ชาติของเราสุดเพียงเท่านี้***
วันที่ 8 เมษายน 2553 เวลา 12:30 น.
สถานที่ : วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส***

ณ วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน จ.นครราชสีมา

เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๓

ชาติของเราสุดเพียงเท่านี้

       วันนี้เป็นวันมหามงคลวันหนึ่งนะ บรรดาพี่น้องทั้งหลายกับพระเจ้าพระสงฆ์ซึ่งเป็นหัวใจของชาวพุทธเราได้มาพบกันวันนี้ นี่ข้างหลังก็เต็ม ข้างหน้าก็ญาติโยม ข้างหลังก็พระ ได้มาพบกันวันนี้นับว่าเป็นมงคล สมณานญฺ ทสฺสนํ กาเลน ธมฺมสากัจฉา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ สมณะคือผู้สงบกายวาจาใจเรียกว่านักบวช ผู้สงบกายวาจาใจอยู่ข้างหลัง เราทั้งหลายได้มาพบท่านวันนี้นับว่าเป็นมงคลอันสูงสุดแก่พวกเรา ขอให้นำความเป็นมงคลนี้เข้าสู่ใจติดกับใจไปเลยนะ

          (ลูกหลานอยากเรียนธรรมภาวนากับหลวงตาครับ) พุทโธเป็นอันดับหนึ่ง ธัมโมเป็นอันดับหนึ่ง สังโฆเป็นอันดับหนึ่ง สามรัตนะนี้เป็นเอก เอาคำไหนเอกทั้งนั้นแหละ เข้าใจแล้วนะ พอล่ะ เป็นเอกนะ ภาวนาพุทโธๆ

พูดเรื่องคำภาวนาพุทโธๆ เราเคยเป็นนะ พอภาวนาพุทโธๆ ติดกัน สติกับพุทโธติดกันแนบเลย แล้วไปหยุดกึ๊กเลย คือไม่มีคำว่าพุทโธ ธัมก็ไม่มี สังโฆก็ไม่มี พอไปถึงนั่นแล้วหยุดกึ๊กเลย จิตนี้สว่างจ้าเลย เราเป็นเอง ไม่ได้มาโกหกพี่น้องทั้งหลายนะ เราไม่เคยคาดเคยคิดนะ ภาวนาพุทโธๆ สติจับติดๆ ๆ พุทโธๆ กลืนเข้าไป กลืนเข้าไปเป็นอันเดียว หยุดกึ๊กเลย คำว่าพุทโธไม่มี หายเงียบเลย มีแต่ความสว่างไสวความอัศจรรย์ จำเอานะพี่น้องทั้งหลาย ที่สุดของพุทโธหยุดกึ๊ก เป็นอันเดียวเท่านั้นนะ คำว่าพุทโธๆ หยุดนะ เวลาจะถึงจุดนั้นหยุดกึ๊กเลย สว่างไสวไปหมด เป็นเองโดยที่เราไม่เคยคาดเคยคิด มันเป็นของมันเอง

นี่จึงได้นำมาเล่าให้บรรดาพี่น้องลูกหลานทั้งหลายฟัง พุทโธจึงไม่ใช่ของง่าย ของอัศจรรย์มากพุทโธ เรานี่ชอบพุทโธมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ภาวนามีแต่พุทโธๆ ติดกันเรื่อย ทุกวันนี้นิสัยกับพุทโธก็ไม่แยกจากกันนะ เป็นพุทโธอยู่ตลอดอย่างนั้นละ พุทโธนี่เลิศเลอ พุทโธคือองค์ศาสดาทุกๆ พระองค์ พุทโธคือพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ มารวมอยู่ที่นั้นหมดเลย

ได้มาเยี่ยมพี่น้องทั้งหลายเป็นครั้งเป็นคราว ก็นับว่าดีกว่าตายไปเสียไม่ได้มา นี่ได้มาล่ะนี่ เราก็เร่งดูของเราเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นจึงรีบไปนู้นไปนี้ บอกใครไม่ได้หากรู้อยู่กับจิตเจ้าของเอง ไปนู้นไปนี้มีอยู่ในจิตบอกใครไม่ได้ แต่ให้ไปเข้าใจเองนะ เข้าใจไหมให้เข้าใจเอาเอง บอกใครไม่ได้ เพราะอย่างนั้นจึงต้องเร่ง ไปนู้นมานี้เร่งๆ เร่งตามความรู้สึกที่เป็นอยู่นี้ ที่อื่นยังมีเงื่อนต่ออันนี้ไม่มีเงื่อนต่อไม่มี มีแต่ความเมตตาโลกสงสารเท่านั้น สำหรับของเรานี้สุดกุดด้วนเลย ไม่มีที่ไปก่อกำเนิดเกิดที่ไหนอีก แน่ใจไม่มี หมดโดยสิ้นเชิง มีแต่ความเมตตากับพี่น้องทั้งหลาย ขอให้ยึดพุทโธหรือธัมโมหรือสังโฆนี้ไว้ให้ได้ ธรรมประเภทนี้จะเข้าสู่หัวใจเราทุกคน ประเภทที่ได้บอกนี่นะเป็น เป็นอยู่ในนั้นนะ

มันก็มีวาสนาอยู่ เราพิจารณาเรา ตอนป่วยหนักถึงขั้นพ่อกับแม่มานั่งสองข้างมีนะ ป่วยหนักจริงๆ แทบจะไม่พ้นจากคืนวันนั้น พ่อกับแม่เรามานั่งสองข้าง แม่เป็นคนใจอ่อน พ่อไม่ค่อยพูด แต่แม่เป็นคนใจอ่อน “จะไปเดี๋ยวนี้ลูก” แม่พูดออกมา “อย่าด่วนไป ลูกยังไม่ได้บวชให้แม่ ให้บวชเสียก่อนให้แม่หายสงสัย” เท่านั้นละ พอมันจะไปหายวันหายคืน ออกจากนั้นก็บวชเลย แน่ะเป็นอย่างนั้นนะแปลกอยู่ แม่เป็นคนใจอ่อน ไม่เหมือนพ่อพ่อไม่พูด มานั่งขนาบสองข้าง เราเหมือนจะไปคืนวันนั้น แม่เป็นคนอ่อน “จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอลูก” ว่าอย่างนั้นนะ ขึ้นไปนั่ง “จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอลูก ลูกยังไม่ควรไปเพราะลูกยังไม่บวช” ว่าอย่างนั้น “ให้ลูกบวชเสียก่อน แม่จะได้หายสงสัย” เท่านั้นละหายวันหายคืน จากนั้นปั๊บก็บวชเลย พอหายป่วยแล้วก็บวช หายป่วยคราวนั้นแล้วบวช

บวชก็บวชง่ายมาก บทเวลาจะบวชบวชง่ายมากนะ อะไรๆ มาพร้อมหมดเลยเวลาจะบวช พ่อก็พอใจ แม่ก็พอใจ เป็นเสียงเดียวกัน บอกให้พี่ชาย..พี่ชายเคยบวชเป็นเณรมาแล้ว พ่อเป็นคนสั่ง จะบวชแล้วให้ไปหาบริขารดีๆ มาบวชลูก พี่ชายมันเคยบวชแล้วมันรู้จักบริขารของพระได้ดี ให้พี่ชายไปหามา เราจะบวช ก็หามาจริงๆ ได้มาปั๊บบวชปุ๊บเลย

พอบวชแล้วจิตใจมันดีอกดีใจจะไปสวรรค์เพราะการบวช พอบวชอยู่ไปอีกคิดไปอีก บวชไปสวรรค์นี้ก็หลายวันหลายคืนก็ยังจะต้องลงมา ว่าอย่างนั้นนะจิตเจ้าของ แล้วไปอย่างไรจะไม่ลง ไปพรหมโลกก็ลง แล้วนิพพานไม่ลงว่าอย่างนั้นนะ เอานิพพานติดจิตเลย ไปนิพพานไม่ลง เอานิพพานนะ ติดจิตปึ๊บเลย จิตติดนิพพานนะพุ่งๆ ใส่นิพพาน ทีนี้ไม่เคลื่อนนะ ตรงเป๋งทางนิพพานเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ จิตรู้สึกว่าแน่นอนมาก เวลาบวชเข้าไปการปฏิบัติศีลธรรมก็แน่ใจ ไม่มีเคลื่อนไหวทางผิดพลาดอะไร ตั้งใจปฏิบัติ จิตใจเอิบอิ่มด้วยศีลด้วยธรรมไปตลอด

ทีนี้บวชแล้วมันเลยคิดเรื่องสึกนะ ทีแรกก็ธรรมดาเหมือนโลกเขาบวชนะ เรื่องบวชเรื่องสึกคิดเป็นธรรมดาเป็นคู่เคียงกัน ไม่สึกไม่มี บวชแล้วค่อยดื่มไปๆ ดื่มไปเรื่อย คำว่าสึกไม่มี มีแต่ดื่มเรื่อยๆๆ สุดท้ายจิตก็มุ่งสู่นิพพานเลย เพราะฉะนั้นที่เราบวชนี้จึงพุ่งถึงนิพพานเลย ไม่ได้แวะที่ไหนสวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้ไม่แวะ ไปชั้นนั้นดูแล้วผ่าน ดูแล้วผ่าน ชั้นไหนก็ดูแล้วผ่าน มานิพพานติดกึ๊กเลย เอานิพพาน จะไม่กลับมาเกิดอีก จิตติดปั๊บเลย

เพราะอย่างนั้นมันถึงเหนียวแน่นถึงเรื่องจิตตภาวนา เหนียวแน่นมากนะเรา ภาวนาเอาจริงเอาจังมาก จากนั้นมาก็ลืมแล้วการบวชของเจ้าของ จำได้แต่ว่ามีข้อหนักแน่นโดยลำดับ หนักแน่นในการบวช หนักแน่นต่อมรรคผลนิพพานโดยลำดับลำดา ไม่ได้มาคิดถึงเรื่องการสึกการอะไรไม่มี ไปเรื่อยจนกระทั่งทุกวันนี้ หมดเลยไม่มีเงื่อนต่อ พอไปถึงที่นี่แล้วจะว่าเป็นอย่างไรมันพอในใจ ภาวนาพอในใจ ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วหยุดกึ๊กเลย ไม่สนใจเรื่องสึกเรื่องหาอะไรไม่สนใจ มีแต่ความพอ พอแล้ว ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันนั้นคือพออยู่ที่นั่นนะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ที่นั่นนะ มาอยู่กับธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน นั่นละคือพอ พออยู่ตรงนั้น หยุดกึ๊กเลย แล้วตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ใครจะว่าโอ้ว่าอวดก็ว่าเสีย ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วพอ พอตลอด พอตลอดอนันตกาลด้วย ไม่ได้พอธรรมดานะ พอตลอดอนันตกาล หายห่วงหมดโดยสิ้นเชิง มีเท่านั้นละ จำให้ดีนะ

เพราะฉะนั้นจึงว่าบวชคราวนี้เป็นบวชครั้งสุดท้ายด้วย เกิดคราวนี้เป็นเกิดครั้งสุดท้ายด้วย จะไม่กลับมาเกิดอีกและจะไม่กลับมาตายอีกต่อไป สุดขีดแล้วในการบำเพ็ญความดีของเราได้บำเพ็ญเต็มกำลังความสามารถ เรียกว่าสุดกำลังไม่อยากไปไหนล่ะ พอ ลงธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วพอ หมดเลย พากันเข้าใจเอานะ  เท่านั้นละ ไม่พูดมากละ นี่เข้าถึงขั้นธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน ไม่ไปไหนทีนี้ ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ทีนี้จะให้พรพี่น้องทั้งหลายนะ

วันนี้พูดย่อๆ แต่มันเด็ดขาดดีนะวันนี้ เข้าใจไหม พูดวันนี้ย่อๆ แต่มีแต่เนื้อๆ เลย เราก็พูดเต็มยศ เรียกว่าเต็มยศในชาตินี้ของเรา ชาตินี้เรียกว่าเป็นชาติสุดท้ายของเรา หมดทุกอย่างในหัวใจ ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วหมด ไม่มีที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนอีกไม่มี เรียกว่าสิ้นสุดเพียงเท่านี้ สมเหตุสมผลบวชคราวนี้นะ สมใจถึงใจเลยบวชคราวนี้ ไม่มีที่สงสัยว่าจะยังบกพร่องอะไรอีกไม่มี หมด

ขอให้พี่น้องทั้งหลายตั้งใจปฏิบัติความดี ความดีเมื่อเข้าถึงขีดแล้วหมด ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันเลย นั่นละถึงขีดของการบำเพ็ญความดี พอไปถึงนั้นแล้วธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วหมดตรงนั้นนะ ไม่หาอะไรอีกแล้วหมด จะให้พร อยู่ไปวันหนึ่งๆ ธาตุขันธ์อ่อนลงๆ เรื่องธาตุขันธ์นี้อ่อนมาก มีแต่จิตเท่านั้น จิตไม่มีวัย จิตไม่มีวัย มองดูเมื่อไรเห็นสว่างจ้าอยู่อย่างนั้น มันธรรมดามันครอบโลกธาตุนู่นไม่ใช่ธรรมดา มันครอบโลกธาตุ จึงว่าหายห่วงทุกอย่าง เกิดมาในชาตินี้บวชมาในเพศนี้ว่าหมดทุกอย่างล่ะ หายสงสัยไม่หวังจะเอาอะไรอีก หมดเลย เท่านั้นละต่อไปนี้จะให้พรบรรดาลูกศิษย์ลูกหา

พูดให้มันชัด สุดล่ะชาติของเราสุดเพียงเท่านี้ หมดๆเลย ความเกิดความตายไม่มีเงื่อนต่อล่ะ พอ ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วพอ เรียกว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา จะไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว ฟังให้ชัดนะ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายจะไม่กลับมาเกิดมาตายอีกต่อไป สิ้นสุดวิมุตติหลุดพ้นกับนิพพานเป็นอันเดียวกัน ไม่ต้องมาถามหานิพพาน ถามตรงนี้พอ เอาล่ะ

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz

            พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก