สรุปทองคำและดอลลาร์เมื่อวันที่ ๙ วานนี้ ทองคำได้ ๑๖ บาท ๙๔ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๐๖ ดอลล์ ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงคราวนี้ ๔,๐๐๐ กิโลนั้น ได้มอบและฝากคลังหลวงไว้แล้วเวลานี้สองรายการเป็นจำนวนทองคำ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากการฝากและมอบแล้วนั้นแต่ยังไม่ได้หลอมเวลานี้ ๒๐๙ กิโล ๒๐ บาท ๔๓ สตางค์ รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒,๒๗๑ กิโลครึ่ง ยังขาดทองคำอยู่อีก ๑,๗๒๘ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโล
ท่านเจ้าคณะจะพาลูกชายมากราบ บวชแล้วจะพามากราบหลวงปู่
บวชชั่วคราวเหรอ
บวชชั่วคราวครับ ปีนี้เรียนอยู่ปี ๓ พอดีปิดภาคเรียน คุณแม่มาตายก็เลยจะบวช
เคยมาหรือยังมาวัดนี้
ยังไม่เคยครับผม โดยเฉพาะลูกชายได้ทราบธรรมะจากหลวงปู่
หลวงปู่ไหน
ลูกชายของท่านดอกเตอร์อยากจะบวช แล้วได้มากราบและได้มาปฏิบัติธรรม แม้เรียนยังไม่จบก็อยากจะบวชครับ
บวชตอนช่องว่างนะ มีเวลาบวชชั่วคราวหรือจะบวชชั่วระยะใช่ไหมล่ะ
ครับผม
ก็เอาตอนช่องว่างละดี หาได้ ทางดีก็หาได้ มีช่องว่างก็หาได้ ทางชั่วก็หาได้ทำได้ มีช่องว่างเช่นเดียวกันในบุคคลคนเดียวกัน คนผู้ทำดีก็หาช่องว่างทำจนได้ ผู้ทำชั่วก็หาช่องว่างทำจนได้ เพราะฉะนั้นคนดีกับคนชั่ว สุขกับทุกข์จึงไม่แยกจากกันได้ในโลกมนุษย์และสัตว์ทั่ว ๆ ไป เพราะมีความดีความชั่วอยู่ในหัวใจคน ที่จะผลักดันให้ทำตามโอกาสอำนวยตลอดเวลา ว่างเวลาไหนทำได้ทั้งนั้นทั้งดีทั้งชั่ว
นี่ที่พูดนี้มันมีเทปอยู่ข้างบน เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นเรื่องว่านี้เป็นกระบอกเสียงทั่วประเทศไทยแล้วนะ พอพูดนี่ปั๊บออกสถานีอุดรฯ สถานีวิทยุอุดรฯ นี้มีถึง ๘ สถานี ออกทุกสถานีเลย เป็นความสมัครใจของสถานีนั้น ๆ เอง แล้วจากนั้นก็สถานีในกรุงเทพสถานีใหญ่ออกตลอด อย่างพูดอย่างนี้ออก เลยกลายเป็นเรื่องว่าเป็นกระบอกเสียงของประเทศ เสียงอรรถเสียงธรรม เรื่อยมานะ
แต่ก่อนก็มีเฉพาะที่อุดรฯ สถานีวิทยุแห่งเดียวนี้มานานแล้วละ โอ๊ย ๑๐ กว่าปีแล้ว เขาเอาออกจากนี้ไปออกทางวิทยุเป็นประจำทุกวัน ๆ ครั้นต่อมาเกี่ยวกับการช่วยชาติบ้านเมืองนี้เลยทั้ง ๘ สถานีอุดรฯ ออกหมดเลย เป็นแต่เพียงไม่ซ้ำเวลากันเท่านั้น ออกหมด จากนี้ก็ออกทางกรุงเทพ สถานีใหญ่ ๆ ออก
เดี๋ยวนี้กำลังออกอินเตอร์เน็ตอีกนะ อินเตอร์เน็ตออกเวลานี้ทั่วโลก พวกแหม่มก็ยังมานะ เขาติดตามเรื่องนี้ละมา เดี๋ยวนี้ดูยังไม่กลับ แล้วพวกคนไทยเราที่ไปอยู่เมืองนอกก็ติดตามอินเตอร์เน็ตจากโน้นเข้ามา แล้วก็อินเตอร์เน็ตตอบรับกันมาทางนี้เหมือนกัน มาในวัดเรา ตอบรับทางอินเตอร์เน็ตมาเหมือนกัน ก็น่าเห็นใจน่าสงสารเหมือนกัน ชาติไทยเราไปอยู่ที่ไหนก็คือชาติไทย ถือศาสนาพุทธฝังลึกในนิสัย ทีนี้เวลาไปอยู่เมืองนอกศาสนาไม่ค่อยมีที่นับถือ แล้วก็เหมือนว่าไปอยู่ในป่าในดง ไม่ใช่ดงมนุษย์ดงพุทธศาสนาเลย ทีนี้เวลานาน ๆ เมื่อได้ยินเข้าแล้วก็รู้สึกตื่นเนื้อตื่นตัว บางคนถึงกับบอกว่าเหมือนเกิดชาติใหม่ อยู่เมืองนอกเมื่อได้รับเสียงอรรถเสียงธรรมมาแล้ว เหมือนว่าเกิดชาติใหม่ ก็อย่างนั้นแล้ว
อรรถธรรมไม่ค่อยได้ยินง่าย ๆ นะ อรรถธรรมของพระพุทธเจ้า ธรรมแท้ไม่ใช่ธรรมกิเลสควบคุม ไม่ใช่ธรรมกิเลสแฝง ธรรมแท้ฟังได้ยาก หาฟังได้ยากนะ แต่ธรรมที่กิเลสควบคุม ธรรมที่กิเลสแฝงนี้มีอยู่ทั่วไป มีอยู่ทุกเพศทุกวัย ทั้งฆราวาสและพระมีอยู่ทั่วไปทุกหัวใจ ธรรมที่กิเลสควบคุม กิเลสแทรกแซง แต่ธรรมที่เป็นธรรมแท้ที่จะเป็นน้ำดับไฟให้แก่โลกนี้มีน้อยมาก หาฟังได้ยากมาก เช่น พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่าน นี้คือธรรมแท้ ออกจากหัวใจแต่ละบทละบาทเป็นธรรมแท้ ๆ ตลอดไปเลย
หัวใจของเรามีกิเลส พอเราเปิดประตูธรรมจะออกนะ กิเลสมันออกไปดักข้างหน้าแล้ว พอปั๊บออกมานี้ว่า วันนี้จะไปวัด พอดีไปเจอสุรา ฟาดสุราเข้าไปเมามาย กินจนขี้ทะลักออกไป เห็นไหมกิเลสมันลากไป เปิดประตูว่าจะไปวัด พอไปเห็นเขากินสุราเข้าเท่านั้น ฟัดสุรากับเขาขี้ทะลักไม่รู้ตัว นี่เรียกว่ากิเลสบังคับ กิเลสลากถูไป ถ้าให้ธรรมบังคับแล้วไปตรงแน่วเลย
ดังที่เคยพูดให้ฟังเสมอนั่นแหละ ตัวหนึ่งมันนักพนันตัวยง วันนั้นเมียติดธุระ ทั้ง ๆ ที่ไม่ไว้ใจผัวแต่ก็ติดธุระจำเป็น ก็เอาเงินให้ผัวไป ให้ไปจ่ายของตลาด วันนี้จำเป็นไม่ได้ไป แล้วไปก็ให้ไปเถลไถลนะ เมียก็ขู่ เมียขู่เขาก็หมอบ หมอบคือเขาไม่ตอบโต้อะไร เขาหมอบไม่พูด พอออกไปก็ไปเจอเขาเล่นการพนัน ก็ฟัดการพนันกับเขาเสีย เงินที่เมียให้ไปซื้อของตลาดหมด เลยเข้าบ้านไม่ได้ ป่านนี้มันเข้าบ้านได้แล้วยังไปเที่ยวตามหาดูซิน่ะ ไอ้นั่นน่ะ เห็นไหมกิเลสมันลากไป มันเร็วนะกิเลส ไม่ได้ช้านะ ปั๊บ ๆ
อย่างพวกเราก็เหมือนกัน พวกในครัวพวกในวัดนี่นะ ไปนี้ไล่เข้าทางจงกรม ธรรมจับไสเข้าทางจงกรม กิเลสลากแขนหนึ่ง ธรรมลากแขนหนึ่ง กิเลสมันฟาดเอาไปขาหนึ่งอีกแล้ว ขาหนึ่งกำลังจะก้าวมันเอาอีกสองขาแล้ว พอก้าวเข้าทางจงกรมนี้แฉลบปั๊บเข้าหมอนเข้าเสื่อหายเงียบเลย เห็นไหม มันเป็นอย่างนั้นนะ กิเลสมันเร็วที่สุด
ใครก็ตาม เราจึงได้พูดอย่างออกหน้าออกตา ถอดจากหัวใจมาพูดเลย ไม่มีคำว่าสะทกสะท้านในสามแดนโลกธาตุนี้ เราบอกเราไม่มีอะไรเท่าเม็ดหินเม็ดทรายที่จะไปกล้าหรือจะไปกลัว ความกล้าเราก็ไม่มี ความกลัวเราก็ไม่มี เป็นธรรมล้วน ๆ การได้ก็ดีการเสียก็ดีสำหรับเรา ไม่มีคำว่าแพ้ว่าชนะ ไม่มี เป็นธรรมล้วน ๆ เพราะฉะนั้นจึงพูดได้โดยอรรถโดยธรรมทุกแง่ทุกมุมตามความจริงของธรรม แต่ความจริงของธรรมกิเลสจะต้องต้านทานตลอด เพราะความจริงของธรรมต้องตรงไปตรงมา กิเลสมันอ้อมแอ้ม ๆ ประดับประดาตกแต่งให้สดให้สวยงดงาม ปากก็ทาทุกสิ่งทุกอย่าง พูดออกมาให้หวานปาก ๆ กิเลสจะได้เคลิ้ม ถ้าธรรมแล้วฟาดกิเลสแหลกไปเลย ๆ ภาษาธรรมกิเลสจึงไม่ชอบเพราะเคยเป็นข้าศึกกันมา
การพูดทั้งนี้เราพูดตามหลักความจริงล้วน ๆ เราไม่เคยสะทกสะท้าน ไม่ว่าแดนใดในสามโลกธาตุ ตั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมานี้ ว่าอย่างนั้นเลยนะ หัวใจมันจ้าอยู่นี้ตลอดเวลามาเป็นเวลา ๕๑ ปีนี้แล้วจะให้พูดว่ายังไง เขาหาของอะไร เขาได้สิ่งใดมา เขามาพูดได้ อวดกันได้สบาย ๆ ทุกอย่าง ไม่ว่าของปลอมของจริงเขาพูดได้ ยิ่งกิเลสเป็นของปลอมนี้เกลื่อนกลาดทั่วประเทศไทย มีใครสะทกสะท้านสะดุดใจบ้างไหมว่ากิเลสคือตัวภัย แต่ธรรมะแย็บออกมานิดเดียวเท่านั้นกระเทือนไปหมด อย่างที่พูดธรรมะอย่างนี้แหละ กระเทือนนะ ตื่นกันไปหมดละ
กิเลสมันตื่น มันกลัวจะถูกฟาดหัวล่ะซีมันก็ตื่น แต่ธรรมะไม่ตื่น พูดอย่างตรงไปตรงมาเลย ไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน ถ้าสะทกสะท้านอยู่ไม่เรียกว่าธรรม ถ้ามีกล้ามีกลัวไม่เรียกว่าธรรม ธรรมต้องเป็นธรรมล้วน ๆ เหนือตลอดเวลา จึงเรียกว่าโลกุตรธรรม แปลว่าธรรมที่สูงกว่าแดนโลกธาตุ สูงตลอดไปในธรรมทุกขั้น สูงกว่าโลกเป็นลำดับลำดาไปอย่างนั้น
ธรรมประเภทเหล่านี้ใครจะเอามาแสดงได้ ถ้าไม่ขึ้นเวทีต่อกรกัน ฟัดกับกิเลสม้วนเสื่อลงไปหมดแล้ว มีแต่ธรรมจ้าขึ้นมานี้ออกได้หมดเลย นั่นธรรมประเภทนี้ใครจะออกได้นอกจากพระพุทธเจ้า พระอรหันต์เท่านั้น นอกนั้นออกไม่ได้ธรรมประเภทนี้ นี่ละธรรมที่ออกแนวหน้า ฆ่ากิเลสฉิบหายคือธรรมประเภทนั้น กิเลสฟาดธรรมแหลกฉิบหายคือพวกเรานี้ละ พวกเรานี้มีแต่กิเลสฟาดแหลกฉิบหาย ไล่เข้าทางจงกรมมันฟาดขึ้นเสื่อขึ้นหมอน มันไม่ได้ไปทางจงกรม เป็นอย่างนั้นนะ
เพราะฉะนั้นถึงว่าเรื่องพระพุทธศาสนานี้ยากมากนะคนที่จะนับถือ เพราะกิเลสมันล้อมตลอดเวลา ไม่ให้มีช่องมีทางออกไปหาทางอรรถทางธรรม เพื่อบรรเทาทุกข์ทั้งหลายและเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ได้เลย มันปิดมันบังตลอดเวลา มันรักมันสงวนมากที่สุดคือกิเลสรักหัวใจของสัตวโลก เพราะมันเป็นเจ้าอำนาจครอบครองไว้ ก็ท่านเจ้าคุณก็เรียนมาด้วยกัน เห็นไหมที่ว่าพระโคธิกะนั่นน่ะ ตายแล้วพญามารมาแสดงฤทธิ์เดช มืดฟ้ามัวดิน หาจิตวิญญาณของพระโคธิกะดวงเดียวเท่านั้น จนพระพุทธเจ้าขนาบเอาเสียบ้าง
เธอจะมาหาอะไร มาหาจิตวิญญาณของพระโคธิกะลูกเราตถาคตซึ่งนิพพานไปแล้ว ถ้าเป็นภาษาให้มันตรงไปตรงมาตามอรรถธรรม แล้วหลวงตาบัวก็ยืมอรรถธรรมนั้นออกมาว่า ให้มาทั้งโคตรพญามารก็มา มาค้นหาจิตวิญญาณของพระโคธิกะ มันไม่พบทั้งโคตร มันจะตายไปด้วยกันนั่นแหละ เข้าใจไหมล่ะ นี่ละพญามาร เพียงจิตดวงเดียวเท่านี้
คิดดู จิตของสัตว์ที่เต็มอยู่ในโลกธาตุนี้มากขนาดไหน มันไม่น่าที่จะมาเสียดายจิตดวงเดียวเท่านี้ แล้วหึงหวงห่วงใยเหลือเกิน ยึดอำนาจจนกระทั่งแสดงฤทธิ์เดชมืดฟ้ามัวดิน จนมองหาอะไรไม่เห็น ก็มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นทรงเล็งญาณดู คือพญามารกำลังคุ้ยเขี่ยขุดค้นหาจิตวิญญาณของพระโคธิกะที่ตายแล้ว เรียกว่านิพพานไปแล้วด้วยจิตความเป็นพระอรหันต์ จิตดวงเดียวเท่านี้พญามารยังมากวาดมาต้อนหาเสียจนแหลกไปหมด มันเสียดายขนาดนั้น
เพราะฉะนั้นเราจะออกไปวัดไปวา ฟังธรรมจำศีล อบรมจิตใจให้มีความสงบ เพื่อหาทางออกจากบ่วงแห่งมารหรืออำนาจแห่งมารนี้ มันจึงควบคุมไว้ตลอด ควบคุมด้วยความขี้เกียจขี้คร้าน ความท้อแท้อ่อนแอ ควบคุมด้วยอำนาจวาสนาน้อย ควบคุมว่าเวลานี้เรายังหนุ่มยังน้อย เรายังหนุ่มยังสาวอยู่ เรารื่นเริงบันเทิงก่อน ให้กิเลสลากไป ๆ เราจะกลับมาวัดเมื่อไรก็ได้ บทเวลาจะกลับมาวัดมันกลับมาหานิมนต์พระไป กุสลา ธมฺมา ไปอย่างนั้นซิ เข้าใจไหม มันไม่ได้เรื่องอะไร
เอาละพูดเพียงเท่านี้เสียก่อน ไปแล้วมันไปใหญ่นะ เอามีอะไรก็พูดกันที่นี่ เวลาธรรมะออกก็ออกบ้าง ทีนี้เอาเรื่องของโลกของสงสารจะออกก็ออกมา ทางนี้จะคอยฟัง ทางนี้มีหูเหมือนกันคอยฟัง เป็นยังไงฟังเทศน์วันนี้ (เป็นบุญครับผม) ก็พูดสนุกกัน มีแต่ลูกศิษย์ ลูกศิษย์เราเป็นเจ้าคณะจังหวัด แต่ก็ยังมาเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว นี่มาหาหลวงตาบัว ลูกศิษย์กับอาจารย์มาหากัน เพราะฉะนั้นในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์มาหากันก็เปรี้ยงปร้าง ๆ ล่ะซี ใช่ไหม ถ้าคนอื่นไม่ทำเดี๋ยวเขาเอาไม้ไล่ตีหาทางออกไม่ได้นะ แต่มีแต่ลูกศิษย์ของเรานี้ ใครจะตีใคร เข้าใจไหม ถ้าลูกศิษย์จะมาตีอาจารย์ อาจารย์ฟาดเสียก่อนแล้ว เป็นอย่างนั้นละ
หลวงตานี้พูดถึงเหนื่อย เหนื่อยมากนะ เหนื่อยมากจริง ๆ เราทนเอา ทนเอาอย่างนี้ละ คือทนด้วยความเมตตาล้วน ๆ เลย เราไม่มีอะไรเท่าเม็ดหินเม็ดทรายที่จะเกี่ยวข้องกับโลก มีสัดมีส่วนกับโลก เราไม่มีเลย มีแต่ความเมตตาล้วน ๆ หนักเราก็เอา เบาเราก็สู้ตลอดเวลา เพราะเห็นแก่หัวใจของสัตวโลกนั่นเองซึ่งเป็นชาวพุทธเสียด้วยนะ มันจะลืมเนื้อลืมตัวลืมศีลลืมธรรม ให้กิเลสขยี้ขยำแหลกเสียหมดนั่นแหละ จึงฉุดเอาบ้าง ลากเอาไว้บ้างพอให้ได้ข้อคิด นำไปบ้านไปเรือนก็นำไปคิดซิ คิดเพื่อหาทางออกโดยอรรถโดยธรรมคิดได้คนเรา กิเลสมันพาคิด คิดได้วันยังค่ำ คิดจนเป็นบ้า นั่นกิเลสพาคิดนะ ธรรมคิดให้กิเลสมันเป็นบ้าสักทีมีไหม มีแต่กิเลสพาคนให้เป็นบ้า คิดมาก ๆ คนเป็นบ้า กิเลสไม่เป็น นี่ฟาดให้กิเลสมันเป็นบ้า คนโดดขึ้นพ้นไปเลย ให้มันมีสักทีบ้างซิ
พระพุทธเจ้าท่านคิด พระสาวกท่านคิด คิดจนกิเลสเป็นบ้าตายฉิบหายไปเลย พวกเรานี่คิดจนเป็นบ้า ตายแล้ว กุสลา ธมฺมา ทั่วประเทศ แต่เวลายังมีชีวิตอยู่ไม่สนใจกับบุญกับกุศล เวลาตายแล้วไปหากวนพระ นิมนต์ไปมาติกา กุสลา อย่างนั้นซี ถ้าเป็นหลวงตาบัวไม่เป็นอย่างนั้นนะ จะถามว่า นิมนต์ไป กุสลา ธมฺมา มีกล้วยเตรียมไว้แล้วยัง เราจะว่าอย่างนี้นะ เราจะไป กุสลา หากล้วย เข้าใจไหมล่ะ อันอื่นเราไม่ยุ่ง
พวกนี้ตายไม่มี กุสลา มาตั้งแต่มันเกิดนั่นละ มันสนใจหากุสลาที่ไหน ตายแล้วจะนิมนต์พระไปกุสลาหาประโยชน์อะไร สิ่งที่จะพอเป็นประโยชน์แก่พระบ้างก็มีแต่กล้วยเท่านั้น เราถึงถามว่ากล้วยมีไหมล่ะ ถ้าจะนิมนต์หลวงตาบัวไปกุสลานะ เข้าใจไหมพวกนี้ เตรียมกล้วยไว้นะ ถ้าบุญกุศลไม่เป็นท่าแล้วให้เตรียมกล้วยไว้ หลวงตาบัวมีหวังกล้วยเราถึงจะไป ถ้าหวังพวกนี้ กุสลา ธมฺมา เพื่อเป็นบุญเป็นกุศล มีแต่ความขี้เกียจเต็มตัวไม่เล่นด้วย เข้าใจไหม เอาละพอ โอ๊ย ขึ้นเรื่อยเทศน์ มาเยี่ยมเฉย ๆ ไม่ใช่เหรอ ดีแล้วมาเยี่ยมกันเป็นสิริมงคล เอา กลับก็กลับได้
เดี๋ยวนี้สบายแล้วหนองคายมานี้ โอ๊ย ไม่ถึงชั่วโมง บึ่งเดียวจากวัดไปถึงหนองคาย ไม่ถึงชั่วโมงนะเดี๋ยวนี้ แต่ก่อนชั่วโมงกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ถึงชั่วโมง วันนี้ก็เป็นอันว่าเทศน์แล้วนะ ผ่านเสียทีวันนี้เทศน์แล้ว เรียกว่าผ่านไปเสียทีวันนี้ นี่ก็ได้มาอีกแล้ว โธ่ นี้ไม่ใช่ของเล่นนะ โธ่ ๆ เดี๋ยวให้รางวัลเสียก่อน (มีคนเขาฝากถวายช็อกโกแลตค่ะหลวงตา) เออ เอาไว้นั่นละ พวกปอบช็อกโกแลตมันเต็มวัด เรานี้หัวหน้าปอบ ปอบช็อกโกแลตมันเต็มวัด เราคือหัวหน้าปอบช็อกโกแลต
ก็รู้สึกว่าเข้มข้นอยู่บ้างเหมือนกันนะวันนี้ เร่งด้วย มีเร่ง ปุ๊บ ๆ ๆ เพราะฉะนั้นมันถึงเหนื่อยเร็ว นี้มันเตือนนะนี่ ที่อยู่นี่ พูดไป ๆ ถ้าหากว่าลมออกมาก เสียงออกมาก ลมออกมาก มันสะท้อน ๆ แล้วมันจะเข้าไปกระเทือน โรคหัวใจมันไม่ได้หายนะ ถ้าเวลาเราพูดเร่ง ๆ อย่างนี้ลมมันจะออกแล้วมันสะท้อน ๆ สักเดี๋ยวจะยุบยิบ ๆ ขึ้นมาพอทางนั้นเตือนทางนี้หยุดเลย แต่ก่อนไม่มี เทศน์นี้ไปเลย ลงทะเลหลวงก็ยังเหยียบคันเร่งตลอดเลย เดี๋ยวนี้ โอ๋ย เหยียบคันเร่งตั้งแต่ยังไม่ติดเครื่อง เดี๋ยวนี้เหยียบคันเร่งตั้งแต่ยังไม่ติดเครื่องนะ ถึงขนาดนั้นมันก็ยังไม่ไปแหละ
เมื่อวานก็ไปวัดดงศรีชมภู ไปก็เอาอาหารไปส่งเฉย ๆ เอาอาหารไปเต็มรถเลย ไปเอื่อย ๆ ไประยะใกล้ ๆ ถ้าไกลก็ไม่ให้เต็มนัก ไม่ให้หนักมากนัก พอจวนจะถึงก็หากว้านเอาสิ่งของในตลาด ของเต็มรถแล้วก็ออก จากนี้ไปถึงนั้นไม่ไกลระยะทาง เอ้า ค่อยคืบคลานไป ของเต็มรถแล้วพอใจ อย่างนั้นละไป เมื่อวานนี้ก็เหมือนกัน ไปออกจากนี้ก็กว้านเอาตามสายทาง ตั้งแต่ออกจากอุดรฯ ไป พวกไก่หันไก่อะไรที่เขาวางตามระยะทางก็มี พวกนี้เขาไปก่อนอีกด้วยนะ เขาไปซื้อของไว้ก่อนเลย เอาของพวกไก่หันไก่อะไรเขาเตรียมพร้อม ๆ ใส่ถุงรอไว้ข้างหน้า พอเราไปถึงปั๊บ จอดที่พวกบริเวณไก่หัน เขาก็ยกขึ้นมาใส่รถ บึ่งเลย
ไปถึงปากคาดก็เข้าตีตลาดปากคาดอีก ตลาดปากคาดแตกหมดแล้ว โดดเข้าวัดศรีชมภู เมื่อวาน รถถึงแน่นเอี๊ยดเลย นี่อำนาจความเมตตาไปที่ไหนเป็นอย่างงั้นหมด ไม่มีนะพูดจริง ๆ คำว่าเสียดายนี่ไม่มีเลยในหัวใจ มีแต่ความเมตตาท่วมท้นไปหมด ท่วมท้นไปหมด หมดแล้วยังจะให้อีก นั่นละอำนาจความเมตตา เป็นอย่างงั้น ถ้าความตระหนี่ไม่ได้นะ ได้เท่าไรกวาดเข้ามา ๆ ได้เท่าไรไม่พอ กวาดเข้ามา ๆ จนสิ่งที่ได้มาหรือความอยากที่ได้มา มาทับเจ้าของจมไปเลย ความอยากได้แต่ไม่ได้ และอยากได้และได้มา ทั้งสองอย่างนี้ทับหัวใจจมเลย อำนาจของความตระหนี่
ใครอย่าเข้าใจว่าความตระหนี่จะพาเป็นเศรษฐีกุฎุมพี มีหลักมีเกณฑ์ขึ้นสวรรค์นิพพานไปได้นะ พาจมทั้งนั้นเลย ฟังแต่ว่าพาจมทั้งนั้น ตรงกันข้ามปั๊บ ความเมตตาเท่านั้นดึงตลอด ดึงขึ้นตลอด ๆ เอาจนสุดยอดเพราะอำนาจแห่งความเสียสละ คือความเมตตาเป็นพื้นฐานแห่งความเสียสละ เมื่อเมตตาเมื่อสงสารแล้วก็ให้ ๆ นั่นละ สงสารมากเท่าไรยิ่งให้มาก เป็นอย่างนั้น
ใครถวายของเอามาอีกแล้วนู้นน่ะ วันนี้ตั้ง ร้อยดอลล์เห็นไหมล่ะ สองสามสี่คนพ่อแม่ลูกนี้ เอาทุกวันนี่แหละ ทำให้พอประมาณนะปากท้องก็มี จิตใจก็เรียกร้องหาความช่วยเหลือทางด้านธรรมะเป็นที่พึ่งที่เกาะ ร่างกายก็เรียกร้องหาความช่วยเหลือจากการอยู่การกินที่หลับที่นอนเครื่องใช้ไม้สอย ต้องหามาให้สม่ำเสมอกัน ทางปากท้องก็หามาเพื่อเขา ทางจิตใจก็หามาด้วยศีลธรรม เพื่อหัวใจจะได้มีที่ยึดที่เกาะ ทั้งสองอย่างเมื่อต่างอันต่างมีที่ยึดที่เกาะแล้วไม่ห่วง ตายก็ทิ้งเลย เวลามีชีวิตอยู่ก็อาศัยสิ่งเหล่านี้ไป พอชีวิตหาไม่แล้วสิ่งเหล่านี้หมดความหมายพร้อมกับร่างกาย หมดความหมาย จิตใจกับธรรมไม่หมดความหมายกับบุญกับกุศลเกาะกันพับไปเลย จำให้ดีคำนี้ นี้ละจอมปราชญ์ทั้งหลายท่านผ่านไปด้วยวิธีนี้ พวกจอมโจรจอมมารมหาภัยทั้งหลาย มันจมด้วยความตระหนี่ถี่เหนี่ยว ความเห็นแก่ตัว ไม่สละทำบุญให้ทานแม้นิดเดียวไม่ยอมทำพวกนี้พวกจม เอาละทีนี้ให้พร..
วันนี้ว่าจะไม่พูดมาก มันก็มากอยู่นั้นแหละ มากทุกวัน ให้ภาวนานะ เวลาโอกาสอำนวยแล้วเอาตักตวงให้ได้ บุญกุศลนี้มาได้ร้อยวันแล้วนี่ รอเจ้าของอยู่แล้ว นี่กุศลรอเจ้าของจะดึงขึ้น ความชั่วรอที่จะลากลงเข้าใจไหมล่ะ อันนี้รอที่จะดึงตลอด ในหัวใจของเราก็ชื่นบาน หนุนอยู่แล้ว เราได้ให้มานี้หัวใจชื่นบาน หนุนอยู่แล้ว ๆ พอขาดปุ๊บดึงเลย เข้าใจ