แหล่งสามภพ
วันที่ 1 กรกฎาคม. 2553 เวลา 12:20 น.
สถานที่ : วัดแสงธรรมวังเขาเขียว บ้านบุตะโก ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา

เมื่อบ่ายวันที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

แหล่งสามภพ 

          มา ๔ ชั่วโมง (๓ ชั่วโมง ๔๕ นาทีครับ) เราวิ่งก็เสมอนะเวลาเท่านั้น เราเดินก็เหมือนกันนะเดิน แต่ก่อนมันไม่มีทางรถ จากวัดป่าบ้านตาดเดินเข้าตัวเมือง พอไปถึงชานเมืองปั๊บเป็นจุดหมายที่จะวัดดูว่าได้เท่านั้น ๒ ชั่วโมงกว่านิดหน่อย เวลามารถ ๒ ชั่วโมง ไป ๒ ชั่วโมงกว่านิดหน่อยๆ ถ้าหากว่าเราได้ยืนพูดคุยกับใครก็เสียเวลาไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นตรงเป๋งๆ เดินเก่งแต่ก่อน เดี๋ยวนี้ไม่ได้ เราเดินเก่งแต่ก่อน เหมือนม้าแข่งเดิน แต่ก่อนเดินเก่งนะนี่ ไม่ใช่เล่น คือ ๒ ชั่วโมงขึ้นไปก่อน จากก้าวแรกถึง ๒ ชั่วโมง นั่นเครื่องเริ่มร้อนแล้วนั่น พอ ๒ ชั่วโมงแล้วทีนี้ดีดปั๊บๆๆๆ ความรวดเร็วแข็งแรงคล่องตัวหมดนะ เดี๋ยวนี้มีแต่ถอยหลัง ว่าไปข้างหน้าถอยข้างหลัง ถอยกลับ ไม่ไปข้างหน้าเดี๋ยวนี้

          ดีละบรรดาพี่น้องทั้งหลายได้มาเยี่ยมกันวันนี้ ได้เห็นหน้าพระในวัดนี้ก็มี ที่อื่นก็มา รวมกันแล้วมาทั้งหมดก็ได้เห็นหน้าพระแล้ววันนี้นะ นอกนั้นก็วุ่นอยู่กับการกับงาน พระบางคนไม่เข้าใจแต่มีตามความจริง พระไม่ได้ทำอะไร อยู่เฉยๆ มีแต่กินกับนอน เขาว่าอย่างนั้นก็มีนะ เขาว่าให้พระ อย่างพระที่มุ่งต่อมรรคต่อผลจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย คล่องตัวตลอดความเพียร สติไม่ให้เผลอ เป็นอย่างนั้นนะ สติเป็นสำคัญ ถ้าเผลอสติเมื่อไรนั่นละเสียเวลา ถ้าสติมีอยู่กับตัวก็เรียกว่ามีความเพียรอยู่กับตัว

          ได้ฟังธรรมะคำพูดคำจานิดหน่อยก็ดี พูดอรรถพูดธรรมก็ยังดีอยู่ นี่มาก็มาพบกันเต็มศาลา วันนี้ก็มาจากนู้นก็มาพบกันที่นี่ จากนี้ก็กลับค่ำมืดพอดี เริ่มมืดพอดีนะ ตามเวลาที่เราเคยไปเคยมา การวิ่งรถก็เสมอ การเดินก็เสมอแต่ก่อนเราเดินเสมอ ทุกวันนี้อ่อนลงทางร่างกาย อาศัยรถลาไปอย่างนั้นละ การเดินเราเดินเก่งนะ เดินเก่งมากอยู่ ตั้งแต่ยังหนุ่มน้อย ถ้าได้เดินไปออก ๒ ชั่วโมงแล้วทีนี้นั่นละเร่งล่ะ คือ ๒ ชั่วโมงเหมือนกับว่าเครื่องยังไม่ร้อน พอ  ชั่วโมงแล้วเริ่มเร็ว เร็วตลอด ยิ่งนานเท่าไรยิ่งเร็วๆ นะ ทุกวันนี้นานเท่าไรยิ่งคลาน คลานไปเดี๋ยวนี้ มันหมดกำลัง คลานไปละ

          มาพบพระเจ้าพระสงฆ์ก็เป็นบุญเป็นกุศลแล้ววันนี้นะ ได้พบพระเจ้าพระสงฆ์ทั่วหน้ากัน กลับไปก็ให้มีพุทโธติดรถไปเลยนะ เวลามารถเปล่าๆ เวลาขากลับไปให้พุทโธติดรถแน่นเลยนะ เรามาหาธรรม มาหาพุทโธ กลับไปให้ได้พุทโธเต็มรถเลย มาเยี่ยมพี่น้องเฉยๆ ละ พอออกจากนี้แล้วก็กลับ กลับวัดพอดีมืดนะ กะว่าระยะมืดพอดี

          มาบวชทีแรกดีใจ บวชเสร็จทีแรกดีใจมาก ได้ไปสวรรค์ละทีนี้ว่าอย่างนั้นนะ เป็นในเจ้าของ ในจิตคิด ดีใจมากวันนี้ได้บวชแล้วจะได้ไปสวรรค์ ครั้นนานเข้าๆ มันก็ทบทวน ไปสวรรค์ดีแล้ว จากนั้นก็สวรรค์-พรหมโลกกี่ชั้นๆ ถึงนิพพาน ไล่เข้าไป ไล่เข้าไป เลยไปติดใจกับนิพพาน เรื่องนั้นผ่านไปหมดเลย ติดใจกับนิพพาน คือนิพพานไม่กลับมาเกิดอีก นอกนั้นเกิด ถึงจะอยู่เป็นเวลาหลายปีก็กลับ ส่วนนิพพานไม่กลับ จึงคิดอยากไปนิพพาน อยากไปนิพพานอยากเป็นกำลัง ความอยากมันมีกำลังไป มันเป็นกำลัง ความอยากมากนี้ความเร่งความพากความเพียรยิ่งหนักนะ ความอยากมันกำลังใจ กำลังใจดูดๆ เรื่อย

          ทุกวันนี้มันหมดกำลังหรืออย่างไรไม่รู้นะ คงจะหมดกำลัง เลยไม่อยากเดี๋ยวนี้ อะไรก็ไม่อยาก มนุษย์ก็ไม่อยากมา ไปสวรรค์ก็ไม่อยาก ขึ้นถึงพรหมโลกก็ยังไม่อยาก มีแต่นิพพานติด นี่ละมันเข้มข้นนะ พอเข็มทิศมันเข้าจุดนั้นมันหมุน ความเพียรเก่ง ความอยากเป็นสำคัญ ถ้าไม่มีความอยากไม่ว่ากินอะไรก็ตามมันไม่ค่อยมีรสมีชาติ ถ้าหิวๆ มากๆ แล้วทั้งอยากด้วยแล้วมีเท่าไรกินหมด ไม่เหลือละ เป็นอย่างนั้นนะ มันหิวมาก อันนี้เหมือนกันมันหิวบุญหิวกุศล สุดท้ายหิวนิพพานเพื่อความสิ้นทุกข์ อันนี้ละหมุนติ้วเลย หมุน กำลังจิตมันหมุนที่จะไปเรื่อยๆ

          ทีนี้มันเฒ่ามันแก่มาแล้วได้ลดกันไปเอง อยากอะไรก็ไม่อยากเดี๋ยวนี้ แม้ที่สุดอยากไปนิพพานก็ไม่อยาก พูดตรงๆอย่างนี้ล่ะ แต่ก่อนมันอยากจริงๆ รู้ความรู้สึกของเจ้าของมันอยาก อยากมาก ทีนี้ครั้นนานเข้าๆ ความเพียรมันคงจะขี้เกียจเฒ่าแก่ เดี๋ยวนี้ก็ไม่อยากอีกละ ไม่อยาก อยู่สบายๆ เลย พากันจำเอานะ แหล่งสามภพนี้เป็นแหล่งที่อยู่ที่เกิดที่ตายของสัตว์ทั้งหมด ไม่มีที่ว่างว่าสัตว์จะไม่เกิดไม่ตาย ในน้ำบนบกบนฟ้าอากาศมีหมด พวกสัตว์เกิดตายได้ทั้งนั้น อากาศอย่างนี้ก็ตายเกิดได้ ป่าช้าจึงว่ามีอยู่ทั่วไป

          เราก็เร่งความเพียรเข้าซิ ไม่ให้มันมาเกิดมาตายอีก เอาให้มันถึงพอแล้วมันก็เป็น ไม่อยาก แน่ะเห็นไหมละ เวลาอยากมันอยาก เวลาเอาให้เต็มที่แล้วเลยไม่อยาก มันเป็นอย่างไรคนไม่อยาก เห็นแต่คนตายเท่านั้นมันไม่อยาก ถ้าคนเป็นมันอยากด้วยกันทุกคนนั่นละ ให้จำเอานะพี่น้องทั้งหลายให้ภาวนา ภาวนาเวลาจิตมันละเอียดลออสว่างไสวมันครอบหมดนะ จิตใจนี้มันสว่างจ้าครอบไปหมด นั่น ทั้งๆ ที่กิเลสก็ยังมีมันก็สว่างของมัน สว่างตามส่วน

พอเวลามันเต็มที่แล้วพูดไม่ถูก พูดเรื่องนิพพานไม่ถูก มันสว่างไปอย่างไรๆ เข้าใจจิตเจ้าของไม่สงสัย แต่คนอื่นใครเป็นอย่างไรไม่ถาม เป็นอย่างนั้นนะ เวลามันเป็นในจิตของมันเป็น เวลาจิตว่างอย่างนี้ก็ว่างจริงๆ จิตมันว่าง ภาวนาถึงขั้นนั้นๆๆ มันเป็นขั้นๆ นะ เพราะฉะนั้นท่านแสดงไว้ทุกแห่งทุกหนทุกบททุกบาทจึงไม่มีผิด เวลาเราเดินตามแล้วมันก็ไปตามนั้นละ ไม่ไปที่อื่น ถ้าขี้เกียจแล้วไม่เห็น อย่าขี้เกียจ

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz

            พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก