เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

นี่ก็อ่านเป็นประจำวันให้ฟังทุกวัน ทองคำ ดอลลาร์ เงินสด ก็ได้อ่านให้ฟังเป็นประจำทุกวัน ๆ เมื่อวานนี้ทองคำไม่ได้ ดอลลาร์ไม่ได้ นี่อ่านเป็นประจำ ทองคำที่เราจะนำเข้าสู่คลังหลวงคราวนี้ตั้งเอาไว้ว่า ๔,๐๐๐ กิโล เวลานี้ได้แล้ว ๒,๐๘๓ กิโลครึ่ง เข้าฝากเข้ามอบไว้แล้ว ที่ได้หลังจากหลอมเสร็จและฝากไว้นั้น เวลานี้ได้ ๒๑ กิโล ที่ไปกรุงเทพฯ คราวนี้ หลังจากหลอมแล้วได้มาอีก ๒๑ กิโล จนกระทั่งเมื่อวานนี้ได้ ๒๑ กิโล ๙ บาทอะไรนี่ รวมทองคำที่ได้ทั้งหมด ๒,๐๘๓ กิโลครึ่ง รวมทั้งหมดนะ เรียกว่าได้ ๒ ตัน ๘๓ กิโล ตันหนึ่งมีพันกิโล น้ำหนัก ๑ พันกิโลเรียกว่า ๑ ตัน เวลานี้ได้ ๒ ตันกับ ๘๓ กิโลครึ่งแล้ว ทองคำหนักเป็นตันของเล่นเมื่อไรวะ นี่ตั้ง ๒,๐๘๓ กิโลครึ่งด้วย ถ้าแยกออกเป็นตันก็เป็น ๒ ตัน ๘๓ กิโลครึ่ง

ทองคำที่พี่น้องชาวไทยเรารวบรวมกันบริจาคเข้ามาเพื่อจะสู่คลังหลวงอันเป็นหัวใจของชาติไทยเรามาดั้งเดิม เวลานี้ก็ได้ ๒,๐๘๓ กิโลครึ่งแล้ว เรายังจะพยายามตะเกียกตะกาย หากว่าไม่มีเหตุการณ์สิ่งใดเข้ามาเป็นอุปสรรค หรือเป็นการทำลายเหล่านี้ ก็จะค่อยก้าวเดินไป ถ้าหากว่ามีอะไรก็แล้วแต่เหตุการณ์ อันนั้นใครอย่ามาคาดนะ เวลานี้ก็ได้แล้ว ๒,๐๘๓ กิโลครึ่งแล้วนี่ ส่วนดอลลาร์ที่จะไปมอบคลังหลวงคราวนี้ยังไม่ได้มอบนะ ยังอยู่ธนาคาร ยังขาดอยู่ดูว่า ๗๓,๘๐๔ ดอลล์ที่จะครบ ๑ ล้านดอลล์

นี่เป็นสมบัติของพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศที่รวมกัน เพื่อจะนำเข้าสู่คลังหลวงดังที่เคยประกาศเสมอ คลังหลวงนี่เป็นหัวใจของชาติไทยเรามาดั้งเดิมตั้งแต่บรรพบุรุษ รักษาสมบัติเหล่านี้ไว้ไม่ให้ผู้ใดเข้ามาแตะต้อง เป็นสมบัติหัวใจของชาติอยู่ที่นี่ การจับจ่ายใช้สอยแยกแยะไปไหนก็ให้เอาส่วนข้างนอกแยกแยะกันไปใช้กันไป หากจะมีส่วนแบ่งจากคลังหลวงก็ต้องเป็นเรื่องของทางคลังหลวงพิจารณารอบคอบแล้ว ส่วนที่เศษที่เหลือออกไปไม่กระทบกระเทือนกับคลังหลวง ทางนี้ก็แยกกันตลอดมา เป็นอย่างนั้นนะ คือไม่ให้กระทบกระเทือนคลังหลวง เช่น กิ่งก้านสาขาดอกใบ เอาเด็ดไปตัดไปบ้าง อย่าให้มากระเทือนลำต้นและรากแก้วของคลังหลวงก็แล้วกัน นี่บรรพบุรุษท่านรักษาและปฏิบัติกันอย่างนี้ตลอดมา

นานสักเท่าไรคิดดูซิ สมบัติเหล่านี้ฝังรากลึกในหัวใจพี่น้องชาวไทยเรามานานเท่าไร นี่เรียกว่าคลังหลวง ภาษาทั่ว ๆ ไปเรียกว่าคลังหลวง คือหัวใจของชาติ สมบัติจำนวนนี้ไม่มีใครเข้าไปแตะต้อง มีผู้รักษาอย่างเข้มงวดกวดขันตลอดมา ทั่ว ๆ ไปก็เรียกว่าคลังหลวง ก็คือหัวใจของชาติ ที่เรารวมกำลังกันก็คือว่า คลังหลวงเรานี้รวมทั้งทองคำ ดอลลาร์ เงินสด นี้มีจำนวนน้อยมาก เฉพาะอย่างยิ่งทองคำซึ่งเป็นหัวใจของชาติรู้สึกว่ามีน้อยมาก จึงได้พากันวิ่งเต้นขวนขวายหามา นี่ก็ได้ ๒ พันกว่ากิโลแล้ว หรือ ๒ ตันกว่าแล้ว จะเข้าสู่คลังหลวง

พูดอย่างนี้เกี่ยวกับคลังหลวงเรื่องการรวมบัญชีนี้ เราสะเทือนใจมากไม่ทราบเป็นยังไง ถ้าพูดถึงเรื่องความสกปรกก็เลยความสกปรกไปแล้วนะ ไม่เคยได้ยิน เมืองไทยเรารู้สึกได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจมากทีเดียวคราวนี้ ตั้งแต่มีเมืองไทยมายังไม่เคยมีคราวไหนที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ เกี่ยวกับสมบัติก้อนใหญ่คือคลังหลวงนี้ซึ่งเป็นหัวใจของชาติ ได้ถูกกระทบกระเทือนหรือถูกกระทบกระแทกและถูกทำลาย คราวนี้รู้สึกว่ากระเทือนมากทั่วประเทศไทย

ทางศาสนาเองก็กระเทือนคราวนี้ ศาสนาก็หลวงตาเป็นผู้นำ นำนี่ก็นำมาด้วยความราบรื่นดีงามทุกอย่าง ไม่มีที่ต้องติจากผู้หนึ่งผู้ใด ที่ว่าเราดำเนินนี้ผิดไป เราเองเราก็ไม่เคยได้ระแคะระคายในจิตใจว่า การที่เราพาพี่น้องทั้งหลายดำเนินเหล่านี้ได้ผิดได้พลาดไปไม่มี เพราะเป็นเรื่องของธรรมคือความถูกต้องดีงามล้วน ๆ พาพี่น้องชาวไทยเราดำเนิน เช่นอย่างแสวงหาทองคำ ดอลลาร์ เงินสด เพื่อเข้าสู่คลังหลวงของเราทั้งนั้นแหละ รวบรวมเข้ามา แล้วก็มากระทบกระเทือน กระเทือนอย่างรุนแรง ศาสนาก็กระเทือนมาก พี่น้องชาวไทยเราทั่วประเทศก็ได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจมาก เมื่อกำลังทราบ เรียกว่ากำลังจะประจันหน้ากันเวลานี้ว่า คลังหลวงนี้จะถูกกอบถูกโกยออกไป ผ่านหรือเหยียบหัวบัญชี จะมีกี่บัญชีก็ไม่ทราบแหละ

พูดโก้ ๆ สวย ๆ ลิ้นหวาน ๆ ออกมาว่ารวมบัญชี นี่ละลิ้นหวานของสิ่งทำลายที่เป็นมหาภัยต่อคลังหลวงเราเวลานี้ การที่จะมาพูดให้ตรงตามสัตย์ตามความจริงนั้นไม่ยอมพูด พูดว่ายังไง คือจะมากอบโกยเอาสมบัติในคลังหลวงนี้ ซึ่งเป็นหัวใจพี่น้องชาวไทยออกไปถลุงลงทะเลไหนก็แล้วแต่ นี่คือความสัตย์ความจริงความถูกต้อง แต่ความที่มันเปลี่ยนแปลงลิ้นหวาน ๆ มาว่ารวมบัญชี ฟังซิน่ะ ใครก็ต้องตายใจหมดว่ารวมบัญชี รวมไม่รวมก็เหมือนกันว่างั้นนะ รวมก็ได้ไม่รวมก็ได้ รวมหรือไม่รวมก็คือเงินของชาติว่างั้น เราไม่รู้ลิ้นหวานเบิกทางเข้าไปหาคลังหลวงเลย รวมบัญชี

บัญชีมีสองสามบัญชีเราก็ได้อ่านเราก็ได้ดู แต่เราก็ลืมเสีย หากจำได้ว่าบัญชีเหล่านี้แหละเป็นทางก้าวเดินของเปรตของผี ที่จะเหยียบหัวบัญชีเหล่านี้เข้าไปโกยเอาสมบัติในคลังหลวงที่เรารักษามาแต่ปู่ย่าตายายออกมา เหยียบบัญชีเหล่านี้ ไม่สนใจมันละบัญชีนี่ ขอให้มือได้เอื้อมถึงคลังหลวงก็แล้วกัน ที่ว่ารวมบัญชีไม่รวมบัญชีไม่มีความหมายอะไรนะ มันพูดหวาน ๆ พูดหลอกโลกเฉย ๆ สกปรกมากที่สุด ลิ้นพวกนี้สกปรกมากทีเดียว ฟังไม่ได้ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนี่ มันต้มอย่างหวาน ๆ เทียว ว่ารวมบัญชี ๆ มันพูดอะไร บัญชีหากมีอยู่อย่างนั้นแต่ไม่ได้ไปรวมนั่นซิ มันโกยออกมาข้ามหัวบัญชีไปเลย นี่คือความจริง

พี่น้องทั้งหลายฟังเอานะ อย่าไปเข้าใจว่ามันจะไปรวมบัญชีนะ มันคำหลอกประชาชนทั้งหลาย ลิ้นหวาน ๆ แต่มันสกปรกมาก เป็นอันตรายมาก เป็นพิษมากที่สุดลิ้นเหล่านี้น่ะ ลิ้นรวมบัญชีนี้ ลิ้นที่ว่าทั้งหวานทั้งกัดตับกัดปอดอยู่ภายในมันแฝงออกมาเป็นคำหวาน รวมบัญชี คำหวานหูพี่น้องชาวไทย ความจริงคือว่ามันจะกัดตับกัดปอดเอาบัญชีเป็นทางเดิน ไปโกยเอาสมบัติในคลังหลวงออกมาหมดไม่มีเหลือ นี่ตั้งมากี่รัฐบาลเคยมีรัฐบาลไหนมาทำอย่างนี้พิจารณาซิ มันน่าคิดเอามากทีเดียวนะพี่น้องชาวไทยเราซึ่งไม่เคยมีมา นี่ที่ว่ากระทบกระเทือนมาก

แล้วเวลานี้ก็กำลังหาเงินหาทองสมบัติที่จะเข้าสู่คลังหลวงของเรา เพราะเห็นว่าบกพร่องมาก เอนเอียงค่อนข้างจะล่มจม แล้วต่างคนต่างพยายามหามารวมกัน หามาแล้วก็จะมาถูกกอบโกยด้วยเปรตด้วยผีเหล่านี้ ด้วยคำหวานว่ารวมบัญชี ๆ นี่ละที่จะมากอบโกย พวกหวาน ๆ ที่จะรวมบัญชีนี่พวกจะกอบโกย พวกจะทำลายพี่น้องชาวไทย หัวใจตับปอดจะไม่มีเหลือจากคลังหลวงนี้ละตัวเป็นเหตุสำคัญ หลวงตาบัวแต่เกิดมาก็ไม่เคยได้ยินว่ารวมบัญชีแบบถล่มเมืองไทยทั้งชาติอย่างนี้ เราไม่เคยได้ยิน เราถึงตกใจตื่นเต้นในทางที่ผลลบนะ

แต่ก่อนเราก็ได้ยินว่ารบกัน ชาตินั้นชาตินี้รบกัน ๆ ทีนี้ทำไมเกิดมานานแล้วก็ยังไม่เคยได้ยิน นี่ถ้าหากว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีการพิจารณา ต่างคนต่างไม่พิจารณาตามอรรถตามธรรม มีขอบมีเขตมีเหตุมีผลเป็นหลักเกณฑ์เครื่องดำเนินแล้ว ชาติไทยของเรานี้จะเกิดข้าศึกกลางกรุงสยามได้นะ เหตุใดจึงเกิดได้ มันจะเกิดได้ด้วยเหตุนี้เองละ สมบัติอันนี้เป็นสมบัติของชาติมาดั้งเดิม เป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่สุดในหัวใจของชาติ ยิ่งใหญ่อยู่จุดนี้ทั้งนั้น ก็ไม่เคยว่าที่จะมากอบโกยเอาสมบัติเหล่านี้ออกไป โดยเป็นคำหวานปากว่ารวมบัญชี ก็ได้ยินเสียแล้วคราวนี้ ได้ยินแล้วนะ

ในคลังหลวงนั้นก็มีผู้รักษา ก็ประชาชนทั้งชาติเป็นผู้รักษา เอ้า โจรมารจะมีอำนาจเหนือเมฆมาจากไหนเข้ามา ก็ต้องเป็นข้าศึกกับเจ้าของสมบัติเลยแหละ นั่นซิพิจารณาซิ มันน่าคิดไหม เราไม่เคยได้ยินได้ฟังก็มาได้ยินคราวนี้ ศาสนาก็เตือน ศาสนาคือความถูกต้องแม่นยำ อันใดที่จะเป็นความเสียหายต่อส่วนรวม จิตใจของประชาชนทั้งชาติ ส่วนนั้นไม่ควรแตะ ต่างคนต่างบำรุงรักษาถึงถูก การที่มาทำลายไม่ถูกเลย หากว่ามันจะเป็นขึ้นมาแบบนี้ก็เรียกว่า ตั้งหน้าตั้งตาเข้ามาเป็นข้าศึกในชาติของตนนี้แน่นอนละ จึงเตือนเอาไว้ทุกคน

ชาติไทยเรามีศาสนานะ มีขื่อมีแปทุกอย่าง ให้ฟังกันถึงถูกต้อง ไม่งั้นจะฉิบหายจริง ๆ ชาติไทยเราก็ไม่เคยเป็นมาแต่ก่อน สงบเสงี่ยมเรียบร้อยอดทน เก็บความรู้สึกไว้ภายในได้ดี ๆ กว่าประเทศอื่น ๆ นะ ถ้าตามฟังเสียงมานี้ ประเทศอื่น ๆ เขายังมีกระโตกกระตาก มีคัดมีค้านโต้ตอบกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ บางทีรบกันย่อย ๆ ตามประเทศต่าง ๆ หัวเมืองต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ ก็ยังมี แต่สำหรับประเทศไทยเรานี้ไม่เคยปรากฏนะ มีแต่ความสงบเงียบ ๆ

เรื่องรัฐบาลกินประชาชนมันจะกินไหน ไม่เอาประชาชนมาเป็นอาหารจะเอาอะไร ตั้งพื้นตั้งแต่เงินเดือน เงินเดือนนี้ให้เป็นค่าจ้างรางวัล ให้เป็นการอาชีพ เรียกว่าเป็นงานของพวกข้าราชการในวงการทั่วประเทศไทยของเรานี้ นี่เรียกว่าผู้ทำงานเพื่อชาติ ตั้งเงินเดือนให้ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งสุดยอดของเงินเดือน นี้เป็นสมบัติที่พี่น้องชาวไทยของเราได้สละให้ด้วยความพอใจ เต็มอกเต็มใจให้ แต่ส่วนที่นอกจากที่ว่านี้แล้วเป็นยังไง เรียกว่าเงินดิน กินอยู่ใต้ดินกินมาตลอด วงราชการต่าง ๆ กินมาอย่างนั้นตลอด ๆ แต่ไม่ผาดโผนโจนทะยานมากนัก ถ้าจะมีถ้าจะเป็นก็เป็นครั้งนี้แหละ วงราชการงานเมือง รัฐบาล หากว่าจะผาดโผนโจนทะยานก็จะเป็นคราวนี้ โดยที่จะมากลืนเอาสมบัติของชาติ แบบผาดโผนโหดร้ายทารุณมาก ไม่ฟังเสียงใครเลย จะเอาตั้งแต่อำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ของตัวเอง พวกของตัวเอง มากลืนมาบีบบังคับประชาชนทั้งชาติ แล้วโกยเอาคลังหลวงไป ถ้ามีก็จะมีครั้งนี้

หากไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเสียงประชาชนเลยแล้ว เหตุการณ์เราไม่น่าจะสงสัย ที่แน่มากจริง ๆ ก็คือว่า มันจะเกิดเรื่องแน่ ๆ นี่ละมันจะเกิด แล้วชาติไทยของเราก็จะระเบิดขึ้น เป็นได้นะ ถ้าไม่มีขื่อมีแปไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ไม่ฟังเสียงศาสนา ไม่ฟังเสียงประชาชน เอาแต่ดันทุรังอย่างเดียวอย่างนี้ ความดันทุรังไม่ใช่ความถูกต้อง นี่ก็ต้องถือเป็นข้าศึกกันทันที ก็เหมือนกับว่าผู้ร้ายชายโจรเข้าปล้นบ้านเมือง มันก็จะต่อต้านรบกันตรงนั้นแหละ

เราถึงได้เตือนไว้ เราไม่ได้เป็นภัยต่อผู้ใดก็ยังบอกแล้ว เรานำพี่น้องชาวไทยเราเพื่อความสงบร่มเย็น ทั้งด้านวัตถุก็ให้หนุนกันขึ้นเพื่อความแน่นหนามั่นคง ทางด้านจิตใจที่โยก ๆ คลอน ๆ ไม่มีศีลมีธรรม ไม่มีการปฏิบัติตัวให้เป็นขอบเขตเหตุผลพอประมาณ ก็แนะนำสั่งสอนให้รู้จักเหตุผลต้นปลายที่จะปรับเนื้อปรับตัว ทั้งหน้าที่การงานและจิตใจให้มีศีลมีธรรมเป็นหลัก นี่เราสอนมาอย่างนี้นะ เราจึงไม่อยากพบอยากเห็นในเรื่องอย่างนี้

ถ้าว่าเราเป็นตัวก่อเหตุร้ายมีตรงไหนเอามาดูซิ แต่เรื่องที่กำลังคลังหลวงจะพัง พี่น้องชาวไทยกำลังจะลุกเป็นไฟนี้มันก่อเหตุดีหรือก่อเหตุร้าย เอาไปพิจารณากันซิ เอามาเทียบกันเดี๋ยวนี้ เอาให้เห็นสักขีพยานซิ ถ้าว่าเราก่อเหตุร้าย ผลแห่งเหตุร้ายเป็นยังไง เหตุใดที่เราก่อเหตุร้าย ในขณะเดียวกันก็ว่าก่อเหตุดี เอ้าผลแห่งการก่อเหตุดีนี้คือกินตับกินปอดพี่น้องชาวไทย ฟาดบ้านเมืองให้ล่มจมทั้งหมด โดยถือคลังหลวงเป็นท่ามกลางแห่งไฟบรรลัยกัลป์ที่จะเผาบ้านเผาเมืองนี้ นี้หรือเหตุดี พิจารณาซิ

ฟังซิเรามีหัวใจทุกคน เราเป็นลูกมนุษย์ต้องฟังเสียงอรรถเสียงธรรมถึงจะถูก ไม่ฟังไม่ได้นะ ฝืนไปก็เป็นจริง ๆ นั่นแหละ ฝืนหลักธรรมชาติคือหลักธรรม คือความถูกต้องดีงาม ฝืนไปเท่าไรก็ต้องแหลกไปเป็นลำดับลำดา ถ้ายอมรับศาสนานำมาปฏิบัติประสานกันได้ ทำไมคิดผิดคิดได้ จะทำผิดจะทำได้ แก้ ๆ ตามเหตุผลให้ทำถูกให้คิดถูก แก้กันประสานกันเข้าทันที มนุษย์เรานี้เป็นลูกชาวพุทธพูดกันได้ง่ายมากในเรื่องทางที่ดี แต่เรื่องทางที่แตกนี้กำลังเดี๋ยวนี้ พี่น้องชาวไทยเราก็กำลัง กำลังฟังเสียงอยู่นี้ ถ้าหากว่ามันผาดโผนโจนทะยานเข้ามามาก ๆ นี้ มันไม่ได้แน่นะเพราะเป็นหัวใจของคน รักษาสมบัติด้วยความชอบธรรม มีสิทธิมีอำนาจเต็มตัวของทุกคน ๆ ที่เหตุร้ายทั้งหลายหรือมหาโจรมหาภัยที่จะเข้ามารุกล้ำอย่างง่ายดาย กลืนกินอย่างหวานปากหวานคอนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้นะ บอกไว้แต่ต้นนี่เสีย มันจะเป็นไปไม่ได้ ให้พากันพินิจพิจารณาเสียตั้งแต่บัดนี้นะ

นี่ละที่เราสะเทือนใจมากนะ บอกแล้วบอกเล่า เตือนแล้วเตือนเล่า ด้วยความเมตตาสงสารจริง ๆ เราไม่ได้มีคำว่าแบ่งสันปันส่วนให้แก่ฝ่ายใดนะ เราพูดเป็นกลาง ๆ ผิดก็บอกว่าผิด ถูกก็บอกว่าถูก ตามหลักธรรมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างอื่นไม่เรียกว่าธรรม ผิดต้องบอกว่าผิด ถูกต้องบอกว่าถูก เรานำศาสนามาสอน สอนในท่ามกลางแห่งความถูกต้องทุกแง่ทุกมุมไป อันไหนที่ผิดก็ให้รีบแก้ไขดัดแปลงอย่างนั้นถึงถูก สมว่าเราเป็นชาติไทยเป็นลูกแห่งชาวพุทธฟังเสียงกัน อย่าฟังแต่เสียงพวกพุงหลวงต่าง ๆ เห็นแก่ได้เห็นแก่ร่ำแก่รวย เห็นแก่อำนาจบาตรหลวงที่เคยครองเหยียบหัวประชาชนมานาน จะเอาอันนั้นมาใช้อย่างเดียวตลอดไป โดยไม่คำนึงถึงผิดถูกชั่วดีนั้นมันเป็นไปไม่ได้นะ วันนี้ว่าจะไม่พูดมันก็ได้พูดอย่างนี้ละ เอาละแค่นี้วันนี้ เหนื่อย พูดทุกวันมันก็เหนื่อยทุกวัน ต่อไปนี้จะให้พร

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com