ชาติจะจม ท้องจะแตก (ดร.ณรงค์และนักวิชาการต้านกฏหมายขายชาติ 11 ฉบับ)
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2543 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

ชาติจะจม ท้องจะแตก

ก่อนจังหัน

พระมากรรมฐานวัดป่าบ้านตาดนี่ เวลาเข้ามานี้อาจจะเดินเข้ามาก็ได้ แต่เวลาออกไปนี้มันจะคอยเกาะพวกประชาชนเขาออกไป พระมาเที่ยวกรรมฐานวัดป่าบ้านตาดนี่ ออกไปก่อความยุ่งยากวุ่นวายให้แก่ประชาชนไม่น้อยนะ ออกไปแล้วเกาะรถคันนั้นไป เกาะรถคันนี้ไป เวลามาดูจะมีแข้งมีขาบ้าง เวลาออกไปนี้ขาด้วนหมดนะ นี่ก่อความยุ่งยากวุ่นวายให้ทั้งทางวัด ทางประชาชนด้วย เป็นมานานนะเราเคยเตือนเสมอ นี่ไม่ได้เตือนนานแล้ว เป็นมาตลอดนะ นี่ละเรื่องยุ่งของพระกรรมฐาน ยุ่งจริง ๆ ตรงนี้ กรรมฐานขุนนาง กรรมฐานขาด้วน

พระพุทธเจ้าท่านเป็นยังไง ขาพระพุทธเจ้า ขาพระสาวกท่านเป็นยังไง เหมือนขาเราไหม ขาพระพุทธเจ้าก้าวเข้าในป่าในเขา ไม่เห็นคำนึงคำนวณถึงรถถึงรา ขาของเราทำไมถึงยุ่งกับเรื่องรถเรื่องราเรื่องกรรมฐานขุนนางเอานักหนานี่วะ มันเข้ากันได้ไหมกับศาสนาพระพุทธเจ้า กับศาสนาขุนนางที่กิเลสเป็นผู้ควบคุม บีบหัวพระศาสนา พระเณร อยู่เวลานี้ จะเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่กิเลสบีบหัวมันอยู่ มันมองดูบ้างไหม หรือมีแต่ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ทันสมัย เป็นกรรมฐานจรวดดาวเทียวตลอดไปเหรอ โอ๊ย เราสลดสังเวชจริง ๆ นะ มองไปแพล็บ ๆ นี้มันโดนจนกระทั่งลูกตาจะแตกโน่นน่ะ วันหนึ่ง ๆ ทนเอานะ นาน ๆ ออกทีหนึ่ง นาน ๆ แผดเสียทีหนึ่ง ไม่งั้นมันจะตาย แล้วจะเน่าเฟะจริง ๆ

พระเณรนี้ โห หรูหราฟู่ฟ่า ภูมิใจนะได้ไปเที่ยวกรรมฐาน เข้าไปวัดป่าบ้านตาดไปหาหลวงตาบัว ออกไปนี้โก้หรูเลย มันอาจจะเป็นเพราะหลวงตาบัวพาโก้หรูก็ได้ เราก็ไม่แน่ตัวของเรา ลูกศิษย์ลูกหาหรือพระกรรมฐานที่มาทั้งหลาย จึงมีแต่กรรมฐานโก้ ๆ หรู ๆ ฟู่ ๆ ฟ่า ๆ มองดูนู่นขึ้นจรวดดาวเทียม ฝ่าเท้ากับหัวตอมันอยู่ติดกันนั้นมันโดนเอา ๆ มันไม่ดู นั่นละคือกิเลสอยู่ตรงนั้น

หลังจังหัน

ถวายใบปวารณาค่ะ(เอามากี่ล้านถวายหลวงตา)

อะไร

(หนูถามว่าเอามากี่ล้านถวายหลวงตา)

เอามาแต่หัวล้านว่างั้นซี กี่ล้านเงินอย่าไปถาม ถ้ากี่ล้านหัวคนนั้น มันมองดูที่ไหนมันมองตรงนี้ก่อน เพราะตรงนี้ไม่มีผม ต้องมองดูที่นี่ เรียกว่าล้าน พอพูดอย่างนี้ก็ระลึกถึงหลวงปู่มั่น ที่เรามุ่งมั่นไปหาท่านเพราะสงสัยเรื่องมรรคผลนิพพาน ความมุ่งต่อมรรคผลนิพพานเต็มหัวใจ แต่ก็มีอีกแยกหนึ่งที่ทำให้ความมุ่งมั่นนี้เบาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย คืออยากจะให้ท่านผู้ใดมาชี้แจงว่า มรรคผลนิพพานยังมีอยู่โดยสมบูรณ์เท่านั้นละเราจะเอาตายเข้าว่าเลย ความหมายว่างี้นะ จะลงจุดนี้

พอเข้าไปปั๊บ ไปกลางคืน เดินซุ่มซ่าม ๆ เข้าไปในป่า เขาก็บอกว่าให้ไปทางนี้ ๆ ทางพอหลวมคน เพราะท่านพึ่งเริ่มไปพักที่วัดบ้านโคกใหม่ ๆ เขายังไม่ได้ทำทางกว้าง ๆ ออกไป เขาก็บอก ทางนี้ละ ให้ไปทางเส้นนี้ แคบ ๆ ก็ตามเถอะ ทางนี้จะตรงเข้าที่วัดที่ท่านอยู่เลย เราก็ไป พอไป กลางคืนนี่แต่มีเดือนหงายหน่อย หงายก็ตามแต่ไม่ชัดเจน พอเข้าไปก็ดูนั้นดูนี้ เอ๊ ถ้าว่า นี่เป็นศาลาที่ท่านพักนะที่เราเดินซุ่มซ่าม ๆ เข้าไป ศาลาเล็ก ๆ ถ้าว่าเป็นกุฏิก็จะใหญ่ไปหน่อย ถ้าเป็นศาลาก็จะเล็กไปสักหน่อย นี่หมายถึงวงกรรมฐาน ท่านเดินจงกรมมายืนอยู่ข้าง ๆ นี่ เราไปกลางคืน สะพายบาตรพะรุงพะรัง ยังไม่ได้ปลงบาตรนะ เดินเซ่อซ่า ๆ เข้าไป

กำลังพิจารณาถึงเรื่องศาลาหลังที่ท่านพัก ท่านกั้นห้องอยู่นั้น เรากำลัง…ถ้าว่าเป็นศาลากรรมฐานก็รู้สึกจะเล็กไปสักนิดหนึ่ง ว่าอย่างนั้นนะ เพราะเป็นที่อยู่ของหลวงปู่มั่นนี่น่ะ ถือเอาจุดสำคัญ เรียกว่าควรใหญ่กว่านี้สักหน่อย กำลังคำนึงคำนวณพิจารณาอยู่ ใครมานี่ท่านว่า นี่ยืนอยู่นี่ ท่านเดินจงกรมอยู่นั่น กลางคืน เราก็ซุ่มซ่าม ๆ เข้าไปกลางคืนเหมือนกัน ใครมานี่น่ะ ทางนี้ก็ว่า กระผม นี่ตอนจะแผดใหญ่นะ พอว่ากระผม อันผม ๆ นี้ตั้งแต่คนหัวล้านมันก็มี ขึ้นอย่างดังเลยนะ อันว่าผม ๆ นี่ตั้งแต่คนหัวล้านมันก็มีผม ตรงที่มันไม่ล้าน เอา แย้งซิน่ะ คนหัวล้านมันก็มีผมตรงที่มันไม่ล้าน ตรงนั้นก็คือมีผมใช่ไหม ตรงที่มันไม่ล้าน เอ้า แย้งซิ

เราจับขนาดนั้นนะท่านพูด พอว่าอย่างนั้นเราก็ปุ๊บปั๊บเปลี่ยนใหม่ กระผมชื่อพระมหาบัว เออ ก็ว่าอย่างนั้นซิ นี่ผม ๆ ๆ ขึ้นใส่เลย แหย่เลย ตั้งแต่เด็กมันก็มีผม เอาอีกแหละ นี่แทนที่จะเป็นผลลบ โถ เป็นผลบวกเต็มหัวใจเลยนะ ทุกบททุกบาทที่ท่านพูดเราพิจารณาหาที่แย้งไม่ได้เลย คิดดูตั้งแต่คนหัวล้านมันก็มีผมตรงที่มันไม่ล้าน เอ้า แย้งดูซิน่ะ ก็ตรงไม่ล้านมันมีผมใช่ไหม พอเราว่า กระผมชื่อมหาบัว เออ ว่าอย่างนั้นซิ นี่ผม ๆ ๆ ท่านแหย่เอา ตั้งแต่เด็กมันก็มีผม เอาอีกแหละ เด็กมันก็มีผมจริง ๆ ใช่ไหม ตามขนาดนั้นนะเราตาม จึงไม่ลืม

วันนี้คนไม่ค่อยมากเท่าไรนะ ธรรมดา โหย เต็มไปหมดเลย วันนี้คนไม่ค่อยมากเท่าไร ธรรมดามาก..คน มากทุกวัน เทศน์ทุกวัน วันนี้คงจะไม่เทศน์อะไรมาก เหนื่อยแล้ว อ่านนั้นอ่านนี้ไปแล้วก็พอดีกับเวล่ำเวลากำลังวังชาไปแล้วแหละ

ทองคำอ่านทุกวัน ๆ วันนี้ไม่อยากอ่าน เรามองดูนี้แล้วไม่อยากอ่าน คือมันขายตั้งแต่หัวหน้าลงไป ทั่วประเทศไทยคน ๖๒ กว่าล้านคน นี่ฟังซิ สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๔๓ ทองคำได้ขีดไปเลย ศูนย์ ไม่มีเมื่อวานนี้ ทองคำนี้ขีด คน ๖๒ ล้านคนทองคำสตางค์หนึ่งไม่ได้เลยนี้เสียหน้าขายหน้าขนาดไหน คน ๖๒ ล้านคน หลวงตาบัวเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลายฟังซิ หมดตัวเลยนะเมื่อวานนี้ ขีดเส้นไปเลย ดอลลาร์ได้ ๑๒ ดอลล์ จบแล้วตอนนี้ สรุปเป็นวัน ๆ

ทีนี้เวลาสรุปทั้งหมด ทองคำที่ต้องการจะมอบเข้าคลังหลวงเวลานี้ ๔ พันกิโล ที่มอบและฝากไว้แล้ว ๒ รายการเวลานี้ จำนวนทองคำ ๒,๒๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากฝากและมอบแล้วนั้นแต่ยังไม่ได้หลอมเวลานี้ได้ ๒๐๕ กิโล ๑๗ บาท ๔ สตางค์ รวมทองคำทั้งหมดทั้งหลอมแล้วและยังไม่หลอมได้ทองคำ ๒,๒๖๗ กิโลครึ่ง ยังขาดทองคำอยู่อีก ๑,๗๓๒ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔ พันกิโล นี่ได้อ่านทุกวัน ๆ เพื่อเตือนพี่น้องทั้งหลาย อย่านอนใจนะ

เราพูดจริง ๆ เราเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายไม่ได้นอนใจเลย ดูซิทุกสิ่งทุกอย่างกิริยาท่าทางที่แสดงออกมา ด้วยน้ำใจทั้งนั้นนะ น้ำใจเมตตาไม่ใช่น้ำใจธรรมดา เราถอดจากหัวใจเราด้วย..เมตตานี่ก็ดี ไม่ไปหาถอดเอาตามคัมภีร์ ออกจากหัวใจที่เป็นในหัวใจเราจริง ๆ เพราะฉะนั้นกิริยาท่าทางที่ออกทุกสิ่งทุกอย่างจึงเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาล้วน ๆ จึงได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า ที่ออกทางทีวีนั้นอย่าตัด บอกตรง ๆ เลย

กิริยาท่าทางสุ้มเสียงทุกอย่างที่แสดงออกในทางทีวีนั้น กรุณาอย่าตัด นี้คือธรรมออกสนาม พี่น้องทั้งหลายยังไม่เคยเห็น ตั้งแต่ตั้งเมืองไทยเรามายังไม่เคยเห็น ให้ดูเสีย บอกงี้เลยนะ นี่ธรรมออกสนามที่อยู่บนทีวี กิริยาท่าทางขึงขังตึงตังนี้ถ้าเป็นกิเลสออกสนามแล้วโลกพินาศเลย แต่นี้ธรรมออกสนามเป็นน้ำดับไฟ ทำโลกให้มีความร่มเย็นเป็นสุข ความหมายว่างั้น เพราะฉะนั้นจึงอย่าตัด กิริยาอันนี้เป็นกิริยาของธรรมออกสนามล้วน ๆ กิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่มีแทรกเลย จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ดู

นั่นละกิริยาเหล่านั้นออกจากหัวใจล้วน ๆ นี้ก็บอกตรง ๆ เลยไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายติดหัวใจเราเลย เปิดป้าง ๆ ขนาดนี้แล้ว ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาพี่น้องทั้งหลาย เราจึงได้แสดงออกเต็มเม็ดเต็มหน่วย กิริยาของโลกโลกเห็นทั่วไป กิริยาที่เป็นพิษเป็นภัยนั้นตัวพิษตัวภัยออกมาแล้ว ออกมาพร้อมแล้ว

แต่กิริยาของธรรมนี้ เพราะเป็นเครื่องมืออันเดียวกัน ร่างกายของเราเป็นเครื่องมือของทั้งทางกิเลสและทางธรรม ทางกิเลสถ้ามันพาออกแล้วโลกพินาศ ถ้าทางธรรมพาออก เป็นเครื่องมืออันเดียวกัน ใช้อย่างเดียวกัน พลังอย่างเดียวกัน แต่อันหนึ่งเป็นพลังของธรรม อันหนึ่งเป็นพลังของกิเลส ทีนี้เวลาพลังของธรรมออกขึงขังตึงตังแบบเดียวกัน แต่รสชาติ คือรสแห่งธรรมกับรสกิเลสต่างกัน รสกิเลสเป็นฟืนเป็นไฟ รสแห่งธรรมเป็นน้ำดับไฟ ต่างกันเท่านั้น

จึงได้ประกาศมาตั้งแต่ต้นเลยว่า ใครอย่าตัดนะกิริยาท่าทางที่ออกในทีวีนั้น นั้นคือกิริยาแห่งธรรมออกสนามนะ เราบอกอย่างนี้เลย ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ใครออกอย่างนี้ไม่เคยมี เราตั้งแต่เกิดมาเราก็ไม่เคยมี พึ่งมามีตอนที่ออกสนามเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองขึ้นจากความยากจนนั่นเอง จึงได้แสดงเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกอย่างนั่นแหละ นี่ก็พูดถึงทองคำเมื่อวานวันที่ ๒๒ ได้ทองคำศูนย์ไปเลยนี้ โอ้โห มันเป็นยังไง พิจารณาซิทุกคน แล้วดอลลาร์ได้ ๑๒ ดอลล์ มันเสียหน้าชาติไทยเรานะ วันทั้งวันทองคำไม่ได้สักสตางค์เลยนี้มันพิลึกกึกกือเกินไป

เตือนตลอดมา ๆ เวลานี้จะฟื้นพี่น้องทั้งหลาย อุ้มชาติไทยของเราขึ้นจากความล่มจม ให้มีความสงบร่มเย็น แน่นหนามั่นคงขึ้นไปโดยลำดับ ด้วยความอุตส่าห์พยายามของเราทุกคน เพราะฉะนั้นการฟังฟังให้ถึงใจทุกคนนะ ผู้ประกาศ-ประกาศออกมาด้วยความถึงใจ ไม่ใช่ประกาศแบบลอย ๆ นะ ธรรมพระพุทธเจ้าไม่ใช่ธรรมลอย ๆ เอาจริงเอาจังทุกอย่าง ธรรมพระพุทธเจ้าไปที่ไหนรื้อฟื้นที่นั่น ๆ สงบร่มเย็นที่นั่น กิเลสไปที่ไหนแหลกที่นั่น ๆ ต่างกันอย่างนี้นะ นี่ละกิเลสกับธรรมเป็นคู่แข่งกันตลอดมากี่กัปกี่กัลป์แล้ว

เวลานี้ชาติไทยของเราจะล่มจมเพราะอะไร เพราะกิเลสเห็นไหม เรื่องกิเลสไม่มีคำว่าเมืองพอ มีเท่าไรกินหมด ๆ กลืนหมด ๆ สุดท้ายคนทั้งชาติจะเป็นอาหารอันอร่อยโอชารส เลี้ยงโต๊ะกันสองสามโต๊ะเท่านั้น หมดคนประเทศไทย นี่อำนาจของกิเลสมันพอเมื่อไร คนทั้งชาติไม่พอกินมันนะ นี่ละกิเลส เรื่องธรรมะนี้ ชาติจะจมแล้วด้วยอำนาจแห่งกินมาก ๆ นี้น่ะ ท้องมันจะแตกแล้วนะ ไปตีพุงมันออก เข้าใจไหม

ให้ประหยัดมัธยัสถ์ อย่าลืมเนื้อลืมตัว แต่นี้ต่อไปให้รู้บุญรู้บาปรู้ผิดรู้ถูก มนุษย์ฉลาดกว่าสัตว์ทำไมจึงเรียนวิชาสู้สัตว์ไม่ได้ สัตว์เขายังรู้เขาผิดเขาถูก เช่น หมาทะเลาะกันจะกัดกันอย่างนี้ พอเจ้าของแฮ่เท่านั้นมันวิ่งหนีเลยมันกลัว ตัวนั้นผิดตัวนี้ผิดมันรู้นะ หมายังดีกว่าคน คนนี้เป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งเลวกว่าหมา ไม่รู้จักผิดจักถูกอะไรเลย กินเท่าไรกินไม่หยุดไม่ถอย หน้าด้านไม่มีอะไรเกินพวกผู้ใหญ่ที่หน้าด้านที่สุดนี้ละ ยิ่งเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองแล้วหน้าด้านที่สุดของจอมชาติบ้านเมืองของเรา เฉพาะเมืองไทยถ้าใครเป็นผู้ใหญ่แบบนี้แล้ว พวกนี้เลวกว่าหมา หมาไม่ได้กินคนทั้งชาติ พวกนี้กินคนทั้งชาติได้สบาย ๆ ยังจะกินอีกอยู่นะ ถ้าไม่เอาความจริงหรือศาสนาเข้าไปตีปากมันไว้ แล้วหมดจริง ๆ นะ

ศาสนาเท่านั้นที่จะต้านทานสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย พระพุทธเจ้าเคยต้านทานมาแล้ว กิเลสเต็มพระทัยฟาดขาดสะบั้นลงไป เป็นศาสดาเอกของโลก ทำความร่มเย็นแก่โลกมานานเท่าไร นี่ก็ธรรมเพื่อจะให้ความร่มเย็นแก่โลก รื้อฟื้นโลกขึ้นมาให้เป็นความสงบสุขร่มเย็น จึงพยายามตะเกียกตะกาย ทองคำเมื่อวานนี้ไม่มีอะไรเลย ได้ศูนย์ ๆ ถึงโมโหมากนะหลวงตาบัว ถ้าธรรมดาแล้วฆ่าคนได้นะ แต่นี้เราไม่ได้บวชมาฆ่าคนเราไม่ฆ่า เราโมโหเฉย ๆ เข้าใจไหม เอาละพอ

เป็นยังไงหมอวิยะดาฟังน่ะ

เห็นธรรมอยู่ค่ะ หลวงตาถวายสลึงนึง

เราพูดเฉย ๆ นะ ไม่เอา ก็เราพูดเฉย ๆ มันต้องขู่บ้างซี ไม่เอา ก็เราพูดขู่เฉย ๆ

เหลือแค่นี้หลวงตา

เราจะเอาเท่าไร เอามากกว่านี้ก็ได้ เอากับลูกศิษย์คนนี้แหละ แต่เวลานี้ยังไม่เอา ให้เอากลับคืน เข้าใจหรือเปล่าล่ะ มากวนโมโหอีกแล้ว

หลวงตาถวายปัจจัย ภรรยาอยู่ประสานมิตรกับอ.บังอร

เออบังอรเหรอ เออดี บังอรก็ลูกศิษย์วัดนี้แหละ ไปเทศน์ที่ประสานมิตร มาว่าเราๆ ยังไม่ลืมนะ พอออกมาก็มาเจอ อ.บังอร เพราะแกรออยู่ปากทางประตูที่จะออก มานั่งคุกเข่าอยู่นั้น แล้วเป็นยังไงฟังเทศน์วันนี้ วันนี้ไม่มันแกว่า วันนี้ไม่มัน เพราะแกเคยฟังเทศน์เรามามากต่อมากแล้ว ทีนี้ไปเทศน์ที่ประสานมิตร พอออกมาแล้วเป็นไงล่ะฟังเทศน์วันนี้ วันนี้ไม่มัน เทศน์ไม่มัน เอาละฟังนี้ก่อนนะ มันแกงหม้อใหญ่หลายลิ้นหลายปากหลายท้อง รสชาติจึงต้องมีแปลกๆ ต่างๆ กัน ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เวลาจะฟังรสชาติให้มันกว่านี้ คอยฟังตอนที่ว่าแกงหม้อเล็กนะ พอว่างั้นเราก็เดินผ่านมา วันนี้ไม่มัน แกว่างั้นนะ เพราะแกเคยฟังเทศน์มานี้พอแล้วนี่นะ

ไปเทศน์ที่นั่นไปเทศน์ส่วนรวม หลายลิ้นหลายปาก ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่คนเฒ่าคนแก่ อันธพาลก็มีจะตีแรงๆ มันก็จะถูกหัวเด็ก จะถูกหัวคนแก่ อันธพาลมันก็เลยหลบซ่อนอยู่ข้างหลังเด็ก มันตีไม่ถนัดเข้าใจไหม เรียกว่าแกงหม้อใหญ่ เรายังไม่ลืม วันนี้ไม่มันว่างั้นเลยนะ ทีนี้ไปเทศน์ที่วัดอโศฯ พอไปเทศน์วัดอโศฯ มาแล้ว เป็นยังไงวันนี้ ยกนิ้วเลย วันนั้นมีพระมาก มีพระมากตรงไหนพระปฏิบัตินะ เทศน์ต้องเด็ดโดยลำดับลำดา ยิ่งมีผู้มุ่งมั่นต่ออรรถต่อธรรมมากเท่าไร พูดจริงๆ ธรรมะนี้จะออกเองบอกแล้วนี่นะ บอกตรงๆ เลยเราพูดไม่สะทกสะท้านเลย สามแดนโลกธาตุเท่ากับถังขยะ ฟังซิน่ะ แล้วธรรมเทศนาอันนี้มันจะอัดจะอั้นมาจากที่ไหน ถ้าสมควรจะแสดงออกมากน้อยแล้วจะออก ทันทีๆ ไม่มีคำว่าอัดว่าอั้น

ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นธรรมธาตุแล้ว นั้นละธรรมแท้เป็นอย่างนั้น ธรรมในคัมภีร์ใบลานนี้จะเล่มหนาขนาดไหน เราจะอ่านได้เป็นทาง ๆ ที่เราผ่านไป นอกนั้นเราไม่รู้ เต็มอยู่ในคัมภีร์ก็ไม่รู้ แต่เรื่องธรรมะซึ่งเป็นของจริง ที่แตกกระจายออกเป็นธรรมทั้งแท่งแล้วกระจายไปหมดเลย นี่ธรรมพระพุทธเจ้าที่ทรงไว้และสาวกทั้งหลายทรงไว้ ทรงธรรมประเภทนี้ทั้งนั้น มาสอนโลกจึงกว้างขวางลึกซึ้งครอบโลกธาตุ คัมภีร์นั้นคัมภีร์นี้ โอ๋ย อย่าเอามาพูดว่างั้นเลย นี่มันสองกัณฑ์แล้ว เอาละเท่านั้นก่อน

ที่ว่าทองคำ ดอลลาร์ได้ศูนย์ๆ เราขู่นั้น คือว่าปลุกใจประชาชนธรรมดาๆ เข้าใจไหม ก็ให้มาทุกวันๆ ให้อยู่แล้วมันก็มีพักเครื่องติดเครื่องเร่งเครื่อง เป็นธรรมดา แต่เวลาจะขู่เหล่านี้ปัดออกหมด มีแต่จ้อใหญ่เลยเข้าใจไหม มันก็ต้องมีหลายวรรคหลายตอนซิน่าทีนี้จะให้พรนะ

วันนี้มีทองคำบ้างไหมล่ะ (วันนี้ได้ ๓ บาท ๙๘ สตางค์ครับผม)เออ นั่นเห็นไหม ได้ทุกวันๆ ค่อยๆ ได้ของมันนะ เวลาขู่ ขู่บ้างซี ฟ่อๆ เวลาจะเอา เอา ไม่เอา เที่ยวขู่เฉยๆ ไม่ได้ขู่ด้วยแบบกิเลสนี่นะ ขู่แบบธรรมต่างหาก

ทองคำเวลานี้มันก็ได้ ๒ ตันกว่าแล้วนะ รวมทั้งหมดทองคำที่ได้แล้วเวลานี้ได้ทองคำ ๒,๒๖๗ กิโลครึ่ง รวมทั้งที่ยังไม่ได้หลอม ที่ยังไม่ได้หลอมเพียง ๒๐๕ กิโล นอกจากนั้นหลอมแล้วฝากไว้เรียบร้อยแล้วนะ รวมแล้วทั้งหลอมและยังไม่ได้หลอมได้ทองคำ ๒,๒๖๗ กิโลครึ่ง ก็ ๒ ตันกว่า เราจะพยายามให้ได้ตั้งฐานไว้เลยว่าขาดสตางค์หนึ่งไม่ได้ ตั้งแต่ ๔ พันกิโลขึ้นไป ๔ พันกิโลนี้เราจะเอาจากบรรดาพี่น้องชาวไทยเราทั้งหมด มารวมเป็น ๔ พันกิโล แล้วเงินอีก ๘๐๐ ล้านนะที่เราฝากไว้ธนาคารเวลานี้ ๘๐๐ ล้านนี่หมายถึงที่จะเอาไปซื้อทองคำ ๘๐๐ ล้านนี้เราจะนำไปซื้อทองคำทั้งหมดเลย มาบวกกับ ๔ พันนี้ขึ้นไปอีก ส่วน ๔ พันนี้ให้พี่น้องทั้งหลายหาเองไม่ให้มายุ่งเงินจำนวนนี้ เงินจำนวนนี้เราสำหรับต่อยอดขึ้นไป

แล้วเงินที่ฝากไว้ธนาคารตอนกฐินนี่นะ ฝากไว้เป็นเงินประมาณ ๖ ล้านกว่า อันนี้ก็จะหมุนเข้าสู่ทองคำ ซื้อทองคำ ตกลงว่าที่แน่แล้วเวลานี้ก็ ๘๐๖ ล้านนี้จะซื้อทองคำทั้งหมด นี่เราประกาศก้องออกไปแล้ว หลวงตาถ้าพูดยังไงแล้วเป็นอย่างงั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นะ เราตายแล้วก็ต้องปฏิบัติตามนี้ เพราะคำสั่งของเราสั่งไว้นั้นเสร็จ เรียกว่าเป็นพินัยกรรมก็ไม่ผิด

คิดดูอย่างศพหลวงตา เวลาหลวงตาบัวตาย อันนี้เป็นพินัยกรรมสมบูรณ์แล้วนะ ให้นักกฎหมายหัวกะทิมาเขียนพินัยกรรมเลย แล้วมาอ่านให้เราฟังเป็นที่พอใจ เวลานี้เก็บไว้ในลิ้นชัก บอกว่าระยะที่มีชีวิตอยู่ หลวงตาบัวจะช่วยโลกให้เต็มกำลังความสามารถ เมื่อหมดสภาพแล้ว ร่างกายตายลงไป เอาร่างกายที่ตายนี้ เวลาพวกลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายมาบริจาคทาน เงินทั้งหมดที่เขาเอามาเผาศพเรา เราจะตั้งคณะกรรมการขึ้นอย่างเข้มงวดกวดขัน รับผิดชอบในเงินจำนวนนี้ทั้งหมด แล้วเอาไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทั้งหมด แล้วหลวงตาบัวไปเลย เข้าใจไหม

นี่วาระสุดท้ายประกาศไว้แล้วพินัยกรรมเขียนไว้แล้วเวลานี้อยู่ในตู้ (ตู้อยู่ไหนคะ) ตู้อยู่ในกุฏิเรา ตู้อยู่ในกุฏิหลวงตาบัว ถ้าใครจะไปเติมพินัยกรรมจะมาเอาอะไรกับหลวงตาบัว เราต้องคิดค่าดอกตั้งแต่ก้าวเข้าวัด เอาค่าดอกก้าวละเท่านั้น ก้าวละบาทสองบาทมาเรื่อย เพื่อจะเพิ่มทองคำ นี่ละคือวาระสุดท้ายของเราที่ช่วยชาติ เราเอาศพเข้าช่วยเลย ในงานศพนี้ใครจะมาบริจาคมากน้อย ตามธรรมดาเงินเหล่านี้มันจะฟุ้งเฟ้อไปทุกอย่าง อีลุ่ยฉุยแฉกว่างั้นนะ แต่เงินเรานี้ พินัยกรรมเขียนไว้อย่างขาดสะบั้นเลย เรียกว่าทุกบาททุกสตางค์ที่เขามาบริจาคนี้ ตั้งคณะกรรมการอย่างเข้มแข็งขึ้นมาเลย ใครมายุ่งไม่ได้ แล้วเงินจำนวนนี้ทั้งหมดจะเอาไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงหมดเลย ส่วนศพหลวงตาบัวใครจะโยนเข้าป่าลงเหวเราไม่ค่อยสนใจ เราได้เงินและทองคำสู่คลังหลวงแล้วเราพอใจ

เขียนไว้แล้ว ให้มาอ่านทบทวนดูแล้ว ทางนักกฎหมายเขาบอกว่าชอบธรรมและถูกต้องแล้ว เราก็เก็บในลิ้นชักไว้แล้ว พอเราตายแล้วเขาก็จะงัดอันนี้ออกมาประกาศแทนหลวงตาบัวเลยเทียว มาทำหน้าที่แทนหลวงตาบัว

จะตามไปดูพินัยกรรม

อย่าด่วนไป ดูเมื่อไรก็ได้พินัยกรรม

มีชื่อหนูไหมหลวงตา

ชื่ออะไร เอ้อ งานหลวงพ่อพุธเราก็ดูได้เงิน ๒ ล้าน ๗ แสนกว่าทางนู้นบอกมาทางนี้ ที่หลวงตาไปเทศน์ให้วันนั้นน่ะ ไปในงานทอดผ้าป่าเพื่อเจดีย์น่ะ ทอดผ้าป่าสมทบทุนเพื่อสร้างเจดีย์หลวงพ่อพุธเรา เขามานิมนต์เราไปเป็นประธานกองผ้าป่า ทีนี้เวลาเทศน์จบลงแล้ว เขามาทอดผ้าป่าทั้งหมดก็นิมนต์เจ้าคณะภาคมาเลย แล้วก็ทางฝ่ายทหารหัวหน้ามาเลย มายืนข้างหน้าทั้งสองข้าง เราก็ประกาศบอกเลยเงินจำนวนนี้ทั้งหมด เขาถวายเป็นผ้าป่าเพื่อจะสร้างเจดีย์โดยผมเป็นผู้แสดงธรรม เป็นหัวหน้าในผ้าป่ากองนี้ เพราะฉะนั้นผ้าป่ากองนี้ทั้งหมดจึงขอให้ท่านเจ้าคณะภาคและทางฝ่ายแม่ทัพมาเป็นเจ้าหน้าที่รับความผิดชอบตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป จากนี้เราจะออกเดินทาง

ทางนั้นก็แยกพึบรับพึบ เสร็จแล้วเราออกเดินทางเลย ได้เงินเราจำได้แต่ ๒ ล้าน ๗ แสนกว่าเท่าไรไม่รู้ ทางโน้นก็เขียนจดหมายอนุโมทนามาหาเรา จำได้ว่า ๒ ล้าน ๗ แสนในผ้าป่าคราวนี้นะ เจดีย์ของเราจะขึ้นได้แยะก็เงินตั้ง ๒ ล้านกว่า (เริ่มแล้วทหารเขาสร้างเองน่ะค่ะ จะได้ไม่เสียค่าแรง ซื้อแต่วัตถุค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงตางานศพหลวงพ่อ หลวงตาเมตตาค่ะ)

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก