สองจุดนี้เท่านั้นที่ครอบสัตว์โลก
วันที่ 27 มีนาคม 2552 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒

สองจุดนี้เท่านั้นที่ครอบสัตว์โลก

 

          จิตนี้พูดเอาถึงที่สุดเลยนะ พอถึงปั๊บแล้วมันไม่มีที่จะสงสัย เปิดโล่ง พระพุทธเจ้ากี่พระองค์เป็นอันเดียวกันหมดเลย เราจะถามหาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ไหน ให้ภาวนาไป ตามรอยไป ตามรอยไป พอถึงตัวโคหรือตัวนั่นแล้วหายสงสัยทันที คือพุทโธแท้มันเป็นธรรมธาตุแล้วนั่น เป็นธรรมธาตุเหมือนกันหมดเลย ท่านว่า นตฺถิ เสยฺโยว ปาปิโย ผู้ที่บริสุทธิ์เต็มที่แล้วเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากัน ให้มันเป็นเข้าซิน่ะมันก็แบบเดียวกัน เป็นแบบเดียวกัน

                พูดก็เหมือนว่าคุย นี่ก็ฟัดกันอยู่ถึง ๙ ปี เรียนหนังสืออยู่ ๗ ปี เคยพูดแล้ว ออกจากนั้น..นิสัยมันจริงมากอยู่นะ เคยพูดนิสัยให้ฟังเสมอ ว่าอะไรเป็นอันนั้นเลย เช่นไปก็ไปฟังเทศน์หลวงปู่มั่นเรา ปรากฏชื่อลือนามมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก ท่านอยู่ในอำเภอบ้านผือ ท่านภาวนาอยู่ที่นั่น เราเป็นเด็กตั้งแต่นู้นละ ชื่อเสียงท่านลือนาม พอไปหาท่านใส่เปรี้ยงเลยนะ ถึงใจๆ เลยเชียวนะ เมื่อมันถึงใจแล้วประหนึ่งว่าฟ้าดินถล่มนะ ธรรมะเข้าถึงใจสะดุดกึ๊กๆๆ

พอจากนั้นมาแล้ว ลงจากท่านมาแล้ว..เราไม่เคยได้ยินธรรมอย่างนั้น ฟังถึงใจ พอออกจากนั้นมาแล้วยังไม่ไปถึงที่พัก แล้วว่าอย่างไรทีนี้ สมใจหรือยังถามเจ้าของ ฟังเทศน์ท่าน ตั้งแต่วันเกิดมาเคยได้ยินเทศน์ประเภทนี้ไหม จนเป็นมหา เคยได้ยินเสียงเทศน์ประเภทนี้ไหม ไม่เคย แล้วจะทำอย่างไรกับตัวเอง เอาตายเข้าว่าเลย ทำอย่างไรกับตัวเอง บอกว่าเอาตายเข้าว่า แล้วมันก็เป็นจริงๆ เอาตายเข้าว่า เรื่องภาวนาเอาชีวิตเข้าแลก ไม่รู้ให้ตายเท่านั้น ซัดกันเลย

ถ้าจริงจังผลขึ้นมาก็จริง เมื่อเหตุเอาอย่างจริงอย่างจังเวลาผลขึ้นมาเป็นจริงอย่างเดียว นี่พูดย่อๆ ให้ บอกว่าเอาตายเข้าว่าเลยพอออกมาจากท่านแล้ว ท่านเทศน์อย่างนี้เคยได้ยินไหมแต่เกิดมา เรียนเป็นมหาก็เป็น มีไหมมหาได้คำพูดเช่นนี้มีไหม ไม่มี แล้วจะทำอย่างไรให้มี ต้องเอาตายว่า นี่เข้าสู้นะ เอาตายว่าคือว่าจะต้องทำอย่างนั้น ซัดจริงๆ เลย โธ่ จิตนี่เวลามันเป็นแสดงขึ้นมามันไม่เหมือนอะไรนะ ความอัศจรรย์ของจิต ความเร็วสุดของจิตอยู่ในจิต ความทุกข์ที่สุด เร็วที่สุดอยู่ที่จิต ความเลิศเลอที่สุดก็อยู่ที่จิต ไปยุติกันที่นั่น จิตเป็นผู้รับไว้

ทีนี้บทเวลาฟ้าดินถล่มมันก็แบบเดียวกันอยู่ที่จิต นี่เคยพูดแล้วเรื่องฟ้าดินถล่ม เอาขนาดนั้น มันเป็นจริงๆ โถ น้ำตาพังเลยนะ คำพูดอย่างนี้เราก็ไม่ถามใครเสียก่อนแล้วไม่สนใจด้วย จะว่าอาจหาญหรือจะว่าสวมรอยมันก็ไม่มีเจตนา เมื่อมันไม่รู้มันก็ไม่ทราบจะเอาอะไรมาพูด เวลามันรู้ขึ้นมาแล้วสวมรอยไม่สวมรอยมันก็ไม่สงสัย ลงใจปึ๋งเลย เหอ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรัสรู้อย่างนี้และเหรอ อย่างนี้และเหรอ ซ้ำนะ น้ำตาพัง สะดุ้งเลย

นั่นละเห็นไหมธรรมเวลาเป็น เป็นครั้งสุดท้ายด้วยนะ น้ำตาพัง เหอ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรัสรู้อย่างนี้และเหรอ อย่างนี้และเหรอ พระพุทธเจ้าแท้ พระธรรมแท้ พระสงฆ์แท้ อย่างนี้และเหรอ อย่างนี้และเหรอ ซ้ำ แล้วประมวลเข้ามา เหอ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างไร เป็นแล้วนะนั่น แต่ก่อนไม่เคยคิด เวลามันถึงขีดมันแล้ว พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างไร หมด หายสงสัยเลย ไม่นอนทั้งคืน

จากนั้นก็กราบ อัศจรรย์ นั่งก็รำพึงธรรมที่อัศจรรย์ที่รู้ๆอยู่ เห็นอยู่กับใจ ไม่หายไปไหน เวลามาเจอกันแล้วมันอยู่กับตัวเรา รำพึงอยู่ในใจแล้วก็กราบ ถ้ามีคนมาเห็นมาดูเราเขาจะต้องว่าเราเป็นบ้า ไม่นอนเลยนะ มันอัศจรรย์ เห็นไหมละความอัศจรรย์ของจิตดวงนี้ละ เวลามันเร็วมันเร็วที่สุด เวลาจับมันได้แล้วด้วยอำนาจของธรรมอย่างเด็ดเหมือนกันมันก็ลงอย่างว่าละ พรึบเดียวเลย เหมือนฟ้าดินถล่ม พรึบเหล่านั้นมีแต่สมมุติดับนะ ที่ว่าพรึบเดียวนั่น คือสมมุติที่มันครอบอยู่ในหัวใจ จะละเอียดขนาดไหนก็ตามก็คือสมมุติต้องครอบๆ

บทเวลาที่เบิกกว้างเป็นฟ้าดินถล่มนี้ผางทีเดียวหมดเลย ธรรมชาตินั้นหมด โลกนี้ว่างไม่มีอะไรเทียบ คำว่าว่างก็ไม่มีอะไรเทียบ โลกก็ไม่มีอะไรเทียบ คำว่าสุขก็ไม่มีอะไรเทียบ ท่านเลยยกมาเป็นอัศจรรย์หนึ่ง แล้วนิพฺพานํ ปรมํ สุขํ หนึ่ง ก็เข้ากันได้ หรือธรรมธาตุหนึ่ง จิตนี้เป็นธรรมธาตุ อยู่ในธาตุในขันธ์ของเรานี้ร่างกายก็เหมือนโลกทั่วๆไป แต่ธรรมชาตินั้นเป็นธรรมธาตุไม่สงสัย ไม่สงสัยเลย อยู่ด้วยกันอย่างนั้นละ พออันนี้แตกกระจายเป็นธรรมธาตุก็เป็นธรรมธาตุเต็มส่วนของตัวเอง ไม่มีธาตุมีขันธ์สมมุติอันนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นธรรมธาตุของตัวเอง จะว่านิพพานหรือไม่นิพพานก็แล้วแต่ ท่านผู้เป็นไม่สงสัย

นี่ละการปฏิบัติหากว่ามันควรจะพูดมันพูดได้นี่ รู้อยู่เต็มหัวใจพูดก็พูดให้ใครฟัง พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้ละ จะว่าเขาบ้าหรือเราเป็นบ้ามันก็บ้าทั้งสอง ไปไหนหูหนวกตาบอดไป เวลามันจะดีแล้วเหมือนหนึ่งว่าไม่มีใครสู้ แน่ะ ถ้าว่ามันบอดก็ไม่มีใครสู้ หูหนวกตาบอดก็บอดไป ถึงกาลเวลาที่จะออกรับกันธรรมต่อธรรม เช่นนักรู้ต่อนักรู้มา พบกันมาพูดกันผาง อย่างนั้นออกอย่างรวดเร็ว

พอพูดอย่างนี้ระลึกถึงหลวงปู่แหวนได้ ปรากฏชื่อลือนามท่านมานานแล้ว ตั้งแต่เราเป็นพระหนุ่มน้อย เขาว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ปฏิบัติเรื่อยมา พอถึงขั้นมันจะสู้กันเอาละนะทีนี้นะ พูดให้มันชัดๆอย่างนี้ละนะ พูดแล้วเตรียมใส่กันเลยนะ เหมือนว่าแชมเปี้ยนต่อแชมเปี้ยน อันหนึ่งแชมเปี้ยนจอมปราชญ์ อันหนึ่งแชมเปี้ยนจอมโง่ เข้าใจไหม เข้าหากันเลย คือท่านจะเทียบอุปมาเหมือนว่าน้ำในถังท่านสะอาดสุดยอด ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนแต่ไม่เคยเอาออกมาให้ใครรู้ใครเห็นใครกินใครดื่ม อยู่อย่างนั้นละ ท่านก็ครองของท่านอยู่อย่างนั้นละ

ใครไปก็นี่นะเราสู้ ทางนั้นก็เราสู้ เหรียญ เหรียญขลังๆ นั่นละ อันนั้นเราสู้ อันนี้เราสู้ ไปหาท่านเอาแต่เราสู้ละไป เราเคยได้ยิน เราก็เห็นเหรียญเราสู้ เราไปหาท่านไปทีไรคนแน่น รถไม่ทราบว่ากี่คัน รถบัส ไปทีไรเป็นอย่างนั้น ไม่ค่อยได้พูดได้คุย สุดท้ายหันหน้าสู้ พอคนมามากๆ พอเห็นเราไปเขาหวังจะได้ฟัง จะได้พบ รุมเข้ามาหาเรา เอออย่างนี้นะ อาตมาเข้าไปหาท่านเสียก่อน ไปพูดกับท่านพอสมควรแล้วถึงจะพาท่านออกมา ตอนนั้นอยู่ในห้อง มีพระอยู่องค์หนึ่งกับเราองค์หนึ่ง สามกับองค์ท่านเองนะ ให้อาตมาเข้าไปหาท่านเสียก่อน พอเสร็จแล้วออกมานี้จะให้สัญญาณให้ทราบว่าได้เข้าเฝ้าวันนี้แน่ๆ ไม่สงสัยละ ได้เฝ้าวันนี้เป็นอย่างไรลงใจหรือยัง ลงใจแล้ว เออไปๆรอเสียก่อนนะ พรึบเลยออกรอ

หนู..บักห่าหัวมันนั่นน่ะ มันเสือใหญ่เสือโคร่ง มันกินซากผีดิบกระดาษไอ้หลังลาย บักห่านั่นน่ะ รู้จักไหมบักห่าน่ะ โอ๊ย พูดกับคนฟังนี้บ่รู้ดอก พวกนี้พวกอ่อนภาษา เรามันเก่งภาษา เรามันเก่งภาษาออกได้ทุกแบบ บักห่าลูกอีห่า เข้าใจ

พอเข้าไปหาท่าน เอาละนะทีนี้เพราะเตรียมพร้อมแล้ว ได้คุยกับท่านแล้วทีนี้ วันนี้เตรียมพร้อ เครื่องรบเครื่องสู้มีพร้อมหมด ให้ได้พบให้ได้คุยธรรมะกับท่านวันนี้ พอไปคนก็รุมมา ชี้แจงให้เขาทราบอย่างที่ว่าละ อาตมาเข้าไปหาท่านก่อนนะ พอสมควรแล้วอาตมาออกมาจะให้สัญญาณแล้วค่อยเข้ามาเฝ้าท่านพร้อมกัน อย่างไรก็ได้เฝ้าละวันนี้ไม่สงสัยละ เขาก็พอใจ บอกไป พรึบเขาไป เราก็เข้า ไปก็ใส่กันเลยละกับหลวงปู่แหวน เรายังจำได้ทีแรกถึง ๑๐ นาทีนะ ครั้งที่สองดูเหมือน ๔๕ นาที หมุนติ้วเลยนะ ถ้าเทียบเหมือนกับถังน้ำที่สะอาดสุดยอด ไม่มีน้ำไหนเสมอเหมือนเลย นอกจากน้ำพระอรหันต์ด้วยกัน ท่านไม่เคยใช้เลย คนนั้นไปก็นี่เราสู้ คนนี้ไปก็นี่เราสู้ มีแต่เหรียญเราสู้ เราไปมันไม่ใช่เหรียญเราสู้ซี ซัดกันเลย ขึ้นไปปั๊บๆ เลย

ธรรมะนี้นะถ้าไม่รู้ตอบไม่ได้ และถ้าไม่รู้เอาออกถามไม่ได้ เราพูดจังๆ อย่างนี้ นั่นก็รู้นี่ก็รู้ถึงจะถามกันได้ พูดให้ชัดอย่างนี้ พอขึ้นไปก็ใส่ปั๊วะเลย ท่านดีดผึงลงมาเลย เร็วที่สุดนะ น้ำที่สะอาดสุดยอด ๑๐ นาที เอาสองจุดเท่านั้น จุดสำคัญๆ ของธรรมะที่เลิศเลอ พอจุดที่สอง ๔๕ นาที ทีนี้ไหลเลยนะ ตัวแดงเลย กับทางนี้มันเอากัน ทำลายรวงรังอวิชชา อันดับหนึ่ง ทำลายรวงรังกามกิเลส มีสองจุดนี้ในโลกวัฏวนนี้มีสองจุดนี้เท่านั้นที่ครอบสัตว์โลกไว้ ไม่มีใครเอาออกมาพูด วันนั้นเอาขึ้นซัดกับหลวงปู่แหวนเลย เอาอันนี้ละขึ้น ใส่จุดสำคัญๆ พอเราถามจุดแรกท่านก็ผางออกมาเลย ๑๐ นาที เราเข้าใจแล้ว พอท่านหยุดหายใจเข้าอีกปั๊บ คราวนี้ ๔๕ นาที ตัวแดง เห็นธรรมะผู้เฒ่าออกวันนั้น คือธรรมะนี้มันก็เจอแต่พวกเราสู้ๆ อันนั้นไม่ทราบเป็นอะไร วันนั้นจึงได้เจอกัน

 

  รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

           และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz

             พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 

     


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก