ปปช. คนดีไม่เสริม คนชั่วไม่กด
วันที่ 11 ธันวาคม 2543 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ปปช. คนดีไม่เสริม คนชั่วไม่กด

วันที่ ๑๐ เมื่อวานทองคำได้ ๒ บาท ดอลลาร์ได้ ๑๑๐ ดอลล์ ทองคำทั้งหมดเวลานี้ได้ ๒,๒๗๑ กิโลครึ่ง ยังขาด ๑,๗๒๘ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโล เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ นะทองคำ ทุกอย่างเพิ่มเข้ามาเพื่อหนุนชาติไทยของเรา เวลานี้กำลังเหี่ยวแห้งยุบยอบมากทีเดียว

ทุกวันนี้นาฬิกาย่ำรุ่งแต่เช้า ๆ เข้าโดยลำดับนะ เดือนธันวา มกรา ย่ำรุ่งแต่เช้า ต่อไปก็ขยายออก พอกุมภา ตะวันเริ่มขึ้นทางนี้ ๆ(ตะวันออก) เวลานี้ตะวันปรากฏว่าไปทางโน้น(ทิศใต้) กลางคืนรู้สึกว่ามาก กลางวันลดลง ตามธรรมดากลางวันถ้าหน้าตั้งแต่มีนา เมษา ไปนี้กลางวันจะถึง ๑๔ ชั่วโมงนะ กลางคืนจะมีแค่ ๑๐ ชั่วโมง แต่ยังไงก็ตามไม่เหมือนเมืองอังกฤษนะ เมืองอังกฤษนั้นกลางคืนมี ๕ ชั่วโมงเท่านั้น นอกนั้นเป็นกลางวันหมด เราไปตอนเดือนมิถุนา กลางวันดูเหมือนมี ๑๙ ชั่วโมง กลางคืนมีเพียง ๕ ชั่วโมง ที่อังกฤษนะ คือ กลางคืนจริง ๆ พอเริ่มมืดจนกระทั่งถึงสว่างมีเพียงแค่ ๕ ชั่วโมง นอกนั้นเป็นกลางวันทั้งหมดเลย ตั้งสองทุ่มมันยังไม่มืด ตอนเช้าก็เหมือนกันตะวันโผล่ขึ้นไปถึงไหนยังไม่ย่ำรุ่ง

คือกลางวันมีถึง ๑๙ ชั่วโมง กลางคืนมีเพียง ๕ ชั่วโมงเท่านั้น เฉพาะอังกฤษเท่านั้นเมืองอื่นเราไม่รู้ เราไปอังกฤษเราทราบว่าในเดือนมิถุนา ตอนนั้น กลางคืนมีเพียง ๕ ชั่วโมง กลางวันถึง ๑๙ ชั่วโมง ตอนเช้า ทีแรกก็ยังไม่ไปนะตอนเช้า เราไปดูสถานที่ต่าง ๆ เรียกว่าไปทัศนศึกษา ไปถึงทีแรกก็ไปแต่ตอนบ่าย บ่าย ๔ โมงออกไป รถเขาจะมารอรับ พวกลูกศิษย์ลูกหานับแต่สถานทูตลงมาเขามารอรับ สถานทูตก็มา ที่ไหนก็มา ลูกศิษย์ก็มา เราอยากไปคันไหนก็ไปได้สะดวกสบาย แต่เพื่อไม่ให้เป็นกังวลกับทางโน้น เราก็บอกไว้เลยว่า ให้หายห่วง ไม่จำเป็นแล้ว รถที่มารอรับเราก็มีประจำอยู่แล้ว รถลูกศิษย์ในอังกฤษนะเขาเอามาประจำไว้เลย ไปเวลาไหนไปได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงไม่ให้รถอื่นเป็นกังวลมากไป เช่น รถสถานทูตรถอะไรหลายแห่ง

พอ ๔ โมงเย็นแล้วออกไปเที่ยวซอกแซกซิกแซ็ก อู๋ย ขี้เกียจจะตายนะ แต่ก็ไป ทำไมเป็นอย่างนั้น คือไปเพื่อดูเหตุดูผลดูกิจการต่าง ๆ สถานที่บุคคล ความเคลื่อนไหวไปมาของมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกกัน เขาเป็นยังไงกัน เมืองเราก็เมืองมนุษย์ เมืองนี้เขาก็เป็นเมืองมนุษย์ ความเคลื่อนไหวไปมาความประพฤติของเขาเป็นยังไง ๆ ตลอดการขับรถขับรา นี่ละที่ว่าเราไปนะ ขี้เกียจขนาดไหนเราก็ทนไป เพราะไม่ได้ไปด้วยความเพลิดเพลิน ไปด้วยเหตุด้วยผลด้วยอรรถด้วยธรรม ไม่นานละ วันละ ๒ ชั่วโมง สองชั่วโมงกว่า พอบ่าย ๔ โมงเย็นไป ๖ โมงก็มาถึง หรือ ๖ โมงกว่าเล็กน้อย

ที่ว่านี้ตะวันยังไม่ตกนะ ๖ โมง ๗ โมง ทุ่มสองทุ่มตะวันยังไม่ตก ทีนี้หนักเข้า ๆ ตอนเช้า พอ ๖ โมงเช้าก็ออกไปตระเวนดูสถานที่ต่าง ๆ แม้ที่สุดโรงงานเขาก็ไป โรงงานทำรถยนต์รถอะไรต่ออะไร พวกโรงงานต่าง ๆ ไปเที่ยวดูซอกแซกซิกแซ็ก ไปดู ดูความเคลื่อนไหวกิริยามารยาทของเขาทุกอย่าง ดูจริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา ตอนเช้าก็ไป ตอนเย็นก็ไป ถึงขนาดนั้นนะ ลำบากก็ทนเอา ไปเพื่อเป็นทัศนศึกษา เป็นคติอันหนึ่ง ๆ ที่นำมาเพื่อประโยชน์แก่พี่น้องชาวไทยเรา

มันสะดุดจิตนะพวกเด็ก เราพูดขั้นวัยเด็กเสียก่อน คือจราจรหรือทางม้าลายอยู่ตรงไหน รถเขาจะไปรอที่นั่นเลยนะ เขาไม่ผ่านปึ๋ง ๆ เหมือนคนตาบอดในเมืองไทยของเรา เมืองไทยของเรานี้รถมันรถตาบอด คนก็คนเย่อหยิ่ง ผู้ข้ามถนนก็เย่อหยิ่ง มันพอ ๆ กัน พอรถไปถึงทางม้าลายรถจะเบาปั๊บแล้วผ่าน ถ้าไม่มีคนนะ ถ้ามีคนแล้วเบาปั๊บ คนจะผ่านปุ๊บ ๆ ไปเลย เขาไม่มองหลังนะ เขารอที่จะข้ามเพื่อจะให้รถไปสะดวก เขาไม่ได้ทำด้วยความเย่อหยิ่ง แต่คนไทยเรานี้ไปยัง โห ทำท่าโอ่อ่าฟู่ฟ่า ไปแล้วยังมองข้างหลังยิ้ม ๆ เยาะเย้ยหรือหยิ่งนะ อ้าว เห็นอยู่ด้วยตาของเรานี่ เราเห็นนี่น่ะ นั่นละธรรมะพูดอย่างตรงไปตรงมา

เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองหยิ่งในสิ่งไม่เข้าท่า ผู้ใหญ่เราเห็นอยู่นี่ ทำหยิ่ง ๆ โห อวดต่อความตายนะ อวดความตายว่ารถไม่กล้าจะชนเรา ถ้าเป็นรถหลวงตาบัว ภูเขาก็ฟาดเลย ถ้าเราไม่แหลกภูเขาก็แหลก ถ้าสมมุติว่าเรานอนหลับในรถไปนะ อย่ามาหยิ่งใส่นะว่างั้นเลย นี่กิเลสมันเป็นอย่างนั้น

เวลาข้ามถนนเราดูเด็กนะ สำหรับผู้ใหญ่ไม่มีปัญหาแหละ เขาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เด็กน่ะซีไม่น่าจะรู้ภาษีภาษาอะไรนะ เขารออยู่นี้ พวกเด็กนักเรียนเด็กอะไรนี้ พอรถเบาปั๊บ ปุ๊บเลย ปุ๊บๆ ผ่านปึ๊บไม่มองหลังเลย ไปที่ไหนเหมือนกันหมด อ๋อ นี่เขาฝึกหัดกันไป เป็นแบบพิมพ์กันไปตั้งแต่เล็กแต่เด็ก ผู้ใหญ่มันจะไม่ดีได้ยังไง ผู้ใหญ่ก็เป็นแบบพิมพ์ที่ดีอยู่แล้ว เด็กก็เรียนแบบพิมพ์จากผู้ใหญ่ ก้าวเดินตามผู้ใหญ่

ไปอังกฤษไปอยู่สองอาทิตย์กว่า ไม่เคยเห็นรถชนกันที่ไหนเลย ไปสังเกตพวกเศษแก้วเศษอะไรตกข้างถนนหนทางที่รถชนกันนี้ก็ไม่มี จนกระทั่งอย่างวันพรุ่งนี้จะกลับ ตอนเย็นวันนี้ไป รถสถานทูตแหละวันนั้นมารับไป เขาคงจะทำเป็นเครื่องหมายวงเวียน รถเรานี้ไปถูกแล้ว รถเขามาข้างหลังมาชนท้ายรถของเราตุ๊บหนึ่ง เราก็ดูมารยาทของคนขับจะแสดงอาการยังไง นั่นเห็นไหมล่ะ คนขับรถก็เฉย เราก็ไม่มองหลัง รู้ว่ารถชนท้ายรถเราตุ๊บ เหมือนกำปั้นตีเท่านั้นไม่เจ็บไม่ปวดอะไร พอให้ทราบว่าตาบอดไม่ได้ดูเหรอ เมืองอังกฤษเขาก็มีรถชนกันอย่างนี้ละ ความหมายก็ว่างั้น

คือเราไปที่ไหนไม่เห็นรถชนกัน ไปทั้งเมืองจนกระทั่งกลับมาไม่มีรถชนกัน ก็มาชนท้ายรถของเราวันนั้นแหละ เหมือนกำปั้นตีตุ๊บเท่านั้นเอง พอรู้ว่าตุ๊บ ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเราก็รู้ ทีนี้มองดูคนขับเขาก็ไม่เอียงหน้าเอียงหลัง เขาเฉย เราก็ไม่มองเพราะรักษามารยาทใช่ไหมล่ะ เขาผิดเขาก็ยิ่งระวังตัวเขายิ่งจะมองเราล่ะซิ เราไม่ผิด ถ้าเราเป็นคนดีก็ดีไปเรื่อย ๆ ก็เฉย เวลาลงรถแล้วเราก็ไปดูข้างหลังรถ แน่ะ เป็นอย่างนั้นนะ ไม่ให้คนขับรถรู้นะเราไปท้ายรถ เรามองฉากไป เขาไม่รู้ ไม่มีอะไร ธรรมดา มีเท่านั้นละรถชน มาชนรถเราเสียเอง ไม่มีรถชนกัน

เมืองไทยของเราเฉพาะกรุงเทพนี้ป่วน ตั้งแต่ก่อนถนนแคบ ไปที่ไหนมีแต่รถชนกัน ในกรุงเทพก็ดี ต่างจังหวัดก็ดี รถชนกันเป็นแถวไปเลยอยู่ทุกแห่งทุกหน มีแต่รถชนกัน เพราะแต่ก่อนถนนแคบ แล้วคนขับรถก็รู้สึกจะไม่ค่อยชำนิชำนาญ การให้อภัยกันก็น้อย แล้วเวลานี้การให้อภัยของเราก็รู้สึกว่าดาษดื่นทั่วไปในเมืองไทยนะ เราขับรถนั่งไปนี่เราจะดูคนขับรถ ดูกิริยามารยาทของการขับรถ การขับรถรู้สึกว่าให้อภัย อันนี้เราชมเชยนะ ไปที่ไหนเราจะบอกคนขับรถเรา คนขับรถเราก็ปฏิบัติอย่างนั้นอยู่แล้ว พอเห็นรถเขาแซงมาเท่านั้น เราก็บอกว่าหลีกซ้าย เราเลี้ยวไปทางซ้ายเลย เมื่อเปิดทางให้เขา เขาเห็นได้ช่องทางเขาก็บึ่งมาเลย เขาก็ไปสะดวก นั่น

นี่เราให้ทางเขา ให้อภัยกัน ให้โอกาสกัน เมื่อเราให้โอกาสเขาได้เขาก็ให้โอกาสเราได้ เมื่อเราขวางเขาได้เขาก็ขวางเราได้ เข้าใจไหมล่ะ เมื่อต่างคนต่างให้โอกาส ให้อภัยซึ่งกันและกัน ความปลอดภัยก็เรียกว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย เวล่ำเวลาก็ไม่เสีย การให้อภัยกันนี้เป็นสำคัญมาก ถ้าต่างคนต่างให้อภัยกันแล้วไปที่ไหนก็สะดวก เปิดโอกาสให้กันเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีรถเล็กรถน้อยอยู่ข้างทางนี้เราก็หลีกให้ไปเลย ๆ พอเห็นเราหลีกเท่านี้เขาก็พุ่งทางโน้นมาเลย เขาก็สะดวก เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเขาเห็นเราให้อภัยอย่างนั้น ทำไมเขาก็มีหัวใจเหมือนกัน เขาอ่านเรา เราก็อ่านเขา เมื่อต่างคนต่างอ่านกันแล้ว ความดีออกจากกันก็ประสานกันเป็นความดี เป็นพื้นฐานไปเลยนะ ถ้าขัดกันนี้ คนนี้ขัดคนนั้นก็ขัด แล้วเกิดเรื่องกันทั้งบ้านทั้งเมือง ใช้ไม่ได้เลยนะ

ไปไหนเราไปจริง ๆ เราพูดจริง ๆ พูดให้มันตรงเป๋งเลยว่า จิตอันนี้มันไม่ได้ธรรมดา จิตธรรมดาเราก็เคยเป็นมาแล้ว ล้มลุกคลุกคลานก็เป็นมาแล้ว เวลามันไม่เป็นอย่างนั้นมันก็เป็นของมันเอง ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาจะคิด มันหากมีของมัน เหมือนกับเรดาร์ มันจับของมันตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ละ รู้เฉพาะเรา ๆ เหมือนหูหนวกตาบอด อยู่ในรถไปก็อย่างนั้นแหละ แต่ทางจิตมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซิ

ฟังซิพี่น้องทั้งหลาย ธรรมพระพุทธเจ้า สวมเข้าในหัวใจดวงใดมันจะรู้ทันทีเลย ว่าแปลกจากความเป็นอยู่ของเรามาดั้งเดิมเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อธรรมสวมเข้ามากน้อยมันจะรู้จุดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ๆ ไปเรื่อย เหตุผลต้นปลายอะไรมันจะไปพร้อม ๆ กันเลย ความให้อภัยเขามันจะมาพร้อม ๆ กัน เพราะจิตมันอ่อนนี่นะ จิตไม่แข็ง จิตมีธรรมต้องอ่อน อ่อนต่อกัน อ่อนน้อมต่อกัน ให้อภัยกัน เมตตาสงสารกัน ไม่ถือสีถือสากันอย่างง่ายดายนะ เรื่องธรรมเป็นอย่างนั้น ไปที่ไหน เพราะฉะนั้นมีมากมีน้อยไม่เฟ้อ ถ้าคนดีมีอยู่ด้วยกันไม่เฟ้อ

ถ้าเป็นคนชั่วแล้วเพียงคนเดียวนี้ก็เฟ้อแล้ว นอนไม่หลับพวกเจ้าของสมบัติ มันขโมย พอปล้น-ปล้น พอจี้-จี้ พอขโมยท่าไหนเอา นี้คนขวางโลก ขวางบ้านขวางเมือง ไปที่ไหนขวางที่นั่นละคนประเภทนี้ ถ้ามีสองคนขึ้นไป สามคนขึ้นไปเป็นยังไง เป็นโจรหมู่ใหญ่ ปล้นได้ทั้งบ้าน เอ้า ฟาดมันวงราชการงานเมืองของเราอีก ตีเข้าไปซิ วงราชการงานเมืองของเรา แต่ไหนแต่ไรมาถือวงราชการงานเมืองเป็นผู้นำของพี่น้องชาวไทย ทีนี้วงราชการงานเมืองถ้าต่างคนต่างมองดู เห็นอกเห็นใจประชาชนทั้งประเทศ ในวงราชการทุกหน่วย ๆ มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ทั้งใจเขาใจเราด้วยกันแล้ว การดำเนินงานจะสะอาดสะอ้าน ไม่เย่อหยิ่งจองหอง ไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงจนเหยียบหัวคน

นี่ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ถ้าไม่มีธรรมแล้วเหยียบแหลกไปเลย ยิ่งเย่อหยิ่งจองหองพองตัวมากที่สุด เป็นเปรตเป็นผีเป็นยักษ์เป็นมาร เครื่องแต่งตัวเป็นเหมือนท้าวมหาพรหม แต่งตัวมาโอ่อ่า ๆ แต่หัวใจมันเป็นเปรตเป็นผีเป็นยักษ์เป็นมารเต็มอยู่ในนั้น ไปที่ไหนขวางหมด ประชาชนมองดูแล้วเขาไม่อยากดู ตาก็ตาคน ประชาชนก็มีตามีหูมีใจเหมือนกัน ทำไมเขาจะมองดูพวกเปรตพวกผีไม่ได้ แต่พวกเปรตพวกผีกินบ้านกินเมืองยังมองเขาได้วะ เขาทำไมเขาจะมองไม่ได้ นอกจากเขาไม่แสดงออกเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเราซึ่งต่างคนต่างปกครองบ้านเมือง ขอให้คิดถึงหัวใจของคนทั้งประเทศ เราเป็นผู้ดำเนินงานเพื่ออะไร เป็นผู้รับผิดชอบในงานนั้นด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม แล้วโลกนี้จะมีความสงบร่มเย็น เช่น เมืองไทยเรานี้ก็เหมือนกัน เป็นเมืองพุทธด้วย ควรจะนำพุทธเข้ามา นำศาสนาพุทธคือเหตุผลต้นปลายและความให้อภัยกัน ความเห็นอกเห็นใจกัน เข้ามาประสานกัน แล้วบ้านเมืองของเราก็จะเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคงขึ้นโดยลำดับ

ถ้าเอาแต่เปรตแต่ผีมาแข่งมาขันกัน อวดดิบอวดดี เอาหัวคนทั้งประเทศมาเป็นสนามรบ เป็นเวทีขึ้นเหยียบต่อกรตีกัน กัดกันฉีกกันเหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนยักษ์เหมือนผี บนหัวคนทั้งประเทศนี้ดูได้ไหม ลองวาดภาพขึ้นดูซิน่ะ คนไทยทั้งประเทศมีพวกเปรตพวกมารมหายักษ์ขึ้นอยู่บนหัวคน ตีกันต่อยกัน แย่งตำแหน่ง แย่งหน้าที่ แย่งอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภาร บาปมันไม่ได้ว่านะ มาอวดกัน หยิ่งกัน แล้วเอาหัวประชาชนทั้งประเทศนี้มาเป็นเวทีขึ้นเหยียบ กัดกันอยู่บนนั้น เป็นหมากัดกันอยู่บนหัวคน คนทั้งประเทศหมาไม่กี่ตัวกัดกันอยู่บนหัวคน ขึ้นเวทีต่อกรกัน แข่งดิบแข่งดี รอทำร้ายกัน กีดนั้นขวางนี้ ทำลายแบบนั้น ทำลายแบบนี้

ไม่ได้คิดถึงคนทั้งประเทศนี้เลยว่ามีหัวใจหรือไม่ เวลานี้ก็อาศัยพวกนี้เป็นผู้พาเดินพานำ แล้วทำไมจึงมากัดกันเหมือนหมา เอาหมามาสอนคนมันสอนได้เหรอ ต้องเอาคนสอนหมาซิ ประชาชนเขาขี้เกียจสอนหมา มันเลยหมาแล้วเขาก็ไม่อยากสอน ถ้าใครไม่อยากเป็นหมาก็ให้ปรับตัวให้ดีในวงราชการงานเมืองของเรานะ ไม่งั้นจะแหลกเหลวไปหมด อย่ากัดกันนะ ใหญ่มันใหญ่ด้วยทิฐิมานะ ใหญ่ด้วยฟืนด้วยไฟ ใหญ่ด้วยมีดด้วยขวาน ด้วยนิวเคลียร์นิวตรอนไปอย่างนั้นนะ กัดกันแหลก เมืองไทยเราเป็นสนามรบ เรียกว่าเป็นหัวของชาติไทยเรา หัวของชาติไทยเราเลยกลายเป็นเวที ให้พวกอันธพาลนักเลงโตทั้งหลายเหยียบย่ำทำลาย ต่อกรกันบนเวที เอาหัวมนุษย์เป็นเวทีเหยียบแหลกไปหมดนี้ดูไม่ได้นะเมืองไทยเรา

ให้พากันฟัง เราเป็นลูกชาวพุทธด้วยกัน ลูกศิษย์พระด้วยกันทั้งนั้น นับแต่วงราชการงานเมืองลงมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นจอมแห่งความให้อภัยแก่พี่น้องชาวไทยเราทั่วประเทศ ให้เห็นอกเห็นใจเห็นพระทัยพระองค์บ้าง พวกเราเป็นลูกหลานของท่าน อย่าให้พระองค์ได้ทรงหนักพระทัยมากเกินไป เราเป็นลูกมนุษย์ แล้วลูกก็ลูกพระมหากษัตริย์เสียด้วยนะไม่ใช่ลูกธรรมดา จึงขอให้ตั้งหน้าตั้งตาทำราชการงานเมืองไป เพื่อความกลมกลืนสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจ ความคิดอ่านไตร่ตรองในทางถูกทางผิด แล้วให้แก้ไขดัดแปลงไปตามเหตุการณ์นั้น ๆ แล้ว บ้านเมืองของเราก็เจริญรุ่งเรือง เมื่อเจริญรุ่งเรืองแล้วก็เย็นไปหมดประเทศไทยของเรา นับแต่วงศ์พระมหากษัตริย์ลงมา จะเย็นทั่วหน้ากันไปหมด

ไปที่ไหนสนิทสนมกันไปเลยคนเราให้อภัยกัน ไม่ว่าผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็เหมือนพ่อแม่กับลูก ลูกมีกี่คนถือพ่อถือแม่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ มีพ่อแม่สองคนก็ถือลูกเป็นเนื้อเป็นหนังของตัวเอง แล้วลูกกับพ่อกับแม่มันเป็นยังไง เจตนาทุกสิ่งทุกอย่าง มันนิ่มต่อกันตลอดเวลา ถึงจะโวกวากใส่กันก็โวกวากเพื่อความนิ่มนะ ไม่ใช่เพื่อความทำลาย

อันนี้วงราชการเรา ถึงคราวเด็ดก็เด็ด เด็ดเพื่อชาติบ้านเมือง เด็ดเพื่อเหตุเพื่อผล เพื่อหลักเพื่อเกณฑ์ เพื่อกฎหมายและศีลธรรมบ้านเมือง ก็เด็ดได้จะเป็นไรไป แต่เวลาอ่อนก็อ่อน ไม่ใช่ว่าเด็ดอย่างเฉียบขาด กลืนกินดะไปอย่างนั้น เด็ดแบบนั้นเด็ดแบบยักษ์แบบผี นำมาใช้ในเมืองไทยเราซึ่งเป็นเมืองพุทธนี้ดูไม่ได้นะ ขอให้เลิกล้มกันไปในสิ่งเหล่านี้ อย่าให้มีในวงศาสนาพุทธของเราในเมืองไทย เลวที่สุดนะเวลานี้ จนดูไม่ได้

นี้เอาศาสนามาจับมาสอนพี่น้องทั้งหลาย เราไม่ได้สอนด้วยการตำหนิติเตียนโดยหาเหตุหาผลไม่ได้ เอาธรรมมาสอนพี่น้องทั้งหลายให้รู้เนื้อรู้ตัว ถ้าศาสนาสอนไม่ลงก็เท่ากับพ่อแม่สอนลูกไม่ลง แล้วจะเป็นยังไง บ้านนั้นเมืองนั้น ครอบครัวนั้น ลูกไม่ยอมฟังเสียงพ่อแม่เป็นยังไง ฉิบหายวายปวง บ้านนั้นไม่ฟังเสียงหัวหน้า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นยังไง เอ้า ไม่ฟังไปโดยลำดับ จนกระทั่งถึงประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้ฟังเสียงกันเลยนี้แหลกหมดนะ

ต้องฟังเสียงกัน ลูกฟังเสียงพ่อเสียงแม่ ผู้น้อยฟังเสียงผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่มีความโอบอ้อมอารีต่อผู้น้อย อย่างนี้เมืองไทยของเราจะมีความสงบร่มเย็นต่อไป ขอให้นำธรรมะนี้ไปใช้ไปปฏิบัติเถิด ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เคยพาใครที่ไหน สัตว์ตัวใดให้ล่มจมเสียหาย เพราะอรรถเพราะธรรมเลย มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง สัตว์อยู่ด้วยกันก็เป็นสุข มนุษย์อยู่ด้วยกันก็เป็นสุข ถ้าลงธรรมไปที่ไหนเป็นสุขสงบร่มเย็นไปทั้งนั้น ถ้าเปรตถ้าผีเรื่องของกิเลสตัณหาอันเป็นยักษ์เป็นมาร ไปที่ไหนแหลกแตกกระจายไปหมดนะ จึงขอให้พากันจำเอาไว้

เวลานี้กำลังทะนุถนอมชาติไทยของเราให้เข้าสู่สภาพที่พอสงบร่มเย็น และตั้งรากฐานมั่นคงไปด้วยศีลธรรม ด้วยการแก้ไขดัดแปลงตนเอง ใครผิดก็ให้ยอมรับเถิดว่าผิด ความผิดไม่ใช่ของดี อยู่ในเจ้าของก็พันเจ้าของ ไฟเผาเจ้าของอกจะแตกอยู่ภายใน แต่มาโอ่อ่าภายนอกเฉย ๆ นะ ทางในนี้มีแต่แข่งดีแข่งเด่น ดีมันดีมาจากไหนก็ไม่รู้ มันหากเอามาอวดว่าแข่งดีแข่งเด่น มันไม่มีใครดีถ้าลงเป็นอย่างนั้นแล้ว มีแต่คนชั่วช้าลามกทั้งนั้นแหละ อย่าเอามาใช้ในวงของชาวไทยเราซึ่งเป็นเมืองพุทธ ให้รีบแก้ไขดัดแปลง อะไรไม่ดี

แล้วในฐานะที่เป็นผู้นำทุกคน ๆ ที่เป็นผู้นำ ขอให้ยกชาติไทยของเราเป็นหลักตั้งอันใหญ่หลวง แล้วให้เดินเข้าไปเพื่อความทะนุถนอมบำรุงชาติไทยของเรา นี้เป็นความถูกต้องแม่นยำสำหรับผู้ใหญ่ที่นำชาติบ้านเมือง อย่าพากันไปเกาะ ๆ แกะ ๆ ไปงัดไปง้างไปทำลายกัน ใครจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเป็นไม่ได้ ไปคัดไปค้านต้านทาน เอาหัวประชาชนเป็นเขียงเหยียบขึ้นล่ะซี ไม่ได้คำนึงถึงประชาชนเขามีคุณค่าขนาดไหน เราเพียงสองสามตัวมีแต่เปรตแต่ผี จะไปอวดดิบอวดดีเก่งกว่าประชาชนมันเป็นไปไม่ได้นะ อย่านำมาใช้สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ขวางโลกขวางธรรมไปหมด ให้เอาไปแก้ไขดัดแปลง

เข้ากันได้ซิ เปิดโอกาสให้กัน ใครที่ควรจะนำประเทศชาติบ้านเมืองได้ให้เปิดโอกาสให้กัน สนับสนุนกันมันถึงถูกสำหรับผู้ใหญ่ด้วยกัน ที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเป็นผู้ใหญ่เพื่อปกครองบ้านเมือง ให้ต่างคนต่างหาโอกาสหาช่องหาทางที่จะให้เมืองไทยเราเจริญรุ่งเรืองด้วยวิธีการใด ผู้ใดเป็นผู้สมควรที่จะนำประเทศชาติบ้านเมืองแล้วเปิดโอกาสให้กัน นี้เป็นความถูกต้องแม่นยำ อย่ากีดอย่าขวางอย่าทำลายกัน อย่าคัดค้านต้านทานกัน อย่าหากฎหมายกฎหมอยมาบีบบังคับกัน

กฎหมายเอามาแทรกข้างหน้า กฎหมอยที่มันคอยจะกลืนบ้านกลืนเมือง คดโกงรีดไถ ปปช. ปปแชอะไรเหล่านี้ มันไปหาตีคนดีนะ ไล่คนดีเข้าคุกเข้าตะราง เอาพวกนักโทษในคุกในตะรางซึ่งเป็นพวกจอมปลอม พวกมหาโจร พวกมหาภัย พวกอันธพาลอันใหญ่หลวง ที่เสกตนว่าเป็นผู้ใหญ่ ๆ นี้ อยู่ในเรือนจำ มีแต่โทษเต็มหัวมันอยู่ในเรือนจำ แล้วก็ลากกันออกมามาครองอำนาจวาสนาอันใหญ่หลวง มาปกครองชาติไทย ไล่คนไทยคนดีทั้งหลายให้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ พวกนี้ออกจากนักโทษมาเป็นเจ้าอำนาจ ฟาดขึ้น ปปช. ปปแชขึ้นมา ไปหาตีคนนั้นไปหาตีคนนี้ หัวมันทำไมไม่ตีพวกนี้

ปปช. มันอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนตั้งคนบัญญัติมา มันจึงหาตีตั้งแต่คนดี คนชั่วทำไมไม่ตี มันไม่มีหรือคนชั่ว ตัวใหญ่หลวงตัวใหญ่โตที่สุดมันชั่วร้ายที่สุด ปปช. มันนอนตายอยู่ไหนมันไม่ไปดู มันไปหาทำลายทำไมคนดี เขาหากินตามบ้านตามเรือนของเขา การซื้อการขายตั้งบริษัทบริวารมา ก็ไม่ได้กระทบกระเทือนแก่ชาติบ้านเมืองที่ไหนเลยนี่ เขาก็หากินมาตามธรรมดา แต่พวกนี้ทำลายจนชาติบ้านเมืองจะจม แล้ว ปปช. มันไปนอนตายอะไร ใครกำอำนาจกุมอำนาจไว้ ปปช. นี่ มันถึงได้มีฤทธิ์มีอำนาจหาปราบตั้งแต่คนดี คนชั่ว ปปช. มันตายแล้วหรือถึงไม่ไปปราบ

ตรงไหนที่มันปราบ ใครจะรู้ยิ่งกว่าพวกถือบังเหียน คือ ปปช. เป็นเจ้าอำนาจนี้วะ มันกำลังเอา ปปช. นี้ไปหาตีคนดี ไล่คนดีเข้าคุกเข้าตะราง ไล่นักโทษมหาภัยใหญ่หลวงในนั้นออกมาเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวง มากุมบังเหียนมาถือ ปปช. เป็นมีดไม่รู้กี่สันกี่คมอยู่ใน ปปช. แล้วฟันคนนั้นฟันคนนี้ ฟันตั้งแต่คนดี คนชั่วไม่ยอมฟันมันเป็นยังไง หรือพวก ปปช. ทั้งหมดมันเป็นคนชั่วทั้งหมดเหรอ เป็นปัญหาที่น่าคิดนะพวกนี้

เวลานี้ชาติไทยของเราเอาเงินเข้าคลังหลวงก็เอาเข้าไม่ได้ ใครเป็นคนเป็น ปปช. มันนอนตายอยู่ไหนเวลานี้ คนทั้งประเทศเดือดร้อนวุ่นวาย ทองคำก็ดี เงินดอลลาร์ก็ดี เงินสดก็ดี ที่จะเอาเข้าในเวลานี้ เกิดเรื่องมาตั้งแต่เริ่มจะเอาเข้า ปปช. มันตายอยู่ที่ไหน มันไม่เห็นเหรอ คนทั้งประเทศเขาไม่ใช่คนตาบอด เขาตาดีกันทั้งนั้น พวกนี้มันตาบอดชนดะไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าเป็นคนตาดีให้รีบแก้รีบไขเพื่อชาติบ้านเมืองนะ อย่ามากีดมาขวาง

กฎหมายอันใดที่ให้ทำลายชาติบ้านเมืองไม่เคยมี มีแต่กฎหมายสนับสนุนชาติบ้านเมือง แล้วกฎหมอยอันนี้มาจากไหนมาทำลายชาติบ้านเมือง กีดขวางอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวงศาสนาก็เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน มันไปอยู่ที่ไหน ปปช. มันนอนหลับตายอยู่ที่ไหนเมื่อไรจะตื่นขึ้นมาปราบพวกเปรตพวกผีเหล่านี้น่ะ มันไปหาปราบตั้งแต่คนดี มีอย่างเหรอ ปปช. แบบนี้ ปปช. ของมหาอำนาจมหาโจรที่จะทำลายชาติทั้งนั้นไม่เป็นอย่างอื่น ขอให้จดจำคำนี้ไว้ให้ดี ขอให้พิจารณากันทุกคน

ปปช. ตั้งไว้เพื่ออะไร ตั้งไว้เพื่อสำหรับปราบความชั่วคนชั่วทั้งหลาย ๆ แล้วคนดีไปปราบเขาทำไม มันไปหาปราบคนดีนะเวลานี้ คนชั่วมันไม่ยอมปราบกัน มันมีแต่ ปปช. กลืนบ้านกลืนเมืองด้วยกัน มันจะไปปราบกันลงคอยังไง มีแต่ยักษ์แต่ผีด้วยกัน ใครมีตามันก็เห็นด้วยกันทุกคนล่ะซิ ต้องพิจารณาซิ ถ้าเราตั้งใจจะให้เป็นชาติบ้านเมืองที่แน่นหนามั่นคง ด้วยศีลด้วยธรรม ด้วยกฎหมายบ้านเมืองจริง ๆ อย่าเอากฎหมอยเข้ามาแทรกนะ กฎหมอยนี้คือกินทั้งนั้นกลืนทั้งนั้น เอากฎหมายมาเป็นโล่บังหน้า กฎหมอยแอบกินอยู่ข้างหลัง ๆ ปปช. ก็ออกละที่นี่ ทำท่าคนนั้นผิดคนนี้ผิด ตัวเองผิดขนาดไหนไม่ดู นี่ตัวสำคัญ มันผิดอยู่ในวงราชการงานเมือง จุดใหญ่นี้ละ ปปช. มันนอนตายหรือมันไม่เข้าไปหาจุดใหญ่นี้ ทำไมไม่ไป

บ้านเมืองจะล่มจมนี้เพราะอะไร เพราะพวกนี้นี่นะ คนดีเขาไม่ทำบ้านเมืองให้ล่มจม ไปหาตีหาต่อยทำลายเขาทำไม ถ้าเป็นอรรถเป็นธรรมจริง ๆ จะเป็นผู้นำชาติบ้านเมืองต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วนมันถึงถูกต้อง เอา วันนี้พูดเพียงเท่านั้นก่อน เหนื่อยแล้ว พูดไป ๆ มันเหนื่อยแล้ว ปปช. นี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน ปปช. หลวงตาบัวนี้เหนื่อย ออกละวันนี้นะ อันนี้ออกวันนี้ ยิ่งจะออกเลยวันนี้ เผ็ดร้อนนะวันนี้ เผ็ดร้อนก็ออกเร็ว ๆ หน่อย วันนี้เผ็ดร้อนมาก จะออกเร็ว ๆ หน่อย คนดีต้องให้รางวัล คนชั่วต้องตีแหลก ถึงเรียกว่าเป็นธรรมเข้าใจไหม คนดีไม่เสริมมีอย่างเหรอ คนชั่วไม่กดไม่ได้

ปปช. แปลว่าอะไร เราได้มาแล้วก็ฟาดทั้งดุ้นฟาดแหลกไปเลย ปปช. แปลว่าอะไรอย่างนี้ เราได้แต่ ปปช. แล้วก็ฟาดแหลกไปเลย ปปช. ป่าเป็นอย่างนั้นนะ ปปช.ป่า คว้าได้ทั้งดุ้นแล้วฟาดแหลกไปเลย ไม่ต้องไปหากิ่งหาก้าน ปปช.ป่าเป็นอย่างนั้น ถ้า ปปช.ทางบ้านเขาก็ต้องแยกแขนงนั้นเป็นอย่างนั้น ๆ ปปช.ป่านี้จับทั้งดุ้นฟาดเลย ใครหลบทันก็ทัน ไม่ทันก็หงายหมาไปเลย คำว่าหงายหมามันหงายไม่เป็นท่า เพราะไม่ได้ระวังตัว ทางนี้ฟาดปั๊วะเลย ทางนั้นหลบไม่ทันก็หงายหมา เข้าใจหรือเปล่า ถ้าหงายแมวหงายมีท่าระวังตัว เขาเรียกหงายแมว หงายนี่มันตบได้แมว หมานี้ร้องแอ้ ๆ เหมือนอย่างพวกนักภาวนาเราในครัวแอ้ ๆ ที่นี่ให้พรนะ สายแล้ว…

วันนี้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาจะพากันกลับ ขอให้กลับด้วยความปลอดภัยทั่วหน้ากัน และการขับรถให้ระมัดระวังดังที่เคยปฏิบัติมานะ เวล่ำเวลาไม่สำคัญยิ่งกว่าความปลอดภัย ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับสติปัญญาพินิจพิจารณา สำคัญอยู่ตรงนี้ เอาละเลิกกันได้แล้ว เลิกกันละที่นี่ นี่สั่งให้เขาบุ๊กตั๋วแล้วกะว่าวันที่ ๑๕ พอดีแล้วนะ ถึงตอนบ่าย วันที่ ๑๒-๑๓-๑๔ นี้เราจะจัดการอะไรให้เรียบร้อย ให้ทัน

วันศุกร์เจออุบัติเหตุ มอเตอร์ไซค์ซ้อน ๓ ขวางหน้าแล้วก็หลบเลยลงถนน

เป็นอย่างนั้นละมอเตอร์ไซค์ ไปที่ไหนเป็นอย่างนั้น เวลานี้ค่อยจาง ๆ ไป เราจึงไม่ค่อยได้พูด แต่ก่อนมอเตอร์ไซค์นี้เป็นบ่อยนะ เราถึงได้เอามาประกาศเรื่องมอเตอร์ไซค์ ทางภาคอีสานเรานี้บอกตรง ๆ เลยนะ การขับขี่มอเตอร์ไซค์ ภาคอีสานเราเลวมากเราบอกตรง ๆ ภาคอื่นภาคใดเราไปหมดเขาไม่ได้เป็นเหมือนภาคอีสานนะ ภาคอีสานส่วนมากมีแต่คนออกมาจากบ้านนอกในป่าในเขา ขับรถบึ่งออกมา ชนดะเลย มาไม่มองหน้ามองหลัง รถใหญ่ก็ต้องหลีก หลีกก็ลงคลอง เราจึงได้ประกาศ เวลานี้ค่อยจางไป ๆ ไม่ค่อยมีอะไร เราก็เลยไม่ประกาศ ค่อยเป็นระเบียบไปแล้ว ประกอบกับว่าถนนก็ค่อยกว้างออกเวลานี้ แต่ก่อนทั้งยังไม่กว้าง ทั้งคนเซ่อด้วย บวกกัน มันเลยเกิดเหตุบ่อย ๆ เวลานี้ค่อยดีขึ้น

มาฟังเทศน์หลวงตาแล้วมีความสุขขี้เกียจไปทำงาน ถือว่าเป็นกิเลสไหมค่ะ มันไม่อยากทำงาน อยากนั่งฟังหลวงตาทุกวัน

มันเป็นกิเลสไหม ให้ถามตัวเจ้าของเอง เจ้าของเป็นผู้ตั้งต้นเหตุขึ้นมา คนอื่นจะไปแก้ไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องเจ้าของแก้เจ้าของเองเข้าใจไหม

แต่วันนี้ฟังหลวงตาก็ได้คติค่ะ ที่หลวงตาบอกว่าไปอังกฤษ แล้วไปดูโน่นดูนี่ เป็นทัศนศึกษา หลวงตาบอกว่าขี้เกียจจะไป แต่ก็ต้องไป ทางนี้ก็ได้คติ

นี่ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ บังคับเจ้าของไปตลอดนะ เช่นไปทั้งเช้าทั้งเย็นนี้ก็ไป จวนจะกลับเท่าไร ตอนเช้า ๖ โมงเช้าไปแล้ว ไปเที่ยวดูทุกซอกทุกมุมดูหมด จนกระทั่งถึงโรงงานทำรถยนต์ ไปหมดนะ เพราะลูกศิษย์ของเรา คนในอังกฤษซอกแซกเขารู้หมดนี่ ขอแต่เราจะไปทางไหนเขาพาไปเลย เข้าไปดูโรงงงโรงงาน โรงอะไร ๆ ไปดูหมด มันเหมือนพระผีบ้า ว่างั้นเถอะน่ะ แต่เราไม่ได้เป็นบ้านี่น่ะ เราไปอ่านดูทุกอย่าง ดูโรงงานประเภทต่าง ๆ นี้ไปดูหมด โรงงานใหญ่ ๆ โต ๆ นี้ไม่ลงรถแหละ บางแห่งก็ลงบ้าง ส่วนโรงงานจริง ๆ ไม่ลง เพราะคนมากเครื่องจักรทำงานอยู่อึกทึกครึกโครม เราก็อ้อม ๆ ๆ ไป

เช่น โรงงานผลิตรถยนต์อย่างนี้เราก็ไปดู เขาขนรถยนต์ออกมานี้ โถ เป็นชั้น ๆ ๆ ออกมา ออกมาจากนั้น คือรถใหญ่มันบรรทุกรถยนต์เล็ก ๆ ออกมา ขนออกมา ๆ เราไปดูหมดนั่นละ ที่ไหนดูทั้งนั้นนะ จวนจะกลับเท่าไรยิ่งดู ฟาดสุดท้ายก็ลงรถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินยังไม่ลงนะ ไปลง ลงรถไฟใต้ดินแล้วบึ่งเลย ไปใต้ดินนะรถไฟ เขาไม่ได้ไปบนดิน ไปใต้ดินเลย ไปจอดปึ๊บ ประมาณสัก ๑ นาทีได้มั้ง เจ้าหน้าที่รถไฟเขาไม่ได้มากหนา เขามีแต่เครื่องจักรทำงาน มีแต่คนประจำเครื่องจักร ๆ เท่านั้น ไม่ยากอะไร พอไปปั๊บ หยุดกึ๊กอันนี้(ประตู)มันจะเปิดออกมา ถ้าคนจะลงก็ลง คนจะขึ้นก็ขึ้น ใครเซ่อก็นอนตายอยู่นั้นว่างั้นเลย เดี๋ยวรถเขาก็ไป เข้าใจไหม เราดูตลอด ไม่กี่สถานีแหละ ไปเที่ยวดูเฉย ๆ ดูแล้วก็ลงแล้วก็ไปอย่างนั้นละ ไปดูหมด จึงเรียกว่าขี้เกียจ ไปดูอะไรประสารถไฟ ประสาเหล็ก ก็ยังต้องดู มันเกี่ยวข้องกับคนใช่ไหมล่ะ เราต้องไปดู ดูขนาดนั้นละ

เรายังอดไม่ได้ที่ว่า พวกเมืองนอกพวกอังกฤษนี้ โถ นี่ถ้าหากว่ามีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพร้อมทั้งภายนอกภายในไป เมืองอังกฤษนี้จะเป็นเมืองเจ้าของพุทธศาสนาเรานะ พูดจริง ๆ ก็คิดดูซิ ไปทีแรกนี้ไม่ได้มากนัก ฝรั่งก็ไม่มาก คนไทยยังไม่มาก ต่อไปหนาขึ้น ๆ ๆ จนกระทั่งถึงว่าเก้าอี้ไม่มีความหมาย ใครมาที่ไหนนั่งเลย ๆ เก้าอี้ไม่มีความหมายนะ คือมันมากต่อมาก ใครมาถึงที่ไหนนั่งที่นั่น แน่นหมดเลย นั่งเหมือนผ้าพับไว้นะ นี่สำคัญมาก แต่เราก็เสียดายที่ว่าเราไม่ได้รู้ภาษาอังกฤษ ถ้ารู้ภาษาอังกฤษพูดภาษาอังกฤษได้ จะไปมากกว่านี้นะ กว้างขวางมากกว่านี้ อันนี้เป็นท่านปัญญา เป็นผู้แปลให้ เราเป็นผู้อธิบาย ท่านปัญญาแปล ๆ

ถึงอย่างนั้นท่านเหล่านี้ โอ๋ย หนาแน่นขึ้นทุกวัน ๆ เวลาเราจะจากไปนี้แหม ร้องไห้ก็มีนะ พอก้มมับน้ำตาพัง ๆ ๆ โอ๊ย น่าสงสาร ไปที่ไหนเหมือนผ้าพับไว้ มามากเท่าไรนี้เหมือนไม่มีคนนะ เงียบ ๆ เลย นั่งที่ตรงไหนเหมือนผ้าพับไว้ ๆ มองดูแล้ว โอ๋ย ชื่นตาชื่นใจ โถ นี่ถ้ามีพระผู้มีแบบมีฉบับตั้งใจปฏิบัติจริง ๆ ทั้งหลักภายนอกภายในพร้อมกันแล้ว เมืองอังกฤษนี้จะเป็นเจ้าของพุทธศาสนาไม่อาจสงสัยว่างั้นเลยนะ ไปเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น แหม แน่นหมดเลย เท่านั้นละ ไปละที่นี่

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก