เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
อัศจรรย์ใจเจ้าของ
สร้างตึกสงฆ์อาพาธ ๒๐๐ ล้านบาท โอ๊ย อะไรก็จะยกๆ ยกเพื่อบ้านเพื่อเมือง เราพูดจริงๆ หนักมากอยู่นะ ไม่มีเวลาเบาบางเลย ยกเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อลูกเพื่อหลานนั้นแหละ สำหรับเราเองเราพูดจริงๆ หมดที่จะยกอะไรเจ้าของ ยกตัวเจ้าของหมด ร่างกายมันก็หมดสภาพแล้วยกมันหาอะไร มีแต่จะยกเข้ากองฟืนเท่านั้น ที่จะยกให้ไปไหนอีกไม่มีร่างกาย ทางด้านจิตใจจะยกไปไหนอีก ปฏิบัติมาได้ ๗๐ กว่าปี มีแต่ทางด้านจิตใจนะ บวชมาคราวนี้นับว่าเป็นวาสนาอยู่ เรียนก็เรียนจริงๆ เรียนด้วยความมุ่งหมายจะออกปฏิบัติ จุดหมายอยู่ที่นั่นมันก็ไม่เถลไถลซีจิต พอเรียนจบปุ๊บออกเลยทันทีปฏิบัติ จากนั้นก็ออกทะลุเรื่อยเลย จึงว่าไม่ได้เถลไถล
เรียนหนังสือ ๗ ปี จากนั้นออก ๙ ปี ในระยะ ๙ ปี ขึ้นเวที ไม่มีกรรมการแยกมวย ฟัดกันเลยละ เพราะนิสัยเรามันเป็นอย่างนั้น ถ้าว่าอะไรเอาจริงจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา เราก็ได้พิจารณาเราประกอบความเพียรมาตั้งแต่ล้มลุกคลุกคลาน มันมีความท้อแท้อ่อนแอปวกเปียกที่ไหนไม่มี มีแต่ซัดกันเลย พลิกคว่ำพลิกหงาย นักมวยวัดต่อยกันก็ซัดพลิกคว่ำพลิกหงาย ตั้งแต่มวยวัดไปละพลิกคว่ำพลิกหงาย ซัดกันๆ เอาจนกิเลสพังเลย นั่นเห็นไหมล่ะ
นี่พูดจริงๆ พังจริงไม่มีเหลือ กิเลสนี่หมด ใครก็ตามถ้าไม่เข้าในหัวใจเจ้าของ ไม่ชัด ถ้าลงเข้าในหัวใจเจ้าของว่าหมดแล้วไม่ต้องไปถามใคร พระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกไม่ถามกัน มาเป็นอันเดียวกันเลยแล้วจะถามกันหาอะไร ถามคนนี้ก็เหมือนอันนี้ ถามอันนี้เหมือนอันนี้ มันอันเดียวกัน บอก..พระพุทธเจ้าเท่านั้นละปั๊บเป็นอันเดียวกันเลยนะ ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาถึงพระอรหันต์เข้าปุ๊บอันนั้นแล้วเป็นอันเดียวกัน ไม่ถามกันละ นี่ขั้นไม่ถามกันไม่ถาม ขั้นที่ศึกษาเล่าเรียนเอาจนแทบเป็นแทบตาย
อยู่กับครูบาอาจารย์เฉพาะอย่างยิ่งหลวงปู่มั่นซัดเลยกับเรา เวลาคุยกันธรรมดานี้เหมือนพ่อกับลูกนะ หลวงปู่มั่น พูดคุยกันธรรมดานี้เหมือนพ่อกับลูก พอหันเข้าธรรมะปึ๋งเลย โอ๋ย มองไม่ทันเลยธรรมะท่านนะ ทางนี้ก็คึกคักเลย มันก็เข้ากันได้ ผู้ที่สอนละเอียดลออมากที่สุดก็คือหลวงปู่มั่นเรา สอนละเอียดลออมากทีเดียว ท่านมรณภาพไปปีพ.ศ. ๒๔๙๒ ของเราฟาดกิเลสพังมัน ๒๔๙๓ ใกล้กันอยู่
(ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านจะชี้จุดให้หลวงตาสำเร็จ ๒๔๙๒ ละครับ) แน่ะ อันนี้มีส่วนใกล้เคียงมาก ที่ว่าพระสาวกทั้งหลายที่เข้าไปศึกษาธรรมะกับพระพุทธเจ้า ไปบรรลุธรรมต่อพระพักตร์ของพระพุทธเจ้ามีนะ คือแก้ปัญหาปั๊วะขาดสะบั้นไปทันทีมี เราก็มีจุดที่จะเป็นอย่างนั้นนะ เราจึงว่าเสียดายถ้าพ่อแม่ครูจารย์ยังมีชีวิตอยู่..คือธรรมะของเรามันอัศจรรย์เจ้าของ เรื่องราวมันเป็นอย่างนั้น มันสว่างจ้าไปหมดเลย ดูโลกธาตุนี้ว่างไปหมด สว่างจ้า อัศจรรย์ใจเจ้าของ ตอนตีสี่ตีห้าเดินจงกรมอยู่วัดดอยธรรมเจดีย์ ตีสี่ตีห้ายังไม่สว่าง ไปยืนรำพึงเห็นจิตมันอัศจรรย์เอามากมาย ตอนนั้นมันอยู่ขั้นว่างนะ ว่าง มันอัศจรรย์ ว่างไม่ใช่เล่นนะ ทำให้หลงได้เหมือนกัน เราก็อัศจรรย์ตัวเองเหมือนกัน แหม ทำไมจิตของเราจึงว่างไปหมด อัศจรรย์เอานักหนาน้า
พอว่าอย่างนั้นธรรมะก็ขึ้นมาเลย ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหนนั้นแลคือตัวภพ มันว่างจริง ตัวจิตนี้ยังไม่ว่าง นั่นละที่ว่ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหนนั้นละตัวภพ อยู่ที่จิตนั่นละ มันไม่อยู่ที่ว่าง มันอยู่ที่จิต ความหมายน่ะ พอท่านใส่เปรี้ยงเข้าไปนั้นมันอาจจะพังเลยกิเลสในตอนนั้นนะ เราเสียดายมันเป็นขึ้นมาแล้วจึงระลึกถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น เวลาแก้คนเดียวแก้ไม่ตก เดือนสาม พอเผาศพท่านเรียบร้อยแล้วไปนู้นไปทางจังหวัดเลย เข้าภูเขาถ้ำผาดักผาแด็กที่ไหน เดือนหกกลับมาก็ขึ้นดอยธรรมเจดีย์ ไปปลงกันลงที่นั่น ที่ว่าจุดนี้ไปลงที่นั่น ดูว่าวันที่ ๑๕ (๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ หลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ ๕ ทุ่มตรง) เออนั่นละ ถ้ามันเป็นชัดๆ อย่างนั้นธรรมดามันไม่ลืม อันนี้มันเฒ่าแก่มาแล้วมันลืมละเดี๋ยวนี้ลืม เป็นที่ไหนสำคัญๆ เป็นไม่ลืม นี่ก็ไปปลงกันที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ปลงปัญหานี้
เดี๋ยวนี้มีแต่อ่อนลงๆ ธาตุขันธ์อ่อนลงทุกวัน เดินโซซัดโซเซเดี๋ยวนี้นะ ธาตุขันธ์ก็อ่อน เป็นแต่เพียงว่าจิตใจไม่อ่อน จิตใจคงเส้นคงวาหนาแน่นตลอด แต่ธาตุขันธ์โซซัดโซเซ อ่อนมาก ปีนี้รู้สึกว่าอ่อนมาก เอาละทีนี้ให้พร
วันนี้ก็ไม่ไปไหน จะไปสกลนครกราบพ่อแม่ครูจารย์มั่น อันนั้นละที่ดูดอันหนึ่ง พอว่าวัดสุทธาวาสดูดทันทีเลยนะ ไม่มีจืดจาง คือพ่อใหญ่ของเราพ่อแม่ครูจารย์มั่นอยู่ที่นั่น มรณภาพก็มรณภาพที่นั่น เผาศพก็เผาศพที่นั่น รวมอันใหญ่ของท่านหลวงปู่มั่นอยู่นั้นหมดเลย เพราะฉะนั้นมันจึงดึงดูดมากกับเรา พอว่าวัดสุทธาวาสดูดทันทีเลย ไม่มีจืดจาง ไปก็กราบพระธาตุของท่าน อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุหมดนะ อยู่นั้นเป็นเม็ดๆ เท่าเม็ดข้าวโพดๆ นั่นละเรียกว่าอัฐิกลายเป็นพระธาตุ พอเป็นธาตุแล้วก็เรียกว่าเป็นพระธาตุไปเลยหลวงปู่มั่นเรา อัฐิกลายเป็นพระธาตุหมด เป็นเม็ดๆ สวยงามมาก
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|