เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
ทุกข์โดยการฆ่ากิเลส
สร้างตึกสงฆ์ ๑๐ ชั้น เงิน ๒๐๐ ล้าน ไม่ใช่เล่นๆนะนี่ ๒๐๐ ล้าน ตึกสงฆ์อาพาธที่โรงพยาบาลจังหวัดอุดรธานี โครงการสร้างตึกสงฆ์อาพาธสูง ๑๐ ชั้น เป็นเงิน ๒๐๐ ล้านบาท ไม่ใช่เล่นๆ นะ นี่ก็หลวงตาละจะพาพี่น้องหาเงินเหล่านี้เข้าไปช่วยประเทศชาติของเราที่เต็มไปด้วยคนป่วยคนไข้ ต้องไปอาศัยโรงพยาบาลนั้นละ ขอให้พี่น้องทราบเอาไว้ เวลาไม่มีอะไรก็ไม่จำเป็น แต่เวลามันจำเป็นขึ้นมานี้มันเห็นเองรู้เองโรงพยาบาล เราไม่รู้ คนดีเขาก็รู้ช่วยเหลืออนุเคราะห์กัน แบกหามกันเข้าไปในตึกโรงพยาบาลอุดร จังหวัดไหนก็ตามก็เป็นอย่างนั้น แต่นี้มันเกี่ยวกับทางวัดเราเราก็พูดออกมา
ทองคำ ๑๑,๙๒๐ กิโล ดอลลาร์ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์ นี่ก็เป็นเครื่องประกันในชาติของเรา เรามีแต่หามา แต่อันใดที่เข้าส่วนรวมแล้วไม่ต้องบอก มันเข้าเองๆ ยอดเงิน ๑๑๖,๕๕๙,๔๕๘ บาท โครงการสร้างตึกสงฆ์อาพาธสูง ๑๐ ชั้น เป็นเงิน ๒๐๐ ล้าน นี่พาบืนกันไปอย่างนั้น ไม่บืนก็ไม่ได้
พูดถึงเรื่องนี้เราคิดย้อนหลังนะ ไปหาสมัยที่อยู่กับพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นเรา คือเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเราจะไปอาศัยแต่ยาไม่ได้นะ สำหรับเราเองแล้วในย่ามยาเม็ดเดียวก็ไม่มี พอเป็นมาก็ซัดกันเลย โรคมันเป็นเอามาจากไหนโรค เวลาหายมันจะไปหายามาจากแดนใด มันเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น ไม่ดับก็ตายที่นั่น ฟัดกันเลย เป็นอย่างนั้นนะ เอาจริงๆ นะนี่ ไม่ได้เล่น สู้จริง เจ็บไข้นี้มันฉันไม่ได้ บิณฑบาตไม่ได้แต่ฉันได้อยู่นี้ไม่เอา ฉันไม่ได้ขาก็ไม่ต้องก้าว ท้องมันยังจะก้าวอยู่ไม่ให้ ไม่ให้ใส่
ที่ได้มาเป็นครูเป็นอาจารย์สอนหมู่เพื่อนเราแทบล้มแทบตายนะ ไม่ใช่ธรรมดา อย่างที่ท่านทั้งหลายเห็นนิสัยอันนี้ว่าจริงจังมากทุอย่าง ลงได้จับอะไรแล้วขาดกับมือเลย อันนี้ก็เหมือนกัน เวลาฝึกตนก็แบบเดียวกัน หยูกยาไม่เอามา สัตว์สาราสิงอยู่ในป่าในเขาเขามีโรงพยาบาลที่ไหน ทำไมมนุษย์เราถึงอ่อนแอมาก ความเป็นความตายมันมีเท่ากัน ทำไมเราถึงอ่อนแอวิ่งหาแต่หยูกแต่ยาแต่มดแต่หมอ ดัดเจ้าของ โอ้ จิตนี้ไม่ดัดไม่ได้นะ ต้องได้ดัดมันอยู่เสมอ
อย่างทุกวันนี้ธาตุขันธ์อ่อนแอ เรียกว่าไม่เอาไหนแล้ว ปล่อยไป อันนั้นมันก็เห็นอยู่สิ่งที่ขวางหูขวางตาที่เราเคยเข้มงวดกวดขัน ก็เห็นอยู่ทางตาอยู่ก็ใช้หูหนวกตาบอดเอาอย่างนั้นแหละ จิตใจมันไม่ได้เป็นอย่างร่างกาย มันเป็นอยู่ภายใน มองเห็นอะไรปั๊บๆๆๆๆ รวดเร็ว ทางกายไม่พูดเฉย เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ โธ่ ไม่เอาขนาดนั้นไม่ได้กับกิเลส อ่านหนังสือไป อ่านหนังสือไปท่านพูดถึงเรื่องมนุษย์ สวรรค์ พรหมโลก อายุเท่านั้นๆๆ สูงขึ้นไปโดยลำดับ ถึงพรหมโลกอายุยืนเท่านั้นๆ ก็มาตายเหมือนกัน คิดทบทวนไปมาก่อนที่มันจะเอากันใหญ่นะ ไปที่ไหนก็กลับมาตาย กลับมาตาย จะข้ามป่าช้าไม่ได้เหรอ
นี่ล่ะตอนเอาใหญ่ในความพากเพียร อย่างไรก็มุ่งต่อแดนพ้นทุกข์ คืออรหันต์หรือนิพพานเท่านั้น นั่นละตอนเอาใหญ่ละหนักมากนะ อยู่ในป่าในเขาไม่มีใครเห็น เหมือนว่ามนุษย์หรือสัตว์ตัวหนึ่งอยู่กับโลกเขา ทุกข์ยากขนาดไหนทนเอา บางทีเดินมาจากภูเขาไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ทางถึง ๔-๕ กิโล ไม่ใช่เล่นนะ ทั้งไปทั้งกลับมันไปเสีย ๑๐ กิโลละมัง มาก็มาฉันที่ลานหินดาน บิณฑบาตได้มามีอะไรฉันเล็กน้อยแล้วเอาข้าว เศษเหลือไปวางไว้ให้สัตว์พวกกระจ้อนกระแตมากิน พอเสร็จแล้วล้างบาตร สะพายบาตร ไม่ได้มาฉันทุกวัน มันจะตายจริงๆ ก็ลงมาฉันให้สักที มีแต่อย่างนั้น
ทุกข์มากนะทุกข์ฆ่ากิเลส ทุกข์แสนสาหัสทุกข์โดยการฆ่ากิเลส จนกระทั่งว่ากิเลสเกิด กิเลสเกิดธรรมมันจะรับกันอย่างไร พอมันไปไม่ไหว เดินบิณฑบาตในหมู่บ้านเขาตอนเช้าไปไม่ไหว ถึงครึ่งทางเหนื่อยมาก นั่งพักสักครู่หนึ่ง นี่ท่านอดอาหารเพื่อจะฆ่ากิเลสให้ตาย แต่กิเลสยังไม่ตาย เวลานี้ท่านกำลังจะตายรู้ไหม กิเลสขึ้นนะ กิเลสยังไม่ตายท่านกำลังจะตายรู้ไหม พอกิเลสขึ้นดับลงไปทางนี้ก็ขึ้นรับกัน มันหากเป็นของมันเองนะ การกินก็กินมาตั้งแต่วันเกิดไม่เห็นวิเศษวิโสอะไร แล้วอดเพียงเท่านี้จะตายเหรอ เอาตายก็ตาย แน่ะมันไปอย่างนั้นนะ มันดีดกันเลย มันแก้กัน เป็นอย่างนั้นละ ถ้าอ่อนกับมันต่อไปทำไม่ได้ ต้องแข็งแก้กัน แก้กับกิเลสแก้อย่างนั้นละ จะทำอ่อนแอไม่ได้นะ ต้องเข้มแข็งทุกอย่าง
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|