เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
จอมปราชญ์โดยสมบูรณ์
เริ่มหนาวแล้ว พอว่าหนาวๆ ก็คิดถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น ท่านเอาผ้าห่มเป็นผ้าห่มที่ท่านอยู่ทุกวันเอาไปบังสุกุลให้เรา ถ้าเอาผ้าใหม่กลัวเราจะไม่รับ เพราะผ้ามันเต็มอยู่ในวัดนั่น ผ้าห่มใหม่ๆ เต็ม ท่านเอาผ้าห่มของท่านที่ห่มอยู่ทุกวันไปบังสุกุลให้เรา เห็นไหมล่ะท่านบีบบังคับในตัว เรากราบเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รับผ้าห่มบังสุกุลท่าน ท่านเห็นเราไม่มีผ้าห่ม ความจริงเราไม่เอา ผ้าเต็มหมด ท่านเองนะไปทำพ่อแม่ครูจารย์มั่น เอาไปวางไว้บนที่นอนเลย ท่านทำเป็นตัวอย่างทุกอย่าง พอขึ้นไป เอ้านั่นผ้าใคร เพราะกุฏิมันสูงแค่นี้ เดินไปนี้ก็เห็นที่นอน วางไว้กลางที่นอน เอ้านี่ผ้าใคร ขึ้นไปดู ใครเอาผ้าห่มมาบังสุกุลนะ ท่านมีดอกไม้ธูปเทียน ท่านทำน่าคิดทุกอย่าง อย่างนั้นละจอมปราชญ์ทำอะไรมีคติอยู่ในนั้นเสร็จ
เราไปเห็นแล้ว โห นี่มันผ้าห่มพ่อแม่ครูจารย์ ก็เราพับเราตากอยู่ทุกวันผ้าเหล่านี้ ถ้าเอาผ้าใหม่มากลัวเราจะไม่เอา เพราะผ้าห่มในวัดไม่อด แต่เราไม่เอา เราไม่เอาผ้าห่ม คือการดัดกิเลสเจ้าของมันขี้เกียจขี้คร้าน ดัดมัน ท่านเอาผ้าห่มท่านไปบังสุกุลให้เรา ตกลงเราก็ได้ห่มเพราะความเคารพ อย่างนั้นละ ท่านทำเอง เพราะท่านดูมาเป็นประจำ เราไม่มีผ้าห่ม ผ้าห่มเต็มวัดแต่เราไม่เอา เอาผ้าสามผืน จีวร ผ้าสังฆาฏิสองผืนพับซ้อนกันแล้วก็ห่ม กับสบงเท่านั้นละ ท่านไปทำให้ แล้วก็ห่มนะเพราะความเคารพ
อย่างบิณฑบาตได้มานี้เอาไปวางไว้ข้างต้นเสา มาจัดอาหารให้ท่านเรียบร้อยเสร็จแล้วค่อยเอาบาตรเจ้าของออกมาฉัน พระในวัดนี้เห็นเมื่อไร ท่านเห็นนะ เราเอาบาตรเราไปซ่อนไว้ข้างฝา เราก็มาจัดอาหารให้ท่าน คือเราบิณฑบาตได้เท่าไรเราเอาเท่านั้น เราไม่เอาอาหารที่ตามมา ท่านมาใส่บาตรจนได้นั่นละ ขอใส่บาตรหน่อยๆ ศรัทธามาสาย ท่านว่าศรัทธามาสาย ตาท่านแหลมคม
อยู่กับพ่อแม่ครูจารย์ก็ดัดเจ้าของโดยเฉพาะ เราไม่เกี่ยวกับใคร เราทำของเราเอง ใครจะทำอย่างไรๆ เราไม่สนใจ เราเอาเฉพาะเรา เราทำของเราอย่างนั้นตลอดมา ท่านก็เห็นจนได้ บาตรเราเอาไปวางไว้ข้างฝาต้นเสาแล้วมาจัดอาหารให้ท่าน เสร็จแล้วท่านก็เอาอาหารที่เราจัดให้นั่นแหละ ดีๆ นั่นละเอาไปใส่บาตรเรา ขอใส่บาตรหน่อยๆ ศรัทธามาสาย ท่านว่าศรัทธามาสาย ท่านว่า
เราก็ไม่ลืม ถ้าคนอื่นไม่ได้นะ คือเรามันเด็ดจริงๆ ว่าอะไรเป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่ของพ่อแม่ครูจารย์เพราะความเคารพเราก็ฉันให้ แต่คนอื่นไม่ได้นะ คือเราทำของเราอย่างนั้นเรื่อยมา ผ้าห่มก็เหมือนกัน เราไม่มีผ้าห่มท่านก็เอาผ้าห่มไปบังสุกุลให้ เป็นผ้าท่านห่มอยู่ทุกวัน ถ้าผ้าใหม่มันก็ไม่อด เราก็ไม่เอา ท่านเลยเอาผ้าห่มท่านห่มอยู่ทุกวันไปบังสุกุลให้เรา เราก็ห่มเพราะความเคารพพ่อแม่ครูจารย์ นานๆ ท่านมาใส่ให้เราทีหนึ่ง คือพอมาแล้วมีอะไรเราจัดของเรา เราก็วางไว้ข้างฝาแล้วมาจัดให้ท่าน เสร็จแล้วเราก็จัดของเรา ท่านก็เห็นจนได้นั่นละ อยู่ๆ ก็ปุ๊บปั๊บ ศรัทธามาสายๆ มาขอใส่บาตรเรา เป็นอาหารที่เราจัดถวายท่านนั่นแหละใส่บาตรให้ท่าน ท่านเอาอาหารนั่นละมาใส่บาตรให้เรา
เป็นอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์ ฉลาดมาก จอมปราชญ์สมัยปัจจุบันคือพ่อแม่ครูจารย์มั่นเป็นจอมปราชญ์สมัยปัจจุบัน เฉลียวฉลาด ตาแหลมคมมากทีเดียว เห็นหมด อะไรเห็นหมด เรามาอุดรเราจัดอาหาร ให้เขาไปเอาอาหารที่เหมาะสมๆ อย่างยิ่งให้ท่าน ใส่เข่งๆ พอไปถึงพรรณาแล้วก็ให้เขาเอาล้อใส่ไปเต็ม ไปก็ไปเวลาค่ำๆ นะ ตอนสี่โมงยังไปไม่ได้ ท่านยังมาทำข้อวัตรปฏิบัติอยู่ ต้องไปค่ำกว่านั้น ไปก็จัดอะไรเสร็จเรียบร้อย ท่านรู้นะว่าเราไปจากอุดร ไปถึงแล้วท่านก็รู้ ท่านก็จับอันนั้นละเอามาพิจารณา ท่านได้อะไรมานะพระองค์นี้น่ะ
เวลานั้นรอยล้อรอยเกวียนเรากลบหมดไม่ให้เห็นรอยล้อรอยเกวียน แต่ตาท่านแหลมคม เราก็ดูตาท่าน ท่านก็ดูนั้นดูนี้ ดูรอยล้อรอยเกวียน เราจะเอาอะไรไป อย่างนั้นนะพ่อแม่ครูจารย์มั่น นี่รอยเกวียนมาจากไหน เราก็กลบหมดแล้ว กลบหมดเลยไม่ให้ท่านเห็น ท่านเห็นจนได้ นี่รอยล้อรอยเกวียนมาอะไรนี่ หาเรื่องแก้มาพร้อมนะ เอาแก่นขนุนท่อนหนึ่งมา โอ๋ เมื่อวานเห็นแก่นขนุนดีๆ ก็เลยเอาแก่นขนุนมา ท่านคงนึกในใจแก่นขนุนใหญ่นั่นละ ท่านก็ไม่ว่าอะไร เราแก้ถูกทางแล้ว ก็เราเตรียมพร้อมมาแล้ว
เป็นอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์ ท่านฉลาดมาก เราไปไหนมาท่านจะสอดแทรกดูทุกอย่าง คือไม่มาเบาๆ นะ มาเอาของที่ถูกธาตุถูกขันธ์ท่านมา เสร็จแล้วเก็บเงียบ เณรเพ็งนั่นละเป็นคนดูแลอาหารสำหรับท่าน ทุกวันๆ ท่านเห็นจนได้นั่นละ ปิดไม่อยู่สำหรับพ่อแม่ครูจารย์มั่น ท่านฉลาดมาก
เวลาท่านจะสิ้น โอ้ สลดสังเวชเรา น้ำตาร่วงเลยนะเรา เวลาท่านจะสิ้นนี้เราสลดสังเวชน้ำตาร่วงเลยเชียว ท่านสงบเรียบนะเวลาท่านจะสิ้น ไม่มีกระดุกกระดิกอะไรเลย ดูลมหายใจท่าน ทีแรกหายใจปลา..สองสามหนแล้วสงบ ไปเลย เงียบ แล้วไม่ทราบว่าท่านสิ้นลมเมื่อไร ไม่รู้นะ ทีแรกหายใจปลาสองสามครั้งแล้วก็เงียบสงบ ดูแล้วเงียบไปเลยนะ จ้องดูนี้ เอ๊ ท่านสิ้นเมื่อไร ครั้นดูนาฬิกามันลืมแล้วละ ดูจนกระทั่งนาฬิกา..ท่านสิ้นอย่างสงบมาก เป็นคติทุกอย่างพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรา นี่ละองค์หนึ่งที่ว่าจอมปราชญ์ในสมัยปัจจุบันคือพ่อแม่ครูจารย์มั่น เป็นจอมปราชญ์โดยสมบูรณ์
เรานี่สังเกตจริงๆ อยู่กับครูบาอาจารย์ไม่ใช่อยู่เฉยๆ คอยสังเกตทุกสิ่งทุกอย่าง ดูท่าน เวลาท่านจะสิ้นก็เหมือนกัน ไม่รู้ง่ายๆ เวลาท่านสิ้น แต่มีคำหนึ่งที่ท่านพูดออกมา พูดออกมาชัดเจน ท่านพูดอย่างเปิดเผย เวลาเราจวนจะตายนี้จะมีพระหนุ่มสององค์รู้ธรรมตามเรา ท่านว่าอย่างนั้น มีพระหนุ่มสององค์จะรู้ธรรมตามเรา ท่านว่าอย่างนั้น บอกว่าจะรู้ธรรมตามท่าน ท่านสิ้นไปแล้วใครๆ ก็รู้ว่าท่านสิ้น จะรู้ธรรมตามเราสององค์ เราจับได้เลยเพราะท่านพูดชัดๆ เวลาเราจะตายนี้จะมีผู้รู้ธรรมตามเราสององค์ ท่านว่าอย่างนั้น เราก็จับได้เลยสององค์คือใคร
(พระที่สำเร็จธรรมตามหลวงปู่มั่นสององค์มีหลวงตากับท่านอาจารย์เจี๊ยะ) ท่านอาจารย์เจี๊ยะก็ดีอยู่นะ นิสัยลูกเจ๊กอย่างว่าตรงไปตรงมา เวลาจะเถียงพ่อแม่ครูจารย์มั่น อุ๋ย เอาเก่งนะ เดี๋ยวท่านตีหน้าผากเอา หมอบ เถียงกับท่านทีไรหน้าผากแตกออกมา ท่านอาจารย์เจี๊ยะนิสัยอย่างนั้น เถียงท่านโว้ๆ ท่านใส่เปรี้ยงหน้าผากแตกออกมา คือสู้ท่านไม่ได้
ท่านอาจารย์เจี๊ยะท่านเถียงจริงๆ กับพ่อแม่ครูจารย์ท่านเถียงจริงๆ คือเถียงแบบลูกเจ๊กว่าอย่างนั้นเถอะน่ะ เถียงอย่างตรงไปตรงมาใส่ว้ากๆ กับท่าน ท่านใส่ทีไรหน้าผากแตกออกมา สู้ท่านไม่ได้ แต่ท่านนิสัยตรงไปตรงมานะอาจารย์เจี๊ยะ นิสัยท่านตรงไปตรงมา พ่อแม่ครูจารย์รักมากนะ เราดูก็รู้ เถียงก็เก่งเถียงพ่อแม่ครูจารย์ เถียงก็เก่ง รักก็รักมาก ใส่กับท่านว้ากๆ เดี๋ยวหน้าผากแตกออกมา นิสัยท่านตรงไปตรงมา เอาละที่นี่ เลิกละ
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|