เทศน์อบรมฆราวาส
ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา
เมื่อบ่ายวันที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๓
บุญติดแนบหัวใจ
นี่ก็คิดถึงพี่น้องทั้งหลายนะ ที่หลวงตาอุตส่าห์บึกบึนมานี้เพราะเห็นแก่หัวใจของพี่น้องทั้งหลายทั่วหน้ากันถึงได้บึกบึนมา ใกล้ไกลก็มา มานี้รถวิ่งไม่หยุด ๓ ชั่วโมง ๔๐ นาทีจากวัดป่าบ้านตาดมาที่นี่เป็นเวลา ๓ ชั่วโมง ๔๐ นาที เวลากลับไปบวกกันเข้าอีกจะเป็น ๗ ชั่วโมง ๒๐ นาทีเวลาขากลับไปก็ไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่ใกล้ๆ นะ เราอุตส่าห์บึกบึนไป เราไม่ได้มาหาอะไรนะ เงินทองข้าวของเศรษฐีเต็มบ้านเต็มเมืองทั่วแผ่นดินนี้ใครมีทั้งนั้นมีเงินมีทองข้าวของแต่ความทุกข์ไม่ได้ห่างจากใจของมนุษย์ที่เป็นมหาเศรษฐีนั้นเลยนะ เพราะขาดธรรมภายในใจ
เพราะอย่างนั้นท่านทั้งหลายขอให้บำรุงจิตใจด้วยศีลด้วยธรรม ถ้าจิตใจมีศีลมีธรรมแล้วไปที่ไหนเบาหวิวๆ นะ ที่หนักอึ้งที่สุดก็คือมีแต่บาปหาบแต่กรรม ไปที่ไหนหนักอึ้งๆ ไปแล้วแทนที่จะพาขึ้นพาจม เป็นอย่างนั้น สร้างเสียความดีงามนี้ละจะพึ่งเป็นพึ่งตายกันได้ อย่างอื่นต่างท่านต่างเหมือนกันหมด ใครจะมีมากน้อยเพียงไรก็ตามเขาไม่พังเราก็พังเหมือนกันหมด แต่บุญกุศลนี้ไม่พัง ติดอยู่กับจิตใจของเราไปด้วยอำนาจแห่งบุญแห่งกุศล สรุปลงแล้วอำนาจแห่งบุญพาไป อำนาจแห่งบาปกดถ่วงลงตลอดเวลา จึงพากันสร้างบุญกุศล
จิตใจไม่ตายนะ บุญกุศลก็ติดไปกับใจนั้นแหละ ใจไม่เคยมีป่าช้าไม่มี..ใจ ออกจากร่างนี้ไปเข้าร่างนั้นออกจากร่างนี้ไปเข้าร่างนั้นตามอำนาจแห่งบุญกรรมที่มีมากน้อยต่างกัน นี่ละตรงนี้ละ แต่ให้จิตมันตายไม่ตายละ ไม่เคยตายจิต ไม่เคยฉิบหาย บุญกุศลก็เหมือนกัน ติดแนบกันไป ให้พากันสร้างความดีงาม จะมีมากมีน้อยเท่าไรก็ตาม สมบัติเงินทองไม่มีใครจะเหนือใครไปได้ละ มีคนมีคนจนเต็มบ้านเต็มเมืองครั้นแล้วความทุกข์ก็มีเต็มบ้านเต็มเมืองเหมือนกัน ผิดแปลกกันก็คือว่าผู้มีบุญมีกุศลภายในใจอันนี้ผิดกันอยู่มากนะ ถึงจะไม่มีอะไรก็ตามเรารู้อยู่เต็มหัวใจ ต่างกันตรงนี้ เพราะอย่างนั้นจงพากันสร้างบุญสร้างกุศล
สิ่งอื่นสิ่งใดเราก็ต่างคนต่างเสาะแสวงหามาตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งบัดนี้ และยังจะเสาะแสวงหาจนกระทั่งถึงวันตาย มันก็ได้มาเสียไปได้มาเสียไปเท่าๆ กันหมด ไม่เหมือนบุญเหมือนกุศล กุศลนี้ได้มาแล้วติดปั๊บๆ ติดกับใจ ไม่สูญหายไปไหนละ เวลาจะเป็นจะตายอะไรสมบัติเงินทองข้าวของบริษัทบริวารอะไรมองไม่เห็นนะ จะมองเห็นแต่บุญกุศลเท่านั้นนะ เพราะมาติดแนบกับหัวใจของเราผู้สร้างบุญ แต่ผู้สร้างบาปก็มีแต่บาปต้องมาติดแนบในหัวใจ ตายแล้วก็พาจมเลยๆ สถานที่ใดที่เราไม่ปรารถนานั่นละบาปมันจะพาไปที่นั่นนะ คนสร้างบาปเป็นอย่างนั้น คนสร้างบุญที่ไหนเป็นสิ่งดีแล้วไปล่ะพาไปที่ตรงนั้นๆ นะ
ให้พากันอุตส่าห์พยายามสร้างบุญสร้างกุศล คำพูดนี้ออกมาจากจอมปราชญ์คือพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์สอนไว้แบบเดียวกันหมด เรียกว่าสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้วเหมือนกัน ให้เราอุตส่าห์พยายามดำเนินตามนี้ อย่าขี้เกียจขี้คร้านนะ เป็นเรื่องของมารที่จะทำลายเรา ให้ปัดออกๆ ขี้เกียจขี้คร้านขนาดไหนก็ให้สร้าง สร้างบุญ เวลาจะเป็นจะตายจริงๆ บุญนี้แหละที่เราขี้เกียจขี้คร้านสร้างจะติดแนบหัวใจของเรา อย่างอื่นไม่มีที่อาศัยละ บุญกรรมนี้ละสำคัญมาก
จอมปราชญ์นะที่แสดงไว้นี้ นรกมีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ สวรรค์-พรหมโลก-นิพพานมีมากี่กัปกี่กัลป์มีแต่จอมปราชญ์สอนไว้อย่างไม่ผิด เราทั้งหลายตาบอดหูหนวกใจบอดก็ให้เดินตามท่าน ไม่อยากไปก็ให้ฝืนไปนะ คนเราถ้าจะทำความดีมันไม่อยากทำ ถ้าทำความชั่วเร็วยิ่งกว่าลิงเข้าใจไหม นี่ละตัวลิงมันเร็วนะมันจะพาเราไปทำความชั่วช้าลามก ให้เอาบุญเอากุศลตีข้อมือมันไว้อย่าให้มันพาเราไปทำ บาปกรรมมันไม่เอาเราเป็นผู้รับ
ให้เราสร้างเสียตั้งแต่บัดนี้ สร้างบุญสร้างกุศลสร้างเข้าเต็มที่เต็มฐานเต็มหัวใจแล้วเบาหมดนะ บุญกุศลเต็มหัวใจเบาหมดเลย ไม่มีอะไรจะเบาเท่าบุญกับใจเป็นอันเดียวกัน หรือว่าธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วเบาหวิวๆ ไปภพใดชาติใดมีแต่ภพที่เบาหวิวๆ ทั้งนั้นแหละ ภพที่หนักอึ้งเป็นภพที่ของคนสร้างบาป สร้างตั้งแต่บาปหาบแต่กรรมมันไปที่ไหนหนักอึ้งๆ อย่างเขาได้ของดิบของดีแทนที่จะได้ของดีเหมือนเขามันก็ไม่ได้ หากไปได้ที่ไม่พึงปรารถนานั้นละ ถ้าได้เมียก็เมียที่บ่นเก่งๆ ได้ผัวก็ผัวขี้เหล้าเมาสุราสูบกัญชายาเมาไม่ดี ผัวคนนี้ต้องการไหมล่ะ แต่มันก็เป็นของเราแล้ว ผัวของเราจะว่าอย่างไร แล้วเมียที่บ่นเก่งๆ นั้นมันก็เป็นเมียเราแล้ว แล้วจะเป็นใครละ ตำหนิใครไม่ได้ก็เราสร้างมาอย่างนั้น เวลาเจอมันก็เจออย่างนั้นแหละ
เพราะอย่างนั้นจึงพากันสร้างบุญสร้างกุศล บังคับใจนะบุญกุศล ไม่ใช่ไม่บังคับ บังคับเต็มที่ เวลาไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรการสร้างบุญสร้างกุศลมันขี้เกียจมากนะ การสร้างบาปมันเร็ว แต่พอรู้ภาษีภาษาเมื่อไรการสร้างบุญก็มีกำลังใจขึ้นมา หนักเข้ากว่านั้นก็หมุนติ้วเลยในการสร้างบบุญสร้างกุศล ให้พากันจำเอานะ เวลาเราสร้างไม่หยุดบุญกุศลก็มีกำลังเหมือนกัน พาเราหมุนติ้วทางบุญทางกุศล อยู่ที่ไหนไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศลอยู่ไม่ได้นะ ไปบ้านใดเมืองใดเขาไม่มีศาสนาเขาไม่มีบุญมีกุศลเขาไม่มีการทำบุญให้ทานอยู่ไม่ติดนะ เขาจะเป็นเศรษฐีก็ตามไม่ติด เราเป็นคนจนแต่ชอบทำบุญให้ทานไปเข้ากับเศรษฐีนี้ไม่ติดนะ ไปติดเศรษฐีเห็นเขามีเงินมากไม่ติด แต่ติดตั้งแต่บุญแต่กรรมความงามความดีของเราเท่านั้นละ ติดอันนี้ละ เวลาตายแล้วก็ไม่ต้องนิมนต์พระมา กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา บุญกุศลที่เราสร้างไว้แล้วนั้นแหละเป็นธรรมที่กุสลาส่งเราให้ไปสวรรค์-พรหมโลกตลอดนิพพาน ให้พากันจำเอานะ วันนี้เทศน์เพียงเท่านี้แหละ
ดีแล้วละวันนี้มา ครูบาอาจารย์ก็ได้เห็น อาจารย์ทั้งหลายก็ได้เห็นทั่วหน้ากัน ถ้าธรรมดาท่านไม่มาให้เราเห็น วันนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา ท่านมาเอง พวกเราทั้งหลายได้เห็นได้พบได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจ
ท่านแสดงไว้ในธรรมะในตำราอ่านออกมา ธัมมิกอุบาสกท่านติดพันกับบุญกับกุศล จวนตัวเท่าไรยิ่งไม่ห่างจากอรรถจากธรรมเลย ไปไหนไม่ยอมไป ลูกเต้าจะพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ โอ้ยสู้ไปกับธรรมไม่ได้ ไปกับธรรมดีกว่า ไปเที่ยวทางนู้นทางนี้ไม่เกิดประโยชน์ ว่าอย่างนั้นนะ ถ้าไปกับธรรมแล้วเกิด พอดีท่านเจ็บไข้ได้ป่วยนิมนต์พระมา โยมคนนั้นให้ลูกไปนิมนต์พระมาสวดอรรถสวดธรรมให้ฟัง ท่านก็ฟังเสียจนเพลิน ทีนี้พวกเทพทั้งหลายเอารถมาเต็มท้องฟ้า ใครก็เชิญไปสวรรค์ชั้นของตนๆ สุดท้ายสวรรค์ทุกชั้นควรแก่อุบาสกคนนี้ทั้งนั้นเลย คนนั้นก็เชิญขึ้นคันนั้น คนนี้เชิญขึ้นคันนี้ ท่านนี้ก็ฟังธรรมะท่านเพลินไปเรื่อย ฟังไปเพลินไป
พวกเทวบุตรเทวดาเชื้อเชิญให้ท่านไป ท่านไปสวรรค์สดๆ ร้อนๆ เวลาฟังเทศน์อยู่นั้นน่ะ ท่านเลยกลัวมันจะเป็นอันตรายต่อธรรมเลยมันหลุดปากออกมาจริงๆ เดี๋ยวให้รอก่อนว่าอย่างนั้น คือบอกพวกทั้งหลายที่มาเชื้อเชิญท่านให้ไปสวรรค์ชั้นนั้นๆ ควรแก่สวรรค์ทุกชั้น ทางนี้ก็บอกว่าให้รอก่อน พระก็เป็นพระอย่างแบบหลวงตาบัวนี่ละ พอว่าให้รอก่อน โห โยมนี่นิมนต์เรามาสวดแล้วไล่เรากลับ ให้หยุดแล้วก็พากันเลิกไปเลย ไปวัด พอไปถึงวัด พระพุทธเจ้าขนาบ อ้าวพากันมาทำไมนี่ เรื่องราวยังไม่เสร็จอะไร เขาบอกว่าให้หยุด ถ้าพวกนี้มันแปลใหม่ๆ บอกให้รอก่อนไม่ว่านะบอกให้หยุด บอกพวกเทพต่างหากที่มารอจะเอาอุบาสกคนนี้ไปสวรรค์ บอกทางนู้นให้รอ ไม่ได้บอกว่าให้หยุด ไปให้กลับคืนไปอีก ไล่พระมาอีกมาสวดอีก
พอแกรู้สึกตัวขึ้นมา อ้าวพระคุณเจ้าไปไหน ท่านไม่ได้บอกว่าให้นี้หยุด ให้รอพวกเทพทั้งหลายมาเชิญชวนให้ไปสวรรค์ชั้นของตนๆ ควรแก่สวรรค์ทุกชั้นเลยนั่นละต่างหากนะ ไปกลับคืนไปอีก ไล่มาพระพุทธเจ้าไล่มาเอง ท่านห้ามทางสวรรค์ต่างหากให้รอไว้ก่อนต่างหาก เขามากวนเขาจะเอาไปสดๆ ร้อนๆ เลยกลับคืนมาอีก พอรู้สึกตัวขึ้นมาพระท่านไปหมดแล้ว พระคุณเจ้าไปไหนหมด พ่อว่าให้หยุดว่าอย่างนั้นท่านก็ไปละซิ นึกว่าให้หยุด พ่อไม่ได้ให้พระหยุดนะ ให้พวกนั้นหยุดต่างหาก ให้รอเสียก่อน มันกวนการฟังธรรม ให้กลับคืนไปอีก เลยไปหาพระพุทธเจ้าก็ไล่กลับมาอีกมาที่นั่น
พออุบาสกคนนั้นตื่นขึ้นมารู้สึกตัวขึ้นมาก็ถามหาพระไปหมดแล้ว ทำไมท่านไปละ ก็พ่อให้ท่านหยุด พ่อไม่ได้บอกให้ท่านหยุด ให้พวกเทพทั้งหลายที่กวนอยู่บนฟ้าอากาศเต็มนั่นให้พักให้รอไว้ก่อน มันกวนการฟังธรรมความหมายว่าอย่างนั้น ไปกลับคืนไป ไล่พระกลับคืนมาอีก เหมือนกับพระพุทธเจ้า ผู้ที่ป่วยแกก็บอกว่าแกไม่ได้ห้ามพระ แกห้ามพวกนั้นต่างหาก แล้วให้ไปเอาพระท่านกลับมาอีก พระพุทธเจ้าก็ขนาบที่ว่านั้นเขาไม่ได้ห้าม เขาห้ามพวกเทพทั้งหลายต่างหาก ไปให้กลับคืนไป พระพุทธเจ้าไล่กลับคืนไป
พอตื่นขึ้นมาพระคุณเจ้าไปไหน ก็ไล่ท่านกลับ ไม่ได้ไล่ บอกว่าพวกนั้นรอเสียก่อนมันกวนธรรม กำลังฟังธรรมเพลิน ท่านสวดธรรมให้ฟัง นี้ต่างหากนะ จึงไล่กลับมาสวดอรรถสวดธรรมเสร็จเรียบร้อยแล้วทีนี้ก็เป็นอันว่ายุติก็ไปละนะไปในระยะนั้น พอฟังเทศน์ฟังธรรมจบเรียบร้อยแล้วพ่อจะไปละนะทีนี้นะ พวกนั้นมารออยู่แล้วพวกเทพทั้งหลายมารอเอาไปสวรรค์ชั้นของตนๆ รอแล้วพ่อก็ไปเลย นี่เรื่องราวเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่มีหูทิพมันไม่รู้ พระพุทธเจ้าต่างหากเป็นหูทิพ ค้านจังๆ เลย ไม่ได้ห้ามนี้ ห้ามพวกนั้นต่างหาก เข้าใจไหมล่ะเป็นอย่างนั้น มีในตำรา วันนี้พูดเพียงเท่านี้
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|