ให้เสมอ ไม่ให้เสมอท่าน ให้ลดลง ให้ท่านสูงกว่าเสมอ เราเคารพมากเคารพพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี่เคารพที่สุด หมดหัวใจเคารพ เพราะท่านเป่ากระหม่อมให้เรา ตั้งแต่วันไปถึงจนกระทั่งท่านมรณภาพกี่ปีน้า ๘ ปี ตั้งแต่ไปถึงไม่ไปไหนเลย ๘ ปี ท่านมรณภาพจากไป ท่านเป่ากระหม่อมทั้งหมดทางด้านจิตตภาวนา
อายุท่าน ๘๐ ท่านบอกไว้แล้ว บอกอายุท่านไม่เลย ๘๐ ท่านบอกไว้เลย พอเริ่มป่วยปั๊บทีนี้นะ เออๆ มาแล้ว เริ่ม ๘๐ มาแล้ว ท่านว่าอย่างนั้นนะเมื่อวานซืน ท่านมหาไปเที่ยวที่ไหนมา ก็ลาท่านด้วยดีไปเที่ยวทางอำเภอวาริชภูมิ คิดถึงท่านแล้วก็รีบมา พอมาถึงท่านดุเลย ท่านมหาไปเที่ยวที่ไหนมา ป่าเขาลำเนาไพรนี่ๆ ท่านว่า ชี้ไป นี่มีแต่ป่าแต่เขา ไปเที่ยวเขาที่ไหนป่าที่ไหน ว่าอย่างนั้นนะ ผมเริ่มป่วยแต่เมื่อวานซืนนี้ วานซืน ป่วยคราวนี้ไม่มีหวังที่จะได้กลับมา ท่านดุเราเสียก่อน ไปเที่ยวที่ไหนป่าที่ไหน เที่ยวป่าป่าที่ไหน ท่านดุเสียก่อน จากนั้นท่านก็เล่าให้ฟังท่านเริ่มป่วยเมื่อวานซืน นี้เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งแรกกับครั้งสุดท้ายเป็นอันเดียวกันไม่หาย จากนี้ก็ไปเลยแต่ไม่ได้ตายง่ายนะ โรคนี้โรคคนแก่ท่านว่าอย่างนั้น หากไปเที่ยวนี้แหละ พอเริ่มป่วยเราก็จับปุ๊บเลย เริ่มป่วยมานี้จนกระทั่งถึงที่สุดไม่หาย ไปเลย เพราะท่านบอกไว้แล้วว่าไม่หาย นี้เป็นครั้งสุดท้ายของการป่วยของเรา เอายาที่ไหนมาใส่ก็ไม่หาย ยาเทวดาก็ไม่หายท่านว่า คราวนี้เป็นคราวสุดท้าย แล้วก็ไปเลยจริงๆ ท่านพูดแม่นยำ เพราะท่านบอกว่าอายุท่าน ๘๐ ก็ ๘๐ ทีนี้ท่านว่าไปแล้วก็ไปจริงๆ
วันที่ ๒๓ เงินสดทั้งหมดได้ ๕๑๔,๐๐๐ บาท แบ่งครั้งแล้วได้ ๒๕๗,๐๐๐ บาท ทองคำ ๑๐ บาท ๓๒ สตางค์ ต้องแบ่งไปทำประโยชน์ให้โลกต้องทำอย่างนั้น ทำประโยชน์ให้โลกที่ไหนเป็นประโยชน์หมดเลย แยกให้สม่ำเสมอนั้นถูกต้อง
ดีใจล่ะได้มาพบกับพี่น้องทั้งหลาย ได้เห็นหน้าเห็นตาเท่านี้ก็พอแล้วนะ เราไม่มีอะไรมาฝากกัน มีแต่อรรถแต่ธรรม-น้ำใจเอามาฝากกันวันนี้ น้ำใจทางอุดรก็มาเพื่อพี่น้องทั้งหลาย น้ำใจพี่น้องทั้งหลายก็มาเพื่อหลวงตาอุดรนะ เรียกว่าต่างคนต่างได้น้ำใจจากกันไป กลับไปบ้านไปเรือนด้วยความร่มเย็นเป็นสุขนะ เข้าใจ ต่อจากนี้จะให้ศีลให้พรแล้วก็ลงกลับไปล่ะ
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|