เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๒ บาท ดอลลาร์ ๖๐ ดอลล์ ได้อยู่ทุกวันแต่บางวันก็ขาด หายเงียบไปเลยก็มี ทองคำที่ต้องการมอบไว้คลังหลวงในการช่วยชาติคราวนี้กะไว้ว่า ๔,๐๐๐ กิโล ที่ได้มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง นี่เป็นงวดแรก งวดที่สองที่ฝากเข้าคลังหลวง ๑,๐๒๕ กิโล รวมทองคำที่ได้มอบและฝากไว้กับคลังหลวงแล้วนั้นได้ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง นี่ที่มอบไว้ฝากไว้คลังหลวง รวมทองคำหลังจากมอบไว้และฝากไว้กับคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๒๑ ก.ก. ๙.๗๒ บาท นี่เวลานี้ยังไม่ได้หลอม ทองคำเหล่านี้ยังไม่ได้หลอม เป็นทองคำต่างประเภท รวมแล้วเป็น ๒๑ กิโล หลังจากฝากทั้งสองครั้งแล้วได้มาทีหลังเป็น ๒๑ กิโล ๙.๗๒ บาท รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒,๐๘๓ กิโลครึ่งทั้งหลอมแล้วและยังไม่หลอม ยังขาดทองคำ ๑,๙๑๖ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโล ดอลลาร์ที่ตั้งใจจะมอบในครั้งต่อไปนี้ ๑ ล้าน ได้รับบริจาคแล้ว ๙๒๖,๑๙๖ ดอลล์ ยังขาดอยู่ ๗๓,๘๐๔ ดอลล์

ทองคำนี้เป็นอันดับหนึ่งในหัวใจของชาติไทยเรานะ เป็นอันดับหนึ่ง ถ้าว่าต้นไม้ก็รากแก้วของต้นไม้จริง ๆ ชาติไทยของเราอยู่ได้ด้วยทองคำนะ แต่ไม่เปิดเผยไม่บอก หากเป็นหัวใจอยู่ในนั้นทีเดียว ทั่วประเทศไทยเราอยู่นั้น เครื่องรับประกันทุกสิ่งทุกอย่างก็อันนี้เป็นสำคัญมาก คำว่าคลังหลวงนี้รวมทั้งสมบัติเงินทองอย่างอื่นด้วย แต่หลักใหญ่คือทองคำ นี่ที่หลวงตาได้ดีดได้ดิ้นเวลานี้ เพื่อพี่น้องทั้งหลาย อะไรที่เข้ามากีดมาขวางมันถึงรู้สึกกระเทือนใจมากจริง ๆ นะ กระเทือนความเมตตาที่มีต่อพี่น้องชาวไทยนี้ เราทุ่มจริง ๆ ไม่ได้มีอะไรเหลือเม็ดหินเม็ดทรายในตัวของเราว่า จะแบ่งสันปันส่วนจากพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคมามากน้อยนี้ เราพูดจริง ๆ เราไม่มีว่างั้นเลย เม็ดหินเม็ดทรายก็ไม่มี

ที่จุดสำคัญก็คือคลังหลวง ต้นเหตุที่เราจะได้เน้นหนักทางคลังหลวงนี้ก็ดังที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว วงราชการผู้สำคัญซึ่งรักษาคลังหลวง บัญชีทุกอย่างอยู่กับท่านผู้นี้ เป็นผู้ใหญ่ในนั้นรักษาอยู่นั้น ก็มานิมนต์เราเสียเองไป ตอนนั้นดูเหมือนเราไปมอบทองคำนะ เราจำไม่ได้ แต่ว่าเป็นเวลาสำคัญที่เราจะเข้าคลังหลวงแต่ละครั้งนี้จะเป็นเวลาสำคัญ อย่างครั้งนั้นคงจะเป็นเวลาไปมอบทองคำครั้งแรก แล้วเจ้าหน้าที่ก็มานิมนต์เราไปดู โดยที่เราไม่ได้คิดอะไรว่าจะไปดู แต่เมื่อได้รับนิมนต์แล้วเราก็พอใจทันที อยากไปดูหัวใจของชาติว่างั้นเลย เราจึงได้ไปดู ไปดูก็สมเหตุสมผลกับเจ้าหน้าที่ที่มานิมนต์เราไป เปิดให้ดูทุกอย่างเลย นี่สมเหตุสมผลที่นิมนต์เราไป ไม่ใช่ไปเพียงเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไปจริง ๆ ไปด้วยความเชื่อถือไว้ใจกันจริง ๆ ระหว่างโลกกับธรรม โลกคืออาณาจักร ราชอาณาจักรไทย ธรรมครอบราชอาณาจักรไทยในบรรดาชาวพุทธของเราทั้งหลาย เรียกว่าธรรม

เมื่อมานิมนต์เราไปแล้วเราก็ไป ไปเฉพาะเท่านั้น ไปก็ไปดูทุกซอกทุกมุมเปิดให้ดูหมด ทองเป็นแท่ง ๆ ที่เก็บที่อะไรไว้นั่นก็มี แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเพราะอย่างนี้กับอยู่ข้างในมันเหมือนกันหมด เป็นแท่ง ๆ แท่งใหญ่ก็มี ส่วนมากเป็นแท่งใหญ่ ดูหมดเพราะดูด้วยพิจารณาจริง ๆ ไม่ใช่ไปดูเฉย ๆ ดูด้วยหัวใจฝังเข้าทุกแง่ทุกมุมด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความรับผิดชอบแห่งชาติไทยของเราจากทองคำนี่ว่างั้นเถอะพูดง่าย ๆ พอดูเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งกันเฉพาะสองต่อสองนะ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายเขาก็ไม่มาเกี่ยวข้อง มานั่งเฉพาะสองต่อสองคุยกันถึงพริกถึงขิง ถึงเหตุถึงผลต้นปลายรากแก้วรากฝอยของชาติไทยเรา อยู่ที่ทองคำ เวลานี้ได้เท่าไร ๆ คือมีอยู่เท่าไร ๆ เราก็ถามละเอียดลออ แล้วเก็บไว้ที่ใดบ้าง ๆ อะไรก็ถามกันละเอียดลออ เจ้าหน้าที่ก็แจงให้ทราบทุกแง่ทุกมุมเลยด้วยความไว้วางใจต่อกัน

ทีนี้พอออกมาแล้ว พอออกมาวันนั้นประกาศป้างวันนั้นเลยนะ ถึงขนาดที่ขู่พวกทีวีพวกนักข่าว ทุกวันนักข่าวทีวียั้วเยี้ย ๆ ประจำ เต็มอยู่ที่สวนแสงธรรม วันนี้ไปไหนกันหมด แต่เรามาค่ำสักหน่อย ก็เป็นเวลาที่พวกนั้นจะเลิก มันบันดลบันดาลนะ พอมาถึงก็ขึ้นป้าง ๆ เลยเทียวเกี่ยวกับเรื่องทองคำ ก็พอดีทางทีวีก็มา วิทยุ นักข่าวก็มา ก็ประกาศในเวลานั้นเลย ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้เน้นหนักทางเรื่องทองคำมาก ว่าทองคำที่เป็นหัวใจของชาติเรามีน้อยมากทีเดียว ขอให้พี่น้องทั้งหลายตื่นเนื้อตื่นตัวทุกคน รีบเร่งขวนขวายหามา ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้ จึงต้องเน้นหนักทองคำมาตลอดนะ ส่วนอื่นก็เป็นอันดับรองกันลงไป สำหรับทองคำนี่เราเน้นหนักจริง ๆ คือสมมุติว่ามีใครมาแตะนี้คอหลวงตาบัวขาดทันทีเลยนะ ขนาดนั้นนะ สละเพื่อพี่น้องชาวไทยเราด้วยความเมตตาล้วน ๆ เราช่วยโลกเราช่วยขนาดนี้นะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบ

ชาวไทยเราเป็นชาวพุทธ ทั่วประเทศไทยเป็นชาวพุทธ ไม่ว่าวงราชการวงไหน ตั้งแต่รัฐบาลลงมาเป็นลูกชาวพุทธ ขอให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมนี้เป็นสำคัญมาก หัวใจแห่งชาติไทยเราอยู่กับธรรม ถ้าไม่มีธรรมแล้วแตกกันทันทีเลย ธรรมเท่านั้นเป็นที่ประสานเอาไว้ทั้งหมด ให้รู้ดีรู้ชั่วรู้ผิดรู้ถูกทุกอย่าง อยู่กับธรรมเป็นผู้ชี้แจงด้วยความไม่ผิดพลาดเลย เรียกว่า สวากขาตธรรม นี่เราถอดออกมาจากหัวใจนะที่มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง พูดจริง ๆ เพราะเราพูดด้วยความสงสาร ไม่ได้พูดแบบโลก ๆ เขาพูดกัน หาว่าโอ้ว่าอวดอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นเรื่องของโลกเขาพูดกัน

ธรรมล้วน ๆ นี้ออกยังไงบอกอย่างนั้น เช่น ธนบัตรใบละร้อยนี้จริง บอกร้อยหนึ่งเลย ปลอมพันฉบับก็ไม่มีความหมาย เป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านไม่มีความหมายเพราะเป็นของจอมปลอม ของจริงออกมา ธนบัตรหนึ่งร้อยบาทก็จริงร้อยบาท หนึ่งพันก็เป็นหนึ่งพัน นี่เรียกว่าธรรม ธรรมแท้เป็นอย่างนั้น มีเท่าไรเอาออกมา ๆ จะผิดไปไหน ธนบัตรจริงธนบัตรปลอมออกมาได้ด้วยกัน ธนบัตรปลอมออกมาเท่าไรไม่มีความหมาย ๆ ธนบัตรจริงออกมาเท่านั้น ห้าบาทจริงแล้วห้าบาท ชนะหมด ธนบัตรปลอมทั้งหลายเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ เป็นกี่ล้าน ๆ ก็ตามไม่มีความหมาย ธนบัตรเพียงห้าบาทเท่านั้นเป็นของจริงชนะไปหมด นี่เรียกว่าธรรมเหนือโลกเหนืออย่างนี้เอง พี่น้องทั้งหลายทราบไหม ไม่ว่ามากว่าน้อยธรรมออกนี้เป็นความถูกต้องแม่นยำตายใจกันได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องชาวไทยฟังเสียงธรรมนะ

เราอยู่ด้วยกันมีน้ำหนักเท่ากัน ชาติไทยด้วยกัน เป็นมนุษย์ด้วยกัน เกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรมดีกรรมชั่วเหมือนกัน อย่าได้ดูถูกเหยียดหยามกัน อย่าเห็นแก่เนื้อแก่ตัว เห็นแก่พวกของตัว เห็นแก่คณะของตัว อันนี้เป็นการเหยียบย่ำทำลายชาติซึ่งเป็นส่วนใหญ่เต็มประเทศไทยนี้ให้เสียหายไปหมด ล่มจมไปได้เพราะความเห็นแก่ตัวอันเป็นฟืนเป็นไฟ เหมือนอย่างไม้ขีดไฟ กองสมบัติเงินทองข้าวของตึกรามบ้านช่องขนาดไหนก็ตาม ไม้ขีดไฟเพียงก้านเดียวจ่อเข้าไปเท่านั้นพังหมดเลย นี่คือความชั่วช้าลามก ความเป็นฟืนเป็นไฟเผาโลกได้อย่างนี้เอง เช่นเดียวกับไม้ขีดไฟก้านเดียวเผาได้หมดอะไรไม่มีเหลือเลย นี่ละความชั่วช้าลามก จึงขอให้พากันกำจัดมันออก

หลวงตาได้ช่วยพี่น้องชาวไทยเรานี้ก็บอกชัด ๆ อยู่แล้วว่า หลวงตาไม่เป็นภัยต่อผู้ใด ธรรมเป็นธรรมล้วน ๆ มาประจำอยู่ประเทศไทยของเรา แต่คราวนี้หลวงตาเป็นผู้เอาออก คำว่าเอาออกนี้เราขอเรียนโดยตรง เรียนเราก็เรียนมา เขาให้ชื่อว่ามหาบัว หลวงตาบัว ก็เรียนมานั่นแหละ เขาให้ชื่อว่าหลวงตาบัว มหาบัว ก็เรียนมาเหมือนกัน ทางภาคปฏิบัติเราก็ได้ออกปฏิบัติตามทางของศาสดาที่ทรงสอนไว้ในธรรม ๓ ประเภทที่กลมกลืนเป็นอันเดียวกันแล้ว เต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เต็มบาทเต็มเต็ง คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ปริยัติได้แก่ตำรับตำรา ซึ่งเปรียบเหมือนกับแบบแปลนแผนผังของบ้านของเรือน ตำรับตำรานี้เป็นแบบแปลนแผนผังของบุญของบาป ของนรก สวรรค์ พรหมโลก มรรคผลนิพพาน นี่แปลนของธรรม

แล้วปฏิบัติ นำแปลนของธรรมที่เรียนจดจำได้แล้วนั้นออกมากาง ปฏิบัติตัวเอง ซึ่งเท่ากับการสร้างบ้านสร้างเรือนนั่นแล ปฏิบัติตัวเอง เช่น ปฏิบัติทางศีล เอา รักษาให้ดีให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ในศีลของเรา เราทั้งคนเป็นศีลทั้งดวงเต็มตัวของเรา จากนั้นก็บำเพ็ญสมาธิ เราทั้งคนเป็นสมาธิทั้งคน ปัญญา วิมุตติหลุดพ้น เราทั้งคนพร้อมทั้งจิตเป็นองค์มรรคองค์ผลเต็มตัวของเรา นี่เรียกว่าปฏิบัติเป็นผลขึ้นมาให้เป็นศีลเต็มองค์ สมาธิเต็มองค์ ปัญญาเต็มองค์ วิมุตติหลุดพ้นเต็มองค์

ปฏิเวธ รู้แจ้งแทงทะลุว่าเราเต็มทุกอย่างแล้วในบรรดาธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้แล้วตั้งแต่ปริยัติ เป็นแบบแปลน ภาคปฏิบัติเราก็ได้ก่อตั้งตัวของเรา บำรุงรักษาตัวของเรามา ตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิชชาวิมุตติหลุดพ้นเต็มหัวใจเราแล้ว นี่เรียกว่าปฏิเวธ ภูมิใจได้เห็นผลของตัวเองที่ปฏิบัติมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผลได้เป็นที่พึงพอใจ นี่เรียกปฏิเวธ ความรู้แจ้งเห็นชัดในผลของตัว

ทั้งสามประเภทนี้แยกกันไม่ออก ศาสนาถ้ามีแต่ปริยัติก็เหมือนกับมีแต่แปลนนั่นแหละ ตึกรามบ้านช่องไม่ก่อไม่สร้างไม่มี มีแต่แปลนเต็มห้องก็เป็นแปลนเต็มห้อง พระไตรปิฎก ๓ ปิฎกก็มีแต่พระไตรปิฎก เรียกว่าแปลนของธรรม แปลนของมรรคผลนิพพาน แปลนของศาสนา เมื่อแจงอันนั้นออกมาแล้วก็มาเป็นอย่างที่ว่านั่น เป็นศีล สมาธิ ปัญญา วิชชาวิมุตติ เป็นคนบุญคนกุศลเข้าไปเรื่อย ๆ สร้างบุญสร้างกุศลขึ้นไป นี่เรียกว่าเป็นภาคปฏิบัติของเรา การให้ทานก็เป็นภาคปฏิบัติ การรักษาศีลรักษาธรรม การรักษาเนื้อรักษาตัวตามที่ท่านสอนไว้ เรียกว่าเป็นภาคปฏิบัติต่อตัวของเรา ๆ สำเร็จลงไปโดยลำดับ นี่เรื่องของศาสนาเป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีแต่แปลนนะศาสนา

เหมือนอย่างเขาปลูกบ้านปลูกเรือนไม่มีแต่แปลน แปลนเพื่อจะปลูกเป็นต้นเป็นลำขึ้นมา คือตึกรามบ้านช่องถนนหนทาง เป็นแปลนบอกไปหมด เราทำตามนั้นก็สำเร็จรูปร่างขึ้นมาตามนั้น นี่แปลนของพุทธศาสนาก็อย่างนั้นเหมือนกัน

ทีนี้ย่นเข้ามาถึงทางภาคปฏิบัติ เบื้องต้นเราก็บอกปริยัติเราก็เรียนมา เรียนมามากน้อยเราพูดตามหลักความจริงซึ่งเป็นในหัวใจ เรียนอะไรสงสัยไปหมด ทั้ง ๆ ที่ธรรมะที่ท่านบอกไว้ในแปลนเป็นของจริง ๆ แปลนธรรมะแปลนศาสนานี้เป็นของจริงล้วน ๆ แต่ผู้เรียนในแปลนของศาสนาสงสัยไปตลอดเลย ก็เหมือนอย่างที่เราดูในแปลนนั่นแหละ เห็นอยู่ในกระดาษมันก็ยังไม่ได้แน่ใจ เป็นแต่เพียงว่าอย่างว่า บ้านหลังนี้จะเป็นอย่างนี้ ๆ แต่ก็ไม่พ้นความสงสัย ต้องปลูกขึ้นมาตามแปลน จนกระทั่งสมบูรณ์แบบในตึกรามบ้านช่องนั้น เรียกว่าความสงสัยหายหมด อันนี้มรรคผลนิพพานก็เหมือนกัน แปลนของมรรคผลนิพพานท่านแสดงไว้ยังไง ปฏิบัติตามนั้น ๆ หายสงสัยไปลำดับ ๆ

นี่ก็ย้อนเข้ามาถึงภาคปฏิบัติ พูดถึงเรื่องศีลก็ภูมิใจตลอดเวลา คิดดูอยู่ในป่าในเขา เอ้า ตายก็ตาย เพราะเรามุ่งต่อมรรคผลนิพพานอย่างสูงสุด วิมุตติพระนิพพานเท่านั้น แล้วศีลเป็นภาคพื้นแห่งความอบอุ่นของเราแล้ว หากว่าตายในเวลานี้เราก็ไปสวรรค์แน่นอน มันแน่อยู่ในหัวใจนะ เพียงขั้นนี้มันก็แน่แล้ว อบอุ่นภายในใจ เป็นตายไม่กลัว อันตรายอยู่ที่ไหนเข้าที่นั่น คือใจนั้นละมันหลอกว่าอันตรายที่นั่น มีเสือที่นั่น มีช้างที่นี่ มันหากหลอก นั่นละกิเลสหลอก

ทางธรรมะเข้าเลย เพื่อจะทดสอบทุกอย่างระหว่างธรรมกับกิเลสมันหลอกกัน กิเลสหลอกเสือที่นั่นเสือที่นี่ ธรรมจับเข้าไป เสืออยู่ที่ไหน เสือก็สัตว์ เราก็สัตว์มันจะเป็นอะไร เสือก็กินสัตว์ เราก็กินสัตว์ กลัวกันอะไร ต่างคนต่างเป็นยักษ์เหมือนกันถ้าว่ายักษ์ ต่างคนต่างกินกันมาตลอด เรามาบวชเป็นพระนี้เราก็กินกับญาติกับโยมเขา เขาเอาอะไรมาให้พวกกุ้งพวกปลาอะไร ฟาดไปได้หมด เราทำไมจะไปกลัวตายที่นี่ สัตว์ที่เขาอยู่ในท้องเราเขาไม่กลัวตายเหรอ ทำไมเรากินเขาได้ ทีนี้เราเข้ามาในป่าเรากลัวตายหาอะไร นั่นละเข้าใจไหม

เอาธรรมฟัดกันเข้าไป เอ้า ตายก็ตาย ฟาดเข้าไป ๆ เข้าไปสู่ที่จำเป็นเท่าไรสติกับจิตติดกันแนบ ๆ นั้นคือความเพียรของธรรมขึ้นที่นั่น จิตมีความแน่นหนามั่นคงมากขึ้น ๆ เห็นชัด ๆ ภาคปฏิบัติ นี่ภาคปฏิบัติเห็นอย่างนี้ ศีลก็สมบูรณ์ สมาธิก็แน่นหนามั่นคง อบอุ่นมากขึ้น ๆ ก้าวเข้าไป ๆ เห็นประจักษ์อย่างนี้ในหัวใจ จนกระทั่งถึงสมาธิเต็มภูมิ ๆ

ธรรมมีเมืองพอนะ เรื่องกิเลสไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอ น้ำล้นฝั่ง ๆ อันนี้เรื่องของกิเลสเป็นอย่างนั้น แต่เรื่องของธรรม พอ ๆ พอถึงสมาธิเต็มภูมิพอ ถึงขั้นปัญญาก้าวออก เอ้า กิเลสมีเท่าไรฟาดฟันหั่นแหลกกันเรื่อย ๆ ด้วยสติปัญญาที่รู้แจ้งแทงทะลุไปตามอำนาจแห่งกำลังวังชาของสติปัญญาขั้นนั้น ๆ จะรู้ไปเห็นไป ฆ่ากิเลสไป ๆ สิ่งใดที่มาเกี่ยวข้องภายนอกภายใน มันจะสัมผัสสัมพันธ์ถึงกันหมด เพราะมันเหมือนกับอากาศ อากาศนี้ทั่วไปหมด อย่างเขาพูดโทรศัพท์ที่ไหนถึงกันทันที กระเทือนถึงกัน นี้สิ่งภายนอกทั้งหลายกับภายในที่มาเกี่ยวข้อง พวกเปรตพวกผี เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมนี้เกี่ยวโยงกันไปหมด สติปัญญาหยั่งลงไปที่นี้แล้วมันจะกระจายถึงกันหมด ปฏิเสธได้ยังไงว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มี

เราปฏิเสธได้ไหมว่าอากาศไม่มี นั่นฟังซิ มันก็ยอมรับกันแล้วอากาศมียังไงไม่มียังไง พูดยังไงถึงกันหมด ๆ เวลานี้ ทั่วโลกพูดถึงกันหมด ยอมรับกันหมดแล้ว อันนี้เรื่องหลักความจริงมีมาดั้งเดิมอยู่แล้วเช่นเดียวกับสิ่งเหล่านี้ เป็นแต่เพียงว่าไม่มีใครค้นคิดขึ้นมาใช้ได้ ก็ว่าไม่เห็นไม่มีแต่ก่อนนะ เวลาค้นคิดขึ้นมาได้แล้วยอมรับกันทั่วโลกเห็นไหมล่ะ อันนี้ธรรมะค้นคิดขึ้นมาแล้วก็ยอมรับทั่วแดนธรรมของผู้ปฏิบัติศาสนาที่รู้ตามกำลังความสามารถของตนในสิ่งต่าง ๆ นั่น นี่ก็เป็นเหมือนกัน เราปฏิบัติมาอย่างนั้น ฟาดลงไปอะไรมันก็กระจ่างออก ๆ ไม่ต้องไปถามใครนะ

ที่เรียนมามากน้อยล้มไป ๆ ความจริงเข้าถึงไหน ความจำหรือความสงสัยล้มละลาย ๆ ความจริงออกหน้า ๆ เลย รู้แจ้งเห็นชัด ฟาดกิเลสขาดสะบั้นออกจากหัวใจไม่มีอะไรเข้ามาขัดข้องแม้เม็ดหินเม็ดทราย กระจ่างแจ้งหมด เปิดออกมาในหัวใจไม่ต้องไปถามใคร ไม่ต้องไปหาใครมาเป็นพยาน ดังพระพุทธเจ้าตรัสรู้เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นสอนโลกได้ถึงสามแดนโลกธาตุ นี้ตัวเท่าหนูมันก็เป็นจะว่าไง เมื่อมันรู้มันเห็นอันนี้มันก็เต็มภูมิของหนูจะว่าไง ปฏิเสธได้หรือว่าไม่รู้ไม่เห็น

ใครจะมาตำหนิติเตียนยกโทษยกกรณ์อะไร เป็นเรื่องปากของสัตว์ที่อยู่ในถังขยะมันเห่าว้อก ๆ ในถังขยะ มันก็ลงไปในถังขยะตามเดิม ธรรมไม่ใช่ถังขยะไปสนใจอะไรกับสิ่งเหล่านั้น ธรรมเป็นธรรม นั่นละตรงนั้นที่เอามาสอนโลกเวลานี้ เราไม่ได้สอนด้วยธรรมดานะ สอนด้วยความเมตตาเต็มสัดเต็มส่วนทุกแง่ทุกมุม อันใดผิดจึงบอกว่าผิดตรง ๆ ไปเลย อันใดถูกก็บอกว่าถูกให้พากันส่งเสริม อันใดผิดให้รีบพากันแก้กันถอนออกไป ๆ ไม่งั้นบ้านเมืองของเราจะล่มจมจริง ๆ นะ ถ้าไม่ฟังเสียงธรรมแล้วจมได้ไม่สงสัย เรื่องกิเลสไม่พาใครให้เจริญรุ่งเรือง นอกจากพาให้ล่มจมกันทั่วโลกดินแดนเท่านั้น ถ้าธรรมไปอยู่ที่ไหนจะมีความผาสุกเจริญร่มเย็นเป็นสุข มีมากมีน้อยชุ่มเย็นไปตาม ๆ กัน ให้พากันฟังเสียงอรรถเสียงธรรม

แล้วก็สุดหัวใจแล้ว พูดเข้ามาถึงเรื่องทองคำ เราถึงเน้นหนักในทองคำมากทีเดียว คิดดูซิตั้งแต่เงินสดที่เอาเข้าธนาคารนั้นน่ะ เราพูดแต่เพียงว่า ๘๐๐ ล้าน ๘๐๐ ล้านจะหักเข้าซื้อทองคำทั้งหมดนะ เพราะหัวใจมันยังบกพร่อง ๆ อยู่ในทองคำยิ่งกว่าสมบัติอื่นใด จึงต้องได้หมุนเข้ามาเงินได้มากน้อย ทั้ง ๆ ที่เราจะเอาเงินจำนวนนี้ออกเป็นเงินหมุนเวียนช่วยทั่วประเทศไทย ก็ยังเห็นว่าทองคำยังมีน้ำหนักมากกว่าคนทั้งประเทศเสียอีก เพราะคนทั้งประเทศอาศัยทองคำเป็นหัวใจ จึงต้องหมุนเข้ามาที่นี่ แล้วก็จะเอาเงินเหล่านี้หมุนเข้าทองคำ มีมากกว่านี้ยังจะหมุนเข้าไปมากยิ่งกว่านี้ อย่างที่ว่า ๕๐ กว่าล้านนั้นถ้าหากว่าไม่จำเป็นเราก็ไม่แยก เพราะอันนี้หนักแน่นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจริง ๆ เราไม่แยก

อย่างที่เป็นอยู่ระยะนี้เราไม่แยก เราช่วยเต็มกำลังความสามารถช่วยบ้านช่วยเมืองช่วยอย่างนี้แหละ ยังไม่จำเป็นไม่เข้าไปแตะเงินจำนวนเหล่านี้ เพราะเวลานี้ยังไม่เคยถอนแม้สตางค์หนึ่งนะ เงินจำนวน ๘๕๐ กว่าล้านนี้ไม่เคยถอนเลยแม้ครั้งเดียวบาทเดียว อยู่นั้น บรรดาพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยโอนเข้ามาก็เข้าในนี้ ๆ เพิ่มกันเข้าไปในนี้ หากว่าควรจะแยกเราจะพิจารณาของเราเองการแยกนะ เพราะแยกด้วยความรับผิดชอบความห่วงใยในชาติของตนว่างั้นเถอะนะ เต็มกำลัง อันไหนมีน้ำหนักมาก คือเป็นประโยชน์มากหมุนเข้าทางนั้น อันไหนที่ควรจะหมุนทางไหนเราจะพิจารณาของเราเองในเงินจำนวนเหล่านี้นะ เพื่อชาติไทยของเรา ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบตามนี้

วันนี้พูดเพียงเท่านี้เสียก่อน ว่าจะไม่พูดมันก็ได้พูดอย่างนี้แหละ เวลานี้ก็ได้แล้วนะทองคำได้ ๒,๐๘๓ กิโล ที่เรากำหนดไว้ ๔,๐๐๐ นั่นหมายถึงพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศให้ได้ทองคำมาเป็นเนื้อเป็นหนัง ๔,๐๐๐ กิโล ที่เงินในธนาคารนี้เราจะหักไว้สำหรับซื้อทองคำขึ้นต่อยอดต่างหากนะ ใครอย่ามายุ่งเงินจำนวนนี้ ยุ่งไม่ได้ถ้าไม่อยากให้ข้อมือหักอย่าเอื้อมออกมา ตีจริง ๆ ให้ระวังสงวนข้อมือไว้ให้ดี เอื้อมออกมาจะมายึดเอาเงิน ๘๐๐ ล้านนี้ไปเข้าทองคำ ๔,๐๐๐ กิโล อยากมือหักให้เอื้อมมาว่างั้นเลย เข้าใจไหม ตีปัวะทันที จำเอาไว้นะทุกคน เวลาเด็ดต้องเด็ด ใครไม่อยากให้ข้อมือหักอย่าเอื้อมมา เอาละพอ ให้พร

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com