เทศน์อบรมฆราวาส
เนื่องในงานฉลองเจดีย์ สุภัททเถรานุสรณ์
ณ วัดซำขามถ้ำยาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.
ให้คบบัณฑิตนักปราชญ์ทางด้านธรรม
ก่อนเทศน์ต้องขออภัยจากพี่น้องทั้งหลายด้วยนะเวลานี้ ธรรมดาเราเทศน์ไปนานเท่าไรยิ่งดีๆ นะ เทศน์ไปนานเท่าไรยิ่งคล่องตัว ยิ่งดี แต่หลวงตานี้ไม่เป็นอย่างนั้นเทศน์ไปนานเท่าไรยิ่งคล่องตัวทางหลงทางลืม หลงลืมนี้คล่องตัวมากนะเดี๋ยวนี้นะ ไม่เป็นเนื้อเป็นหนังอะไร มีแต่ความคล่องตัวด้วยความหลงลืม
วันนี้จะฉลองเจดีย์นะ เจดีย์สร้างไว้เป็นที่ระลึกกราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจของเราที่เป็นชาวพุทธนะ อันสำคัญๆมักจะมีอะไรหุ้มห่อเอาไว้ลึกๆภายใน เช่นอย่างพระธาตุพนมก็มีองค์ศาสดาอยู่ข้างใน แล้วก่อเจดีย์รอบ เรียกว่าพระธาตุพนม ของดีๆของเลิศของประเสริฐอยู่ข้างใน อันนี้ก็เหมือนกันเจดีย์คงจะมีอันสำคัญอยู่ข้างในนั่นละ
วันนี้ท่านทั้งหลายมีศรัทธาพร้อมเพรียงกันมาจากทุกทิศทุกทาง ภูเขาลูกนี้แทบว่าจะเต็มไปหมดตั้งแต่ศรัทธาญาติโยมซึ่งมาในที่ต่างๆ หลวงตาดูได้มาสองหนแล้วมังมาที่นี่นะ (สามครั้ง) ฟังว่าเราก็ได้มานี่สองสามครั้งแล้วมาที่นี่ มาหาหลวงพ่อแนน มาครั้งที่ ๑ เรื่องอะไร ครั้งที่ ๒ เรื่องอะไร ครั้งที่ ๓ เรื่องอะไร ครั้งที่ ๑ เผาศพ ครั้งที่ ๒ วางศิลาฤกษ์ ครั้งที่ ๓ ฉลอง เรื่องราวอะไรเราไม่พูดมากนักละ
เราได้มาเห็นพี่น้องทั้งหลายมาด้วยน้ำใสใจศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้พากันก่อสร้างเจดีย์ซึ่งเป็นที่ระลึกของท่านผู้สำคัญอยู่ในเจดีย์นั้น จนสำเร็จลุล่วงลงไปแล้ว แล้วฉลองความสำเร็จของตนให้เป็นที่เปิดเผย เป็นที่เข้าใจซึ่งกันและกัน เจดีย์นี้เป็นที่ระลึกอันสำคัญ อย่างเจดีย์พระธาตุพนมอย่างนั้นเป็นต้นนะ มีสิ่งสำคัญอยู่ในเจดีย์พระธาตุพนม อันนี้ก็มีสำคัญอยู่ตามส่วนๆ จนได้ละที่มีอยู่ในเจดีย์นี้
เราได้สร้างสำเร็จขึ้นมาแล้วมากราบมาไหว้ และฉลองเจดีย์คือฉลองความอุตส่าห์พยายาม ฉลองน้ำใจทุกสัดทุกส่วนของเราที่ได้รวมใจกันมาสร้างเจดีย์อันนี้ได้สำเร็จลุล่วงลงไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้จึงได้ออกอากาศน้ำใจเปิดเผยให้พี่น้องทั้งหลายที่มาในงานนี้ได้เห็นทั่วหน้ากัน ว่าเจดีย์หลังนี้ได้สร้างด้วยความพออกพอใจ ด้วยความเคารพความเลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ต่อครูต่ออาจารย์ ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ทีนี้มีแต่เอาไว้กราบไหว้บูชาระลึกท่านเอาไว้ที่หัวใจ เป็นขวัญตาขวัญใจตลอดไปเลย นี่ได้สำเร็จลุล่วงลงไปแล้ว
เจดีย์มีหลายประเภทท่านแสดง ผู้ควรที่จะสร้างเจดีย์ อย่างตำราท่านแสดงไว้ว่าพระพุทธเจ้าหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าหนึ่ง พระอรหันต์หนึ่ง พระเจ้าจักรพรรดิหนึ่ง นี่ท่านผู้สมควรจะสร้างเจดีย์ขึ้นให้โลกทั้งหลายได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจต่อไปก็คือ พระพุทธเจ้าหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าหนึ่ง พระอรหันต์หนึ่ง พระเจ้าจักรพรรดิหนึ่ง สี่พระองค์นี้สร้างไว้สำหรับกราบไหว้บูชาแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มีความเคารพนับถือในธรรมอันเป็นความดีงาม
วันนี้เราก็สร้างเจดีย์ไว้เรียบร้อยแล้ว ได้ฉลองเจดีย์ก็ไม่ผิดวันนี้ เจดีย์นอก เจดีย์ใน เจดีย์นอกสำเร็จไปจากเจดีย์ใน คือความสำเร็จอันเป็นที่พึงใจของเราได้สำเร็จขึ้นแล้วภายในจิตใจ ดังพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้วภายในใจ พระอรหันต์ก็บรรลุธรรมหรือตรัสรู้แล้วภายในใจ สิ่งที่อัศจรรย์เกิดขึ้นภายในใจก่อน จากนั้นออกมาแสดงให้เป็นที่เปิดเผยเพื่อได้ยินได้ฟัง ได้เคารพกราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจไปด้วยกัน
วันนี้พี่น้องทั้งหลายก็ได้มากราบไหว้บูชาเจดีย์หลังนี้ แล้วพร้อมกันได้มาพบครูบาอาจารย์ที่มาในงานนี้เรียกว่า สมณานญฺ จ ทสฺสนํ การเห็นสมณะผู้มีกาย วาจา ใจอันสงบเป็นมงคลอย่างสูงสุด นี่ก็เป็นมงคลแล้ว ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมาที่นี่มีหลายประเภท แต่ท่านไม่ตีเบอร์ตีตราไว้เหมือนเบอร์นายร้อยนายพัน ท่านจะเป็นชั้นใดภูมิใดในธรรมของท่านอยู่ภายในใจเราไม่อาจทราบได้นะ อยู่ในที่นี่มีพระอรหันต์เราก็ไม่ทราบเพราะท่านไม่ตีเบอร์ไว้นี้คืออรหันต์นะ ถ้าตีเบอร์ไว้คืออรหันต์ก็มีแต่หันไปหันม มันไม่ใช่อรหันต์แท้เข้าใจไหม ถ้าอรหันต์แท้อยู่ภายในสง่างาม อย่างพระพุทธเจ้าหนึ่ง พระอรหันต์หนึ่งที่สำเร็จภายในจิตใจ สง่างาม เทวบุตรเทวดา-อินทร์-พรหมทั้งหลายลงมากราบไหว้บูชาท่านเหล่านี้ทั้งนั้นแหละ
เรานานๆ จะได้พบท่าน พบก็พบแต่ผ้าเหลืองธรรมดา ไม่ทราบว่าท่านเป็นพระประเภทใด เพราะพระที่ท่านทรงคุณธรรมอันสูงส่งอย่างนี้มักจะไม่แสดงตัว ไปที่ใดเห็นอะไรพบอะไรได้ยินเรื่องราวอะไรไม่แสดงตัว เหมือนไม่เห็นไม่รู้ ไม่ได้ยิน หรือรู้อะไรภายในจิตใจก็เหมือนไม่รู้ ท่านบัณฑิตนักปราชญ์ฉลาดแหลมคมอยู่ภายใน เป็นอย่างนั้นละ มาในงานนี้เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะไม่มี มี แต่ท่านไม่ได้ประกาศออกเสียงให้เราทราบเฉยๆ ยังมีผู้ปฏิบัติความดีปฏิบัติอยู่ทุกเวล่ำเวลา ความดีขวนขวายเข้ามา ขวนขวายเข้ามา มากเข้าๆ ก็สำเร็จลุล่วงไปโดยสมบูรณ์ ถึงขั้นอรหัตตบุคคลก็ได้ นั่นละธรรมเป็นอยู่ลึกๆ นะ
อย่างที่พระอัสสชิท่านไปบิณฑบาต พระสารีบุตรเป็นมหาปัญญาตั้งแต่ท่านยังเป็นปริพาชก เป็นเดียรถีย์นิครนถ์อยู่ ท่านเห็นพระอัสสชิท่านเดินบิณฑบาต ท่านเดินบิณฑบาตก้าวหน้า ถอยกลับ เหลือบซ้ายมองขวา มีแต่ความงามตาสวยงามไปหมด พระสารีบุตรท่านเป็นเดียรถีย์นิครนถ์ยังไม่ได้เข้าถึงพุทธศาสนาอะไรแหละ เป็นเดียรถีย์นิครนถ์ธรรมดาทั่วๆไป ท่านตามสังเกตดูตลอด พระอัสสชินั้นเป็นพระอรหันต์นะ ลูกศิษย์ตถาคตสาวกของพระพุทธเจ้า ท่านออกบิณฑบาตไป พระสารีบุตรที่กำลังเป็นเดียรถีย์นิครนถ์อยู่ก็ตามไปดูกิริยามารยาทน่าชมเชย น่ายินดี น่ากราบไหว้ น่าบูชาเรื่อยไป ชมท่านไปตามหลัง
พอบิณฑบาตสุดสายแล้วก็ด้อมเข้าไปหาท่าน ท่านบวชในสำนักใด พูดย่อๆ เอาเลย ท่านมองดูกิริยามารยาทเหลือบซ้ายมองขวาอาการเคลื่อนไหวทุกอย่างน่าเคารพเลื่อมใสยิ่งนัก ทั้งๆที่พระอัสสชิท่านเป็นพระอรหันต์แล้วนะนั่น ท่านไม่ได้บอกว่าอาตมาเป็นพระอรหันต์นะไม่ได้ว่านะ ถ้าว่าคำนี้จะไม่ขลังเลย แต่ท่านไม่ได้พูด บอกว่าอาตมาพึ่งบวชใหม่ๆ มาในธรรมวินัยใหม่ๆ ยังไม่มีความรู้อันกว้างขวาง จะแสดงเฉพาะธรรมย่อๆ เท่าที่เข้าใจได้ให้ท่านฟัง
พอว่าอย่างนั้นก็ เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา ขึ้นเลย ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุในหัวใจนี้ทั้งนั้น หัวใจเป็นที่เกิดของบาปของบุญของคุณของโทษ เป็นที่เกิดของนรก สวรรค์ นิพพาน เกิดที่ใจ ท่านลงในจุดนี้ทันที ไม่ได้บอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ทั้งๆที่ท่านเป็นพระอรหันต์นะ พระอัสสชิเป็นลูกศิษย์ตถาคต เบญจวัคคีย์ทั้งห้า..อัสสชินี้เป็นองค์ที่ห้า ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านมาบิณฑบาต พระสารีบุตรเป็นเดียรถีย์นิครนถ์ยังไม่มีหลักมีเกณฑ์ทางศาสนา เรียกว่าเป็นลูกศิษย์ของพวกเดียรถีย์นิครนถ์อยู่ แต่ตามองตลอดเวลาดูอาการของท่าน(พระอัสสชิ)มีความเรียบร้อยสวยงาม เหลือบซ้ายมองขวาน่าเคารพ น่าเลื่อมใสยิ่งนัก
พอท่านบิณฑบาตไปถึงจุดสุดท้ายแล้วด้อมไปหาท่าน ท่านบวชในสำนักใด ท่านมาจากที่ไหน มองดูอาการของท่านน่าเคารพเลื่อมใสยิ่งนัก ตอนนั้นท่านเป็นพระอรหันต์แล้วนะนั่น และพระสารีบุตรนี้เป็นจอมปัญญา แต่ยังไม่ได้เป็นอัครสาวกข้างขวา ยังไม่สำเร็จ ยังเป็นเดียรถีย์นิครนถ์อยู่ แต่เป็นมหาปัญญาฉลาดมากพระสารีบุตร ท่านก็ตอบ พระสารีบุตรก็เป็นจอมปัญญา พระอัสสชิก็เป็นพระอรหันต์ จอมปราชญ์ต่อจอมปราชญ์ตอบรับกัน บอกว่าอาตมาพึ่งบวชมาในธรรมวินัยใหม่ๆ
คือพระสารีบุตรไปถามท่านว่าท่านบวชมาจากสำนักใด ดูอากัปกิริยาของท่านน่าเคารพเลื่อมใสยิ่งนัก อาจารย์ของท่านชื่อว่าอย่างไร ท่านก็บอกว่าโอ้ยท่านพึ่งบวชมาในธรรมวินัยใหม่ๆ ยังไม่รู้อย่างกว้างขวาง แล้วธรรมท่านสอนไว้ก็ไม่กว้างขวาง ท่านก็ยกเหตุผลขึ้นมาในทางจิตใจ แล้วพระสารีบุตรก็บรรลุโสดาในเวลานั้นเลย พระอัสสชิเป็นพระอรหันต์แต่ถ่อมตัวจนไม่รู้เลยว่าพระอัสสชิเป็นพระเช่นไรนะ นั่นละจอมปราชญ์เจอกัน พระสารีบุตรก็จอมปราชญ์ทางปุถุชน หากเป็นจอมปราชญ์แล้ว พระอัสสชิก็เป็นจอมปราชญ์ในธรรมทั้งหลาย
ทีนี้พอได้ถ้อยได้ความแล้วพระอัสสชิก็แสดงธรรมให้ฟังย่อๆ พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระโสดาขึ้นทันที พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลาน์ท่านเป็นเพื่อนเป็นสหายกัน ครั้นเวลามาเป็นอัครสาวกก็เป็นสาวกข้างซ้ายข้างขวาเหมือนกัน คือพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกข้างขวา พระโมคคัลลาน์เป็นอัครสาวกข้างซ้าย พอได้ยินได้ฟังธรรมจากพระอัสสชินี้แล้วก็ติดตามไปหาพระพุทธเจ้า เป็นพวกเดียรถีย์นิครนถ์อยู่ด้วยกันตั้ง ๕๐๐ เลยปลีกตัวออกไป ๒๐๐ คือผู้มีความเลื่อมใสกับพระอัสสชิแล้วจะยกขบวนไป ใครอยากไปก็ให้ไปด้วยน้ำใจ เรามีความเลื่อมใสกับพระอัสสชิพระองค์นี้แล้ว เราจะไปหาพระพุทธเจ้า เพราะนี้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ใครอยากไปก็ไป แต่เวลาไปแล้วดูไปได้ ๒๐๐ นะ มีนักบวช ๕๐๐ ไปได้ ๒๐๐ ฟังเทศน์ศาสดาองค์เอกแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ขึ้นมา
นี่ละการได้ยินได้ฟัง การเห็นอากัปกิริยา การถ่อมเนื้อถ่อมตัวไม่แสดงอาการใดๆ เลย พระอัสสชิเป็นพระอรหันต์ ท่านบอกท่านพึ่งมาถึงธรรมวินัยใหม่ๆ ใหม่ๆ ก็จริงแต่ว่าพึ่งตรัสรู้แล้วก็มาสดๆร้อนๆ นี่ละ ใหม่แบบนี้ต่างหากนะ นั่นละท่านผู้มีความเคารพเลื่อมใสในในธรรม ท่านอยู่นอกศาสนาก็มายึดพุทธศาสนาคือพระอัสสชิเป็นต้นเหตุแห่งศาสนาของพระพุทธเจ้าเรา ได้ไปบวชแล้วไปอยู่กับพระพุทธเจ้าคือพระสารีบุตร-พระโมคคัลลาน์นะ ท่านสำเร็จโสดาแล้วนะ
นี่ละการคบบัณฑิตนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม ท่านจึงสอนว่า อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา อย่าคบคนพาลสันดานหยาบ จะพาให้เราลุ่มหลงล่มจมไปได้ไม่สงสัย ขอให้คบบัณฑิตนักปราชญ์ฉลาดแหลมคมทางด้านอรรถด้านธรรม แล้วเราจะเป็นคนดิบคนดีขึ้นไปจนเป็นจอมปราชญ์ได้ไม่สงสัย ท่านจึงสอนธรรมอันนั้นว่า อเสวนา จ พาลานํ อย่าคบคนพาลสันดานหยาบ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา ให้คบนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม ดังที่ท่านบัณฑิตจอมปราชญ์สมัยก่อนท่านสมาคมกันได้คติตัวอย่างอันดีงามจากท่าน
พูดไปก็วกไปเวียนมา มาถึงเจดีย์สร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านทั้งหลายประกาศความสำเร็จจากน้ำใจกำลังวังชาของท่านทั้งหลาย แล้วบรรดาพี่น้องทั้งหลายมาอนุโมทนาสาธุการกับผลบุญกุศลที่ได้ทำมาคือเจดีย์นี้ แล้วอนุโมทนาด้วยกันนะจะได้บุญได้กุศล ผู้ไม่ได้มาสร้างมาอนุโมทนาด้วยก็ได้บุญได้กุศล ผู้สร้างก็ได้กุศล มานั่งฟังอยู่เวลานี้ก็ได้กุศล ผู้มาฟังทั้งหลายก็ได้สร้างกุศล วันนี้เป็นการสร้างมหากุศลผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่หัวใจเรา
วันนี้เป็นวันว่างนะเรา งานการทั้งหลายทางโลกทางสงสารเขายุ่ง วันนี้เราไม่ยุ่ง เรายุ่งแต่กับศีลกับธรรมกับธรรมเทศนาครูบาอาจารย์ ได้กราบได้ไหว้ นี่ละเป็นมงคลสำหรับพวกเรา เรามากราบไหว้ท่านวันนี้นับว่าเป็นมงคล จากนั้นก็มีการทอดผ้าป่า นับว่าบุญกุศลเป็นของพี่น้องทั้งหลายที่สร้างมาด้วยกัน หลวงตาจึงขออนุโมทนาด้วยทั่วหน้ากันนะ แล้วการเทศว่าการนี้จะเทศน์มากมายไม่ได้ละ เฒ่าแก่เท่าไรยิ่งหลงยิ่งลืม เทศน์อะไรไปหลงไปลืมไปไม่ได้หน้าได้หลัง เพราะอย่างนั้นการเทศนาจึงขอลดลงตามสัดตามส่วนแห่งความแก่ชราคร่ำคร่า จึงขอหยุดเพียงเท่านี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั่วกันเทอญ
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|