เนื้อร้ายของชาติ (ยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อน)
วันที่ 14 มิถุนายน 2543 เวลา 7:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

เนื้อร้ายของชาติ

(วันนี้มีผู้มาฟังธรรมประมาณ ๒๐๐ คน)

เดี๋ยวนี้ดอลล์หนึ่งเท่ากับ ๔๐ บาทเหรอ(ไม่ถึงดีครับ แต่เขาปัดเศษเป็น ๔๐ จริง ๆ ๓๙ เศษ ๆ ) ๓๘-๓๙ นี้ยืนมานานเป็นปี(ครับ) ในระยะแรกที่เราออกเป็นผู้นำนั้นมันถึง ๕๗ จนใจหายน่ะ อันนี้อันหนึ่งที่กระเทือนใจมาก ของเขาดอลล์เดียว เราฟาดเข้าไปเสีย ๕๖-๕๗ บาทไปแล้ว จะเข้าป่าเข้าดงไปแล้วถูกเขาไล่ กระเทือนใจนี้อันหนึ่ง แล้วอันหนึ่งก็คนไทยทั้งประเทศนี้ คิดเฉลี่ยแล้วที่ติดหนี้เมืองนอก ติดหนี้เขานั้น คิดหัวละ ๕ หมื่น ๆ ฟังซิ นี่อันหนึ่ง แล้วบอกจำนวนหนี้นี้อันหนึ่ง เท่าไรไม่รู้ จึงกระเทือน

นอกจากนั้นโรงการโรงงานอะไรที่การก่อสร้างอึกทึกครึกโครมนั้น ล้มเหลวไปหมด เพราะไม่มีเงินให้ ไปกู้ยืมธนาคารมาปลูกมาสร้างอะไรต่ออะไร เวลาปลูกสร้างแล้ว ผลประโยชน์ตามคาดหมายมันไม่ได้ล่ะซี ความหวังล้มละลายไปหมด ก็ยังเหลือแต่ความผิดหวังเต็มหัวใจ ส่งดอกเขาก็ไม่ได้ ส่งต้นก็ไม่ได้ สุดท้ายเขาก็มายึดๆ ได้แต่ที่ดินได้แต่ตึกละซีธนาคารก็ดี ได้แต่ตึกแต่ที่ไปต่างๆ นานา เงินจะเข้าธนาคารไม่มี เขาก็ต้องงด ไม่ให้ยืม การก่อสร้างหยุดชะงักลง การติดหนี้ต่อไปอีกเพิ่มอีกก็หยุดเป็นระยะ ไม่งั้นมันจะกู้มาอีกสร้างอีกเพิ่มหนี้อีก เราคิดจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา เราช่วยโลกเราไม่ได้ช่วยเล่นๆ เราบอกแล้ว พิจารณาสุดกำลังของธรรม ละเอียดลออ

อันนี้ก็ ๕๖-๕๗ บาทต่อดอลล์ มันพิลึกนะ ฝรั่ง ถ้าว่าฝ่าเท้าก็ไม่เป็นศัพท์เดิม ถ้าว่าฝ่าตีนนี้เป็นศัพท์เดิม ศัพท์ตายตัว ศัพท์เดิม ศัพท์ธรรมชาติ ว่าเท้าว่าอะไรนี้เป็นการยกยอไป ยกยอก็ยกยอให้กิเลส สวยงามของกิเลสให้มันเหยียบเรา ทีนี้ไอ้ตีนฝรั่งนั้นตีนเดียวมันเหยียบหัวคนไทยไปตั้ง ๕๖-๕๗ หัวใช่ไหมล่ะ ฟังซิ หัวเราต่ำขนาดนั้น

ทีนี้รวมยอดแล้วว่า หัวเมืองไทยแล้ว หัวต่ำมากทีเดียว ตีนเขาสูงมาก เหยียบหัวเราแหลกไปหมดเลย เงินเขาดอลล์หนึ่ง ของเราฟาดเข้า ๕๐-๖๐ บาทต่อดอลล์ นี่จึงว่าหัวเมืองไทยเรานี้หัวมาก ทำไม่เงยหน้าขึ้นดูมันบ้างวะ จะก้มหัวให้มันเหยียบตลอดเวลาเหรอ เราก็มีหัวใจเหมือนกัน นั่นละจึงบอกให้ฟิตตัว เราก็ช่วยแนะนำตักเตือนให้ปรับเนื้อปรับตัว ให้รู้เนื้อรู้ตัว แม้จะไม่ได้ระดับที่ต้องการก็ขอให้ได้ระดับที่ว่า การต่อสู้ต้องมีแพ้มีชนะ ให้อยู่ในฐานะแพ้ อย่าให้แบบราบเลย สู้ไม่ได้ราบเลย นี้ใช้ไม่ได้ เราจึงต้องฟิตตัวเราขึ้น

ธรรมมีแต่เยียวยารักษาบำรุงเท่านั้น ไม่มีการทำลายนะธรรม แต่กิเลสออกแง่ไหนมุมใดมีแต่การทำลายๆ ทั้งนั้น โลกที่จิตใจต่ำทรามไปตามกิเลส ก็ไหลลงตามกิเลสได้ง่ายดายซิ ถ้าหากว่าการปกครองไม่ให้กิเลสมันเหยียบย่ำทำลายเสียเกินไปแล้ว ผู้ปกครองนับตั้งแต่ครัวเรือนไปถึงวงราชการ ตั้งแต่ตำบล อำเภอ จังหวัด ขึ้นไปโดยลำดับ หาหัวหน้าใหญ่ไปเป็นชั้นถึงรัฐบาล ถ้าต่างคนต่างมีธรรมปกครองบ้างแล้ว บ้านเมืองจะไม่เหลวแหลกอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ เวลานี้เรียกว่าเหลวแหลกก็ได้ เพราะเราเป็นชาวพุทธ ทำไมหลวมตัว ลืมตัวจนขนาดให้ชื่อว่าเหลวแหลกได้ คือไม่มีเหตุมีผล ความสุรุ่ยสุร่ายเป็นไปทุกแบบทุกฉบับที่จะทำลายชาติไทยของเรา

ยิ่งเป็นหัวหน้าเป็นผู้ใหญ่เท่าไร ยิ่งลืมเนื้อลืมตัวไปหมด ศีลธรรมเข้าไปแทรกไม่ได้ มีแต่ยศถาบรรดาศักดิ์ของกิเลสที่เสกสรรปั้นยอเป็นดินเหนียวติดหัว แล้วก็โอ่อ่าผึ่งผาย ก้มกราบพระไม่ลงเพราะยศมันสูงกว่าพระ ยศก็คือเรื่องของกิเลสนั่นแหละ มันต่ำเหมือนฝ่าเท้า แต่มันขึ้นเหยียบหัวคนถือศาสนาพุทธเราชาวพุทธเรา ให้กิเลสเหยียบหัวตลอดเวลา คือหัวต่ำ หัวใจต่ำ ให้กิเลสเหยียบเอาๆ เราดูซิทุกวันนี้ เราดูจริงๆ นะไม่ใช่พูดเฉยๆ ไม่ถึงวาระพูดก็ไม่พูด เพราะไม่ใช่หิวโหย ธรรมไม่มีหิวมีโหย แล้วแต่เหตุการณ์เหมาะสมที่จะควรออกหนักเบามากน้อย จะออกเองๆ

นี่เวลานี้ศาสนาของเรา ก็อย่างที่ไปเทศน์ขอนแก่นเมื่อวานนี้ ว่าเราถือศาสนาพุทธๆ พุทธขี้หมาอะไรเราอยากว่าอย่างนั้น ความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหานี้ เป็นสรณะของมันตลอดเวลาชาวพุทธเรานี้น่ะ ความโลภก็มากเหยียบศาสนา ความพอดิบพอดีไม่มี มีแต่ความโลภๆ เหยียบ ได้เท่าไรไม่พอๆ เหยียบตลอดเวลา นี่สรณะของชาวพุทธเราเวลานี้ แล้วสิ่งเหล่านี้มันก็ยิ่งก้าวเข้าไปสู่ในวงราชการงานเมืองมากเท่าไร ตัวนี้เป็นตัวหยิ่งมากนะ มีเสริมยศถาบรรดาศักดิ์ขึ้นให้เป็นชั้นนั้นชั้นนี้ เสริมกิเลสขึ้น มันก็เหยียบธรรมล่ะซิ

ความลืมเนื้อลืมตัวนี้คือกิเลส ความรู้เนื้อรู้ตัวคือธรรม จะตั้งไปไหนก็ไม่ลืมตัว อย่างนั้นจึงเรียกว่าธรรม นี่ตั้งไปเท่าไรลืมเนื้อลืมตัวไปหมด สุดท้ายจะก้าวเข้าวัดไม่ได้ ไปหาพระหาเณรนี้เหมือนกับไปตรวจราชการ พระเณรเป็นอย่างไร จะไปให้คะแนนตัดคะแนนพระเณรในวัดที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไอ้ที่ปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนวนั้น ถึงจะไม่ไปให้คะแนนตัดคะแนนมันก็ตัดของมันอยู่แล้ว เราไม่เอานับเข้าในบัญชี

แต่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ความรู้เหนือกิเลสตัวหยิ่งๆ นั่นซี เมื่อเห็นแล้วสลดสังเวช ลืมเนื้อลืมตัว ไปให้คะแนนตัดคะแนน เข้าไปในวัดในวา โอ่อ่าฟู่ฟ่า เดินนี่ โถ ก้าวขานี้เสียงดังอ้วดอ้าดๆ ไปตรวจราชการ ไปตรวจพระตรวจเณร เราไม่ได้ขี้ไว้หน้าวัดนะ เวลาเหยียบให้มันลื่นหงายหมาลงพวกตรวจราชการเก่งๆ นี่นะ ลืมเนื้อลืมตัว เห็นไหมยศของกิเลสแทรกเข้าตรงไหนมันเหยียบธรรมลงไปโดยลำดับนะ ศาสนาอะไรจะเลิศเลอกว่าศาสนาพุทธเราไม่มี แต่กิเลสก็เอาเป็นเขียงเหยียบขึ้นของมันเมื่อมันหนาแน่นเข้าไป

เราวิตกวิจารณ์ในวงราชการงานเมืองของเรามาก เพราะนี้เป็นผู้นำของชาติบ้านเมือง แล้ววงราชการเป็นผู้ใหญ่เท่าไรๆ เรื่องศีลเรื่องธรรมแทบไม่มีในใจเลย เอากิเลสเป็นศีลเป็นธรรมแทนธรรมะไปเลยนะ กิเลสใหญ่กว่าธรรม ไปที่ไหนต้องเอายศถาบรรดาศักดิ์อำนาจบาตรหลวงนั่นออกหน้าออกตา เหยียบหัวธรรมไปเรื่อยๆ

เวลาถวายทานตามพิธีต่างๆ ยิ่งสลดสังเวชนะ อิมานิ มยํ ภนฺเต เด็กเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ คือแสดงว่าไม่เอาไหนถึงเรื่องอรรถเรื่องธรรม ธรรมดามีงานอะไรเขาต้องเอาหัวหน้าๆ เป็นผู้นำกล่าวนำถวายทาน ขึ้น อิมานิ อิมานิ เรื่อย แล้วหลงหน้าหลงหลัง คือไม่เคยอ่าน แล้วก็ไปจับอ่านเวลานั้น ขายขี้หน้าเวลานั้นไม่รู้ตัว แต่กิเลสมันไม่ได้ว่าขายหน้านะ นี่เขาใหญ่ เวลามาทำกับขี้หมูราขี้หมาแห้งนี้เขาก็อึดอัด เขาไม่อยากทำ เพราะฉะนั้นกล่าวถึงผิดถึงถูก ถือศาสนาเป็นขี้หมูราขี้หมาแห้งไปแล้ว ถือกิเลสใหญ่ยิ่งกว่าธรรม เวลามากล่าวทานในที่ต่างๆ นี้ ฟังแล้วฟังไม่ได้

เราสลดสังเวชจริงๆ เราพูดจริงๆ ธรรมจับ จ้าหมด ขี้หมามาอวดตัว มองดูก็รู้ใช่ไหมล่ะ เราไม่ได้บอกตามนิทานเขาว่า

เมียกับผัวไปถวายสังฆทานด้วยกัน ครั้นเวลาไปถวายแล้วให้เมียนำกล่าว ขึ้นก็ อีมานิ เมียนั้นชื่อ อีมา ว่าอีมานิๆ ทีนี้ผัวก็โมโหล่ะซี มีแต่ขึ้นอีมา ๆ ข้าขวนขวายทำบุญให้ทานแทบล้มแทบตายมาทาน เวลาออกหน้ามีแต่ อีมา ๆ มันโมโหล่ะซี “พูดคำไหนมีแต่ อีมานิ ๆ ไอ้บู้นิ ทำไมไม่เห็นพูดบ้างล่ะ” (หัวเราะ) มันโมโห ไอ้บู้นิ ไม่เห็นพูดบ้าง ข้าขวนขวายแทบล้มแทบตาย มาออกหน้าออกตาแต่เมีย อีมานิ ๆ มันโมโห ไอ้บู้มันจะตายแล้วนะ ว่างั้น ก็เลยตกลง ถ้างั้นพระให้ถวายทานใหม่ อีมานิกับไอ้บู้นิ (หัวเราะ) มันก็เลยไปแบบนั้นล่ะซี

ไม่ได้มาติดไว้ตามวงราชการต่างๆ มี อีมานิ ไอ้บู๊นิ ติดไปตามวงราชการต่างๆ ผู้ใหญ่เท่าไรไปติดหน้าผากเลยนะ เพราะพวกนี้ไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรม เห็นเป็นของครึของล้าสมัยไปหมด ไม่ได้เหมือนกับยศถาบรรดาศักดิ์ ที่ดินเหนียวติดหัวอยู่นั้น มันอึ่งอ่างกับวัว

คืออึ่งอ่างตัวมันเล็กๆ เราเคยพูดนิทานให้ฟังแล้ว อึ่งอ่างกับวัว วัวคือธรรม วัวคือกรรม นั่นใหญ่โตขนาดไหน จะเบ่งขนาดไหนก็ไม่พ้นท้องแตก ตัวที่มันเบ่ง คืออึ่งอ่างมันเบ่ง อึ่งอ่างกับวัวที่พูดในนิทาน เราเรียนหนังสือ เป็นนักเรียนแต่ก่อนเราก็อ่าน มีในชาดก โอ้โห มีอยู่ตรงนี้ ออกจากชาดกมาสอนนักเรียน

ไปที่ไหนมีแต่อย่างนั้นนะ วงราชการเวลานี้ไม่ได้มีอรรถมีธรรมแฝงอยู่ มันเลวขนาดนั้นวงราชการเมืองไทยเราทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกชาวพุทธ มันเหยียบหัวพุทธลงไป เหยียบหัวธรรมลงไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำอะไรๆ ต้องเอากิเลสออกหน้าออกตา เหยียบธรรมไปเรื่อย ๆ เป็นแต่เพียงว่าไม่ได้ออกประกาศความเลวร้ายของมัน ความไม่เอาไหนของมันลงไปเท่านั้นว่า กิเลส สรณํ คจฺฉามิ ข้าถือกิเลสต่างหาก ข้าไม่ได้ถือธรรม มันไม่ได้ออกยังงั้นเท่านั้นเอง ความจริงมันออกอยู่แล้ว ตามกิริยาของมันที่แสดงออกมา หน้าที่การงานความประพฤติ เหลวแหลกแหวกแนว มีแต่กิเลสออกหน้าเท่านั้น ธรรมออกหน้าที่ไหน

ถ้าธรรมออกหน้าต้องมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์ เราเป็นผู้นำต้องเป็นผู้นำที่ดี เป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นแบบฉบับ เป็นศักดิ์ศรีดีงามแก่วงงานต่างๆ บริษัทบริวารเคารพนับถือกราบไหว้บูชา นั่นผู้เป็นหัวหน้ามีธรรมเป็นอย่างนั้น ไม่มีธรรมเหลวแหลก อย่างเป็นทุกวันนี้เห็นไหมล่ะ เมืองไทยเราจะจมนี้เพราะอะไร ก็เพราะกิเลสนำหน้าเหยียบหัวชาวไทยซึ่งเป็นชาวพุทธให้แหลกไปหมดตั้งแต่หัวหน้าลงมา มันก็แหลกไปหมดล่ะซี

เราดูวงราชการนี้ เอ๊าพูดให้เต็มยศเลย สายตาของธรรมดู เอ๊า ฟาดวงราชการตัวมันเก่งๆ นั่นละ ตัวมันดื้อด้านที่สุด หนาแน่นที่สุดนั่น เอาสายตาของธรรมจับ พวกนี้เหมือนหมาขี้เรื้อนเลยเชียวนะ ธรรมไม่อยากจะเข้าไปแตะเลย มันเหมือนหมาขี้เรื้อน ความสกปรกหมาขี้เรื้อนสู้ไม่ได้ หมาขี้เรื้อนในเมืองไทยเรามีกี่ตัว สู้หมาขี้เรื้อนพวกนี้ไม่ได้ พวกสกปรกโสมม กินแบบมูมมาม เห็นแก่ได้ เห็นแก่ร่ำแก่รวย เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกของตัว ต่อไปก็กระจายออกไป เห็นแก่ภาคของตัวเข้าไป นี้คือการทำลายชาติ แยกพวกแยกเหล่านี้ละ

แขนซ้ายแขนขวาก็เป็นแขนของคนคนเดียว ตัดแขนซ้ายไปไหน ตัดแขนขวาไปไหน ขาดจากบุคคลคนเดียวแล้วเรียกว่าคนแขนด้วน นั่น มันบริบูรณ์ไหมคนแขนด้วน ชาติไทยนี้ ชาติไทยแขนด้วนขาด้วนแหละ ตำหนิติเตียน พวกนั้นเป็นอย่างนั้น พวกนี้เป็นอย่างนี้ ยกตัวของเราพวกของเราขึ้น ภาคของเราขึ้น เห็นไหม นี่มันตัดลำต้นอันสำคัญที่สมบูรณ์แบบ

คือคนเราต้องมีหัว มีแขน มีขาซ้าย ขาขวา แขนซ้าย แขนขวา นี่เรียกว่าสมบูรณ์แบบ เมืองไทยเราจะเป็นคนอยู่ในที่ไหนก็ตาม อยู่ในกระต๊อบก็ตาม ก็คือคนไทยๆ คนด้วยกัน เกิดขึ้นมาด้วยอำนาจแห่งกรรมเหมือนกัน อยู่ในภาคใดก็ตาม ก็คือแขนซ้าย แขนขวานั่นเอง อวัยวะคือชาติไทย นี้เป็นอวัยวะอันใหญ่หลวง

อาการต่างๆ ที่ออกเป็นภาคนั้นภาคนี้ คือแขนซ้ายแขนขวาของอวัยวะ คือชาติไทยของเรา ให้รักษาทะนุถนอมด้วยกันหมด เขารักษาตัวของเขารักษาหมดใช่ไหมล่ะ เขาไม่ได้ว่าแขนซ้ายทิ้งไป แขนขวารักษาเอาไว้ เขาไม่มีนะ รักษาหมดอวัยวะนั้นเพราะเป็นของตัวทั้งหมด นี้เป็นของชาติไทยทั้งหมด จะเป็นคนไหนเกิดที่ใดก็ตาม ในภาคใดก็ตาม พวกใดก็ตาม อย่าเอามายุ่ง ที่ว่าพวกๆ เพียกๆ ที่จะทำให้แตกให้ร้าวกันนี้ อย่านำมาใช้ ถ้าว่าพวกก็พวกเพื่อทำดี ๆ เพื่อเป็นกลุ่มเป็นก้อน ผนึกกำลังเข้าไปเป็นชาติไทยที่แน่นหนามั่นคง อย่างนี้ถูกต้องตามอรรถธรรม

ที่เป็นเวลานี้ มันแบบหมาขี้เรื้อนนะเวลานี้ วงราชการนี้ตัวสำคัญมากทีเดียว เอาธรรมจับเอาธรรมสอนซิ ธรรมนี้เหนืออะไร ทำไมธรรมจะสอนโลกไม่ได้ วงราชการเป็นใครเป็นผู้ทำอยู่นั้น ก็ลูกชาวพุทธ สอนลูกชาวพุทธจะผิดไปไหน ธรรมสอนโลกสอนผิดแล้วพระพุทธเจ้าก็ไม่มีในโลกล่ะซิ นี่ผิดตรงไหนว่าตรงนั้นๆ ใหญ่เข้าไปยิ่งเลอะยิ่งเทอะ สุดท้ายกลายเป็นหมาขี้เรื้อนหมดทั้งวงงานต่างๆ แหละ ใครเขาจะไปมองดูหน้าได้ล่ะ มองเข้าไปมีแต่คณะของหมาขี้เรื้อนทำการทำงาน เพื่อกินเพื่อกลืน เพื่อรีดเพื่อไถ เต็มบ้านเต็มเมืองตลอดมา กินอยู่ลึกๆ ลับๆ เรื่อยมา ๆ แต่ประชาชนเขาก็ทนเอา เห็นแล้วเขาก็ผ่านไปๆ ฟังแล้วก็ผ่านไปๆ

ทำหนักเข้าๆ มันก็ประกาศหมาขี้เรื้อนออกมาล่ะซี ยิ่งหนักยิ่งหนาเข้าไป กินกลืนไม่มีเหตุมีผล ไม่มีกระดากอายอะไรเลย กลืนเข้าไป เลยกลายเป็นมหายักษ์ กลายเป็นมหาภัยก็ต้องพูดกันบ้างซี ธรรมเป็นเครื่องสอนโลกมีอยู่ทำไมจะไม่สอนกัน สิ่งเลอะเทอะในสายตาของธรรมมีอยู่ ชาวพุทธไม่ฟังธรรมจะฟังเสียงอะไร ก็ต้องฟังกันบ้างซี

เวลานี้เลอะเทอะมากนะวงราชการงานเมืองของเรา ใครได้เข้าไปวงราชการแล้ว โห เย่อหยิ่งจองหองสุดยอดอยู่ในนั้นเลย ยิ่งใหญ่เท่าไรยิ่งจองหอง ยิ่งเย่อหยิ่ง ยิ่งพองตัวนะ เห็นประชาชนทั่วประเทศไทยนี้เป็นหมาไปหมด แต่หมาก็ยังดีเขาไม่ได้เป็นหมาขี้เรื้อนเหมือนกับวงอันนี้ วงอันนี้เป็นวงหมาขี้เรื้อน วงสกปรกโสมมที่สุด กินบ้านกินเมืองอยู่ในวงนี้ เงินเดือนนั้นเขาก็ให้กินแล้ว ชาวบ้านชาวเมืองเขาสละออกมาจากเลือดจากเนื้อจากหนังของเขา จากตับจากปอดของเขา เป็นภาษีอากร แล้วก็ยกให้เป็นเงินเดือนของแต่ละคนๆ เขาเลี้ยงหมด ขึ้นชื่อว่าวงราชการเขาเลี้ยงทั้งนั้นๆ

แต่เงินเดือนอันนี้มันสู้เงินดินไม่ได้ เงินดิน เงินหมาขี้เรื้อน เงินสกปรกนี้ มันโกยขึ้นมาๆ แล้วกระเทือนถึงประชาชนทั่ว ๆ ไปหมดเลย ให้ได้รับความเดือดร้อนกันไปหมด นี่ฟังซิ ติดหนี้ติดสินเขา เมืองไทยเวลานี้คิดแล้วบุคคลคนหนึ่ง ๆ คนละ ๕ หมื่นบาทๆ แล้วมันไปกู้ไปยืมมาหาอะไรนักหนา ถ้าเป็นคนมีความคิดความอ่าน เพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้างจะไม่กู้ไม่ยืม นอกจากประหยัดมัธยัสถ์ ผ่อนเอาไว้การกู้การยืม

มันจะจนก็จน ไม่ติดหนี้เขายังดีกว่าการกู้การยืมเขามาทับหัวเข้าไปอีก ต้องเป็นอย่างนั้นซิ หัวใจของคนที่ปกครองบ้านเมืองต้องคิดต้องอ่านซิ นี่มันคิดอ่านเพื่อพุงกางของมัน เพื่อรายได้รายรวย เพื่อเรา เพื่อพวกของเรา เพื่อภาคของเรา มันแตกกระจัดกระจาย เดี๋ยวก็แผ่อำนาจเข้าไปทำความกระทบกระเทือนแก่คนทั้งประเทศได้ เพราะเห็นแก่เรา เห็นแก่พวกของเรา เห็นแก่ภาคของเรา นี้เป็นนิวเคลียร์นิวตรอนได้เป็นอย่างดีนะ ทำลายได้ ชาติไทยของเรา

อย่าให้มีในชาติไทยของเราซึ่งเป็นลูกชาวพุทธ พระพุทธเจ้าไม่เคยถือชาติชั้นวรรณะอะไรมากยิ่งกว่าถือธรรม ถือกรรมนะ ใครมาจากที่ไหนก็ตาม มาบวชเป็นลูกศิษย์ตถาคตทั้งนั้นแหละ ขอให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถ้าไม่ดีแล้วขับกันเลย เนื้อร้ายเอาไว้ทำไม เอาไว้มันก็ทำลายส่วนดีทั้งหลายให้เสียไปหมด ต้องตัดออก ถ้าเยียวยารักษาไม่ได้ให้ตัดออก

อันนี้บุคคลประเภทเนื้อร้าย ประเภททุจริต คดโกงรีดไถ ประเภทเนื้อร้ายต่อชาติบ้านเมืองของเรา ไม่ควรจะให้มีอยู่ในเมืองไทยของเราซึ่งเป็นเมืองพุทธเลย ฟังให้ดี นี่ละธรรมสอนโลกสอนอย่างนี้ ต้องตรงไปตรงมา ธรรมเหนือโลกตลอดเวลา สอนโลกไม่ได้สอนใครก็ไม่ได้ สอนหมามันก็ไม่ฟังแหละ หมาก็เป็นหมาขี้เรื้อนอีก มันก็ไม่ฟังอีกถ้าเป็นหมาขี้เรื้อน แบบที่สกปรกโสมมอย่างทุกวันนี้มันดูไม่ได้นะ ผู้ไม่เป็นหมาขี้เรื้อนให้ฟัง นำมาเป็นคติทั้งฝ่ายชั่วฝ่ายดี แล้วปรับเนื้อปรับตัวเข้าไปทุกผู้ทุกคน เพื่อต้านทานความสกปรกโสมม หมาขี้เรื้อนนี่ ด้วยความดีของเรา มีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์ จึงถูกต้อง

นี่ละศาสนาจะไม่มีเหลือเวลานี้ ไม่ยอมฟังเสียงผิดเสียงถูก เสียงบาปเสียงบุญอะไร อย่าเอามาพูดเรื่องบาปเรื่องบุญ อย่าเอามาพูด หมาขี้เรื้อนฟังไม่ได้ว่างั้นเลย หมาขี้เรื้อนฟังไม่ได้ เรื่องบาป เรื่องบุญ นรก สวรรค์ มันจะเอาสดๆ ร้อน ๆ มันดื้อ มันด้านทุกอย่าง มันหนาแน่นขนาดนั้นละ พวกหมาขี้เรื้อนอยู่ที่ไหนกำจัดมันออก อย่าคุ้นเคยกับมัน ประเภทหมาขี้เรื้อน ประเภทเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ให้พากันระมัดระวัง

ไม่งั้นบ้านเมืองจมได้นะ ถ้าปล่อยให้หมาขี้เรื้อนครองบ้านครองเมืองแล้ว บ้านเมืองจมได้ ต้องปล่อยให้คนดีปกครองบ้านเมือง ใครดีเสริมเข้าไป ใครไม่ดีปัดออกๆ พวกเนื้อร้าย ๆ ปัดออก อย่าไปคุ้นไปเคยไปสนิทสนม อย่าไปเกรงอกเกรงใจมัน พวกเนื้อร้ายเกรงมันได้ยังไง เกรงเท่าไรมันยิ่งฟาดเอาแหลกหมด ทั้งอวัยวะไม่มีเหลือละ เนื้อร้ายเป็นของดีเมื่อไร นี่ฟังเสีย ธรรมสอนโลกสอนอย่างนี้

ดูแล้วดูไม่ได้จริงๆ เห็นศาสนาเป็นของเล่น เป็นตุ๊กตาเครื่องเล่นของเด็กไปนะ เห็นขี้หมูราขี้หมาแห้ง เสกสรรปั้นยอขึ้นมาเป็นของดิบของดี เป็นตัวมีวาสนาใหญ่หลวงยิ่งกว่าอรรถกว่าธรรมไปแล้วเวลานี้ เพราะฉะนั้นวงราชการต่างๆ เวลามีการทำบุญให้ทาน ดูความเหลวไหล ความไม่เอาไหนของวงราชการที่เป็นหัวหน้ามานำกล่าว อิมานิ อิมานิ ว่ายังไงก็ไม่ถูก มันน่าคันฟัน ถ้าไอ้บู้อยู่นี่ ก็ต้อง ไอ้บู้นิ ว่าเข้าไปอีกซี ว่างั้นค่อยยังชั่ว นี่ไอ้บู้มันไม่มีล่ะซี มีแต่ อิมานิ อิมานิ พูดหลงหน้าหลงหลัง ก็คนไม่เคยสนใจกับธรรมมาเป็นผู้นำเขาได้ยังไง วงราชการเป็นวงใกล้ชิดสนิทกับธรรมมากที่สุด นี้ถูกต้องตามหลักของชาวพุทธ แล้วบ้านเมืองก็ชุ่มเย็น นี้ไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรม

เวลาเข้ามาในคราวจำเป็น เช่น มีการมีงานให้มาอ่าน โอ๋ย ฟังไม่ได้นะ อิมานิ อิมานิ อยู่งั้นแหละ จนไอ้บู้มันคันฟันล่ะซี ผู้ฟังฟังอยู่นี่ โอ๊ ศาสนาเหลวไหลขนาดนี้นา วงราชการนี้ ใหญ่เท่าไรยิ่งไม่สนใจกับอรรถกับธรรม เห็นอรรถเห็นธรรมเป็นขี้หมูขี้หมา เห็นดินเหนียวติดหัวว่าเป็นทองคำทั้งแท่ง ถือยศถาบรรดาศักดิ์อำนาจที่เขาแต่งตั้งเสกเป่าให้มาเป็นอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ เป็นกฎบ้านกฎเมืองอยู่เวลานี้ ถ้ากฎของธรรมแล้วไม่ นี้กฎของหมาขี้เรื้อนมันทำได้ กฎหมาขี้เรื้อนทำให้โลกเดือดร้อนได้

อาละจะให้พร

ยอดบริจาค รับผ้าป่าช่วยชาติที่ กองกำกับการตำรวจภูธรภาค ๒ จ.ขอนแก่น

วันที่ ๑๓ มิ.ย.๔๓ เวลา ๑๖.๐๐ น.

ทองคำ ๔๕ บาท ๘๔ สตางค์

ดอลล่าร์ ๖๓๑ ดอลล์

เงินสด ๑,๔๑๒,๒๘๗ บาท

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก