กฎหมายเทวทัต
วันที่ 28 พฤษภาคม 2543 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

กฎหมายเทวทัต

ทองคำที่ว่าช่วยชาติคราวนี้ ๔,๐๐๐ กิโล เวลานี้ได้รับบริจาคแล้ว ๒,๐๓๙ กิโล ยังขาดอยู่อีก ๑,๙๖๑ กิโล ทองคำที่จะมอบครั้งต่อไปนี้ ๑,๐๐๐ กิโล เวลานี้ได้แล้ว ๑,๐๐๒ กิโล คือ ๑,๐๐๐ กิโลนี้เวลาเราหลอมมันต้องเผื่อไว้ ดูเหมือนจะไม่ต่ำกว่า ๑๕ หรือ ๒๐ กิโล ๑,๐๐๐ กิโลนี้มันจะลดมากลงไปขนาดนั้น ถ้าหากว่าเป็นทองคำแท่งก็ไม่เป็นไร ทองคำต่างประเภทมันลด ยังไงก็ตามเราเผื่อตลอดจนกระทั่ง ๔,๐๐๐ กิโลจะว่าอะไรไป ได้เท่าไรยิ่งดี ส่วนดอลลาร์หนึ่งล้านนั้นเวลานี้ขาดอยู่ ๒๘๘,๗๙๙ ดอลฯ ตอนไปกรุงเทพฯ จวนเต็มที่หรืออาจพอละ

เราไม่ได้อยู่ว่างนะเพื่อพี่น้องชาวไทย ขอให้เห็นใจให้มีกำลังใจทุกคน รักษาสมบัติคือคลังหลวง ได้แก่ตับปอดชีวิตจิตใจของพี่น้องชาวไทย อยู่ในคลังหลวง คลังที่เป็นมรดกของบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย รักษามาเป็นเวลานมนาน อย่าให้แคล้วคลาดหรือหลุดลอยออกไป ซึ่งถ้าหลุดลอยออกไปแล้วเท่ากับไทยทั้งชาตินี้ตายทั้งเป็นไปหมดเลยนะ ให้จำข้อนี้ไว้ให้ดี อันนี้เป็นจุดใหญ่ของชาติไทยเรา ให้เห็นเป็นสำคัญทุกคน อย่าเหลาะ ๆ แหละ ๆ เห็นว่าคนนั้นจะทำคนนี้จะทำ นั้นเหลวนะ

โจรผู้ร้ายนี้มันตั้งหน้าตั้งตาทุกแบบทุกฉบับ เวลานี้ออกทุกแง่ทุกมุม มีแต่เริ่มอุจาดบาดตาเข้าไปเรื่อย ๆ ข้าศึกของชาติไทยเรา ฟังเสียงที่ไหน ๆ มันฟังไม่ได้นะ ฟังด้วยธรรม ไม่ได้ฟังด้วยอำนาจของกิเลส อำนาจของกิเลสจะไม่มีคำว่าผิดว่าถูก มีแต่เอาให้ได้อย่างเดียว นี้คืออำนาจของกิเลส แต่เรื่องธรรมดูทุกแง่ทุกมุมทั้งผิดทั้งถูก

เวลานี้ก็หนาหูเข้ามาแล้ว เขามาพูดให้เราฟังเองนะ นี่กำลังเริ่มเคลื่อนไหวออกมาจากพี่ใหญ่ ไม่ใช่พี่ใหญ่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่รัฐบาล สั่งมาตามกระทรวงต่าง ๆ ออกมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อาจถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ได้นะ ว่าใครไปรวมหัวกันที่จะเซ็นลายเซ็น ดังที่พี่น้องทั้งหลายมีอิสระเต็มตัวจะทำ เพื่อคุ้มครองรักษาบ้านเมืองของตนนี้ มันเอากฎหมายป่าเถื่อนเข้ามาบังคับตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมาถึงนายอำเภอ อาจถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบไว้ทุกคน นี้คือเรื่องภัยตัวภัย ธรรมต้องบอกให้ตรงไปตรงมาอย่างนี้ อะไรเป็นภัยบอกว่าเป็นภัย

มันห้ามไม่ให้มารวมกันลงบัญชี บัญชีอะไรก็เป็นเรื่องของชาวบ้านเขา หลวงตาไม่ทราบแหละเรื่องเหล่านี้นะ แต่เขามาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่ารวมบัญชีกัน สำหรับผู้รักชาติบ้านเมืองรวมกันต้านทาน พูดง่าย ๆ บัญชีที่เขาจะยื่นไปนั้นทราบว่า บัญชีที่จะเข้าสู่จุดมหาภัย จุดสกปรก ใครเป็นผู้ทำลายเป็นความสกปรกอยู่ในที่ใด ผู้ใดเป็นผู้ทำ นี้บัญชีนี้ ทราบว่าจะฟ้องร้องเข้าไปในจุดนั้น ๆ เพราะเป็นจุดสกปรก นอกจากสกปรกแล้วยังทำลายชาติบ้านเมืองได้ เรียกว่าให้สิ้นไปเลยก็ได้นะ

เวลานี้ฟังว่านายอำเภอมาชี้แจงว่า ถ้าใครมาลงชื่อหนึ่ง มารวมชุมนุมกันหนึ่ง แล้วให้หาชื่อมา มันจะหาชื่อไปอะไร กฎหมายป่าเข้าใจไหม นี่พูดตามหลักธรรมหลักกฎหมาย ว่านี้คือกฎหมายป่ากฎหมายเถื่อน โดยอาศัยอำนาจของนายอำเภอของผู้ว่าฯ มาจากส่วนใหญ่นั้นละ มาบีบบังคับประชาชนอย่างป่า ๆ เถื่อน ๆ ซึ่งไม่มีกฎหมายรับรองเลย กฎหมายอนุญาตตามหลักธรรมชาติ ธรรมนี้เปิดโล่งแล้ว “ธรรม” เพราะฉะนั้นเราถึงพูดได้เต็มเหนี่ยว ว่าผิดธรรมอย่างยิ่งแล้ว ธรรมไม่เห็นด้วยเลย การมาทำอย่างนี้

นี้เพื่อตอบรับกฎหมายป่าเถื่อน อำนาจป่าเถื่อนที่มาจากผู้ใดก็ตาม เริ่มมาจากรัฐบาล รัฐบาลคนใดมาชี้แจงนี้ ให้ชี้หน้ารัฐบาลคนนั้นทันที แล้วผู้ว่าราชการฯ คนไหน นายอำเภอคนไหน กำนันคนไหนที่เข้ามาบีบบังคับไม่ให้ชุมนุมกัน เพื่อเซ็นบัญชีอะไร เซ็นชื่อเซ็นนาม สำหรับพี่น้องชาวไทยผู้รักชาตินี้ ใครมาห้ามใครมาบีบบังคับให้ชี้หน้ามันเลย ข้าหลวงคนนี้คือภัยของชาติ พี่น้องชาวจังหวัดของข้าหลวงคนนี้ชี้หน้ากันได้หมด ไม่มีข้อห้ามละ ชี้หน้าได้เลยว่านี้คือภัยของชาติ

ถ้าเป็นนายอำเภอก็ชี้นายอำเภอ ทั้งเขตอำเภอนั้นชี้หน้าได้หมด ถึงตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใครเป็นผู้มาบีบบังคับแบบป่า ๆ เถื่อน ๆ ให้ชี้หน้าได้หมด หรือจะเอาหมู หมา เป็ด ไก่ ไปชี้หน้าด้วยกันก็ได้นะ ถ้าเขาไป ระวังนะไก่เขาจะจิกหน้าผากเอา เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

พวกเราให้รู้นี้แหละกฎของธรรมชาติคือธรรม ผิด อันนี้ผิด ทางกฎหมายก็ไม่ห้าม มีอิสระเสรีเต็มตัวทุกคน แล้วกฎหมายใดมาห้าม นี่ละกฎหมายอันนี้คือกฎหมายที่เป็นภัยต่อชาติไทยของเรา ให้พากันรู้เนื้อรู้ตัว แล้วชี้หน้ามันเลยนะ เป็นนายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนก็ตาม นี้เป็นภัยของพี่น้องชาวไทยเราทั้งจังหวัดบอกอย่างนั้นเลย จากนั้นก็ทั้งประเทศชาติเลย ไม่รับรอง ให้ขับหนี ผู้ว่าคนนี้ มันหนักจังหวัด จังหวัดใดก็ตาม นายอำเภอคนนี้มันหนักอำเภอขับมันหนีทันที

หลักเป็นตัวอย่างของธรรมก็คือกฎหมายพระนะ กฎหมายพระมีข้อบังคับไว้เป็นวรรคเป็นตอน ๆ ถ้าถึงขั้นเต็มที่แล้วอัปเปหิ ตัดขาดสะบั้นเลย สงฆ์ไม่ยอมรับพระองค์นี้ เรียกว่าตัดโทษประหารชีวิตเลย ปาราชิก เห็นไหม ตัดโทษ อัปเปหิขับทันที พระองค์นี้จะเป็นความสกปรก เป็นพิษเป็นภัยต่อวงคณะสงฆ์ จะรับไว้ไม่ได้ ให้ขับ รองลงมานั้นก็เป็นโทษตลอดชีวิต อันแรกเป็นโทษประหารชีวิต ปาราชิก สังฆาทิเสสเป็นโทษขนาดที่ว่าตลอดชีวิต ถ้าติดคุกก็ตลอดชีวิต แล้วรองลงมาเป็นลำดับลำดา นี้คือกฎหมายพระ ท่านปฏิบัติดำเนินมาอย่างนี้ เพื่อชำระสะสางสิ่งสกปรกโสมมในวงศาสนาในวงพระสงฆ์

อันนี้ใครเป็นคนสกปรกในชาติไทยของเรา วงชาติไทยของเราต้องชำระสะสางกันแบบนี้ จะปล่อยให้จมอยู่อย่างนี้ไม่ได้นะ สกปรกโสมมเลยเถิดเลยแดน จากนั้นแล้วก็ชาติไทยของเราจะล่มจม ด้วยกฎหมายป่าเถื่อนเหล่านี้ ให้พากันจำไว้ทุกคน คนใดก็ตามที่มาบีบบังคับหรือมาบอกวิธีการนี้ให้ชี้หน้ามันเลย ใครก็ตามชี้หน้าเลย ถ้าหลวงตาบัวไปบีบบังคับให้มาชี้หน้าหลวงตาบัวเลย แล้วชี้หน้าได้หมดทั้งพระสงฆ์นี้ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ที่พากันทำความฉิบหายต่อชาติบ้านเมือง ชี้หน้าหลวงตาบัวนี้ไม่ควรให้อยู่ในวัดป่าฯ ขับออกนอกประเทศ หลวงตาบัวจะยอมรับฟังทันที เมื่อเห็นว่าเป็นความผิด ตามที่พี่น้องทั้งหลายชี้แจงแล้ว ไล่หลวงตาบัวออกเมืองนอก หลวงตาบัวจะออกลงทะเลไหน หลวงตาบัวจะไปแล้วคนหมดค่าหมดราคา คนเป็นพิษเป็นภัยต่อศาสนาต่อชาติบ้านเมือง ไม่ควรอยู่พระองค์นี้ พระองค์ไหน พระหลวงตาบัว เอ้าไล่ออกไปเลย อย่าเอาไว้ นี่ละพูดเป็นกลาง ๆ ธรรมเป็นอย่างนี้

ทีนี้ใครผิดที่ตรงไหนก็ชำระสะสางไปตามเรื่องตามราว สงวนไว้ทำไมอำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ให้มันกัดกินกลืนชาติบ้านเมืองไว้ทำไม ชาติไทยเราเป็นชาติของคนไม่ใช่ชาติของหมา หมาตัวไหนมีอำนาจก็กัดกันไป ได้กินมาก ตัวไหนมีอำนาจน้อยก็ท้องแห้ง อันนี้เราไม่ใช่หมา เราจะยอมให้มาทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ให้พากันเข้าใจทุกคน นี้เป็นธรรมที่เราแสดงต่อโลกสงสาร ตามที่เราได้มีเจตนาช่วยโลกมาแล้วเต็มกำลังความสามารถเวลานี้ เราทุกข์ยากลำบากก็เพราะความเมตตาต่อพี่น้องชาวไทยเราทั้งหลายนี้ จึงขอให้พากันทราบทั่วกัน

เอ้า เอาเลย ชี้หน้ามันเลย คนไหนเก่งออกมาบีบบี้สีไฟราษฎรคนไหน ให้รุมชี้หน้ามันเลย เอ้า ข้าหลวงมา ข้าหลวงคนนี้เอาเลย มันมีโคตรมีแซ่เท่าไร ฟาดมันทั้งโคตรทั้งแซ่เลย เข้าใจไหม เรามีโคตรแซ่เท่าไรไปชี้หน้าก็ไปได้เหมือนกัน เอ้า เอาให้มันถึงพริกถึงขิงซิ นี่ละวันนี้พูดถึงเรื่องภัยของชาติเวลานี้ออกทุกแบบทุกฉบับ แล้วต่อไปนี้เราก็ทราบอีกแล้วนะ เราทราบตามที่เขามาเล่าให้ฟังจริงหรือไม่จริงก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่มาเล่าให้ฟังว่า ต่อไปนี้เขาจะห้ามผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ไม่ให้นิมนต์หลวงตาบัวไปเทศน์ต่างจังหวัดที่จะเป็นกองผ้าป่าเอาเข้าชาติบ้านเมือง นี้ยิ่งหนักนะ หยาบโลนขนาดไหน เป็นข้าศึกของชาติขนาดไหน ให้พี่น้องทั้งหลายทราบด้วยกันทั้งนั้นนะ เพียงคำบอกเล่าที่เขามาเล่าให้เรา เราไม่เห็นลายเซ็นก็ตาม คำบอกเล่ามามีหลายปาก มันค่อนข้างจะเป็นความจริง เราก็พูดตามเรื่องค่อนข้างจะเป็นความจริงหรือความเท็จไปตามนั้นแหละ เราไม่แน่เราก็บอกไม่แน่ แต่เราได้ยินมาอย่างนั้นเราก็พูดอย่างนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วผิด ว่าอย่างนั้นเลย

ห้ามไม่ให้เทศนาว่าการเอาสมบัติเงินทองข้าวของเข้าสู่คลังหลวง มันมีเหรอในประเทศไทยของเรานี้ รัฐบาลไหนมีไหม ถ้าหากว่ารัฐบาลนี้ทำกันมาอย่างนี้ ก็รัฐบาลนี้เท่านั้นที่เป็นข้าศึก เป็นมหาภัยต่อชาติบ้านเมืองของเรา จะควรคบค้าสมาคมกันต่อไปอีกไม่ได้กับพี่น้องชาวไทยเรา ให้พากันจำให้ดี

มันมีอย่างเหรอ ที่ห้ามพระไม่ให้ไปเทศน์ในที่ต่าง ๆ ไม่เขามานิมนต์พระ มีจากคัมภีร์ไหน กฎหมายข้อใดที่มาบีบบังคับกัน นี่ละกฎหมายข้อเทวทัตมันทำลายชาติ มันก็ออกมาอย่างนี้ อย่างหน้าด้านเห็นไหม มันด้านไหม ไม่ด้านมันไม่กล้าเอาออกมาอย่างนี้ คนธรรมดาสามัญเขาไม่กล้าแสดงอย่างนี้ ถ้าไม่หน้าด้านสุดขีดทำไม่ได้นะ ถ้าหากเป็นมาอย่างที่ว่านี้แล้ว มันก็หน้าด้านสุดขีด ไม่ควรให้อภัย ต้องถือเป็นศัตรู จะเกรงอกเกรงใจกันกับโจรกับมารที่มันเข้าปล้นบ้านเมืองนั้นเกรงใจไม่ได้นะ เจ้าของทรัพย์ต้องฟัดกันเลย มันก็มีอย่างนั้นคติธรรมของเขาใช้มา ใครเป็นเจ้าของทรัพย์คนนั้นมีหน้าที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จะไปเกรงใจโจรผู้ร้ายอยู่ไม่ได้ โจรผู้ร้ายมันไม่ได้มาเกรง มันจะมากลืนเข้าใจไหม เจ้าของทรัพย์ต้องฟัดปากมันเลย ปากไหนมากลืนฟาดปากมันเลย นี่เป็นคติของธรรมที่โลกใช้กันมานมนาน ธรรมก็เป็นอย่างนั้นไม่ได้ผิดแปลกอะไรเลย ขอให้พี่น้องทั้งหลายยึดไปปฏิบัติ ให้สร้างกำลังใจขึ้นเพื่อรักษาชาติไทยของเรา

แง่งอนที่มันออกมานี้เวลานี้หยาบโลนเข้าเป็นลำดับ ๆ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ตั้งหน้าตั้งตาจะทำลายชาติโดยตรง ไม่มีอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ละ แต่ก่อนมีลักษณะอ้อม ๆ แอ้ม ๆ กีดนั้นกันนี้ เวลานี้โจ่งแจ้งเข้ามาเป็นลำดับ ให้พากันทราบทั่วหน้ากัน

เขาทำบุญกันทั่วโลกแดนธรรม เมืองไทยเราทำบุญกันทั่วประเทศ มีกฎหมายข้อใดไปห้าม นอกจากการทำบุญเป็นโล่บังหน้า เพื่อจะทำความฉิบหายต่อส่วนรวมนั้น กฎหมายไม่ห้าม ธรรมก็ทราบแล้ว ผิด นั่น กฎหมายก็ต้องมีห้ามด้วย อันนี้เปิดโล่งมาตลอดเวลาในการสร้างคุณงามความดี การทำบุญให้ทาน ฟังธรรมเทศนา รักษาศีล อันนี้เป็นการเปิดโล่งของชาวไทยซึ่งเป็นลูกชาวพุทธกันทั่วประเทศไทย แล้วอันป่าเถื่อนมาจากไหน กฎหมายเถื่อนมาจากไหนถึงจะต้องมาห้าม ไม่ให้ไปนิมนต์พระมาเทศนาว่าการเพื่อสมบัติเงินทองเข้าสู่คลังหลวง มันมีอย่างเหรอ ถ้าไม่ใช่เป็นมหาภัยอย่างยิ่งแสดงตัวออกมาอย่างโจ่งแจ้งเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นที่จะตีความหมายไป ธรรมไม่เป็นกฤษฎีกานะ พอจะตีความหมายท่านั้นท่านี้ ธรรมตรงไปตรงมา ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก นี้เรียกว่าธรรม ตายใจกันได้ เรานำธรรมมาสั่งสอนเวลานี้ เราก็แสดงตามอรรถตามธรรม แยกไปจากนี้ไม่ได้ผิดธรรม ผิด ผู้แสดงก็ผิด นี้เราแสดงด้วยความถูกต้องตามธรรม นี่เป็นกัณฑ์ที่สอง เอาละพอ

ว่าจะไม่พูด เรื่องมันก็มาอย่างนี้จะให้ทำยังไง เราเป็นจุดศูนย์กลางของชาติบ้านเมืองในวงศาสนา ต้องนำและเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายด้วย มันเป็นยังไง ๆ มาก็ต้องชี้แจงให้ทราบในฐานะว่าเป็นผู้นำ

(มีลูกศิษย์นำทอง 2 บาทพร้อมกับเงินอีก 100 ดอลลาร์ เข้ามาถวาย)

มาแล้ว นี่ลูกอาจารย์ชาลี ซึ่งเป็นครูของเรา ก็เรารักมากเคารพมากจนกระทั่งอวสาน ทุกวันนี้ยังระลึกถึงบุญถึงคุณตลอดเวลา ครูชาลีอาจารย์ชาลีเป็นอาจารย์ของหลวงตาบัว เราเคารพมากรักมากด้วยครูคนนี้ ที่เด่นในบรรดาครูทั้งหลายซึ่งได้สอนเรามา เด่นมากทีเดียว นักประหยัดมัธยัสถ์อยู่นั้นหมด ไม่ลืมเนื้อลืมตัวไม่เย่อหยิ่งจองหอง เป็นกันเองไปหมด คนที่เข้าสมาคมทำประโยชน์ให้โลกได้มาก เป็นอย่างนั้นนะ ไม่เย่อหยิ่งจองหองพองตัว

(มีลูกศิษย์นำทองมาถวายอีก 10 บาท พร้อมกับเด็กน้อยนำเงินมาถวายอีก 10 ดอลลาร์)

ทองคำได้ ๑,๐๐๒ กิโลแล้ว คืบกันไป ๆ ถึงวันหลอมทองก็คงจะได้มาก ถึงจะได้มากขนาดไหนก็ตาม อย่างน้อยก็ ๔,๐๐๐ กิโลฯ ฝังอยู่แล้ว กะไปถึงจุดนั้น หากว่าเลยนั้นก็ยิ่งดี มันไม่มีขอบเขตการได้เพิ่มขึ้นมาอีก แต่การขาดลงไปนี้ไม่เหมาะ เพราะฉะนั้นเราจึงพาพี่น้องทั้งหลายขยับเป็นพัก ๆ ให้พอเหมาะพอดีกำลังวังชา เวล่ำเวลาของเรา ที่จะมอบทองคำแต่ละครั้งๆ เรากำหนดทบทวนไว้หมดก่อนที่จะออกมาประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน แล้วปฏิบัติตามนั้น เช่นอย่าง ๑,๐๐๐ กิโล นี้เราก็คำนวณเรียบร้อยแล้ว พอเหมาะพอดี

เรื่องที่คลังฯ นี้เขาก็บอกมาเมื่อวานนี้ เราก็ยังไม่แน่ เขาบอกมาแล้วเมื่อวานนี้ ว่าสมบัติของเรานี้เข้าสู่จุดนี้แล้ว เข้าสู่จุดที่เราต้องการแล้ว อันที่ว่าเข้าสู่จุดที่เราต้องการแล้วนี้ เราก็ถูกต้มมาหนหนึ่งแล้ว เราจึงไม่ได้แน่ใจนักนะ โห เราโกหกประชาชนทั่วประเทศมาเกือบสองปีใช่ไหม ว่าเข้าจุดนั้นแล้ว ๆ ธนาคารมันต้มเราเห็นไหม มันไม่ได้เข้า มันเอาแอบไปไว้นี้ เราไม่ลืมนะ นี่ก็ว่าเข้าจุดนั้นแล้ว เขามาบอกเรียบร้อยแล้ว แต่เราก็รับทราบไว้เฉย ๆ จนกว่าว่าเราไปกรุงเทพฯ แล้วจะสืบถามให้ถึงต้นตอมันเลยทีเดียว เราจึงจะเป็นที่แน่ใจ แล้วประกาศให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลายทราบต่อไป

อันนี้เท่าที่เราทราบมา เขามาบอกเมื่อวานนี้ว่า เข้านั้นเรียบร้อยแล้ว เขาไปดูมาเรียบร้อยแล้ว เอ้อ เรารับทราบเอาไว้ก่อน เราว่าอย่างนี้นะ ยังไม่รับรองยืนยัน เพียงแต่รับทราบไว้ก่อน เพราะเคยถูกต้มมาแล้วนี่ ดูซิมันต้มเราขนาดนั้น เป็นยังไงพิษร้ายแรงไหม ขวางกั้นอย่างมากทีเดียว ขวางกั้นชาติบ้านเมือง เราจะถือเป็นกัลยาณมิตรได้ยังไง เมื่อโดนเข้าทีหนึ่งต้องเข็ด ถึงจะมาบอกความจริงขนาดไหนจริงหรือไม่จริงก็ตาม เรายังลงใจไม่ได้ เราบอก เราเพียงรับทราบเท่านั้น เราต้องไปกรุงเทพฯ เสียก่อน ไปสืบเข้าถึงต้นตอมัน

เราเอาจริงทุกอย่างนี่นะ ไม่ถึงจุดเราไม่ยอมปล่อย นี่ทราบมาแล้วเมื่อวานนี้ เขามาบอกชัดเจนแล้ว เขานำอะไรมา แต่เราก็ไม่ได้ไปอ่านแหละ เพราะเราเพียงรับทราบเฉย ๆ ไม่จำเป็นจะต้องไปอ่าน เวลาจะเอาจริงเอาจังไม่ต้องอ่าน เอาตัวจริงเลย ค้นกันให้ถึงฐานมันเลย เป็นข้อรับรองยืนยันว่า เข้าสมบัติแห่งคลังหลวงของเราซึ่งเป็นหัวใจพี่น้องชาวไทยเราโดยสมบูรณ์แล้ว เห็นประจักษ์แล้วเราถึงจะประกาศออกมาได้คราวนี้ เพราะเราเคยถูกต้มมาแล้ว มันเข็ดขนาดนั้นนะ ธรรมเข็ดไม่เหมือนโลกเข็ด เข็ดจริง ๆ ธรรม ถ้ายอมรับยอมรับจริง ๆ ไม่ยอมรับขัดกันจริง ๆ อย่างนี้เรียกว่าธรรม ไม่ลูบหน้าปะจมูกใครทั้งนั้น ไม่เกรงใคร ไม่กลัวใคร ไม่กล้าต่อใคร นี่คือธรรม เป็นธรรมล้วน ๆ เหนือโลกตลอดเวลา

(มีลูกศิษย์กลับมาจากวัดดอยธรรมเจดีย์ มากราบเยี่ยม แล้วพูดถึงหลังเขาที่ว่าเป็นสถานที่ที่หลวงตาบรรลุ)

บรรลุ เอ้าว่าได้ ตัวบรรลุก็เราเองบรรลุ คนอื่นพูดตามเรื่องความจริงจะผิดไปไหน นั่นคือธรรม เพราะไม่มีคำว่าโอ้ว่าอวด มันเลยเสียทุกอย่างแล้ว เอาความจริงมาแจงกันเลย ไม่ผิด เพราะฉะนั้นใครจะว่าอะไรเราไม่เคยสนใจ เพราะธรรมชาตินี้คือความจริงล้วน ๆ เหนือทุกอย่างแล้ว มันจะเห่าอยู่ในถังขยะก็ตาม มันจะเห่าอยู่ใต้ก้นถังขยะก็ตาม มันจะเห่าอยู่ใต้ก้นถานก็ตาม ไม่สนใจนะ นั่นละวัดนั้นแหละ เป็นที่ระลึกของหลวงตาตลอดวันตาย แต่ก่อนพอเราไปถึงวัดดอยธรรมเจดีย์ เราจะไม่ได้วางอะไรละ ขึ้นเลย พอปั๊บนี้ขึ้นเลย ไปถึงที่จุดของเราเรียบร้อยแล้ว ดูนั้นดูนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะไปไหนจึงค่อยไป จับย่ามอยู่บนบ่านี้ก็ไม่ปล่อยนะไป จนเสร็จแล้วจะปล่อยย่ามปลดย่ามหรือไปที่ไหนก็ไป แต่ก่อนนะ เดี๋ยวนี้ไปไม่ได้แล้วหมดกำลัง ไปแค่ศาลาแล้วลง มันหมดกำลัง ไม่ขึ้นแล้ว

