วันนี้ฉันเสร็จแล้วก็จะได้ไปร้อยเอ็ดละ ร้อยเอ็ดเขาก็รวมกันทั้งจังหวัดเลย ทีแรกอำเภอโพนทองมานิมนต์เราไปเทศน์ที่อำเภอโพนทอง พอทางจังหวัดทราบก็เลยขอรวมโพนทองเข้ามาสู่จังหวัดแห่งเดียว และอำเภออื่น ๆ ต่าง ๆ ในจังหวัดร้อยเอ็ดก็ได้มารวมตั้งกองมหากุศลผ้าป่าร่วมกัน ทีแรกเขาก็อย่างว่านะ พอเขาได้ไปแล้วมาแบ่งเขา เขาก็ไม่อยากให้ ว่าขอให้ทางโพนทองมารวมที่จังหวัดคือร้อยเอ็ด เขาบอกเขาไม่ให้ เขามานิมนต์ไปเองท่านรับคำไปแล้ว เขาว่าอย่างนั้น นั่นเห็นไหมล่ะ เมื่อรับคำลงไปแล้วก็เรียกว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาแล้ว ใครมายุ่งไม่ได้ความหมายว่าอย่างนั้น
ทีนี้ทางร้อยเอ็ดเขาก็มาหาเรา มาแสดงความมุ่งหมายว่าจะยกผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน หัวหน้านี้มีความยินดีที่จะนิมนต์เราไปในตัวจังหวัดร้อยเอ็ด แล้วขอให้ทางอำเภอโพนทองนั้นมารวมร่วมกันที่นี่ เราก็เห็นเหตุผลที่ดีงาม ก็เลยพูดไปจะเป็นเชิงปัญหาก็ดีอะไรก็แล้วแต่เถอะ บอกว่าทางจังหวัดร้อยเอ็ด เพราะทางนู้นกับทางร้อยเอ็ดยังไม่ลงกัน เราก็เลยพูดถึงเรื่องส่วนกุศล อำเภอโพนทองมีจำนวนน้อย ทางจังหวัดมีหลายอำเภอรวมกันมีมากกว่า การสร้างมหากุศลซึ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เราควรจะรวมตัวเข้ามาสู่จุดใหญ่เพื่อผนึกกำลังของเรา ให้เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่แก่จังหวัดร้อยเอ็ดของเรา เพื่อเป็นมหามงคลแก่คลังหลวง ที่มีความมุ่งหมายอย่างนี้หลวงตาเห็นชอบแล้วว่ายังงั้น บอกว่า เอาคำว่าหลวงตาเห็นด้วยแล้วฝากไปทางอำเภอโพนทอง เขาก็เลยยอม
คือเราเห็นด้วยแล้วเพราะเป็นเรื่องใหญ่โต มีผลมากกว่าเอกเทศคือโพนทอง เขาก็เห็นด้วยทันที เขาไม่เห็นดื้อ พิจารณาซิ นี่แหละเหตุผลเป็นอย่างนี้ รวมแล้วเรียกว่า ธรรม เหตุผล เขาก็ต้องการที่จะให้ไปเฉพาะอำเภอเขา เมื่อเขาได้รับนิมนต์จากเราแล้วเขาก็เลยทำอย่างนั้น ทีนี้เมื่อฝ่ายอื่นซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กว่ามาขอ เขาก็ไม่ยอมให้ เราเองพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ว่าทางฝ่ายจังหวัดที่รวมกันทั้งหมดนี้มีผลมาก เราก็เห็นไปด้วยกันกับทางจังหวัด ว่ายังงั้น ทางโน้นเขาก็ไม่เห็นมีทิฐิมานะขัดแย้งอะไร เขาก็เห็นด้วยเราทันที นั่น นี่แหละเรียกว่าเหตุผล
ให้พากันฟัง หลักธรรมรวมตัวแล้ว เหตุผลรวมตัวแล้วเรียกว่าธรรม อยู่ในตัวของใครก็ตาม ถ้ามีเหตุผลเป็นเครื่องกำกับตัวเองแล้วก็เป็นธรรมติดตัวไปเรื่อย ๆ ความเสื่อมเสียไม่ค่อยมี ถ้าปราศจากเหตุผลเมื่อไรแล้ว ความเสื่อมเสียความพินาศเป็นลำดับ ๆ จะตาม ๆ กันมา อันนี้คือเรื่องของกิเลส กิเลสไม่มีเหตุมีผล ว่าจะเอามีแต่เอาท่าเดียว ว่าจะทำอะไรมีแต่จะทำท่าเดียว เอาความอยากเป็นกำลังดึงไปเลย เหตุผลไม่มีสำหรับกิเลส แต่เรื่องธรรมนั้นต้องมีเหตุผลพร้อม แล้วก็ก้าวเดินไป จึงไม่ค่อยผิดพลาด ไม่ค่อยทำความเสียหายแก่ตนเองและส่วนรวม ต่างกันอย่างนี้นะ
ธรรมเป็นเครื่องปกครองโลกมานาน เป็นกี่กัปกี่กัลป์ฟังซิน่ะ เป็นประจำมานี้นานสักเท่าไร พระพุทธเจ้าตรัสรู้แต่ละพระองค์ ๆ มาเป็นกี่กัปกี่กัลป์นับไม่ได้นะ แล้วถ่ายทอดธรรมะโปรดปรานสัตวโลกเรื่อยมา เป็นวรรคเป็นตอน ๆ เวลานี้ก็พระพุทธเจ้าของเราก็เป็นองค์ปัจจุบัน ครั้นต่อไปนี้ก็จะมีพระอริยเมตไตรยอีก อดีตฉันใดอนาคตฉันนั้น เรื่องความแม่นยำของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ได้รับสั่งออกมาแล้วไม่มีเคลื่อนคลาดเลย นี่ก็ปัจจุบันท่านก็บอก พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันพระชนมายุของเรามีน้อยมากเพียง ๘๐ ปี บอกไว้แล้วนะ ถ้าภาษาของเราก็ว่า บอกไว้แล้วแต่ยังไม่ตาย พอถึงวันก็เสด็จไปเลย เมืองกุสินาราหรืออะไร ที่ไปปรินิพพาน เสด็จตรงเข้าไปสวนมัลลกษัตริย์ เมื่อทางโน้นมาทูลถามเรื่องราวก็บอก จะเสด็จมาตายที่นี่ ในคืนวันนี้
นั่นเห็นไหม เคลื่อนไหม อาจหาญชาญชัยไหมองค์ศาสดา ถึงวันเวลาแล้วเสด็จไปเลย พอถึงที่ก็บอกว่าจะมาตายที่นี่ นี่เรียกภาษาชาวบ้านเรา ให้พูดตามหลักความจริง ส่วนมากภาษาชาวบ้านจะพูดตามหลักความจริง ๆ ถ้าภาษาตลาดมันแฝงมันย้อมมันไพเราะเพราะพริ้ง แล้วกัดตับกัดปอดกันไปเรื่อย ๆ นี่ภาษากิเลส มันแฝงเข้ามามีแต่ความต้องการสดสวยงดงามไพเราะเพราะพริ้งอ่อนหวาน ๆ นิ่มนวลทุกอย่าง นี่คือภาษาของกิเลส แต่กัดตับกัดปอดไปในนั้นเสร็จ ภาษาธรรมตรงไปตรงมา ส่วนมากภาษาชาวบ้านของเรามักจะใช้ภาษาธรรมมากกว่า เช่นอย่างว่าไปตายอย่างนี้ นั่นละคำว่าตายนี้ เป็นศัพท์ตายตัวมาดั้งเดิม แล้วถึงวันนั้นแล้วเคลื่อนไหม ฟังเอาซิ เช่นอย่างปลงพระชนมายุจากนี้ไปอีก ๓ เดือนเราจะตาย นิพพาน แปลว่าดับสนิท คือทุกสิ่งบรรดาสมมุติทั้งหลายนี้ดับหมด เพราะสมมุติเป็นเครื่องก่อกวนทำลายบีบบี้สีไฟให้ได้รับความทุกข์ในใจ เมื่อใจดับสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว ขันธ์มีอยู่เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน กิเลสดับ เรื่องก่อกวนทั้งหลายเกิดจากกิเลส กิเลสดับแล้วทุกข์ทางใจไม่มี เหลือแต่ขันธ์รับผิดชอบไปตามสัญชาตญาณ
พอถึงวันเวลามันจะร่วงของมันไปเท่านั้น นี่เรียกว่าขันธ์ ท่านครองไว้แล้ว วันนั้นปลงพระชนมายุว่าจากนี้ไปอีก ๓ เดือนเราจะตาย เรียกว่าปลงพระชนมายุสังขาร ลั่นพระวาจาไว้แล้วผิดที่ตรงไหน พอถึงวันนั้นก็เสด็จเลยเทียว เสด็จไปปรินิพพาน ตอนเสด็จไปปรินิพพาน ก็ทรงพิจารณาเรียบร้อยแล้วเหตุการณ์ดีชั่วประการใดบ้างที่จะเกิด ก็เสด็จไปเมืองกุสินาราซึ่งเป็นเมืองเล็กน้อยไม่ใช่เมืองใหญ่เมืองโต เมืองนี้เป็นเมืองเล็กเมืองน้อย กำลังวังชาทิฐิมานะไม่มาก ถ้าเป็นเมืองใหญ่เมืองโตจะถือทิฐิมานะอำนาจบาตรหลวงขึ้นมา แล้วจะเกิดรบราฆ่าฟันกัน หลังจากท่านนิพพานแล้ว จะมาแย่งพระสรีระธาตุของท่านนั้นแหละ จึงเสด็จไปนี้ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กน้อย จะยินยอมกันด้วยความสงบต่อชาติบ้านเมือง เหมือนพระองค์ที่ยังทรงพระชนม์อยู่สั่งสอนสัตวโลกให้เป็นความสงบร่มเย็น จึงไปปรินิพพานที่กุสินารา นั่นฟังซิผิดไปตรงไหน
เวลาไปถึงแล้วก็มีพราหมณ์คนหนึ่งดูเหมือนว่า ถ้าจำไม่ผิดก็ สุภัททพราหมณ์ ที่มาทูลถามปัญหา อันนี้ก็เพราะเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีในสกุลของตัวเองนั่นเอง เห็นไหมมันเป็นข้าศึกกัน เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีในสกุลของตน ว่าเป็นสกุลศากยะ ศากยะ โกลิยะ มันมีสอง ถ้าจะไปทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้า แม้จะเป็นสกุลศากยะวงศ์ศากยะเหมือนกันก็ตาม แต่พระพุทธเจ้านี้เพียงเป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน ไม่สมศักดิ์ศรีเราเป็นผู้ใหญ่ เหมือนกับว่าเป็นปู่เป็นตาไปแล้ว จะไปถามปัญหาเด็ก ไม่สมควรแก่ศักดิ์ศรีของเรา ทิฐิมานะอันนี้ก็เหยียบไปตลอด จนกระทั่งวาระสุดท้าย เรื่องทิฐิมานะนี้ก็ลดลงละที่นี่ นี่ก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว พระพุทธเจ้าจะมาปรินิพพานที่นี่ ท่านพูดรับสั่งอะไรแล้วไม่เคยผิด นี่กระทั่งเสด็จมาถึงแล้ว บอกว่าท่านจะนิพพานในคืนวันนี้ เราจะมัวแต่กังวลวุ่นวายอยู่นี้ ผลประโยชน์จะไม่มีอะไร
ตัดสินใจลดทิฐิมานะความเป็นตาเป็นปู่นั้นลง ไปทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเรื่องศาสนามีมากมายก่ายกอง ไม่ทราบจะถือศาสนาใดเป็นหลักเป็นเกณฑ์ ภาษาของเราก็เรียกว่า พึ่งเป็นพึ่งตาย พระพุทธเจ้าก็รับสั่ง เพราะศาสนามีมากมาดั้งเดิม ใครก็ยกยอปอปั้นว่าศาสนาของตัวเลิศเลอ ๆ ไปทุกศาสนานั่นแหละ แล้วรวมแล้วเป็นศาสนาของคนมีกิเลสกันทั้งหมด เจ้าของศาสนาคือคลังกิเลส จะเอาความแน่นอนแม่นยำมาจากไหน เวลาทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์ไม่ได้ตำหนิศาสนาใด บอกว่าศาสนาใดมีอริยสัจ มีมรรค ๘ ศาสนานั้นเป็นศาสนาที่ทรงมรรคผลนิพพาน แล้วก็ทรงแสดงเรื่องมรรค ๘ ให้ฟังเลย ปฏิปทามรรค ๘ อยู่ในองค์อริยสัจ บอกว่าเวลาเรามีน้อยอย่าถามเรามากนัก ท่านก็รับสั่งย่อ ๆ ว่าศาสนาใดมี มรรค ๘ มีอริยสัจ ศาสนานั้นเป็นศาสนาที่ทรงมรรคทรงผลโดยสมบูรณ์
ท่านก็สอนมรรค ๘ ลงไปเลย ไม่ให้มาก แล้วก็รับสั่งให้พระอานนท์บวชให้เลย แล้วก็รับสั่งอีกด้วยว่า เอ้าให้เร่งความเพียร อย่ามาเป็นกังวลกับการเป็นการตายของเรา ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำความเพียรให้สิ้นกิเลส แล้วเป็นปัจฉิมสาวกองค์สุดท้ายของเราเวลาปรินิพพาน บวชแล้วท่านก็ออกไปบำเพ็ญเพียร ไม่ได้สนใจกับเรื่องเป็นเรื่องตายของพระพุทธเจ้าตามที่พระองค์รับสั่งแล้วนั้นแล ก็บรรลุธรรมปึ๋งขึ้นเลยในคืนวันนั้น เป็นปัจฉิมสาวก นั่นเห็นไหม ผิดไหมพระพุทธเจ้ารับสั่ง
แล้วมาที่นี่เราก็มาเพื่อคนคนนี้แล นั่นอันหนึ่ง อันหนึ่งท่านไม่พูดแต่ใครก็ทราบโดยดี ในขณะนั้นท่านไม่พูดท่านไม่รับสั่ง มาเพื่อระงับเหตุการณ์ มานิพพานที่นี่ ไม่อย่างนั้นจะเกิดข้าศึกสงครามกันขึ้นระหว่างศาสนาซึ่งเป็นของเลิศเลอ ความเลวทรามจะมาเกิดในขณะที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไม่สมควร จึงมานิพพานที่เมืองเล็กเมืองน้อย พอพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเห็นไหม ยกทัพกันมาแล้วนั่น เมืองไหนก็มีแต่เมืองใหญ่ ๆ ยกทัพกันมา ๆ ที่จะมาขอแบ่งส่วนพระสรีระ ถ้าไม่ให้จะรบ นั่นเห็นไหมล่ะ เพราะต่างคนต่างอวดก้ามของตัวเองล่ะซิ ทีนี้เมืองนี้เป็นเมืองเล็กเมืองน้อยมันก็เข้ากันแล้ว
ก็เลยต้องประกาศกัน ดูเหมือนว่าจะเป็นโทณพราหมณ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าทรงประทานศาสนาให้เป็นความร่มเย็นแก่โลกสงสาร เวลาพระองค์ปรินิพพานไปแล้วพวกเราจะมาเกิดข้าศึกศัตรูฆ่าฟันรันแทงกันนี้ไม่สมควรแก่องค์ศาสดาที่สอนโลกเพื่อความร่มเย็นเลย เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทุกหัวเมืองที่มา ดูเหมือนจะเป็นโทณพราหมณ์เป็นผู้ประกาศ ถึงเรื่องจะแบ่งสันปันส่วนให้ทุกจังหวัด หรือทุกมณฑลประเทศก็แล้วแต่ ที่เป็นขอบเขตของเขาครองกัน ทางโน้นก็พอใจ นี่เห็นไหม ยกทัพจับศึกออกหมด ทางนี้ก็แบ่งสันปันส่วนให้สม่ำเสมอกัน ก็มีเมืองเดียวเมืองโมรีนครที่มาทีหลังได้พระอังคารไป อันนี้เราพูดตามตำรา ก็มีเมืองนี้มาทีหลังเขา ไม่ทัน ก็เลยได้พระอังคารไป
นี่ละแม่นยำไหมพระพุทธเจ้า สอนทุกบททุกบาท ธรรมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ที่จารึกออกมาเพียงพอประมาณนะไม่ได้มาก ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนเลยคำศาสดา จึงเรียกว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบทุกอย่าง ถ้าเป็นแบบแปลนก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ แบบแปลนเพื่อมรรคเพื่อผลนิพพาน สอนไว้ถูกต้องแม่นยำ
นี่เมื่อย่นเข้ามาหาเมืองไทยเราของเราเวลานี้แล้ว ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ถ้าพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศนี้ มีความรู้ความเห็นตามธรรมของศาสดาแล้ว ก็ควรจะรู้จักในแง่หนักเบาผิดถูกดีชั่วประการต่าง ๆ แล้วถอยทัพกลับศึกออกไป ซึ่งเป็นเวลาที่ตั้งเค้าขึ้นมาแล้วว่าจะรบกัน เอ้าพูดให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยคือเวลานี้ระหว่างประชาชนกับรัฐบาล กำลังเกิดเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย ในพระบรมธาตุคือกองสมบัติอันใหญ่หลวงของชาติไทยเรา กองอันนี้ไม่ใช่กองที่จะแจกจะแบ่งไปไหน ผิดกับกองพระสรีระของพระพุทธเจ้านะ อันนี้เป็นหัวใจของชาติไทยเรา ถ้าแบ่งอันนี้ออกไปก็เรียกว่าตัดหัวใจของชาติไทยเราไป ทุกคน ๆ หัวใจแป้ว หัวใจขาดทะลุไปแล้วกองสมบัติก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ชาติไทยก็จม จึงต่างคนต่างรักสงวนไว้ด้วยทั่วประเทศไทยของเรา อย่ามาแตะต้องทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่คือคลังหลวงของเราในจุดนี้ นี่เป็นความถูกต้องแห่งธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าแสดงมา ซึ่งเรากำลังนำมาแสดงอยู่เวลานี้
อันนี้ไม่ใช่พระสรีระเหมือนพระสรีระของพระพุทธเจ้า อันนี้เป็นหัวใจของประชาชน ถ้าทำลายจุดนี้แล้วก็เป็นอันว่าทำลายหัวใจของประชาชนทั้งชาติ เราเป็นลูกชาวพุทธ จึงไม่ควรที่จะเข้ามาแตะต้องทำลายเลย นี่เป็นจุดสำคัญที่ตรงนี้ ให้พากันฟังทุกคนเราเป็นลูกชาวพุทธ อย่าขัดอย่าแย้งอย่าเห็นแก่ความอยากความทะเยอทะยาน ความได้ความร่ำความรวย ซึ่งเป็นการทำลายชาติป่นปี้ฉิบหาย ไม่มีอะไรเหลือเลย เพราะความโลภมากนั้นแหละมันทำลายโลกได้ จึงขอให้พากันฟังเสียงอรรถเสียงธรรมพระพุทธเจ้า อันนี้เป็นหัวใจของชาติ อย่ามาแตะต้อง ให้ต่างคนต่างรักต่างคนต่างสงวน ต่างคนต่างบำรุงรักษาหามาเพิ่มเติม นี้เป็นความถูกต้องตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
การที่จะมาทำลายอันนี้นั้นผิดไม่มีชิ้นดีเลย เท่ากับทำลายประเทศไทยทั้งชาติฉิบหายป่นปี้ไปหมด ด้วยความหวังร่ำรวยเพียงคนสองคนเท่านั้น ก็เรียกว่าเป็นมหาภัยต่อชาติได้ ถ้าหากว่ารัฐบาลเข้ามาทำอย่างนี้แล้ว ก็เรียกว่ารัฐบาลเป็นมหาภัยของชาติไทยเรา ไม่ใช่เป็นรัฐบาลที่คุ้มครองบ้านเมือง โดยที่ทางบ้านเมืองยกฐานะขึ้นให้เป็นรัฐบาลเป็นผู้นำ ไม่ควรอย่างยิ่งกับผู้นำประเภทที่จะมาทำลายชาติของตน พ่อแม่ของตนคือประชาชน ซึ่งผลิตรัฐบาลขึ้นมา เราจึงควรฟังเสียงเป็นอย่างยิ่งนะ อย่าพากันคึกคะนองจนลืมเนื้อลืมตัวลืมเหตุลืมผล เรียนมามากน้อยจากทวีปใดประเทศใดก็มารวมอยู่ในรัฐบาลไทยเรา มีแต่คนมีความรู้ความฉลาด ความรู้ความฉลาดนั้นไปเรียนมาด้วยอำนาจของกิเลสพาไปพาเรียน พาจำพามาปฏิบัติ ถ้าไม่ได้มีความรู้ของธรรมแทรกเข้านั้นแล้ว ความรู้เหล่านี้จะทำโลกให้พินาศฉิบหายได้มาก ยิ่งกว่าความรู้ของตาสีตาสาในท้องนาเสียอีก
เพราะฉะนั้นความรู้นี้ขอให้มาทำประโยชน์แก่ชาติไทยของเรา จะเป็นเกียรติแก่ผู้ที่เรียนมา สำเร็จมามากน้อยมาทำประโยชน์ให้ชาติไทยของเราอย่างเด่นชัด นี้จะเป็นที่ชมเชยของพี่น้องชาวไทยเรา ถ้าหลวงตาบัวนี้มีลูกมีหลาน ก็จะส่งให้ไปเรียนเมืองนอกอีกเหมือนกันนะ ให้ไปเรียนมา เรียนมาเพื่อเทิดทูนชาติไทยของเรานี้ให้ไปเรียนมาเถอะ แต่ไปเรียนมาเพื่อเป็นเครื่องสังหารชาติไทยของเรานี้อย่าเรียนอย่าไปเรียน
แม้หมู หมา เป็ด ไก่ ผลที่สุด หมาตัวชื่อไอ้ปุ๊กกี้นี้เราก็ไม่ให้มันไปเรียนนะ มันจะมาทำลายวัดเราอีก ไอ้ปุ๊กกี้ เรียนความรู้วิชามาแล้วก็มาทำลายวัด ทำลายหัวหน้าวัดคือหลวงตาบัว เราไม่ยอมให้ไอ้ปุ๊กกี้ไปเรียน ถ้าเรียนเพื่อเป็นมรรคเป็นผลเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองแล้ว เอ้าให้ไป เรายินดี ธรรมยินดี ธรรมเห็นด้วย เรียนมาเพื่อเป็นเสี้ยนเป็นหนามเป็นข้าศึกศัตรูต่อชาติของตนนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นเรื่องขุยไม้ไผ่ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ทำลายแม่ของตนเอง
เห็นไหมไม้ไผ่ ที่ไหนที่เกิดขุยขึ้นมากอไผ่กอนั้นต้องตายหมดทั้งกอเลย นี่ความรู้ของคนพาลสันดานหยาบเป็นภัยต่อชาติต่อบ้านเมือง เช่นเมืองไทยของเรานี้ เรียนมามากน้อยแล้วก็มาถลุงชาติบ้านเมืองให้ฉิบหายป่นปี้ไป นี่เรียกว่าความรู้ขุยไม้ไผ่ มาทำลายพ่อแม่ของตนชาติของตน ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอให้พากันนำไปพินิจพิจารณาทุกคน นี้คือศาสนธรรมนำมาสอนพี่น้องชาวไทยเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข ถ้าผิดจากนี้แล้วความเลวร้ายทั้งหลายจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดไม่ฝัน เพราะเหตุไร เพราะสมบัติของใครใครก็รัก มีเงินสตางค์หนึ่งเขามาแย่งกับมืออย่างนี้เป็นยังไง ฆ่ากันได้นะ เงินสตางค์หนึ่ง ถ้าหยิบยื่นให้กันเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ๆ พอใจด้วยกัน ทั้งผู้รับไปทั้งผู้ให้ไม่มีภัยต่อกันนอกจากเป็นคุณมหาคุณ และระลึกถึงบุญคุณกันจนกระทั่งถึงวันตายเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเข้ามาแทรกเลย แต่ถ้ามารุกล้ำเอาทั้ง ๆ ที่ไม่ยินยอมอย่างนี้ เงินเพียงสตางค์หนึ่งฆ่ากันได้
นี้กองทรัพย์สมบัติของชาติไทยเรานี้เป็นสมบัติของคนทั้งชาติ หัวใจของชาติไทยเราทุกหัวใจมาอยู่ในกองสมบัตินี้หมด เป็นของที่มีคุณค่ามาก จึงไม่ควรที่ใคร ๆ จะมาอาจมาเอื้อม มายื้อแย่งแข่งเอาด้วยกำลังอำนาจบาตรหลวงของตน นี่เรียกว่าทำลายต่อชาติไทย แล้วเงินสตางค์หนึ่งเขายังฆ่ากันได้ เงินกองหนึ่งทั้งกองซึ่งเป็นชีวิตจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ เหตุใดประชาชนไทยทั้งชาติจะไม่มีหัวใจ นี่ละมันจะเกิดเรื่องกันตรงนี้ ถ้าขัดกับธรรมพระพุทธเจ้าแล้วเกิดแน่ ๆ สงครามเราเกิดขึ้นด้วยการยื้อแย่งกัน ไม่ได้เอาไปด้วยความทางนี้ลงใจ ให้พากันระมัดระวังจุดนี้จุดใหญ่มากนะ
ถ้าต่างคนต่างดีต่างเด่นนั้นแหละ เจ้าของทรัพย์ไม่ผิด มีมากมีน้อยมีสิทธิที่จะต้องรักษาโดยความเป็นธรรมมาด้วยกันตั้งดึกดำบรรพ์กาลไหน ๆ มาแล้ว แต่มหาโจรมหามารที่มายื้อมาแย่งมาชิงมาตบมาตีมาฟันมาฆ่ามาทำลายแย่งเอาไปนั้นเป็นความผิดเต็มประตู ๆ เรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดไป นี่ละกองสมบัตินี้คือเป็นหัวใจของชาติไทยเรา ชาติไทยมีสิทธิที่จะต้องรักษาสมบัติอันนี้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยกัน ใครอย่าเข้ามาทะลึ่งอย่าเข้ามาทำลาย สิ่งเหล่านี้มีมาดั้งเดิม ปู่ย่า ตายาย บรรพบุรุษเรารักษามา พลีชีพเอาเลือดทาแผ่นดินไทยเรานี้มาเท่าไร เพื่อรักษาสมบัติคือแผ่นดินไทยเรา อันนี้ก็สมบัติอันหนึ่งคือหัวใจของชาติไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน อย่ามาทำลายกัน เดี๋ยวเลือดจะทะลักเต็มประเทศไทยของเรานะ เพราะผู้มีสมบัติก็มีสิทธิที่จะต้องรักษา มีอำนาจที่จะพลีชีพเพื่อสมบัติของตน ผู้นั้นก็ตั้งหน้าแต่จะเอา นั่นละรบกันตรงนั้นละนะ ให้จำเอาไว้ นี้คือธรรมของพระพุทธเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนี้ ด้วยการยอมรับ สมบัติใดเป็นสมบัติของชาติให้ทราบว่าเป็นสมบัติของชาติ เป็นหัวใจของคน ให้ทราบว่าสมบัติเหล่านี้เป็นหัวใจของคนไทยทั้งชาติ อย่ามาทะลึ่งพึ่งพรวดทำลายกัน แบบมืดหนาสาโหด แบบมหาโจรมหามาร แบบท้องไม่อิ่มไม่พอ ยกอำนาจวาสนายกแง่นั้นแง่นี้มากลืนมากินไม่ได้
นี่สมบัติของชาติ เด็กก็รู้ ผู้ใหญ่ก็รู้ คนทั่วประเทศไทยรู้กันหมดว่า นี่คือหัวใจของชาติ ทำไมผู้ที่จะมาทะลึ่งจะไม่รู้จักว่านี้หัวใจของชาติ มีหัวใจแต่เราเพียงหัวใจเดียวเท่านั้นเหรอ ว่าเลิศเลอยิ่งกว่าคนทั้งชาตินี้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ให้พากันระงับดับลงไปด้วยอำนาจแห่งธรรมที่เราเป็นชาวพุทธ ลูกชาวพุทธ ให้ฟังเสียงพ่อคือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นพ่อใหญ่ปกครองชาติบ้านเมืองเรามานานแสนนานแล้ว อย่าได้ทำลาย เมื่อทำลายอันนี้เท่ากับทำลาย พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และทำลายชาติไทยไปโดยสิ้นเชิงเช่นเดียวกันหมด แล้วเราจะเอามหามงคล สิริมงคลไปจากไหน ด้วยการมากอบมาโกย มารีดมาไถมาบีบบี้สีไฟ เอาสมบัติกองนี้ไป ไปครองมหาสมบัติ ไม่มีทาง นอกจากจะมีแต่ความล่มจมฉิบหายป่นปี้ และเป็นไปโดยประเภทต่าง ๆ หากมีอันจะเป็นไป เพราะอำนาจแห่งกรรมของตนเองพาให้เป็นไป เป็นไปได้ต่าง ๆ เราอย่าอวดต่อกรรมต่อธรรมของพระพุทธเจ้า
เรื่องกรรมนี้หนาแน่น หนักมากนะ เหนือสัตวโลกทุกประเภทอำนาจของกรรม เราอย่าเอาความดื้อด้านหาญทำไปอวดกรรม ต่อสู้กับกรรม แล้วความทุกข์ทั้งหลายนั้นมีอำนาจมาก ซึ่งเป็นผลของกรรมจากบาปจากกรรมของเราจะมาบีบบี้สีไฟเรา เช่นเดียวกับเราบีบบี้สีไฟคนอื่นเขาโดยไม่รู้สึกตัวนั่นแล นี่เป็นข้อสำคัญมาก
จึงขอฝากธรรมะนี้ไว้กับพี่น้องทั้งหลาย ในนามที่ว่าเราเป็นลูกชาวพุทธด้วยกัน ขอให้ฟังเสียงพุทธ เสียงธรรม เสียงพระสงฆ์ ที่ท่านแสดงออกมานี้ ธรรมเหล่านี้ไม่เคยทำโลกให้ล่มจมฉิบหายแต่กาลไหนกาลใดมา นอกจากกิเลสเท่านั้นแทรกเข้าไปตรงไหนทำลายตรงนั้น ๆ นี่เวลานี้ก็เป็นเรื่องของกิเลสที่จะแทรกเข้าในกองสมบัติ มหาสมบัติของชาติไทยเรา ให้ปัดมันออกตีมันออก อยู่ในหัวใจใดให้ปัดมันออกจากหัวใจตัวเอง แล้วจะมีความสงบร่มเย็นแก่ชาติบ้านเมืองของเรา อย่าให้ชาติไทยของเราเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กัน หนึ่ง อย่าให้ชาติอื่นเขามาดูถูกเหยียดหยาม ด่าทอประเภทต่าง ๆ ว่าชาติไทยของเรานี้ เป็นชาติที่หมากัดกัน ไม่มีใครมีเหตุมีผล มีแต่กัดกันเหมือนหมา อย่าให้เขาได้มาตำหนิติเตียน
แล้วการซื้อการขายการมาลงทุนต่าง ๆ นี้ หากว่าเงินของชาติไทย กองสมบัติที่เป็นเครื่องประกันชาติไทย และศักดิ์ศรีของชาติไทยได้ขาดสะบั้นลงไปแล้ว จะไม่มีใครมาติดต่อซื้อขายนะ พวกที่จะมาลงทุนลงรอนอะไร ก็เพราะเรามีกองทุนอันนี้เป็นเครื่องประกันชาติของเรา จึงมีผู้มาติดต่อซื้อขายและมาลงทุนลงรอน พอมีรายได้ประสานกันไป ทั้งเขาทั้งเรา เป็นอยู่เวลานี้ เพราะเงินกองทุนนั้นเป็นเครื่องประกันเอาไว้นะ ถ้าหากว่ากองทุนนี้ได้ขาดสลายไปแล้ว ใครอย่าอวดเก่ง ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีในประเทศไทย นอกจากเป็นนรกอเวจี จะไม่มีใครมามองมาเหลียวแลเลย พวกที่เคยมาลงทุนลงรอนในชาติไทยของเราก็เห็นเต็มเมืองนี่เห็นไหม จะหมดไปเลย จะไม่มีชิ้นดีเลยนะ ให้พี่น้องทั้งหลายจำไว้
หลวงตาบัวไม่ได้เรียนเรื่องกฎหมายบ้านเมือง แต่หลักธรรมชาติ ธรรมครอบไปหมด ทำไมจะรู้ไม่ได้ สิ่งได้สิ่งเสียธรรมรู้แล้วทั้งนั้นมาสอนโลก ไม่ได้สอนแบบหลับหูหลับตาสอนนะ ให้จำข้อนี้เอาไว้ นี่ละสมบัติของชาติไทยเรา เป็นสมบัติอันใหญ่หลวง ประกันคนทั้งชาติ ประกันคุณสมบัติ ประกันศักดิ์ศรีของชาติไทยเรา ให้ชาติอื่นเขามีความไว้วางใจ เขาก็มาติดต่อซื้อขาย มาลงทุนลงรอน เมื่อมาลงทุนลงรอนแล้วเขาก็มีรายได้ เราก็ได้อาศัยเขาไป ต่างคนต่างอาศัยซึ่งกันและกันอย่างนี้ เพราะเงินก้อนนี้เป็นสำคัญมากทีเดียวนะ เป็นเครื่องประกัน จึงขอให้ทุก ๆ คนรู้เนื้อรู้ตัวไว้ ต่างคนต่างเข้มงวดกวดขันในการเก็บในการรักษาในการบำรุงให้ดี
และผู้ที่จะมาทำลายขอให้รู้เนื้อรู้ตัวว่า นี้คือมหาภัยที่จะทำลายชาติบ้านเมือง ด้วยการเอาไฟมาเผาหัวใจของชาติไทยเรา อย่างนี้ให้พากันยกกันเลิก ให้สงบไปด้วยกัน แล้วรัฐบาลก็จะมีเป็นความผาสุกร่มเย็น จะไม่ได้รับความตำหนิติเตียนด่าแช่งจากประเทศไทยทั้งประเทศ ว่าเป็นรัฐบาลที่โหดร้ายทารุณ กินราษฎรเป็นเนื้อเป็นหนังไปหมด อย่าให้เขาได้ตำหนิอย่างนี้ ถ้ารัฐบาลจะเป็นรัฐบาลที่ดีของประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งชาวพุทธ รัฐบาลขอให้เป็นลูกชาวพุทธ ปฏิบัติตนด้วยดีต่อชาติไทยของเรา อันนี้จะเป็นความสงบร่มเย็น สมชื่อสมนามว่าเราเป็นชาวพุทธ ในกาลต่อไปที่จะตั้งรัฐบาลข้างหน้า ประชาชนก็จะไม่ระแวงระวังมากนักนะ ถ้าหากว่ารัฐบาลนี้มาสังหารชาติไทย ด้วยการกอบโกยเอาสมบัติเงินทองข้าวของ ที่เป็นหัวใจประชาชนทั้งชาติเอาไปถลุงแล้ว รัฐบาลใดมาตั้งก็ตั้งเถอะ ธรรมทำนายไว้เลยก็ได้ว่า จะไม่มีใครยอมรับรัฐบาลเหล่านี้ เพราะเป็นรัฐบาลมหาภัยด้วยกัน นี่เป็นหัวหน้ามหาภัย ต่อกันไปก็เป็นมหาภัยรอง ๆ กันมา แล้วชาติไทยซึ่งเป็นหัวใจของคนไทยทั้งชาติจะยอมรับกันได้อย่างไร นี่ก็เป็นเรื่องตีบตันในการตั้งรัฐบาลข้างหน้าในกาลต่อไป
ถ้ารัฐบาลเราปัจจุบัน ซึ่งเวลานี้กำลังเกิดเหตุอยู่เกี่ยวกับเรื่องเงินอันนี้ ไม่ยอมปฏิบัติตามหลักธรรมหลักความจริงสมเราเป็นลูกชาวพุทธแล้วนี้ เมืองไทยเรานี้มันจะตีบตันอั้นตู้ไปทุกอย่างทุกสิ่งนะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน ขอให้พี่น้องชาวพุทธเรา นับแต่วงรัฐบาลลงมาถึงพี่น้องชาวไทยทุกคนให้คิด เอาธรรมนี้เป็นเครื่องเตือนใจสอนใจตนเอง แล้วเลิกรา สิ่งไหนที่จะเป็นภัยต่อชาวพุทธของเรา ด้วยเหตุการณ์ใด ให้ระงับดับนั้นลงไปทันที อย่าเสียดายความชั่ว จะมาเผาตัวและชาติบ้านเมือง ไม่ต้องเสียดายความชั่ว ให้เสียดายความดีที่จะมีต่อกัน สมัครสมานเป็นความกลมกลืนสามัคคีกัน นั้นแลเป็นธรรมอันเลิศเลอ เอาละขอฝากธรรมะนี้ไว้กับพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทย หยุดเพียงเท่านี้วันนี้
ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
เปิดดูข้อมูล เกี่ยวกับหลวงตามหาบัว ประวัติ-ภาพ-พระธรรมเทศนาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งเหตุผลอะไร หลวงตาถึงต้องปกป้องคลังหลวงหัวใจของชาติ ถอดจากกัณฑ์เทศน์เกี่ยวกับเรื่อง
..มหาภัย ในช่วงวันที่ ๒ พ.ค.๔๓-ปัจจุบัน ที่ www.Luangta.com
********************************************