ดุเพื่อความดีของผู้นั้น (พระกรรมฐานจากทั่วประเทศกราบคารวะทำวัตร)
วันที่ 12 สิงหาคม 2553 เวลา 12:40 น.
สถานที่ : ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส

ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

เวลาประมาณ ๑๒.๔๐ น.

 ดุเพื่อความดีของผู้นั้น

 

         เรียกว่ามารวมเข้าพรรษา รวมหัวใจกัน ให้รู้ว่าเข้าพรรษา เข้ามาวันสองวันแล้วล่ะ เข้าพรรษามีขอบมีเขต ไม่ใช่แบบเตลิดเปิดเปิง เรียกว่ารวมเข้าพรรษาก็ไม่ผิดนะ ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้ ในพรรษาหนึ่งๆ ควรจะมีขอบเขตได้สาระสำคัญประจำในพรรษาหนึ่งๆ เช่นทำบุญตักบาตรไม่ให้ขาด แม้วันเดียวไม่ให้ขาดอย่างนี้ เราจะทำอะไรให้มีกฏมีเกณฑ์บังคับตัวเองนะ คือจิตใจมันชอบเถลไถลตลอด เนื่องจากกิเลสความชั่วช้าไม่เอาไหนนั่นละมีผู้พาเถลไถล ส่วนอรรถส่วนธรรมเลยไม่ได้เรื่องได้ราว จะทำดีก็ไม่ได้ดีเพราะมีแต่ความชั่วมันไปแย่งเอาหมด แย่งเอาหมดเสีย ความดีเลยไม่ได้ทำ อยากหาตั้งแต่ความดี ไปก็อยากไปดี ได้ลูกก็อยากได้ลูกดี ได้เมียได้ผัวก็อยากได้ผัวดีเมียดี ได้มาแล้วทะเลาะเหมือนหมากัดกัน ทั้งผัวทั้งเมีย พ่อกับแม่ก็กัดกันแบบหนึ่ง ลูกหลายคนก็กัดกันแบบหนึ่ง ต่างคนต่างทะเลาะกันคนละแบบละฉบับ นั่นมันเป็นอย่างนั้นนะ ไม่มีขอบเขต ขอให้มีขอบเขตเถอะ ทำอะไรไม่มีขอบเขตไม่ได้ละ

          นี่ที่มาสอนพี่น้องทั้งหลายนี้เอาจริงเอาจังมากนะนี่แต่ไหนมา บวชเข้ามานี่ทำตามขอบเขตของหลักธรรมหลักวินัยหลักของพระแม่นยำๆ ตลอดมา เพราะอย่างนั้นจึงพูดได้ด้วยความอบอุ่น พูดได้ด้วยความกล้าหาญชาญชัย ไม่ได้เหยาะแหยะๆ ทำอะไรเอาจริงเอาจัง เวลาผลตกมาก็เป็นของดีมีค่ามีราคา

          อันนี้ก็เรียกว่ารวมเข้าพรรษาก็ถูกนะ วันนี้เต็มศาลาดูซิน่ะ ศาลาหลังนี้ใหญ่หรือน้อยนี่เต็มศาลา ให้พี่น้องทั้งหลายตั้งใจใส่ศีลใส่ธรรมบ้างนะ ให้ต่างจากการเข้าพรรษา ไม่เข้าพรรษาเป็นอย่างหนึ่ง เข้าพรรษาแล้วก็ให้มีขอบมีเขต มีบังคับตนเอง ไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญตักบาตรอย่าให้ขาดวันหนึ่งๆ ให้มีกฏเกณฑ์บังคับตนไว้เสมอ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวนะ จะทำอะไรมีความเหลาะแหละเข้ามาเสีย จะทำอะไรก็มีแต่ความเหลาะแหละเข้ามาเหยียบย่ำทำลาย ความจริงจังเลยไม่มีในใจ ไม่มีในกิริยาที่แสดงออกเลยไม่เป็นประโยชน์อะไร

          พระเณรเราก็เหมือนกัน เอาให้จริงให้จังนะพระเณรเราก็ดี ให้ได้เห็นพระอรหันต์ในปัจจุบันซิ มีแต่ครั้งพุทธกาลท่านว่าพระอรหันต์ อรหันต์ พวกเรามีแต่หันทางนั้นหันไปทางนี้ หันไปหาข้าวต้ม หันไปหาขนม หันไปหาโกโก้กาแฟไป ไม่ได้หันไปหามรรคผลนิพพาน มันก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรละ ตั้งใจปฏิบัติจริงๆ นะ การภาวนานี่เราเคยภาวนามาแล้ว เอาจริงจังมากทีเดียวจนเป็นที่ภูมิใจเจ้าของเองละ ไม่ได้ทำเหลาะแหละนะนี่ทำอะไร ถ้าลงได้ลงทำแล้วฟัดกิเลสขาดสะบั้นไปเลย ไม่เหลาะแหละ ถ้าว่านั่งภาวนาก็เหมือนกันเอาเสียจนก้นแตก นั่งหลายคืนหลายวันนั่งวันนี้ก็ออกร้อน วันหน้าก็พองขึ้นมา ต่อไปแตกนั่งภาวนา นี่เอาขนาดนั้นนะ ก้นแตกก็ให้กิเลสแตกไปด้วยซิ นี่มีแต่หมอนแตกๆ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร

รู้สึกว่าเหลาะแหละ พี่น้องทั้งหลายศีลธรรมห่างเหินจากใจแล้วดูกิริยาอาการ ที่เข้ามาสัมผัสสัมพันธ์กันมักจะเป็นข้าศึกต่อกันเสมอ ไม่ค่อยเป็นความสนิทสนมเป็นที่ระลึกความดีต่อกันเลย นี่เพราะจิตใจมันต่ำทราม เห็นกันก็เอาแต่เรื่องของกันและกันไปนินทากาเล ความดิบความดีที่จะได้มาชมเชยมาเป็นคติตัวอย่างแก่ตัวเองไม่ค่อยมี นี่แสดงว่าพวกเราต่างคนต่างโลเลไม่มีหลักมีเกณฑ์ ขอให้มีหลักมีเกณฑ์ ทำอะไร เหลาะแหละๆ

พระเณรเราเหมือนกันนั่นละ ให้จริงจังการภาวนา ยิ่งในพรรษาด้วยแล้วไม่ไปไหนพระเณรมีแต่นั่งภาวนา เดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา นี่ละงานของพระ งานของพระคือเดินจงกรมมีสติ นั่งสมาธิภาวนาด้วยความมีสติ ไปไหนเอียงซ้ายเอียงขวามีสติติดแนบกับตัวไปไม่ค่อยเสีย ถ้าไปอะไรก็ไม่มีสติโลเลเสียตลอด ไม่มีความดีเลย ให้พากันจำเอานะ

นี่ดูซิคนเต็มศาลามันน้อยเมื่อไร ฟังหลวงตาบัวพูดอยู่คนเดียวว้อๆ อยู่นี้เห็นไหมสอนพี่น้องทั้งหลายนั่นละไม่ได้สอนใคร เราเฒ่าแก่แล้วเดี๋ยวนี้ความพากความเพียรให้เหมือนแต่ก่อนไม่เหมือนเรื่องความพากความเพียร แต่เวลายังหนุ่มยังน้อยนี่ความเพียรเก่งมากนะ เอาจริงเอาจังทุกอย่าง ว่าอะไรเป็นอันนั้นว่าอะไรเป็นนั้นขาดไปเลย ขาดไปเลย ไม่มีคำว่าเหลาะๆ แหละๆ นะ ทำอะไรก็ให้จริงบ้างบรรดาพี่น้องทั้งหลาย พระเณรเรานั่นละสำคัญมากนะเป็นที่ร่มเย็นของชาวบ้าน ไปตั้งบ้านที่ไหนก็มีวัดมีวาตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นที่อบอุ่น ตั้งบ้านแล้ววัดก็วัดโลเล บ้านก็บ้านโลเล เลยหาอะไรเป็นหลักเป็นเกณฑ์ไม่ได้

ให้พากันตั้งใจปฏิบัติรักษาภาวนา จิตใจนี่สว่างนะ จิตใจดวงนี้สว่างจ้า บทเวลาได้ชำระกิเลสตัวว้าวุ่นขุ่นมัวออกจากใจแล้วจิตใจนี้สว่างไสวนะ นี่ละการภาวนาจึงเป็นการชำระจิตใจที่มัวหมองให้สะอาดสะอ้านกลายเป็นใจสว่างไสว พากันจำเอาคำว่าภาวนา พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยภาวนานะ พระสาวกทั้งหลายที่เราว่า พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ อยู่ทุกวันนี่เราถือท่านเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งเป็นพึ่งตายก็ให้ยึดเอาข้อปฏิบัติของท่านมาเป็นที่ยึดที่เกาะ มาเป็นที่ปฏิบัติเอาเป็นเอาตายกับนั้นละเราก็จะเป็นคนดีต่อไป ให้พากันจำเอานะ

เราดูพี่น้องทั้งหลายดูด้วยความสงสารนะ การพูดการจาเอาแน่ไม่ได้ ควรหนักหนัก ควรเบาเบา เสียงโว้เว้ๆ มี แต่ใจไม่มี ใจไม่มีอะไรกับโลก มีแต่ความสงสาร อย่างเดินเข้าไปในบ้านในเรือนบ้านตาดของเรานี่ละ เราจับได้เราไป..บ้านกับวัดเลยจะเป็นข้าศึกต่อกัน ดูกิริยา..เราไปนี่เราไปในฐานะหลวงปู่หลวงตาของพี่น้องลูกหลานทั้งหลายไป ไปควรว่าอะไรก็ว่า แนะนำสั่งสอนไปเรื่อยๆ เสียงมันเอาแน่ไม่ได้ เสียงหนักก็มี เสียงเบาก็มี ควรดุดุ ก็ดุลูกดุหลานไม่ได้ดุใครนี่นะ เราว่าไปนั่นถือเป็นข้าศึก คำพูดของเราพูดให้ฟังถือเป็นข้าศึก ไม่เข้าวัดเข้าวา ถือครูบาอาจารย์เป็นข้าศึกศัตรูต่อตัวเอง

บ้านเรานี่เองบ้านตาดนี่เราเห็นชัดๆ อยู่นี่ เราเป็นลูกบ้านตาด มาอยู่บ้านตาดสอนเข้มงวดกวดขัน พระเณรเข้ามาในวัดเรานี้เรียบหมด ไม่เรียบไม่ได้ เพราะธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่เรียบที่สุด นำมาปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติให้เรียบซิให้น่าดู อันนี้เข้ามาก็โลเลโลกเลกก็ว่ากันบ้างซิ พอว่าแล้วคำพูดคำจาที่จะเป็นอรรถเป็นธรรมต่อลูกต่อหลานต่อบ้านต่อเมืองกลับกลายเป็นข้าศึกกันเลยไม่อยากจะเข้าวัดเข้าวา ว่าท่านดุท่านด่า แล้วอยู่ลำพังตัวเองมันดีอะไรบ้าง ไม่เห็นดีอะไรเลย ไม่มีผู้แนะนำสั่งสอน

ต้นไม้หนึ่งจะเป็นต้นชนิดใดก็ตาม มี้แก่นไม้เนื้อแข็งเนื้ออ่อนเอามานี่ต้องขึ้นอยู่กับนายช่าง นายช่างมาดัดมาแปลงมาเป็นไม้เนื้อชนิดใดก็เป็นผลเป็นประโยชน์ตามกำลังของมัน อันนี้คนเราก็เหมือนกันมาดัดมาแปลงให้เป็นคนดีก็เป็นได้ตามฐานะของตนที่ดัดแปลงเต็มกำลังความสามารถแล้ว ถ้าไม่ดัดแปลงเสียเลยปล่อยเลยตามเลย เลยไม่ได้เรื่องนะ ต่อไปนี้พระกับโยมก็จะพูดกันไม่ได้แล้วนะ เดินไปนี่หลวงตาบัวไปนี่บ้านตาดเป็นบ้านตาดหลวงตาบัว หลวงตาบัวเกิดอยู่ที่บ้านตาด ไปเห็นลูกเห็นหลานก็ว่าธรรมดา ว่าในฐานะลูกหลาน ไม่ได้ว่าในฐานะเป็นข้าศึกศัตรูต่อผู้ใด เป็นบุญเป็นคุณต่อลูกต่อหลาน ว่าแล้วหาว่าเราดุ ฟังซิน่ะ จะไม่ให้มีอะไรดุเลย ทิ้งโด่อยู่ในป่าเหมือนไม้ยืนต้นไม่เกิดประโยชน์มันดีแล้วเหรออย่างนั้น

เราต้องมีครูมีอาจารย์ซิ บ้านหนึ่งเมืองหนึ่งวัดหนึ่งต้องมีครูมีอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอน ถ้าอยากเป็นคนดีก็ให้ปฏิบัติตามท่าน อย่าทะนงตัวว่าตัวนี้เก่งกว่าพระ  พระพูดไม่ได้ละนะ พูดเป็นข้าศึกทันทีเลย พวกนี้พวกตั้งตัวเป็นข้าศึกกับพระ หาว่าตัวนี่วิเศษวิโสกว่าพระ ไปพูดนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้นะโกรธแค้นเคียดแค้น ดูไม่ได้ นี่เห็นแล้วนะเราดูแล้ว เราดูคนเราไม่ได้ดูด้วยความอิจฉาตาร้อน เราดูด้วยความเมตตาสงสาร ดูด้วยความเป็นอรรถเป็นธรรม แต่เวลาดุด่าว่ากล่าวชนิดใดก็เพื่อความดิบความดีของผู้นั้นต่างหาก เราไม่ได้เสียหายอะไร แนะนำสั่งสอนเขาก็หาว่าเราดุเราด่าเสีย แล้วสุดท้ายชาวบ้านกับชาววัดก็เข้ากันไม่ได้ ถ้าเข้ามาวัดก็ว่าครูบาอาจารย์ดุด่าว่ากล่าว อยู่ในบ้านเหมือนวัวเหมือนควายไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร แล้วเอามาอวดวัดบ้างซิน่ะ อยู่ในบ้านไม่มีใครดุด่าว่ากล่าว เลิศเลอยิ่งกว่าพระ เอามาดูซิ เอามาอวดวัดป่าบ้านตาดลองดูซิ

นี่เราอยู่นี้เราแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวทั่วประเทศไทย อย่ามาว่าอะไรบ้านตาดเท่านี้ ทั่วประเทศไทย ไปที่ไหนแนะนำสั่งสอนทั้งนั้น ผลแห่งการแนะนำสั่งสอนเป็นอย่างไรบ้าง เช่นหาเงินสมบัติเข้าคลังหลวงก็เหมือนกันได้มากขนาดไหน เราหามาทองคำก็ได้เงินบาทก็ได้หามาให้อย่างนี้ละ เป็นประโยชน์อย่างนี้ นี่เรามาแนะนำสั่งสอนในบ้านของเราเลยเป็นข้าศึกศัตรูต่อวัดต่อวาต่อบ้านไปอีก บ้านกับวัดเป็นข้าศึกกันแล้วจะจมนะบ้านนั้น จะหาความเจริญไม่ได้นะ

ครูบาอาจารย์ถือเป็นลูกศิษย์ลูกหาในบ้านของตน แนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวไม่ได้แล้วให้ไปอยู่เมืองผีนู่นไป ไปอยู่นรกทั้งเป็นนู่นไป ไม่มีใครสอนได้แล้วนอกจากเปรตจากผีให้มันสอนกันเอง เป็นอย่างนั้นละ เวลานี้มันเก่งมากทิฐิมานะคนเรา ไม่ยอมฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเสียงครูเสียงอาจารย์ พองอึ่งอ่างตัวเองนั่นละ พองตัวว่าตัวเก่งตัวดีไม่ทราบว่าดีทางไหน ไม่เห็นดีอะไรเลยแล้วอวดตัวเอง มิหนำซ้ำเห็นพระเจ้าพระสงฆ์ถือเป็นข้าศึกไปอีก ไม่อยากให้ท่านแตะต้อง แล้วว่าอะไรไม่ให้ท่านว่า มันผิดผีตัวใหญ่

อันนี้ละเสียนะบ้านเราเสีย บ้านเราบ้านตาดเราเสียไม่ใช่ที่อื่นที่ใดเสีย ถ้าที่ไหนเขาฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ไม่เสีย ดุด่าว่ากล่าวเราก็ถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ท่านแนะนำสั่งสอนหรือดุด่าว่ากล่าวอะไรฟังซิน่ะ ท่านดุเพื่อไปลงนรกอเวจีทั้งเป็นเหรอ หรือท่านสอนอย่างไรก็เอาไปพิจารณาแล้วไปปฏิบัติตาม นี่มีแต่ทิฐิมานะเต็มบ้านเต็มเมือง บ้านหนึ่งๆ ตัวทิฐิมานะอยู่ในนั้นมันไม่ใช่น้อยๆ นะ นั่นถือว่าวิเศษนะนั่น ตัวทิฐิมานะเต็มบ้านเต็มเมือง พระแตะไม่ได้ นี่ละตัวทิฐิมานะ ไม่ยอมฟังเสียงใคร เราเก่งพอตัวแล้ว แล้วไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไรไอ้เก่งพอตัว จมอยู่อย่างนั้นตลอด ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอานะ

ครูบาอาจารย์พูดแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวมันเสียหายที่ตรงไหน เอาไปพิจารณาซิน่ะ ท่านพาลงนรกอเวจีตกนรกทั้งเป็นเหรอ ไม่เคยมี ท่านแนะนำสั่งสอนด้วยความดิบความดีของท่าน เราไม่ดีตรงไหนท่านก็แนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าว แล้วถือว่าเป็นของเสนียดจัญไรไปเสียเลว พวกนี้พวกเลว ไม่ฟังเสียงพระหมดละมนุษย์เรา ถ้ายังฟังเสียงพระอยู่ยังดีนะ ไม่ฟังเสียงพระฟังแต่เสียงทิฐิมานะอึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้นแต่พองตัวขึ้นเท่าภูเขานั่นละตัวจมไม่มีชิ้นดีเลย ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้นะ ให้แนะนำสั่งสอนกันได้ดุด่าว่ากล่าวกันได้ซิประชาชนกับพระ พระท่านจะสอนเพื่อไปลงนรกหมกไหม้ที่ไหนให้เห็น พระสอนคนเพื่อไปตกนรก มีแต่คนสอนกันสอนตัวเองนั้นละตกนรกทั้งเป็นๆ อยู่อย่างนี้ ให้พากันจำเอานะ

วันนี้ไม่พูดอะไรมากนักละ นี่รวมเข้าพรรษาให้มีกฏมีเกณฑ์ การทำบุญตักบาตรให้ทานรักษาศีลภาวนาอย่าละอย่าปล่อยอย่าวาง ให้ทำเสมอๆ ไปไหนเวลาจะเป็นจะตายจริงๆ บุญนั้นละเป็นที่เกาะของเรา นอกจากบุญไม่มี บาปมันก็เอาลงนรก บุญพาไปทางดิบทางดี ให้ยึดความดีเอาไว้ สำหรับพวกเราทั้งหลายจะได้เป็นคติเครื่องเตือนใจตัวเอง บ้านมีวัดมีขอให้มีขอบมีเขตมีหลักมีเกณฑ์ บ้านใดก็ดีวัดใดก็ดีที่อยู่ในบ้านนั้นวัดนั้นละเป็นเจดีย์ของบ้านคอยแนะนำตักเตือนสั่งสอน แล้วบ้านก็ให้ฟังเสียงพระ อย่าฟังเสียงแต่ทิฐิมานะของตัวเองอันนี้จะจมนะนี่จม

มองไปนี่มันพาดสายตาปั๊บๆๆ รู้ทันที รู้ทันทีว่านี่เป็นอย่างไร ดูพระฟังเสียงพระดุด่าว่ากล่าวกับทิฐิมานะของอึ่งอ่างมันเป็นอย่างไร มันพองขึ้นเท่าภูเขา นี่ละเลว พวกนี้พวกเลว พวกพระสอนไม่ได้เตือนไม่ได้พวกเลวที่สุด พากันจำเอานะ ถ้าใครอยากเลวที่สุดให้เอาแบบนี้ไปสอนตัวเองนะ เบ่งขึ้นให้มันใหญ่เท่าภูเขาตายแล้วมันจะจม เอาล่ะพูดเท่านี้เหนื่อยแล้วพอ

หลวงตาบัวไม่ได้สอนตั้งแต่มนุษย์นะ พูดยันเสียมันจวนจะตาย สอนกระทั่งเทวบุตรเทวดา สอนเทวบุตรเทวดาเขาเป็นอย่างไร สอนมนุษย์นี้เป็นอย่างไร ต่างกันอย่างไรบ้าง สอนมนุษย์นี้หยาบที่สุดสอนยาก สอนเทวบุตรเทวดามีแต่น้อมรับๆ สอนมนุษย์นี่ โถ เหมือนผี สอนมนุษย์กลายเป็นผีไป จำเอานะ ถ้าเราไม่อยากเป็นผีให้เป็นมนุษย์นะฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ อย่าอวดเก่ง อวดเฉยๆ ไม่เก่ง ต้องทำให้มันเก่งซิ

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz

            พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก