สำคัญอยู่ที่การไปอยู่
วันที่ 17 มิถุนายน 2552 เวลา 7:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๒

สำคัญอยู่ที่การไปอยู่

          เราให้ท่านอุทัยไปอยู่ที่นั่น จากภูวัว ภูวัวนี้ท่านเสถียรว่าอย่างนั้นนะ ท่านเสถียรแทนได้ท่านว่าอย่างนั้น แสดงความพอใจ เราก็เลยขอให้ท่านไปอยู่ที่นั่น เขาใหญ่ ท่านมาจริงๆ แล้วสู้ภูวัวไม่ได้นะ ท่านพอใจในคำพูดของเราที่ปรึกษาหารือพร้อมกับการขอร้องให้ท่านไปอยู่ที่นั่น ภูวัวนี่สำคัญมาก ตั้งแต่นั้นมาเราไม่เคยไปเลยภูวัว ภูวัวนี่โอ๋ยเหมาะมากทีเดียว นั่นละที่ได้ส่งอาหารภูวัวก็เพราะเราไปเอง คือท่านอุทัยท่านชอบในที่สงบสงัดมีภูเขาเป็นสำคัญตั้งแต่ต้นมานะ อยู่ด้วยกันสององค์สามองค์ ภูวัวก็ดูเหมือนสองสามองค์ไม่มาก

          คือท่านอยู่นั่นสงสารครอบครัวเขายากจน มีสองสามหลังคาเรือน ท่านไปพักภาวนาก็ดีท่านว่า เขาอดอยากขาดแคลนเราก็คิดเกรงใจเขา เราจะไปแล้วเขาไม่ยอมให้ไป เขาว่าอย่างนั้น ถ้าพวกผมไม่ตาย ท่านไม่ตาย เขาว่าอย่างนั้น คือทางหนึ่งมีศรัทธาเลื่อมใส แม้แต่ตนก็มีความจงรักภักดีและเคารพเลื่อมใสต่อท่าน คนหนึ่งว่าถือพระเป็นพ่อเป็นแม่ในที่นั่นเลย ไม่ยอมให้ท่านอุทัยไปไหน ท่านอุทัยก็เห็นความยากจนของเขา   ท่านก็อยากไปที่อื่น เขาไม่ยอมให้ไปนะ ผมไม่ตายท่านไม่ตาย เขาว่า เลยอยู่นั้นเรื่อยมาจนกระทั่งไปอยู่เขาใหญ่ ปากช่อง

          ถ้าพูดถึงเรื่องความสงบสงัดเหมาะสมแล้วที่ภูวัวเหมาะมาก แต่ที่นั่นต้นไม้มันก็จะขึ้น เพราะสถานที่นั่นเขาถากถางเตียนโล่งหมดที่เขาใหญ่นะ ดูเหมือนสนามกอล์ฟหรือแก๊บอะไร โล่งหมดเลย แต่เขามาถวายเราอีก เราก็มาพิจารณาสถานที่แถวนี้ไม่มีพระกรรมฐาน จุดใหญ่สำคัญตรงนั้น มองไปที่ไหนก็ไม่มีเอ๊ทำอย่างไร แล้วเขามาถวายที่ ๗๐ ไร่ อยู่ๆ เขามาถวายเลย เราไปที่นั่น แล้วอีก ๓๐ ไร่ก็มาอีกเป็น ๑๐๐ ไร่พอดี เอ๊ทำอย่างไรนา เราอดคิดเหมือนกัน มันก็โดนแต่อย่างนี้ละ

          อย่างวัดเมืองกาญจน์วัดเสือก็เหมือนกันนะ มองไปแล้วเห็นท่านจันทร์ท่านภาวนาอยู่แถวนั้นละ ท่านออกจากวัดนี้ไป บวชแล้วเข้าอยู่ที่นี่เลยตั้ง ๕-๖ ปีท่านถึงได้ออกไปจากนี่ ไปก็ไปอยู่ที่นั่น เราก็ไปที่นั่น เขาก็มาถวายที่ที่แถวท่านจันทร์อยู่นั่นละ มันก็เหมาะสมอีกแหละ มองดูกรรมฐานแถวนี้ไม่มีเลย เราเลยให้ท่านจันทร์ ท่านจันทร์มาหาเรา เราเลยปรึกษาหารือท่าน ท่านพอใจรับให้ เราเลยมอบวัดเสือนั่นให้ท่านเลย จนกระทั่งทุกวันนี้ เป็นอย่างนั้นละไปที่ไหนก็ถวายที่ๆ

          ทางปราจีนก็เอาอีกและ เขาก็ถวายที่เป็นวัดถวายเลย เรามองหาใครไม่เห็น รับทราบไว้ก่อนนะ เราก็คิดเห็นแต่ท่านป้าง ท่านป้างเป็นคนอำเภอศรีมหาโพธิอยู่นั้นแหละ ใกล้ๆ กัน เราก็มองเห็นอันเดียวจะเป็นอย่างไรไม่รู้ละ ท่านก็อยู่นี้อยู่กับเราตั้งแต่เป็นเณรนะ จนป่านนี้ดูเหมือน ๑๕-๑๖ พรรษา เป็นอุปัฌาย์ไปได้แล้ว ก็ดีนะ นิสัยดี แล้วมีพระองค์หนึ่ง หลวงตาองค์หนึ่งมาอยู่ปฏิบัติลักษณะท่าทางเราไม่ค่อยไว้ใจนัก มากับเณรล่ะ เราให้ไปหลวงตาองค์นั้น เณรนี้เราให้อยู่ที่นี่ไม่ให้ไปด้วย ก็อยู่เรื่อยมาตั้งแต่เป็นเณรเดี๋ยวนี้ดูเหมือน ๑๕-๑๖ (๒๑ ปีแล้วครับ) นั่นแหละ ท่านก็อยู่กับเรามาเรื่อยมาจนป่านนี้ละ

          ชื่อท่าน..ทางบ้านเขามานี้เขามาพูดถึงเรื่องท่านสมบูรณ์ เรียกท่านสมบูรณ์ แต่ทางบ้านมาเขาเรียกท่านป้าง เราจับได้ปั๊บเลยป้างเลย เลยป้างเรื่อยมาจนป่านนี้ละ ถ้าเป็นเรื่องตลกแล้วเอาทีเดียวเราปั๊บเลย ชื่อว่าท่านป้าง เออดีแล้ว เลยมีแต่ป้างๆ เรื่อยมา นี่เขาถวายที่นี่ก็รออยู่ ท่านป้างอยู่กับนี่เท่าไรปีแล้วน้า ๒๑ ปี ท่านก็เรียบร้อยอยู่นะ เรียบร้อยตลอดมาตั้งแต่เป็นเณร เขาถวายที่ให้เป็นวัด แถวนั้นไม่ค่อยมีวัดกรรมฐาน แล้วคอยดูท่านป้างเป็นอย่างไร จะพอรักษาตัวได้ไหม ถ้ารักษาตัวได้แล้วก็ไปอยู่ได้ มันสำคัญอยู่ที่การไปอยู่

วัดไปไหนมันอดอยากอะไร มีแต่คนจะถวายวัด เราไม่เอา เอาก็ต้องหาผู้มาอยู่อย่างนี้ละ อย่างที่ว่าเมืองกาญจน์ก็ได้ท่านจันทร์มาอยู่ เขาถวายที่เหมาะสม เราเลยให้ท่านอยู่ที่นั่น ท่านอยู่กับเสือนะนั่น มีเสือน้อยเมื่อไร (ประมาณ ๓๐ ตัว) เสือเยอะอยู่ในวัดท่าน แล้วคุ้นกับคนนะเสือ บางตัวหยอกเอามาเล่นได้กับคน เที่ยวไปกับคนไปเลย ไปไหนเอาไปด้วย จับหูดึงไปด้วย ไปไหนจับหูดึงแล้วไปเลย ดีอยู่นั้น ก็ดีอยู่ที่นั่น ท่านจันทร์อยู่นั่นละ สัตว์หลายประเภทนะมาอยู่ที่นั่น ม้าก็มีมาจากในป่านะมีที่นั่น แล้วตอนเช้าพวกนกยูง หมูป่ามากินข้าว ต้องได้จัดที่เลี้ยงไว้ เลี้ยงสัตว์เหล่านั้น พอดีพวกฝรั่งเขามารับภาระให้ก็เลยเบาใจไป เดี๋ยวนี้มีฝรั่งมารับภาระแทนเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้

มันก็เป็นไปตามนิสัยแหละ ผู้ที่ชอบกับสัตว์อย่างท่านจันทร์อยู่กับสัตว์เต็มไปเลย มีแต่สัตว์ทั้งนั้น อยู่ในป่าก็มานะ สัตว์ในป่าแท้ๆ ละมาเอง ตอนเช้าหมูมา นกยูง มานะตอนเช้า พวกหมูก็ดี พวกนกยูงก็ดี มากินข้าวกับท่านเป็นร้อยนู่นนะ ไม่ใช่น้อยๆนะ ไหลมาจากภูเขา มีเยอะนะ มีแต่สัตว์ป่าเต็มอยู่ในวัด มันมาเองนะ เข้ามาเองมาอยู่ด้วยกัน

วันหนึ่งเสือมาซิ กุฏิหลังนั้นพวกสัตว์เหล่านั้นกับพระไม่ได้สนใจ..หรือจะกุฏิท่านสมภารหรือเปล่าไม่รู้ พอดีเสือเขามานั่น โอ๊ยเสียงสัตว์ร้องเต็มวัดเลยนะ เสือตัวเดียวเสือป่า มันมีเสือบ้านอยู่ในนั้น มันได้กลิ่นกันแล้วมันก็มา พอมาทีนี้ม้าวิ่งร้องลั่น ทั้งสัตว์ทั้งหลายร้อง มาตัวนั้นวิ่งเข้าไปชนกุฏิพระสมภารวัด มันไม่เคยไปสักทีแต่ก่อน พอเสือเข้าวัดตัวเดียวเท่านั้นละม้าตัวนั้นวิ่งเข้ามา มาชนกุฏิพระ พระก็ออกมาเห็นแสงไฟของพระ เสียงพวกสัตว์ทั้งหลายร้องลั่น ท่านเลยบอกมันถ้ามึงจะอยู่เป็นเสือบ้านมึงก็ในกรงนี่นะ กรงนี้มีเสือ มันมีกลิ่นเพื่อนมัน ถ้ามึงไม่อยากอยู่มึงก็ไป มันเลยไป หายเงียบเลย เสือตัวเดียว ในวัดเสียงสัตว์ร้องลั่นเลยนะ กลัวเสือ พอดีม้าวิ่งไปชนกุฏิสมภาร สมภารออกมาจึงเห็นพระฉายไฟมา พอทราบว่าเสือมาเท่านั้นละร้องเรียกให้มันมาอยู่ มันไม่อยู่ เลยไปเลยนะ นั่นละเสือป่าตัวเดียวเข้ามาในวัด พวกสัตว์ในวัดนั้นเสียงลั่นไปหมดนะ อำนาจเสือป่าไม่ใช่เล่นๆ นะ มันเข้ามาเอง เพราะมันมีเพื่อนอยู่นั้นเยอะ ให้พร

 

                รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

 www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

     และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz

พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก