ขอให้จิตคล่องตัวในการภาวนา
วันที่ 27 เมษายน 2552 เวลา 7:50 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒

ขอให้จิตคล่องตัวในการภาวนา

       (ตอนที่หลวงตาอยู่กับหลวงปู่มั่นท่านพูดให้ฟังอันไหนฉันได้ อันไหนฉันไม่ได้) เกี่ยวกับประเภทอาหาร แต่ก่อนไม่ค่อยมีละ พวกนมพวกเนยไม่มีแต่ก่อน มันพึ่งมีมาหลังจากนั้นละ พวกนมพวกเนยพวกน้ำตาลอะไรไม่มีแต่ก่อน ฉันจังหันมื้อหนึ่งเท่านั้นก็พอแล้ว ไม่เห็นท่านมีอะไรมาซ้ำๆ ซากๆ พร่ำๆ เพรื่อๆ อะไรไม่มี ถ้าวันไหนได้ฉัน บิณฑาตมาแล้วก็ฉันเท่านั้น น้ำอ้อยน้ำตาลน้ำอะไรไม่มี ของเหลือเฟือไม่มี อย่างมากก็ฉันแต่ตอนเช้า พวกน้ำอ้อยน้ำตาลไม่มีละ แม้สวนอ้อยสวนอะไรก็ไม่เห็นมี สวนอ้อยมันมีทีหลังนะ เข้าไปในป่าในเขาที่ไหนไม่เคยปรากฏว่ามีสวนอ้อย หลังๆ มานี่เขามีอ้อยขาย แล้วก็ทำอ้อยขายเป็นสินค้าไปเลย มันถึงมีเกลื่อนอยู่ทุกวันนี้นะ แต่ก่อนไม่มี โกโก้กาแฟอย่าไปถามหา พวกโกโก้พวกกาแฟอย่าไปถามถึงเลย อย่างมากฉันตอนเช้าแล้วก็พอๆ

         การอยู่พระกรรมฐานท่านไม่ได้สนใจกับสิ่งเหล่านี้นะ อยู่แต่ในป่าในเขาไม่ได้ออกมา ในป่าในเขามันจะมีอะไร ไม่เห็นมีอะไร อย่างมากก็ฉันข้าวเท่านั้น หากว่ามีกับบ้างเล็กๆ น้อยๆ ท่านก็ฉัน บางทีมีแต่ข้าวเปล่าๆ ฉันไปพอยังอัตภาพให้เป็นไป เพราะท่านไม่ได้สนใจกับรสกับชาติอะไรเลย เป็นแต่เพียงว่าพยุงร่างกายเพื่อความเพียรเท่านั้น เช่นอย่างฉันข้าวเปล่าๆ นี้เดินจงกรมตัวเบาไปเลยนะ การง่วงเหงาหาวนอนมีกับ ถ้ามีกับชนิดต่างๆ แล้วความง่วงเหงาหาวนอนมี ถ้ามีแต่ข้าวเปล่าๆ ไม่ง่วง เดินตัวเบาเลย การขบการฉันมันเกี่ยวกับพวกกับนะ ทำให้ง่วงเหงาหาวนอนพวกกับ ยิ่งผัดมันๆ ด้วยแล้ว โอ๋ย กล่อม หมูขึ้นเขียงแล้วไม่ลง

พระกรรมฐานจริงๆ ท่านสนใจด้วยนะอาหาร อะไรที่มันจะขัดต่อการภาวนาของท่านไม่เอาๆ จะว่าเอร็ดอร่อยมีรสมีชาติท่านไม่เอา ท่านเห็นแก่ธรรม ท่านหนักในธรรมมาก มีอะไรฉันไปพอยังอัตภาพให้เป็นไป แต่เวลาภาวนาจิตมันดีดผึงๆ มันต่างกันนะ กับสำคัญอยู่มาก มีแต่ข้าวเปล่าๆ ไม่เป็นอะไร ตัวเบา กลางคืนไม่ง่วง ถ้ามีกับเข้าไปง่วง กับประเภทต่างๆ ง่วงตามลำดับของกับ

สมัยพ่อแม่ครูจารย์ท่านยังมีชีวิตอยู่นี้ พระกรรมฐานเราไม่ค่อยมีมากนัก มีแต่ผู้ที่ขึ้นเวทีแล้วทั้งนั้น จ้อตลอดเลย ท่านเป็นนักภาวนาจริงๆ เอาจริงเอาจังมากทีเดียวเรื่องภาวนา อาหารนี่ท่านเข้มงวดกวดขันมาก เพราะฉะนั้นจึงพูดว่าอาหารสัปปายะ คืออาหารเป็นที่สบาย คำว่าสบายนี่หมายถึงว่าเบากาย ไม่ทำอะไรให้หนักหน่วงทางด้านจิตตภาวนา ตัวเบา นั่นละภาวนาดี เพราะฉะนั้นพระกรรมฐานจึงมักจะอดอาหารบ่อย อดอาหารมันไม่ได้ฉันอะไรเลย สติมันดี พุ่งๆ เลย

สติละสำคัญ การควบคุมทางด้านภาวนานี้ยิ่งสติสำคัญมาก อย่างอื่นอย่างใดก็ตามถ้าไม่มีสติคิดนู้นคิดนี้ เขียนหนังสือก็ลบๆ เขียนๆ ถ้าจิตจดจ่ออยู่นี้ก็ไม่เป็นไร เขียนก็ไม่ผิด จิตใจถ้ามันจ่อทางด้านภาวนาก็ไปคล่องตัว มันจริงไปทุกอย่าง การภาวนานี้อาหารละสำคัญ ไปหาอยู่ในป่ามันก็เหมาะกัน อยู่ในป่าในเขาตามคนป่า สี่หลังคาเรือนสี่หลังห้าหลังไปอยู่กับเขา เราก็ไม่ได้ฉันทุกวันด้วย ไปอยู่อย่างนั้นไม่ได้ฉันทุกวัน เว้นไปสองวันสามวันบ้างฉันทีหนึ่ง สองสามวันสี่วันห้าวันฉันทีหนึ่ง ถ้าเอาหนักก็เจ็ดวัน ถ้ามันเหนื่อยมากก็เอาเพียงสองสามวันฉันทีหนึ่ง สี่วันห้าวันฉันทีหนึ่ง แล้วการภาวนาก็ก้าวๆๆ

ท่านเล็งอยู่ในจิตต่างหากนะ ท่านไม่ได้เล็งในธาตุในขันธ์เป็นประมาณ เล็งดูจิต อาหารอะไรที่ขัดข้องต่อการภาวนาท่านจะงดทันที ท่านไม่เอา อาหารที่เหมาะกับภาวนาก็จะมีอะไรในป่าในเขา บางทีมีแต่ข้าวเปล่าๆ จะว่าอะไรท่านก็ฉัน ฉันแล้วก็สบายไปเลย เบา ไม่ง่วง ถ้ามีกับแล้วง่วง ไม่มีกับไม่ง่วง ฉันข้าวเปล่าๆ มันจะฉันได้มากอะไร ฉันนิดหน่อยก็พอแล้ว จากนั้นเดินจงกรมก็ตัวเบา นั่งภาวนาก็ตรงแน่วไม่เอนไม่เอียง ไม่ง่วงเหงาหาวนอน สติดี นั่นละภาวนาก้าวหน้าๆ

ทำอะไรก็ต้องให้จดจ่อในงานอันนั้นจริงๆ นะ ทำสักแต่ว่าทำไม่ได้ สำหรับเรามันนิสัยอย่างนี้มันเป็นจริงนะ ว่าอะไรเอาจริง..ทำ ไม่ได้เหลาะแหละ ถ้าว่าอดอดจริงเลย ไม่เอา จากนั้นก็สังเกตดู คอยสังเกตดูธาตุขันธ์ ถ้าอะไรมันบกพร่องทางด้านภาวนาอืดอาดระวังละ ต้องระวัง ท่านจึงว่าอาหารสัปปายะ ถ้าอาหารเป็นที่สบายแก่ธาตุแก่ขันธ์ทางการภาวนาก็ราบรื่นดี นั่นละดี อาหารดี

การฝึกจิตนี้ก็ฝึกกายนั่นละ ได้รับความทุกข์ความลำบากมาก ฝึกจิตตภาวนา ต้องดัดทางกายเราให้มาก ฉันมากไม่ได้ ฉันแต่น้อยเท่านั้นพอทำความเพียรได้สะดวก เวลานั่งกลางค่ำกลางคืนนี้ไม่ง่วงนะ นั่งตรงแน่วเลย ถ้ามีกับยิ่งอาหารพวกผัดๆ มันๆ ด้วยแล้ว โอ๋ย กล่อมเลยเชียว อย่างนั้น...กับภาวนาเข้ากันไม่ได้ ต้องอาหารพวกพริกๆ ผักๆ ไป  คือท่านมุ่งต่อจิต ท่านไม่ได้มุ่งต่อกายนะ กายพอยังอัตภาพให้เป็นไป ขอให้จิตคล่องตัวในการภาวนาเท่านั้น การภาวนาต้องสังเกตจิต สังเกตการภาวนา ขบฉันอะไรลงไปต้องสังเกต ไม่สังเกตไม่ได้ สักแต่ว่าภาวนาไม่ได้เรื่องละ ทุกอย่างต้องจริงต้องจังมันถึงเห็นเหตุเห็นผลกัน เอาเท่านั้นละวันนี้

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz

พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก