เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
ให้ได้ความภาคภูมิใจในความเพียร
นี่ไม่สบายมาได้อาทิตย์หนึ่งละ เป็นอยู่ภายใน จะว่าเจ็บปวดที่ไหนก็ไม่ใช่ อาหารอะไรนี้มันขยักๆ เพราะฉะนั้นมันจึงฉันไม่ได้นะ ธาตุขันธ์มันเป็นของมัน ใจเป็นของเรา เข้าใจไหมละ ธาตุขันธ์มันเป็นของมันเอง ใจเป็นของเรา ไม่ให้มันยึดได้เข้าใจไหม ถ้ากิเลสยึดแล้ววุ่นวาย เจ็บนิดๆหน่อยๆ ก็ไปรวมอยู่ที่ใจ เดือดร้อนวุ่นวายอยู่ที่ใจ ถ้าใจไม่มีอะไรธาตุขันธ์มันจะเป็นอะไร..เช่นลมพัดใบไม้มันก็พัดไปๆธรรมดา ล่วงหล่นไป อันนี้ธาตุขันธ์เหมือนกัน
เราก็ไม่สบาย ในอาทิตย์นี้ไม่สบายเลย เราสบายอยู่ใจของเรา เราไม่มีอะไรกับธาตุกับขันธ์นะ ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับธาตุกับขันธ์ ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหน ไม่เกิดที่ไหน ไม่สนใจเลย ปล่อยหมด อารมณ์เป็น-อารมณ์ตายอะไรนี้ปล่อยมันหมดแล้ว เรียนธรรมให้มันจบซิ จบที่หัวใจ พอจบที่หัวใจแล้วอะไรไม่หวั่นทั้งนั้นละ ถ้าไม่จบที่หัวใจเสียอย่างเดียวแล้วยุ่งตลอดนะ ใครจะเรียนสูงเรียนต่ำขนาดไหนก็เอาเถอะนะ ถ้าปฏิบัติต่อใจไม่ถูกแล้วไม่เป็นท่า มารวมที่ใจนะ การปฏิบัติทั้งหลายมารวมอยู่ที่ธรรม ว่าอย่างนั้นเถอะนะ ถ้าเป็นธรรมะปฏิบัติแล้วไม่เป็นอะไร ถ้าเรียนโลกเรียนสูงเท่าไรก็ตามมันไม่มีความหมายละเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา ความรู้เรียนสูงต่ำอะไรไม่มีความหมายนะ ถ้าเรียนธรรมปฏิบัติธรรมแล้วมีความหมายเต็มตัว มันจะเป็นอะไรๆ ก็เป็น
พอพูดอย่างนี้เราก็ระลึกถึงจำพรรษาหนองผือ มาจำพรรษาหนองผือซ้ำอีกนะ มันถ่ายเสีย ๒๕ หน อาเจียน ๒ หน อาเจียนนี่นู่นน่ะฝาส้วมนะ มันอาเจียนพุ่งติดนู่น มันรุนแรง มันอ่อนลงๆ จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอ เราก็ว่าอย่างนั้น จิตไม่หวั่นนะ เฉย จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอ เอาไปก็ไป สติจับปุ๊บเข้าไป แล้วค่อยคลี่คลายออกมา คลี่คลายออกมา เวลามันถึงที่สุดมันจริงๆแล้วนะ มันจะไปละ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ถ้ามันจะไปหมดนะ ทุกขเวทนาในร่างกายหมดเลย ไม่เป็นอะไร เฉย เงียบ ไม่มีอะไรเลยนะ เวลามันจะไปจริงๆ มันหดเข้ามา ย่นเข้ามา มาถึงจุดนั้นแล้วมันจะเคลื่อน เคลื่อนทีนี้ก็เรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึง ๙๙ ละ เอาจะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอ
นั่งอยู่ส้วมนะ เวลามันอาเจียนนู่นติดฝา มันไปได้อาหารอะไรมานักไม่รู้ มีแต่เศษอาหาร อาเจียนพุ่งๆๆ มันก็อ่อนลงๆ จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอ เอาไปก็ไป ไปก่อนไปหลัง สักเดี๋ยวถือเอาสติเข้าไปจับในนั้นนะ สักเดี๋ยวค่อยคลี่คลายออกมา ไม่ไป นี่ละได้ดูมันชัดเจน คือดูด้วยความไม่กลัวไม่กล้า ดูความจริง ความจริงดูความจริง ไม่มีสะทกสะท้านอะไร สักเดี๋ยวค่อยเบา ออกมา..ท่านเนตรนั่นละจำได้ เพราะท่านเนตรไปรออยู่ประตูส้วม ฟังเสียงเราอาเจียน เสียงดังลั่นในนั้น พอออกมานี้หน้าดำหมดเลยนะ พอออกมาผมเกือบตายในถานเมื่อกี้นี้ ท่านอาจารย์ทำไมเป็นอย่างนี้ โว้กเว้กขึ้น มันจะเป็นบ้าพระนี่ เราเลยเก็บคำพูดอะไรไม่พูด มีแต่ว่าให้ปูเสื่อเราจะนอนที่นี่เท่านั้นละ ห้ามไม่ให้ใครมายุ่ง นอนอยู่นั้นสบาย หมดวาระนั้นละ
ถ่าย ๒๕ หน อาเจียน ๒ หน อาเจียน ๒ หนรุ่นแรงมากนะ เศษอาหารติดฝา มันรุนแรง พุ่งๆ พอจากนั้นมาก็อ่อนเหมือนว่าจะไปเดี๋ยวนั้น จะไปเดี๋ยวนี้เชียวเหรอ เอาไปก็ไป สักเดี๋ยวคลี่คลายออกมา หยุดนะ ไม่ไป แล้วก็ค่อยออกจากส้วม ลุกขึ้นไม่ได้ละมันหมดกำลัง พระท่านเปิดประตูอยู่ประตูส้วม พอเราเคาะอันนี้โป้กๆ ท่านก็เปิดเลยทันที ตอนนั้นหน้าดำหมดเลย เป็นถึงขนาดนั้นนะ ไม่ตาย คือจิตมันดีๆ มันไม่มีอะไรจิตสำคัญอยู่ที่จิต ถ้าจิตไขว้เขวแล้วไปได้นะ มันไปช่วยความไม่ดีให้หนักขึ้นนะ ถ้าจิตดีอยู่แล้วไม่มีอะไรละ สะดวกสบาย มันจะตายหลายหนอยู่เรา แต่มันก็ไม่ตาย มีเท่านั้นละเรา ไม่มีอะไรละนะ
ให้พากันเข้าศีลเข้าธรรมนะพี่น้องทั้งหลาย สิ่งทั้งหลายมากก็มากล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ไม่มีอะไรจะติดตัวนะ สิ่งที่จะติดตัวคือธรรมคือบุญ อันนี้ละติด บาปถ้าใครสร้างบาปมากๆติด ถ้าใครสร้างบุญมากๆติด เวลาจะเป็นจะตายมันจะไขว่คว้านะจิต ไขว่คว้าหาที่ยึดที่พึ่งนะ ถ้าจิตของเราดีอยู่แล้วไม่ไขว่ไม่คว้า จิตดีมันก็เป็นกำลังของชีวิตต่อไปอีกแล้วก็ไม่เป็นอะไร
ท่าน(ท่านบุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล) มีบุญมากอยู่นะ ได้อุปถัมภ์อุปัฏฐากพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น คือมีหม้อเล็กๆ เราละเป็นตัวเหตุ ทางนั้นเขก ทางนี้เป็นเขียง ทางนั้นสับเอา คือท่านมายุ่งอะไรทำอาหารถวายท่านหม้อเท่านี้ เราเป็นคนให้ทำ อาหารอย่างนี้เราหามา มาอุดรแต่ละครั้งน้อยเมื่อไร มาอุดรเขียนบัญชีอาหารให้อันนั้นๆ จดลงทุกอย่างแล้วให้เขาไปตลาด เวลาเราจะกลับสกลนะ ใส่เป็นเข่งๆ นะ มีแต่อาหารที่เหมาะสมกับธาตุขันธ์ของท่านทั้งนั้นแหละ
ไปแต่ไม่ให้ท่านเห็น ท่านเห็นจนได้นั่นแหละ นั่นละจอมปราชญ์กับจอมโง่ต่างกันอย่างนั้นละ ท่านจอมปราชญ์เราจอมโง่ จะหลบจะซ่อนขนาดไหนไม่พ้นจอมปราชญ์ เห็นทั้งนั้นละ เวลาจะเข้าไปคือรถยนต์ไม่มี เอาล้อใส่เต็มล้อเลยเข้าไป เวลาเข้าไปอย่าเข้าไปเวลาสี่โมงเย็น ตอนนั้นตอนท่านปัดกวาดอะไรๆ ท่านจะมาเจอเข้าจนได้ ต้องห้าโมงแล้วถึงจะเข้าไป ท่านจะไม่ออกมาแถวนี้ ท่านอยู่กุฏิ ตอนห้าโมงแล้วเข้าไป ของนี้มีอะไรเราจัดเองหาเองนี่นะ เสร็จเรียบร้อยแล้วมีกุฏิหลังหนึ่งเล็กๆอยู่นู่น เข้าไปใส่กุฏิหลังเล็กๆ เต็มหมดเลยนะ
เวลาไปก็ต้องห้าโมงเย็นถึงเข้า ท่านอยู่ในแถวนั้นไม่ได้นะ เหยี่ยว กลัวเหยี่ยวเข้าใจไหม พอห้าโมงเย็นแล้วเข้า เรากำกับเอง เอาของนี้ไป มีกุฏิเล็กหลังหนึ่งสำหรับไว้ถวายท่าน อาหารนะ ท่านแหลมคมมากนะ เราเตรียมท่าเต็มที่เลย จอมโง่กับจอมปราชญ์ ไปถึงเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ล้อออกมา ล้อออกมาเราต้องมีอะไรแก้ตัวอีกนะ บางทีไปไม่รอดแล้วจะออกช่องนี้ช่องนั้นคิดไว้หมด
พอค่ำๆไป ของนี่มีแต่ของดีๆ เราเอาไปจากอุดรใส่เข่งๆๆไป พอไปลงแล้วต้องกะเวลาท่านไม่ลงมา ถ้าสี่โมงมาปัดกวาด ท่านจะมาทุกแห่งนั่นแหละ ถ้าเลยไปถึงห้าโมงแล้วเงียบละ เราก็เข้าตอนนั้น ขโมยหลวงนี่มันจอมโง่ซิ มันไม่ใช่จอมปราชญ์ เข้าแล้วก็เอาของเข้าไป เรากำกับทุกอย่างเลยเชียวนะ ไม่ให้ท่านเห็นร่องรอยเลยละ เตรียมพร้อมไว้ เอาล้อเข้าไป ล้อใหญ่ใส่เต็มเอี๊ยดเลย อาหารที่ถูกกับธาตุกับขันธ์ เพราะเราดูอาหาร เราเป็นคนจัดอาหารเอง อะไรที่ถูกกับธาตุขันธ์ของท่าน เราจัดอย่างไรเข้าไป
พอไปแล้วเอาของลง ตอนห้าโมงเย็นตอนท่านไม่มาแล้ว เราก็เข้าตอนนั้นละ พอเข้าไปแล้วของเต็มล้อ ของดีๆทั้งนั้นนะ เราเป็นคนจัดเอง ไปสั่งที่อุดรเขาให้ได้ตามที่เราต้องการ ไปห้าโมงเย็นเอาเข้ากุฏิเล็กๆอยู่นู้นสำหรับบรรทุกของ ท่านก็แหลมคมของท่านพอ เราก็โง่พอ มันก็พอดีกัน ท่านรู้นิสัยไปไหนมันไม่อยู่เป็นสุขละ มันหากมีถ้าเกี่ยวกับครูบาอาจารย์ พอไปถึงท่านห้าโมงเย็นเราเข้าไปหาท่าน
ตอนเช้าละทีนี้ตาท่านแหลมคมนะ ดูนั้นดูนี้ดูรอยล้อรอยเกวียน ขโมยใหญ่มันไปที่ไหนมามันทำอย่างนั้น เราเป็นจริงๆ นะนึกถึงครูบาอาจารย์ เวลาจะเข้าไปหนองผือเอาแก่นขนุน...ข้อแก้ตัว ทีนี้ตาท่านมองเราก็มองท่าน สังเกตท่านปั๊บ นี่รอยล้อมาจากไหน เห็นจนได้ เราไปดูเองนะ ก่อนที่จะจากเลิกกันไปเราเป็นหัวหน้าดูไม่ให้เห็นรอยล้อรอยเกวียนเลยละแถวนั้น ตาท่านแหลมคม เราตั้งหน้าตั้งตากวาดจริงๆ มันน่าจะเห็น ไม่เห็น นี่รอยล้อมาจากไหนนี่น่ะ ท่านว่าอย่างนั้นนะ มีข้อแก้ตัวอยู่อันหนึ่ง แก่นขนุน เมื่อวานเห็นแก่นขนุนดีเลยเอามา ท่านเลยเงียบ หากอยู่ภายในละว่าแก่นขนุนใหญ่นั่นแหละ แต่ท่านไม่พูด ท่านว่าแก่นขนุนใหญ่นั่นละ เราเป็นอย่างนั้นไปไหนมา
พ่อแม่ครูอาจารย์นี้จอมปราชญ์ฉลาดที่สุดเลยนะ ฉลาดมากทีเดียว แต่จอมปราชญ์ดูคน จอมปราชญ์ชมเชยแล้วติฉินนินทาอะไรนี้จะอยู่กับจอมปราชญ์ เก็บหมดนะ ไม่ให้ใครรู้ แต่รู้ลึกๆ คือความไว้ใจ ท่านไว้ใจเรามากทีเดียว ความไว้ใจ แต่ท่านไม่แสดงให้เห็นนะ หากรู้ นี่หลวงปู่มั่นเราเป็นอย่างนั้น ฉลาดมาก แต่เราก็อย่างว่าละ เราก็คนโง่ สู้วันยังค่ำ
มีคำหนึ่งสำคัญอยู่นะ ตอนนั้นท่านป่วยแล้วในพรรษา อยู่ๆพระเณรนวดเส้นให้ อยู่ ๒ องค์ นวดเส้นให้ ๒ องค์ อยู่ๆท่านพูดลักษณะเอะใจ เวลาผมตายแล้วพวกท่านจะอาศัยใครละๆ ว่าอย่างนั้นนะ นี่เวลาผมตายแล้วพวกท่านจะอาศัยละ พระก็นิ่งไม่กล้าพูดง่ายๆนะ เพราะเราบอกหมดแล้ว เออให้อาศัยท่านมหานะ ท่านแย็บออกมานะ ท่านมหานี้สำคัญอยู่นะทั้งภายนอกภายใน ภายในก็หมุนติ้วแก้กิเลสจะให้หลุดพ้น ภายนอกข้อวัตรปฏิบัติศีลธรรมวินัยไม่ให้บกพร่อง ความหมายว่าอย่างนั้น ภายในหมายถึงจิตใจ ให้อาศัยท่านมหานะ ท่านมหาสำคัญอยู่นะทั้งภายในภายนอก แต่กับเราท่านไม่พูดแหละเรื่องอย่างนี้ ทีนี้ท่านพูดให้ใครฟังต้องมาหาเราหมด เราก็นิ่งเฉย เหมือนไม่รู้ไม่ชี้
เวลาท่านป่วยอย่างนี้เหมือนกันนะ ท่านเคลิ้มหลับไปบ้างเราถึงจะออกจากท่านได้ ไปเดินจงกรมตรงไหนบอกพระนะ ผมจะเดินจงกรมอยู่ตรงนั้นๆ ถ้าท่านตื่นแล้วให้ไปบอกผม คือติดแนบขนาดนั้น ท่านไม่ได้นอนเราก็ไม่นอน เราไม่ห่วงธาตุขันธ์ของเรา ยิ่งกว่าห่วงท่านนะ พอท่านลืมตาขึ้นท่านมหาไปไหน ถามท่านมหาไม่ถามใคร ท่านมหาไปไหน เราก็ปุ๊บเข้ามาเลยเข้ามุ้ง ที่จะชมนั้นชมนี้ไม่มี ไม่ชม ชมแย็บออกมาเท่านั้นละ ไม่มากละ เอาละนะวันนี้พูดพอสมควร
ใครก็จำให้ดีคำพูดเหล่านี้นะ พากันจำให้ดีไปปฏิบัติให้ดี ให้มันได้ภาคภูมิใจในการปฏิบัติของตัวเอง การปฏิบัติเหลวไหลๆใช้ไม่ได้ การปฏิบัติให้มันได้ความภาคภูมิใจในความเพียรของเจ้าของตลอดเลย นั่นละดี ให้พรละนะ อยู่กับพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นใครอย่าไปอืดอาดไม่ได้นะ ต้องคล่องตัวตลอด เพราะท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ฉลาด ในสมัยปัจจุบันนี้ก็เรียกว่าพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน ท่านฉลาดมากนะ รอบคอบหมดเลย เรายิ่งต้องระวังตลอด ไม่ระวังไม่ได้ พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี่เป็นจอมปราชญ์ในสมัยปัจจุบัน ให้พร
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|