เทศน์อบรมฆราวาส
ณ วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน จ.นครราชสีมา
เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
เวลาประมาณ ๑๓.๑๕ น.
เสือเทพบันดาล
เราพาพี่น้องทั้งหลายหาสมบัติเข้าคลังหลวงได้เยอะนะ ได้เยอะพวกทองคำพวกอะไรต่ออะไร พาพี่น้องหาสมบัติมีทองคำเป็นต้นเข้าคลังหลวงได้เยอนะ ก่อนมานี่ดูได้เท่าไร (ทองคำได้ ๑๒ ตัน ๒๒๕ กิโลกรัม) ได้ ๑๒ ตัน ๒๒๕ กิโลกรัมที่ได้แล้ว ทองคำเหล่านี้เข้าคลังหลวงหมดเลย ๑๒ ตัน ๒๒๕ กิโลกรัม นี่เป็นทองคำเข้าคลังหลวงหมดเลย
วันนี้ดีใจ ได้พบพี่น้องทั้งหลายเราดีใจ แต่ถ้าพี่น้องทั้งหลายจะดีใจกับเราหรือไม่ก็ไม่ทราบ ถ้าดีใจก็ให้ยกเป็นพยานขึ้นมา เอาไม้ไล่ตีเอานะ มาก็เย็นวันนี้เย็นตามทางตลอด ฝนก็พรำเบาๆ แล้วหยุด พรำเบาๆ หยุดตามทางมานี้ ไม่มีแดดนะไม่มี เราดีใจละได้มาพบกับพี่น้องทั้งหลายมาเสาะแสวงหาบุญหากุศลเข้าสู่หัวใจ เหล่านี้มาเข้าสู่หัวใจพี่น้องทั้งหลาย อันนี้ควรจะทำประโยชน์อะไรก็ทำไปๆ ส่วนบุญกุศลนั้นเข้าสู่หัวใจทั้งหมด เข้านี้ละ อย่างอื่นไม่ค่อยได้เข้าละ ส่วนมากมีแต่บาปละเข้า อันนี้ให้บุญได้เข้า วันนี้บุญเข้าละวันนี้ เข้าเต็มศาลานี่เข้าหมดเลย เข้าในหัวใจๆ
หลวงตาก็อ่อนลงทุกวันนะ เมื่อเช้านี้นั่นละถามอายุเขา เอ๊เห็นเดินโซซัดโซเซ ไปที่ไหนคอยแต่จะหกล้มก้มกราบมันเป็นอย่างไรแล้วอายุเราเท่าไรวะ จำไม่ได้จนกระทั่งอายุเจ้าของ อายุเท่าไร (๙๗ ปีครับ) นู่นน่ะ อายุนี่ถึง ๙๗ ปี ๙๘ ๙๙ ๑๐๐ ของง่ายเมื่อไร อย่างนั้นละตะเกียกตะกาย เราพอใจในการสร้างบุญสร้างกุศล มาหาพี่น้องทั้งหลายนี่ใจเบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด ไม่มีคำว่าเหงาหงอยในใจไม่มี มีแต่จ้าอยู่อย่างนั้นละ สร้างบุญสร้างกุศลเราเริ่มสร้างบุญมาตั้งแต่วันบวช วันบวชจนกระทั่งป่านนี้กี่ปี (๗๖ ปีครับ) นั่นละตั้งแต่วันบวชมาถึงวันนี้ได้ ๗๖ ปี อันนี้ดูยังไม่เกิดก็มีเยอะ เราบวชได้ ๗๖ ปีบวชมา ต่อไปก็มีแต่จะไปข้างหน้า บวชมาตั้ง ๗๖ ปี อายุ ๒๐ ปีกับ ๙ เดือนเริ่มบวช ตั้งแต่นั้นมาก็เรื่อยจนกระทั่งป่านนี้
(ลูกหลานเกิดทันหลวงตาได้มรรคผลนิพพานเจ้าค่ะ) โอ้ยถ้ามันนอนครอกๆ อยู่กับหมอนเอาหมอนมัดติดคอจ้างก็ไม่ได้ไป ไปแซงหน้าเลยนะ ไปแซงเลยแซงหลวงตาเลยนะ มันถึงเวลาที่ควรจะพูดมันจวนจะตายแล้ว หลวงตาหายสงสัยหมดแล้วนะหายหมดเลย ไม่มีอะไรติดใจ ขึ้นชื่อว่ามลทินมัวหมองภายในใจหมดโดยสิ้นเชิง เราอุตส่าห์ปฏิบัติมาตั้งแต่วันบวชตั้งแต่นั้นรักษาศีลรักษาธรรม หัวใจเป็นศีลเป็นธรรมตลอด ความเคลื่อนไหวไปมามีแต่เรื่องศีลเรื่องธรรม รักษากันมาตลอดได้กี่ปี ๗๖ ตั้งแต่บวชมานี้ได้ ๗๖ แล้ว นี่ละไม่ทำชั่วช้าลามกอะไรเลย อบอุ่นหัวใจตลอดมา
ยิ่งได้เข้าในป่าในเขาไปภาวนาอยู่ในถ้ำเงื้อมผาด้วยแล้ว นั้นยิ่งยิ้มแย้มแจ่มใสนะไปอยู่ในป่า ป่าแต่ก่อนไม่เหมือนทุกวันนี้นะ ป่าแต่ก่อนพวกสัตว์พวกเนื้อพวกเสือเยอะ เขาผ่านไปผ่านมาเขาไม่มีอะไรนะกับเรา เราก็มีกระต๊อบร้านเล็กๆ อยู่อย่างนี้ก็ปัดกวาดรอบๆ บริเวณ เวลาเขามาเขาผ่านมานี้รอยเท้าเสือโคร่งใหญ่เหยียบไปๆ เขาไม่สนใจกับเรานะ ตอนเช้าออกมา..เพราะบริเวณเราที่อยู่นั้นปัดกวาดเรียบๆ แม้แต่รอยหนูวิ่งผ่านไปก็เห็นนี่เสือทั้งตัวทำไมจะไม่เห็น เขาเดินผ่านไปผ่านมาที่บริเวณเราอยู่นะ เขาไม่วกเวียนนะ ถ้าวกเวียนมีอะไรอยู่เขาสงสัยอาจทำอะไรก็ได้นะ แต่นี้ไม่มี เขามาเขาก็ผ่าน ที่เราพักอยู่บริเวณแคบๆ ปัดกวาดเรียบร้อยแล้วเวลาเขาผ่านไปผ่านมาก็เห็น แต่เขาไม่วกเวียนนะ เขาตรงไปตามทางของเขานั่นละ ไปเรื่อยๆ เขาไม่วก ถ้าวกเวียนอย่างนี้แสดงว่าจะมีอะไรอยู่ ถ้าพอทำเขาอาจทำ แต่นี้ไม่เคยมีนะ ไปอยู่ที่ไหนรอยเสือนี่มี ไม่อดรอยเสือ แต่ไม่เคยทำความสนใจอย่างนั้น
พอพูดเรื่องนี้แล้วทำให้ระลึกถึงหลวงปู่มั่นเรา แปลกอยู่น่ะล่ะ ท่านอยู่ถ้ำ ทางมันขึ้นไปตามถ้ำมันไม่ชัน มันขึ้นมาหาท่านกลางคืน มันมาเวลาปัดกวาดตอนเช้ามานี่เห็นรอยเสือเข้ามา นี่มันรอยเสือมันมาอย่างไรนี่ ท่านก็เลยตามดูรอยมันขึ้นมา แล้วเตียงท่านอยู่แคบๆ นี่เตียงนอน พอเขามาแล้วเขาก็เอา..จมูกเขากับมุ้งท่านพอดีกันเลย เขามาแต่มาหนเดียว เขาเข้าไปแล้วมุ้งท่านอยู่ตรงนี้ ท่านบอกว่าท่านสงสัยว่ามันอาจเป็นเวลาเรานอนหลับก็ได้ เขามาเขาก็ขึ้นไปเตียงนั่นละ ไปก็ไปเหยียบนั้นแล้วจมูกเขากับมุ้งพอดีกันเลย หลังจากนั้นเขาก็กลับไปเลย ไม่กลับมาอีกนะ วันหลังต่อๆ มาไม่เคยมาอีกเลย เสือโคร่งใหญ่ของง่ายไหม ท่านเลยดู..โอ้นี่เสือมันมาท่านว่า ท่านไม่เห็นตื่นเต้นท่านพูดเฉยๆ ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งเราจากไปไม่เห็นมาอีกเลยไม่มาเสือ เสือโคร่งใหญ่ง
ท่านพูดอะไรท่านไม่มีอะไรตื่นเต้นนะ พูดเฉยธรรมดา พวกเสือนี่ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนมันผ่านไปผ่านมาใกล้ๆ ท่าน ท่านก็พูดธรรมดา ท่านไม่เคยตื่นเต้น ธรรมด๊าธรรมดา ลักษณะไม่กลัวว่าอย่างนั้นเถอะ พูดตามเรื่องเฉยๆ มันเข้าไปหาท่านเรื่องที่ท่านว่า คือท่านอยู่ถ้ำเตี้ยๆ มาก็เข้าไป เข้าไปเลย มันก็เดินผ่านไปบนเตียงเข้าไปดมมุ้ง ไม่เคยเห็นตัวมันนะ เพราะกลางคืนท่านนอนหลับหรือภาวนาอยู่หรือนอนหลับก็ไม่ทราบ ท่านว่าอย่างนั้น แต่มันมา เห็นรอยเสือโคร่งใหญ่ เขาไม่ทำอะไรนะ
ไปที่ต่างๆ เจอเรื่อย แต่ที่เคยเจอแล้วไม่มาอีก แต่ไปที่อื่นไปแล้วเจอเรื่อย ท่านไม่มีอะไรตื่นเต้นนะ แต่มีอันหนึ่งท่านเล่าให้ฟัง อาจารย์สีทา อาจารย์สีทานี้รูปร่างเท่าๆ กันกับท่านนั้นละ ท่านเล่าให้ฟังตอนไปอุบลไปเห็นทำรูปปั้น รูปปั้นองค์นั้นๆๆ อาจารย์สีทาเราจ้อแล้วจะไปดูอาจารย์สีทา คือท่านเล่าเรื่องเสือ เวลาท่านเดินจงกรมไปเดินจงกรมมากลางคืนนะ เสือมันมาที่นั่นแต่เมื่อไรไม่รู้ มาแต่มันไม่มีท่าทาง มันไม่หมอบ ถ้าหมอบมีท่าจะเอา แต่นี้มานั่งเหมือนหมานั่งว่าอย่างนั้นนะ มานั่งเหมือนหมานั่ง ท่านเดินไปเดินมา เอ๊มันมีแปลกๆ เสียวๆ เอ๊มองไปที่ไหนได้เสือโคร่งใหญ่นู่นน่ะ มันนั่งเอาเท้านี่ค้ำนี้นะ นั่งเหมือนหมานั่ง ท่านเห็นแล้วท่านว่ากลัวก็ไม่กลัวแต่ขนลุกซู่ ท่านว่าขนลุกซู่เลย เขาก็อยู่นั้นละ
ทีนี้ท่านก็เดินอาจารย์สีทานี่ละ ท่านเดินจงกรมเรื่อยเขาก็เลยนั่งอยู่นั้นเลย จนกระทั่งมันเหนื่อยแล้วท่านเลยคิดทดลองดู มันอาจจะเป็นเสือเทพหรือเสือเทพบันดาลก็ได้ ทีนี้ท่านเลยคิด โอ้จะมานั่งเฝ้านั่งแหนกันอะไร ถ้าอยากไปหาอยู่หากินที่ไหนก็ไปซิ หว่า..ขึ้นเลย อ๋อหรือเป็นเทพบันดาล ถ้าไม่ได้ไปก็อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นอะไร เดินจงกรมนั่งดูกันอยู่นี่ไม่เป็นอะไรละ เงียบเลย แล้วก็นั่งอยู่นั้นนะ ท่านก็เดินไปเดินมา เสืออยู่นี้ทางจงกรมอยู่ตรงนี้มันอยู่นี่ไม่แสดงอาการ ถ้าคิดอย่างนั้นเป็นล่ะ ถ้าคิดจะมานั่งเฝ้านั่งแหนกันทำไมจะไปหาอยู่หากินอะไรก็ไป พอว่าอย่างนั้นเฮ่อ..ขึ้นเลย ท่านเลยกลับความคิดเสียใหม่ อ๋อถ้าไม่อยากไปเดินจงกรมด้วยกันก็ได้ เขาก็เฉยแล้วก็เดินไปเดินมา เขาก็อยู่นั่นแหละ จนกระทั่งท่านออกจากที่ เขายังไม่ได้โยกย้ายไปไหนนะ เขานั่งอยู่ตรงนั้นละเหมือนหมานั่ง ไม่ได้นั่งหมอบ เขานั่งเฉยๆ เสือโคร่งใหญ่
พอมาก็มาเล่าให้ท่านอาจารย์มั่นฟัง ท่านอาจารย์มั่นกับอาจารย์สีทารูปร่างพอๆ กัน แต่แก่พรรษากว่าท่านอาจารย์มั่นนิดหนึ่ง ท่านจึงเรียกว่าครูบาสีทา ทีนี้เราไปเห็นที่ตรงนั้นตรงอุบลวัดอะไรนะที่มีรูปเหมือน วัดเรียบหรือวัดบูรพาหรือวัดอะไรอยู่ที่อุบล รูปครูบาอาจารย์มาปั้นไว้นั้นเป็นแถวนะ แล้วเขาก็เขียนไว้ๆ บอกว่าอาจารย์สีทาเราก็ดูจริงๆ นี้องค์นี้องค์อาจารย์สีทา เราไม่ลืม นี่ละที่เสือมานั่งเฝ้าท่าน รูปร่างเล็กๆ แต่ไม่ทำอะไรนะ มาคืนเดียวนั้นละ นอกจากนั้นท่านก็เดินจงกรมธรรมดา ไม่มาอีกเลย คงเป็นเสือเทพบันดาล คิดดูซิอยู่เฉยๆ ก็ไม่เห็นว่าอะไร พอคิดขึ้นว่าจะไปหาอยู่หากินทางไหนก็ไปซี มานั่งเฝ้านั่งแหนกันทำไม เฮ่อ..ขึ้นเลย แสดงว่าเทพบันดาล
พระกรรมฐานส่วนมากจะเจอแต่อย่างนั้นละ แต่ไม่ทำอะไรนะไม่ทำ เพราะฉะนั้นจึงไม่เคยได้ยินว่าเสือกินพระเสือกินคน ไม่ได้ยินนะ พระกรรมฐานอยู่ป่าอยู่เขามันก็มาธรรมดา แต่มันไม่มารบกวน มันมาธรรมดา คนก็ไม่เคยเห็นมันกินคน คนก็ไม่เคยเห็นเสือกิน พระก็ไม่เคยเห็นเสือกินนะ
วันนี้ได้พูดกับพี่น้องทั้งหลาย ถ้าใครยังไม่เคยเห็นหน้าหลวงตาบัวก็ดูเสียนะ หลวงตาดูหมดแล้วละไม่ทราบว่าครบหรือไม่ครบก็ไม่รู้ จากนี้จะให้ศีลให้พรนะ
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|