เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
สามโลกธาตุขาดจากใจ
เมื่อวานเจ้าคุณอุดรก็มา มาเกี่ยวกับเรื่องรักษาอะไร (ผู้กำกับ : มะเร็งที่โคนลิ้นครับ) เออว่าอย่างนั้น ว่าดีขึ้น รักษาเมืองจีนนะ ไม่ใช่ธรรมดาเมืองจีน ไปรักษาเมืองจีน ความตายใจกันไว้ใจกันท่านมานี้ปุ๊บปั๊บมาเอาเงิน ไม่บอกว่ามาขอเงิน มาเอาเงินไปสักกี่ล้านนะจากนี้ไป ไปรักษาที่ว่าอะไรโคนลิ้นเหรอ (มะเร็ง) ว่าหายขึ้นเยอะ น่าจะไปวันพรุ่งนี้นะ ท่านมาเมื่อวานนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินการทอง ดูว่าจะไปวันพรุ่งนี้ (ผู้กำกับ : ไปวันที่ ๔ สิงหาคมครับ) ไปรักษาเมืองจีน เราให้ไปเท่าไรล้านเหอ (ผู้กำกับ : ให้ไปสองครั้งสองล้าน) ให้ไปสองล้านแล้ว ครั้งนี้ก็จะไปอีก ขาดเท่าไรเราเป็นคนหนุนให้เลย (ผู้กำกับ : โอนไปให้ท่านหนึ่งล้านแล้วครับ) ไปรักษาทางเมืองจีนละมัง เขาเรียกมะเร็งเหรอ โคนลิ้น การเงินการทองเรารับหมด คือขาดเหลือเท่าไรให้เอาไป ทั้งค่ารถค่าราค่าหยูกค่ายาอะไรๆ นี้เรารับไว้หมด มาเอาอีกกี่ครั้ง (ผู้กำกับ : โอนให้ท่านหนึ่งล้านบาทแล้วครับ)
ความตายใจนะ คือความตายใจ สำหรับวัดนี้เป็นที่ตายใจของพระเณรมาก ปุ๊บปั๊บจะไปปุ๊บปั๊บมานี่มาเอา เราอยู่ไม่อยู่ไม่สำคัญ มาหาพระในวัดนี้ พระก็ติดต่อประชาชนญาติโยมที่เขาดูแลการเงินการทองเขาจัดให้ปุ๊บๆๆ ไปเลย เป็นอย่างนั้นละ อันนี้มันก็เข้ากันได้กับความเมตตา คือความเมตตานี้เราก็ไม่เคยเป็นแต่ไหนแต่ไรมา มันก็มาเป็นชีวิตของพระ เป็นจริงๆ ครอบโลกธาตุไม่ใช่ธรรมดานะ ชีวิตของพระอยู่ด้วยความเมตตา เพราะอย่างนั้นมีอะไรๆ ใครจะมาขออะไรมาเลย เพราะเปิดไว้แล้ว กำไว้ไม่มี เปิดโล่ง ไปตามถนนหนทางเหมือนกัน เขาขายของอยู่ตามข้างถนนอะไรๆ เขาใส่ล้อใส่อะไรไปเอาไปขายนู้น เราก็จอดรถลงดู ลงดูเรื่อยนะ เรื่อย เราก็เอาสักชิ้นหนึ่งเท่านี้แล้วให้เงินเขาเท่านั้นละ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าพันบาท เจ้าหนึ่งๆ มันเป็นอย่างนั้น ไปตามสายทางที่ไปไหนเหมือนกันหมด เขามาขายอะไรจอดรถดู เราเอาสักพอเป็นน้ำใจพอนิดหนึ่งแล้วเอาเงินให้เขาไป ให้เขาไปเรื่อย
เรียกว่าที่สุดในชีวิตจิตใจและภพชาติพูดตรงๆ เสีย เราจะตายแล้วละ บอกให้พี่น้องทั้งหลายฟัง การบำเพ็ญความดีมานี้เราพอใจ พอเต็มที่เลย ไม่บกไม่บาง ในใจนี้โล่งครอบโลกธาตุ หัวใจมันโล่ง อุปสรรคพวกเสี้ยนพวกหนามที่เสียดแทงแต่ก่อนถอดถอนออกหมดเลย ยังเหลือแต่ความโล่ง ความเมตตาว่างไปหมด ความเมตตานี้ว่างนะ ให้ไปเท่าไรยิ่งชุ่มยิ่งเย็น นะความเมตตา การให้การเสียสละ เราพูดในฐานะของเราเป็นอย่างนั้น จะให้มีอะไรติดเนื้อติดตัวไม่มี สำหรับเราความเมตตาเปิดออกหมด ออกหมดเลย
เราก็พูดให้ชัดเจนเพราะมันจวนจะไปแล้ว เรียกว่าชาตินี้ก็เป็นชาติสุดท้ายของเราบอกตรงๆเลย บอกชัดเจนอยู่ในนี้หมด จ้า ขาดหมดจากโลกธาตุทั้งสามโลกธาตุ กามโลก-รูปโลก-อรูปโลกขาดจากใจหมดเลย ใจนี้เป็นเกาะแห่งความบริสุทธิ์วิมุตติพุทโธ ธรรมธาตุอยู่ในหัวใจดวงเดียวนี้ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่คิดว่าจะเก็บอะไร มีแต่ความเมตตา ไปที่ไหนความจำเป็นทั่วหน้ากันหมดนะ เรามองเห็นความจำเป็นเต็มหัวใจๆ ทุกคน เราดูหมด
ปากนี้มันว้อๆ นะปากเป็นตามนิสัยกำลังใจ ว่าดุถ้าธรรมดาแล้วดุแล้วเป็นฟืนเป็นไฟในหัวใจ นี่ไม่มี ดุก็ดุไปอย่างนั้น มีแต่ว้อๆ ไป ในหัวใจไม่มี ความดุไม่มี พลังแห่งความเมตตาเจตนาอยากให้ถูกต้องแม่นยำ มีเท่านั้นดุนะ ที่จะดุเป็นการผูกโกรธผูกแค้นเรียกว่าหมด ไม่มี จะไปโกรธไปแค้นให้ผู้หนึ่งผู้ใดสัตว์ตัวใดไม่เคยมี หมด มันเปิดออกหมดเลย
ให้สุดเสีย ได้บำเพ็ญมาเต็มกำลังความสามารถ บวชมานี้ ๗๖ ปีเหรอ ตั้งแต่บวชมานี่ ๗๖ ปีรักษาแต่ความดีงามอยู่ในขอบเขตของพระตลอดเวลา เวลามันเต็มของมันแล้วมันก็มาเต็มอยู่ที่หัวใจนะ เวลามันอัดอั้นตันใจก็เต็มที่หัวใจ แต่เวลามันเปิดออกหมดแล้วโล่งครอบโลกธาตุ ครอบสมมุติทั้งหมดอยู่ที่หัวใจ ให้ท่านทั้งหลายพากันตั้งใจปฏิบัติ นี่ละความดีงามเวลาสนองผลจะมาสนองอยู่ที่หัวใจดวงเดียว ทุกข์ทั้งหลายก็มาอยู่ที่หัวใจ สุขทั้งหลายเปิดโลกธาตุก็อยู่ที่หัวใจ เวลาเปิดเอาของเสนียดจัญไรเอาเสี้ยนเอาหนามออกหมดแล้วโล่งหมดเลย ไม่มีอะไรจะมาขัดมาข้องไม่มี วันหนึ่งๆ จะเป็นอารมณ์กับอะไรซึ่งเป็นเรื่องของกิเลสนี้ไม่มี มีแต่อารมณ์แห่งความเมตตาสงสารโลกเท่านั้นละ
นี่ก็พูดให้ชัดเจนเลยว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา จะไม่กลับมาเกิดอีกตลอดอนันตกาล นิพพานเที่ยงเข้ากันได้ ธรรมธาตุกับนิพพานเที่ยงเข้ากันได้กับจิตดวงหมดสมมุติโดยประการทั้งปวง กฏอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาไม่มี ข้ามหมดไปเลย มองดูโลกนี้มันราบไปหมด คืออันนี้มันเหนือเสียทุกอย่าง ใจดวงนี้เหนือหมดเลย ราบไปหมด ไม่มีชาติชั้นวรรณะใดว่าสูงว่าต่ำอันนี้เหนือหมด ไม่มีจะต่ำกว่าสิ่งใด นี่พูดให้ชัดเจนเสียมันจวนจะตายแล้ว ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเสีย
ปกครองดูแลรักษาแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวมานี้มีแต่ความเมตตา ตัวเสนียดจัญไรมันเคยถือทิฐิมานะฝังหัวใจมัน เราไปว่าอะไรให้โกรธเคียดแค้นไม่เข้าวัดเข้าวา มันไม่มาดูกระทั่งหน้าพระหน้าเรา นี่มันหนา คนหนึ่งพูดด้วยความเมตตาสงสารไม่มีโทษภัยเจือปนเลย คนหนึ่งกอบโกยเอาส้วมเอาถานเข้ามาโปะ โปะก็ไม่ถูกซิ อันหนึ่งมันสะอาดอยู่แล้ว มี บ้านตาดเรานี้ก็มีพูดให้มันชัดเจนเสีย เราแตะไม่ได้นะบ้านตาดทิฐิสูงมากอยู่นะ เราไปว่าอะไรให้ว่าเราโกรธเราเกลียดขึงขังตึงตังต่อสู้อึ่งอ่างกับวัว เข้าใจไหมละ ต่อสู้เป็นอยู่ในใจ เจ้าของยังพึ่งผายอยู่ คนอื่นดูดูไม่ได้นะ มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มออกมาต้อนรับอรรถธรรมที่เราพูดด้วยความเมตตาสงสารนั้นนะมันเอาแต่มูตรแต่คูถมาต้อนรับ ต้อนรับ เป็นอย่างนั้นละ พูดอะไรบ้างไม่ได้โกรธเคียดแค้น ไม่อยากเข้าวัดเข้าวา ไม่อยากดูพระดูเณรองค์เช่นนั้นนะ คนเช่นนั้นเป็นอย่างนั้น ท่านพูดไม่มีอะไรท่านพูด พูดด้วยความเมตตาสงสารอยากให้ดิบให้ดี โทษแม้นิดหนึ่งแม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่มี มันก็เอาส้วมเอาถานเข้ามาโปะจนได้นั่นแหละ เทศน์แทนที่จะให้ดีมันไม่ดี ทิฐิมานะสูงจรดเมฆนู่นของง่ายเมื่อไร
นี่เวลาจะพูดก็พูดเสียอย่างนี้ละ มันเต็มหัวใจเก็บไว้หมดรู้หมด แต่ว่าธรรมไม่เหมือนโลก ธรรมไม่มีอัดอั้นตันใจอยากพูดอยากคุยอยากโม้อยากอวดไม่มี ถึงกาลเวลาที่จะพูดพูดเต็มเม็ดเต็มหน่วย พูดแล้วหายเงียบเลย ไม่มีอะไรมาติดหัวใจ เป็นอารมณ์กับสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่มี พากันจำเอานะ เราอยู่กับท่านทั้งหลายปกครองท่านทั้งหลายนี้ปกครองด้วยธรรมแท้ๆ ไม่มีที่จะเป็นโลกเป็นเสี้ยนเป็นหนามมาทิ่มแทงหัวใจท่านทั้งหลายไม่มี ถ้าเจ้าของไม่ไปกว้านเอามาแทงเจ้าของเองนะ อันนี้มีแต่ความสะอาด แนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวไปนี้มองเห็นลูกเห็นหลานอะไรคนในบ้านถือว่าเป็นกันเองเราอยากว่าให้ใครก็ว่าไปเสีย ทีนี้เราว่าว่าด้วยความเป็นธรรม อันนั้นมันเป็นส้วมเป็นถานเข้ามารับ นี่ละมันดูไม่ได้นะ โอ้ของเลวนี่มันไม่ยอมรับของดีนะ อะไรเลวๆ มันคว้ามับๆ ถ้าอันใดของดีมันไม่เอา เป็นอย่างนั้นละจิตใจ เพราะมันมีแต่ส้วมแต่ถานเต็มหัวใจ ไม่มีของสะอาดมันเลยเลวไปหมดละ เอาล่ะวันนี้พูดเท่านั้นละนะ
(ลูกศิษย์ : ผู้ร่วมบุญบูชาธรรมวันนี้ด้วยการปล่อยชีวิตโค-กระบือ ๑๕,๐๐๐ เจ้าค่ะ) เราปล่อยตั้งแต่เราบวชมา ปล่อยชีวิตจิตใจของสัตว์ ไม่มีเบียดเบียนสัตว์ตัวใดแม้ตัวเดียวจนกระทั่งป่านนี้ ใครเก่งเอามาอวดกัน เราปล่อยชีวิตของสัตว์ปล่อยหมดเลย ให้อภัยทั้งนั้น
(ลูกศิษย์ : ถวายหนังสือพระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก รวมทั้งหมด ๙๑ เล่มเจ้าค่ะ) ดีแล้ว เอามาก็เต็มไว้ในตู้ ไม่มีใครไปดูมัน พระวินัยปิฎก ปิฎกแปลว่าภาชนะ ปิฎกแปลว่าภาชนะสำหรับรับธรรมทั้งหลาย พระไตรปิฎกคือพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ปิฎกๆ แปลว่าภาชนะสำหรับใส่ แต่มันก็มีแต่อยู่ในตู้ในหีบ ตัวมันเองไปจมอยู่ในนรกหลุมไหนก็ไม่รู้ (ลูกศิษย์ : ที่พระหลวงตาเทศนาธรรมอยู่ทุกวันคือพระไตรปิฎกไหนเจ้าค่ะ) รู้ได้อย่างไรว่าอะไรเป็นในเป็นนอก
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|