เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
ความจริงกับความปลอม
(ท่านผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ท่านใหม่ พลตรีชูรัตน์ เสน่ห์เมืองพร้อมครอบครัวและกำลังพล เนื่องจากมารับตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดอุดร ขอถวายทองคำ ๒ บาท ไถ่ชีวิตโค ๑ ตัว) เออ ถวายทองคำ ๒ บาท ไถ่ชีวิตโค ๑ ตัว ขอให้หลวงตาอายุยืน ๑๒๐ ปี มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป (ท่านผู้บัญชาการบอกว่าหลวงตามีอะไรให้ทหารรับใช้ยินดีทั้งหมดครับ เป็นลูกศิษย์หลวงตาหมดครับ) เออ พอใจๆ
ทองคำเราที่ได้เข้าสู่คลังหลวงมันเท่าไรแล้วลืมแล้วนะ (๑๑,๘๓๑ กิโลครับ) ๑๑,๘๓๑ กิโล ทองคำสำหรับเข้าคลังหลวง เหล่านี้เข้าทั้งนั้น รวมทั้งหมดทองคำดูจะได้มากอยู่นะ เราลืม (๑๑,๘๓๑ กิโลครับ)
ลูกบังอรและครอบครัวขอน้อมถวายน้ำตาลทรายจำนวน ๘,๔๐๐ ถุง ถุงละครึ่งกิโล น้ำปลาจำนวน ๑,๒๐๐ ขวด น้ำมันพืชจำนวน ๑๒๐ ขวด กาแฟดำจำนวน ๑,๐๐๐ กระป๋อง ขนมปังปี๊บจำนวน ๕๐๐ ปี๊บ ผ้าขาวจำนวน ๓ พับ จักรเย็บผ้าจำนวน ๕ ตัว เป็นของคุณแม่บังอรจากเมืองชล ท่านพฤกษ์เป็นลูกของแม่บังอรที่ไปมาอยู่ตลอดกับวัดนี้กับทางเมืองชล เอาของมาถวาย
นี่ละที่ถูกเขาฟ้องขึ้นทางส่วนรวมด้วยนะ เป็นความเสียหายมากมายเสียด้วย พอดีผู้ที่จะแก้ฟ้องก็คือเราเอง พอดีกัน คือเขาฟ้องมาว่าท่านพฤกษ์ที่สร้างวัดอยู่เขาเขียวเอาเงินจากที่วัดเขาเขียวมาทำรีสอร์ตรีแสดอะไร เขาฟ้องออกมา พอดีสถานที่ที่ท่านพฤกษ์อยู่เราก็ไปเห็นด้วย ไปเห็นทุกอย่างด้วย เราก็แก้ทันทีเดี๋ยวนั้น กระจายไปหมด เงียบไม่มีคำตอบเราเลยแสดงว่ายอมแล้ว
คือเขาเขียวน่ะท่านพฤกษ์ท่านไปอยู่ที่นั่น แล้วเขาหาว่าท่านพฤกษ์เอาเงินมาสร้างรีสอร์ตอะไรๆ ว่าอย่างนั้น แล้วเขาเขียวก็มีกุฏิสามสี่หลังเฉพาะพระเดินจงกรมภาวนาเท่านั้น โรงงงโรงงานผลิตเงินทองมานี่ไม่มีนะ พอเราได้ยินอย่างนี้เราก็อ่านขึ้นเดี๋ยวนั้น ตอบกันเดี๋ยวนั้นเลย เงียบเลย แสดงว่าแพ้เรา อย่างนั้นละมนุษย์ ไม่ได้คิดได้อ่านอะไรเลย มันหาเรื่องใส่กัน พอดีเหตุการณ์เหล่านี้เราไปเห็นหมดน่ะซิ เราแก้ทีเดียวพร้อมหมดเลย
ท่านพฤกษ์ท่านอยู่เขาเขียว สถานที่อยู่ของท่านสวยงามมาก คำว่าสวยงามคือสวยงามพวกป่าพวกดง สัตว์เต็มอยู่นั่นน่ะ พระกับสัตว์เป็นเพื่อนกันอยู่หลังเขาเขียวนะ มีทุกอย่าง พวกสัตว์พวกเนื้อพวกเสือพวกหมี สัตว์ต่างๆ เต็ม เราขึ้นไปดูแล้วนะนี่ เพราะฉะนั้นใครมาพูดอะไรขัดต่อความเป็นจริงเราจึงตอบทันทีเลย อันนี้ก็เหมือนกัน ว่าเอาเงินมาสร้างรีสอร์ต สถานที่จะผลิตเงินคือมีงานใช่ไหมล่ะ นี่งานก็ไม่มี เห็นแต่ทางจงกรม ไม่มีอะไรเลย มันหาเรื่องใส่กันได้นะ พอดีเราไปเห็นเสียด้วย เราแก้คำนั้นออกทันที เงียบเลยจนกระทั่งป่านนี้ นั่นละความจริงกับความปลอม พูดป่าๆ เถื่อนๆ มานี่ เราเอาความจริงออกตอบเลย เพราะเราไปเห็นนี่ สถานที่ภาวนาของพระกรรมฐานที่ไหนๆ เราไปทั้งนั้นละ ทางเมืองชลก็เขาเขียว ท่านพฤกษ์ละอยู่ที่นั่น
วันนี้เป็นวันอะไร (วันพฤหัสเจ้าค่ะ) วันที่ ๙ วันพฤหัส มันจำไม่ได้หลวงตานี่ เดี๋ยวนี้สะกดการันต์ก็ไม่ถูก หลงลืมไปหมด พวกสะกดการันต์ เขียนหนังสือไม่ถูก อ่านก็ผิดพลาดไป เขียนก็ผิดอ่านก็ผิดไปเรื่อย หลงหน้าหลงหลังแล้วเดี๋ยวนี้ ไม่ได้เรื่องอะไร ความแก่มันแก่มาแล้ว ความจดความจำเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ นี้ลดเข้ามา หดเข้ามา อย่างนั้นละ ยังเหลือแต่ใจรู้ กิริยาอาการของใจนี้หลงลืมไปหมด ไม่เหมือนแต่ก่อน มันชำรุดทุกอย่างแหละ วันนี้เป็นวันพฤหัส วันที่ ๙ เห็นคนมาวัดมากนั่นละเราจึงถามว่ามีงานมีการอะไรบ้าง
เราไม่สบายมาหลายวันแล้วเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฉันจังหันก็ไม่ได้ ทนฉันไป อยู่กับหมู่กับเพื่อนเป็นอย่างนั้น ถ้าอยู่ลำพังคนเดียวไม่ฉัน อยู่ในป่าในเขาอย่างนั้นละ เราไม่เคยปรากฏตั้งแต่หยุดเรียนออกปฏิบัติแล้วนี้มันเจ็บไข้ได้ป่วย บิณฑบาตไม่ได้ ยังฉันอยู่ไม่เคยมี เมื่อมันเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วไม่ไหววันนั้นไม่ฉันๆ ตลอดไปเลยนะ เป็นอย่างนั้นละ เดี๋ยวนี้มันหลงลืม แต่ก่อนไปอยู่ในป่าในเขาเป็นอย่างนั้นละ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ไม่ฉัน ไม่บิณฑบาต หยุดสักกี่วันก็หยุดไป ถ้ามันพอฉันได้ก็บิณฑบาตมาฉันแล้วฉัน ถ้าธรรมดาแล้วบิณฑบาตไม่ได้ก็ไม่ฉันเลย
การฝึกกรรมฐานนี้เหมือนออกแนวรบ รบกับกิเลสนั้นละ ต้องเข้มแข็งทุกอย่าง อ่อนแอท้อแท้ไม่ได้ ต้องเข้มแข็งทุกอย่าง ประกอบความพากความเพียร เข้มแข็งทุกอย่างนั่นละ ไม่เช่นนั้นกิเลสมันไม่เคยอ่อนกับใครละ ถ้าธรรมะอ่อนมันเหยียบหัวไปเลย ถ้าเราแข็งค่อยยังชั่วหน่อย
วันนี้ไม่มีอะไรละคนก็มามาก ถ้าวันว่างเข้าศีลเข้าธรรมก็ดี จิตใจที่เข้าใกล้ชิดติดพันต่ออรรถต่อธรรมนี้ พวกฟืนพวกไฟพวกกิเลสตัณหาที่มันคอยจะเผาหัวคนนั้น มันก็ค่อยหมอบลงๆ ถ้าห่างเหินจากวัดจากวาแล้วอันนี้โผล่หัวขึ้นมาละ เผาไปหมดเลย วันนี้ก็ไม่มีอะไรละ พี่น้องทั้งหลายมาฟังอรรถฟังธรรมก็ให้นำไปทำประโยชน์นะ
วัดก็เป็นตัวอย่างของชาวบ้านนั่นเอง พระเองหัวหน้าเป็นตัวอย่างของพระทั้งวัด ออกจากนั้นก็เป็นคติธรรมอันดีงาม ใครมาก็ได้ดูวัดดูวา ดูเป็นอย่างไรวัดของท่านเป็นอย่างไร วัดมีกฎมีเกณฑ์มีเหตุมีผล ต้องมีระเบียบเรียบร้อยเป็นของสวยงามน่าดูน่าชมน่ากราบไหว้บูชา ไอ้แบบโกโรโกโส เข้าไปในวัดมองดูวัดแล้วก็ไม่อยากดูพระแหละ เหมือนรู้เลยนะ เข้าไปดูวัดปั๊บทีนี้ก็ดูพระในทันทีทันใด ข้อวัตรปฏิบัติความเรียบร้อยแห่งศีลแห่งธรรมอยู่กับพระ พระเป็นผู้จัดทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าพระเหลวไหลแล้วอาการทุกอย่างที่แสดงออกในวัดในวาก็เป็นของไม่น่าดูไปหมดนั่นละ
เพราะฉะนั้นเรื่องศีลเรื่องธรรม หลักธรรมหลักวินัยจึงเป็นของจำเป็นมากทีเดียว เราก็ให้นำไปปฏิบัติต่อตัวของเรา อย่าสักแต่ว่าอยู่ สักแต่ว่าไป กินแล้วนอนกอนแล้วนินใช้ไม่ได้นะ วันนี้ก็ไม่มีอะไรละ มีเท่านั้น จะให้พร
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|