นี่แหละธรรมที่เราได้เอามาประกาศพี่น้องทั้งหลาย นั่นละออกมาจากความจริง สถานที่ความจริงอันเลิศเลอได้เกิดขึ้นที่นั่น เราก็นำความจริงมาประกาศเลย ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบ ว่าพุทธศาสนาเรานี้คือตลาดแห่งมรรคผลนิพพานสมบูรณ์แบบตลอดมา ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติอยู่ ผู้ครองมรรคผลนิพพานจะมีอยู่ตลอดไป ดังพระพุทธเจ้ารับสั่งกับพระอานนท์ เวลาพระอานนท์ไปทูลอาราธนาให้ทรงพระชนม์อยู่เป็นเวลานาน พระองค์ฯ ก็สำทับเอาบ้าง หรือขนาบเอาบ้างว่า “อานนท์ จะมาหวังอะไรกับเราตถาคตอีกล่ะ ก็ธรรมวินัยเราสอนหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เพื่อมรรคผลนิพพานทั้งนั้น แล้วจะมาหวังอะไรกับเราอีก” จากนั้นมาก็ปลอบพระอานนท์ “ธรรมวินัยนั้นแลที่จะเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย แทนเราตถาคต เมื่อเราตายไปแล้ว” ก็คือให้ยึดหลักธรรมหลักวินัยแทนองค์ศาสดาจะเป็นความแน่วแน่ถึงมรรคผลนิพพานเสมอกัน พูดง่าย ๆ จากนั้นก็ปลอบเป็นลำดับที่สองว่า “อานนท์ เมื่อมีผู้ปฏิบัติตามธรรมวินัยที่เราแสดงไว้แล้วโดยถูกต้องนี้ พระอรหันต์ไม่สูญจากโลกนะอานนท์” นี่เป็นวาระสุดท้าย คือธรรมที่สอนนี้ สอนเพื่อมรรคผลนิพพานถึงอรหัตสุดยอดเลย ปฏิบัติตามนี้อย่าไปไหน ก็ต้องไปเป็นนั้นตามนั้น

นี่ถึงว่าพระพุทธศาสนาเรา คือตลาดแห่งมรรคผลนิพพานสมบูรณ์แบบตลอดมา ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติอยู่ก็จะสมบูรณ์แบบตลอดไป ถ้าไม่มีผู้ปฏิบัติแม้พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ก็ไม่มีความหมาย มันขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติตามหรือไม่เท่านั้น ถ้าไม่มีใครปฏิบัติตามแล้ว อยู่ต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าก็ไม่มีความหมาย อย่างพระเทวทัตแหวกลงไปใต้แผ่นดินทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ก็อย่างนั้นแหละ ทำชั่วก็ชั่วอย่างนั้น ทำดีก็ดีอย่างนั้น

ลูกศิษย์ โอ้โห ที่ดอนเมืองค่ะ เถียงกับเขาค่ะ ไม่ทราบเป็นใครมาจากไหน แต่งตัวดี เขาว่าหลวงตาฯ แหมอีฉันทนไม่ได้ เขาว่า “ไม่มีหลวงตามหาบัว ชาติไทยก็อยู่ได้” บอกว่า “โอ้โห คุณพูดอย่างนี้ใช้ไม่ได้เลยนะคุณนี่”

หลวงตา รู้จักกันมันก็พูด

ลูกศิษย์ ไม่รู้จักค่ะ โอ้โห เถียงกันใหญ่ ผู้ชาย เถียงใหญ่ อีฉันไม่มียอมเขา

หลวงตา ฟัง ๆ ให้เขายกโคตรยกแซ่เขามาพูดก็ให้เขาพูดเถอะ เข้าใจไหม เอ๊ย เราลูกศิษย์หลวงตาฯ เราไปแอ๊ะ ๆ อยู่นั่น

ลูกศิษย์ ไม่ได้หรอกค่ะ บางคนเขาเข้าใจผิดมันต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ

หลวงตา ผิดก็ช่างหัวเขาซิ เขาอยากเป็นไปด้วยกันช่างเขาซิ

ลูกศิษย์ ไม่ได้หรอกค่า บอกว่าดิฉันมีอาชีพเป็นครู มาว่าครูฉันไม่ได้

หลวงตา ตั้งแต่ไอ้ปุ๊กกี้แม้ช้างมามันก็เห่าได้จะว่าไง ว่าก็ว่าซิให้เขายกโคตรมาว่าหลวงตาบัวเฉย อยากตดก็ตด อยากขี้ก็ขี้ธรรมดา เข้าใจไหม

ลูกศิษย์ แต่หลายคนที่เขามาวัด เขาบอกถูกแล้ว ๆ เดี๋ยวมาเล่าให้หลวงตาฟัง เขาว่าอย่างนี้เลย หลายคนเลย

หลวงตา จะเอาถูกหรือเอาผิดไปล่ะ ถ้าเอาถูกก็บอกว่า ให้เขามาทั้งโคตรเขาเลยก็ได้ มาด่าหลวงตาว่ายังงั้นนะ นี่ถ้าเอาถูกไป ถ้าไปเทียบใส่เขาผิด แสดงว่า เขาแสดงมานั้นได้ผล เราผิดไปด้วย เขาแสดงออกมานั้นเรียกว่าเขาได้ผล ถ้าแสดงออกมาบอกให้ยกมาทั้งโคตรมึงมาว่าก็ได้ ว่าหลวงตาบัวกูนี้ เรียกว่าเขาไม่ได้ผล เราได้ผล เข้าใจไหม ต้องอย่างนั้นซี

ลูกศิษย์ แต่งตัวดีเจ้าค่ะ ใส่สูทใส่อะไร

หลวงตา ฟังซิพระพุทธเจ้า ประสาหลวงตาบัวตัวเท่าหนูจะไม่ให้เขาว่ายังไง พระพุทธเจ้านี้เขายืนเป็นแถวด่าว่าพระพุทธเจ้า ไอ้อูฐ ไอ้ลา ไอ้หัวโล้นโกนคิ้ว ไอ้หาขอทาน ไอ้สิ้นท่า เขาว่า พระพุทธเจ้าบิณฑบาตเฉย ไม่สนใจ ทีนี้พระอานนท์ที่ฟังอยู่ข้างหลัง โอ๊ย ตัวสะดุ้ง ๆ มาเลย ไปทูลพระพุทธเจ้าว่า ขอให้พระองค์เสด็จไปโปรดเมืองอื่นเถอะ เมืองนี้มันพิลึกกึกกือเหลือเกิน โปรดไม่ได้แล้ว พระพุทธเจ้าก็รับสั่งถาม ไปเมืองอื่นหากเขาว่าอย่างนี้แล้วจะไปเมืองไหน ไปเมืองโน้น ถ้าเมืองโน้นเขาว่าอีกแล้วจะว่ายังไง สุดท้ายอานนท์ก็ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ไป ถูกเขาว่าทั้งเมือง นี่ละอานนท์คิดผิดไป

ไอ้เรื่องนินทา สรรเสริญนี้มีมาดั้งเดิมแต่กาลไหน ๆ อย่าตื่นเต้น เราเรียนธรรมเพื่อรู้หลักธรรมชาติเหล่านี้ ตามหลักธรรมชาติของธรรมแล้วเราอยู่สบาย สำหรับพระองค์แล้วท่านยกขึ้นว่า อหํ นาโคว สงฺคาเม จาปาโต ปติตํ สรํ อติวากฺยํ ติติกฺขิสฺสํ เราได้ก้าวเข้าสู่สงครามแล้วเราไม่ได้พรั่นพรึงกับข้าศึกศัตรูใด ๆ ซัดกันไปเรื่อยเลย ท่านว่าอย่างนี้ ฟังซิ เป็นคติไหมล่ะ เราไม่พรั่นพรึงกับข้าศึกศัตรูทั้งหลายเหล่านั้น เข้าสู่สงครามรบเรื่อยไปเลย เข้าใจไหม ให้เอาไปนะ พอเขาว่าอย่างนั้น ก็แอ๊ะ ๆ แสดงว่าเขาได้ผลแล้ว เขาซัดหมัดสองแล้วหงายนะ หงายไม่เป็นท่าเขาเรียกหงายหมา

ลูกศิษย์ เขาก็กลัวค่ะ พอมาถึงสนามบินอุดรฯ เขาไม่กล้า เขาเดินห่างเลยค่ะ

หลวงตา เอ๊ย ลูกศิษย์ของเรานี้ไม่เป็นท่า นึกว่าจะเอาของเป็นท่ามาอวดอาจารย์บ้าง เราสอนให้เป็นท่า กลับไม่เป็นท่ามานี้ ใช้ไม่ได้

ลูกศิษย์ ค่ะ ๆ คราวหน้าจะพยายามไม่ทำค่ะ คราวนี้ทำให้มันหายเครียดค่ะ ถ้าไม่ทำก็เครียดค่ะ

หลวงตา ให้เชื่อหลวงตานะ หลวงตาเอาธรรมมากล่าวนี้ถอดออกจากใจมาสอน สอนโลกนี้ ธรรมนี้เหนือทุกอย่างแล้ว สิ่งเหล่านี้มันอยู่ในถังขยะ มันเห่าออกมาจากถังขยะ ออกมาจากส้วมจากถานเป็นของสกปรกทั้งนั้น อย่าเอาหูไปฟังเดี๋ยวหูสกปรกอีก เข้าใจไหม (--ค่ะ) ให้เฉยเลย ไม่สนใจ อันใดดีให้คว้าปั๊บๆ นั้นถูกต้อง อันนี้ไม่ดีปัดออกทันที อย่าเอามาเป็นอารมณ์ของใจ เข้าใจไหม (--ค่ะ) เอ้อ จำเอา เท่านั้นพอ ทีนี้เราจะไปละ

********************************************

ดอลลาร์ ขณะนี้รวบรวมได้แล้วประมาณ ๗๑๑,๒๐๐ เหรียญฯ (หลังจากที่ได้มอบเข้าสู่คลังหลวงไปแล้ว ประมาณ ๔,๒๗๘,๐๐๐ เหรียญฯ)

เปิดดูข้อมูล ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาพูดอะไร

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก