นำเรื่องความตายเตือนตัวเอง (ฌาปนกิจศพพระอาจารย์บุญเติม ฐิโตภาโส)
วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เวลา 14:00 น.
สถานที่ : ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(Real)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส

เนื่องในโอกาสองค์หลวงตาเป็นประธานฌาปนกิจศพ

พระอาจารย์บุญเติม ฐิโตภาโส

ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.

นำเรื่องความตายเตือนตัวเอง

 

          ............  สิ่งที่มีประจำโลกมาตั้งกัปตั้งกัลป์ คือการเกิดการตาย นี่ก็เผาศพท่านเติม ตายที่โรงพยาบาลแล้วก็เอาศพมาเผากันที่นี่ ท่านเติมนี้เราจัดให้ไปอยู่ที่บ้านนาแอง ทางนู้นไม่มีพระ มาขอพระจากเราก็ได้ส่งไปที่บ้านนาแอง ประมาณสักกี่ปีนะ ได้หลายปีอยู่นะ (๙ ปีครับ) ไปอยู่นู้นก็เป็นโรคเขาเรียกว่าโรคมะเร็ง ประชาชนทั้งหลายก็กลัวกันละโรคมะเร็ง ท่านได้เสียชีวิตเสียแล้วก็นำมา มาเผากันที่นี่เลยวันนี้ งานการจึงมีมาก เผาศพพระด้วย ได้เห็นอยู่นั่นดูเอา มาปลงธรรมสังเวชด้วยกัน ไม่มีใครเกินใครแหละ อยู่ในโลกอันนี้มีแต่เกิดกับตาย เผาหรือไม่เผาฝังหรือไม่ฝังก็คือเกิดกับตายเป็นคู่กัน

          จงอย่าพากันประมาท ในชาตินี้ก็เป็นชาติที่เหมาะสมแล้วเราได้เกิดเป็นมนุษย์ บรรดาสัตว์ทั้งหลายเกิดในน้ำบนบก บนฟ้าอากาศนอกอากาศที่ไหนเกิดได้หมด ตายได้หมด แต่เรามาเกิดนี้ก็ได้มาพบพระพุทธศาสนา ได้มาทำบุญให้ทาน แล้ววันนี้ก็มีศพพระตายแล้วก็มาเผาต่อหน้า ให้ได้เห็นด้วยกันทุกคน ไม่มีใครจะแซงหน้าใครกันไปได้ละ เกิดแล้วต้องตาย เกิดแล้วต้องตาย ในเวลานี้มีชีวิตอยู่อย่าได้พากันประมาท ความดีงามให้พากันเสาะแสวงหา อย่าหาตั้งแต่ความชั่วช้าลามก ครั้นได้มาก็มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ทั้งเมืองมนุษย์เมืองคนเมืองผีได้ไปเกิดหมดนั่นละ เพราะตัวเองเป็นผู้คึกคะนองในทางไม่ดี สร้างแต่ความชั่วตายแล้วก็มาเผาตัวเองนั่นละ

วันนี้ได้เห็นเป็นพยานนี่เผาศพพระก็เห็นอยู่นี่ พระนี่ชื่อท่านเติม อายุ ๔๙ (พรรษา ๒๖ ครับผม) เราได้ส่งไปอยู่ที่วัดบ้านนาแอง ไปแล้วถึงเวลาก็ตายเหมือนกันหมด นี่ตายแล้วนี่ก็มาเผากันที่นี่ละ ขออย่าประมาท เวลามีชีวิตอยู่ให้คัดเลือกตัวเอง วันนี้จนกระทั่งถึงนอนหลับเราได้คิดได้ทำอะไรไว้บ้าง มีดีมีชั่วแทรกกันไป อะไรฝ่ายใดมากฝ่ายใดน้อยนั้นละเราจะเป็นผู้รับกรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย เวลามีชีวิตอยู่นี้อย่าได้เสียอกเสียใจในภายหลังทั้งๆ ที่เราสามารถทำได้ทุกอย่าง ให้ทำเอาเสียเกิดมาในชาตินี้นะ เวลาไปเกิดใหม่ไปโดนเอานรกก็ได้นะ ชาตินี้เป็นชาติที่แน่นอนให้สร้างคุณงามความดีเสีย ตายแล้วคำว่านรก-สวรรค์-นิพพานนี้มีอยู่เป็นประจำตั้งกัปตั้งกัลป์ ใครทำกรรมดีกรรมชั่วอย่างใดไว้ก็ไปเกิดที่นั่นละ

นี่เรามาสร้างความดิบความดี ใจเป็นของฝึกฝนอบรมได้ ท่านจึงสอนให้อบรมจิตใจ ใจเป็นของฝึกฝนได้ ฝึกไปทางที่เลวก็เลวไปเรื่อย ฝึกไปทางที่ดีก็ดีไปเรื่อย นี่ให้เราฝึกฝนความดีของเราให้ถนัดในหัวใจของเรา ตายแล้วบุญบาปนั่นละจะพาเราไป เพราะบุญกับบาปเราผู้สร้างเอง เราสร้างบุญได้บุญ สร้างบาปได้บาป เอาจนกระทั่งหมด บุญบาปละได้หมดถึงนิพพานไม่ต้องมาเกิดอีก นั่นเป็นสุดขีดของผู้สร้างความดี สุดขีดของผู้สร้างความชั่วก็ลงนรกอเวจี ให้พากันระมัดระวัง

          คำพูดคำสอนเหล่านี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้านะ ไม่ใช่เป็นคำสอนของพวกหูหนาตาเถื่อนมาสอน เป็นจอมปราชญ์มาสอนไว้ ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาป นรกมี สวรรค์มี นิพพานมี คนที่สร้างความดีย่อมไปทางสูงคือไปทางสวรรค์-นิพพาน คนสร้างความชั่วไปทางต่ำลงนรกอเวจี ให้เราคิดอ่านเสียตั้งแต่บัดนี้นะ ตายแล้วจะไม่ได้ทำ ตายแล้วไม่ได้คิด ให้คิดตั้งแต่บัดนี้ สร้างพุทโธ-ธัมโม-สังโฆจอมปราชญ์ทั้งหลายสอนเอาไว้ แล้วฉุดลากสัตว์โลกทั้งหลายให้ไปสู่สถานที่ดีคติที่สมหวังมามากต่อมากแล้ว เราก็ให้พากันอุตส่าห์สร้างทางที่ท่านสอนไว้ และสมหวังทุกสิ่งทุกอย่างที่เราปรารถนาและทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นละ

          วันนี้ไม่พูดอะไรมากนัก มีต้นเหตุนี่ละที่ว่าพระตายแล้วก็มาเผากันที่นี่ รวมกันเลยกลายเป็นหลายงาน คนจึงมาแน่นเต็มศาลาเลย แล้วไปก็ให้เอาเรื่องความตายนี้เป็นที่ระลึกในจิตใจ ใจจะไม่ได้ประมาทจะสร้างความดีเรื่อยๆ ไปนะ หลวงตาก็แก่พูดมากเท่าไรก็ยิ่งอ่อนลงๆ ไม่เหมือนแต่ก่อนละ ปีนี้ร่างกายทุกอย่างอ่อนลง พูดมากก็เหนื่อยลำบาก ให้ท่านทั้งหลายนำเรื่องความตายนี้ไปเตือนตัวเอง ก่อนตายให้สร้างความดิบความดีไว้ใส่ตน ความดีนั้นละเป็นคู่มิตรคู่สหายคู่พึ่งเป็นพึ่งตายได้ ความชั่วพึ่งมันไม่ได้ล่ะ มีตั้งแต่หลอกคนชั่วให้หลงในทางที่ผิดทั้งนั้นละ เอาล่ะวันนี้พูดเพียงเท่านี้ จะให้พรท่านทั้งหลายที่มา ให้นำสิ่งที่เป็นมงคลทั้งหลายนี้ไปเป็นคติเครื่องเตือนใจตัวเองก็จะมีความสุขความเจริญต่อไป อนาคตที่สมหวังจะเป็นของเรา เอาล่ะทีนี้จะให้พร

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz

            พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก