เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๑
สัญชาตญาณรับผิดชอบ
ก่อนจังหัน
ไม่ลืมตั้งแต่ต่อฟาดเรากลางหลังหมดรังเลย ปวด ไม่ลืมจนกระทั่งป่านนี้ ไปกับเด็ก เด็กไปจับเถาวัลย์ เถาวัลย์มันเกี่ยวกับรังต่ออยู่นั่น ทีนี้เราไม่เห็นรังต่อซิ เด็กมันจับอันนี้ดึง โห หึ่งออกมานี่หมดรัง มันใส่เด็กตัวหนึ่งร้องแว้เลย เด็กอายุ ๑๕ ปี มันร้องแว้ เรามองไปเห็นปัดเด็กไปเลย เราเข้ายืนกัน ฟาดเราหมดเลย นั่นเห็นไหม มันเป็นเองนะความรับผิดชอบ ปัดเด็กออกไปเลย เรากันไว้ให้มันซัดเรา ทีนี้พอเสร็จแล้วให้หมู่เพื่อนมาดู มันเป็นจ้ำๆๆ แดงๆ หมดรัง ไข้เลย เด็กถูกต่อยตัวเดียวเท่านั้นก็เป็นไข้ ไอ้เราหมดรังเป็นไข้ ตีสองค่อยสงบ ตั้งแต่บ่ายสี่ พูดนี่หมายถึงว่าสัญชาตญาณ มันต่อยเด็ก รู้ว่าต่อ พอต่อยเด็ก ปัดเด็กไป เรายืนกัน มันก็ซัดเรา โธ่ๆๆ เป็นไข้ทันทีเลย ตีสองสงบ ตั้งแต่บ่ายสี่โมง แหม พิลึกจริงๆ
พอพูดเรื่องนี้แล้วทำให้ระลึกถึงที่อยู่หนองผือกับพ่อแม่ครูจารย์มั่น อันนั้นแตนทั้งรังเลย เขาเรียกแตนอะไร แตนเหลืองต่อยปวดๆ น่ะ คือเอาต้นเสานี้ละแบก สองคนเรากับท่านแดง ท่านแดงยกนี่ขึ้น เราก็ยกนี่ขึ้น แตนมันออกมาฟาดเราเสียจน หมู่เพื่อนว่าแตนต่อยท่านอาจารย์ๆ เฉยเลย ถ้าเรากระดุกกระดิกนู่นคอหัก ทิ้งไม้คอหักใช่ไหมล่ะ ต้องเฉยเลย มันไม่ต่อยครูอาจารย์บ้างเหรอ ไม่ต่อยยังไง นั่นละสัญชาตญาณรับผิดชอบกัน มันจะต่อยเราทางไหนเอา ผู้นั้นหันหลังให้เราไม่รู้เรา สมมุติว่าเราปล่อยปุ๊บนี้อันนี้ทับอันนี้ลง แตนต่อยปวดเสียด้วย เป็นชนิดปวดมาก
นี่ชนิดรับผิดชอบ ที่นี่ชนิดไม่รับผิดชอบ ชนิดไหนเอาลองดูซิน่ะ ชนิดหนึ่งไม่รับผิดชอบ เณรน้อยที่มันไปอยู่สหรัฐนั่นน่ะ เณรน้อยมากับท่านสิงห์ทอง ทั้งวันมันไม่พูดละ แต่เวลามีอะไรไปถูกนิดหนึ่งร้องว้ากเลยๆ แต่ธรรมดาไม่พูดนะ อะไรไปถูกนิดหนึ่งร้องว้ากๆ อันนี้ก็ซัดเอาเสียจนร้องว้ากเลย เราดัด คนนี้มันเก่งนัก มันไม่ค่อยพูด แต่อะไรมาสัมผัสมันร้องว้ากเลย เราก็ให้แตนฟาดเอาหลงทิศ ร้องว้ากเลย ขบขันดี
หลังจังหัน
บกบางมากน้ำปีนี้ ฝนตกนิดหน่อยๆ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าฝนมันก็ไม่ตก เดือนสิงหา-กันยานี่หน้าฝนโดยตรงไม่ตก วันนี้ขึ้นวันที่ ๑ กันยาฝนก็ไม่ตก ปลาเต็มอยู่ในน้ำ ใครก็เอาปลามาปล่อยๆ เต็มไปหมด ในห้วยหน้าวัดเต็มไปหมด ฝนไม่ตกมาเพิ่ม น้ำไม่เพิ่ม ฝนตกมากน้ำไหลมามันก็ออกกระจายไปหมด สัตว์มันก็ออกได้ นี้ออกไม่ได้นะ
อาทิตย์นี้ธาตุขันธ์ไม่ดีเลย เป็นอยู่ลึกๆ อยู่ภายใน บอกว่าเป็นอะไรก็บอกไม่ถูก แต่รู้เป็นอยู่ภายใน
พระในเมืองไทยเราที่ไปอยู่สหรัฐสถานที่อยู่เป็นยังไง เป็นป่าเป็นเขาเหมือนอยู่เมืองไทยนี้หรือเปล่า พวกพระไทยเราไปอยู่สหรัฐ ชื่อกรรมฐานเสียด้วย แล้วเป็นอย่างไรสถานที่อยู่มันเหมาะสมไหมล่ะ อย่างเมืองไทยเรานี้ไม่ด้อยกว่าเมืองไหนละเรื่องสถานที่ประกอบความเพียร มีอยู่ทุกแห่ง ยิ่งทางภาคอีสานด้วยแล้วมีแต่ป่าแต่เขาเป็นแห่งๆ ไปอยู่ได้สบาย ทางหนองคายก็ไปซี ภูเขาแถวนั้นเต็มไปหมด จนกระทั่งถึงท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ไปนู้น เป็นป่าเป็นเขาทั้งนั้น ที่ไหนก็สะดวกทำความเพียรอยู่ที่เมืองไทยเรา ยิ่งภาคอีสานแล้วหาได้ทุกแห่ง ออกนี้ปั๊บเข้าหนองคายป่าทั้งนั้น ตามริมแม่น้ำโขงมีแต่ป่าทั้งนั้น ลงไปทางนู้นริมแม่น้ำโขงก็ป่าอีกเหมือนกัน ทำเลที่จะภาวนาหาได้ง่าย
นี่ก็มีช้างตัวหนึ่งอยู่ข้างหลังวัด ให้อาหารมันกิน ท้องมันเบ่งเท่าภูเขา แตงไม่ทราบว่ากี่สิบลูกเทลงไปในท้องมัน ดูว่า ๓๐ ลูกยังไม่อิ่ม มาทีแรกนะ ให้ ๓๐ ลูกยังไม่อิ่ม มันหิวมันโหยมากนะ พอมาถึงที่นี่ก็ให้เต็มที่เลย ระยะนี้อ่อนลงแล้วละเพราะอาหารมันไม่อดไม่อยาก สิ่งเหล่านั้นให้มันกินอยู่นั้นเลย ช้างอยู่ข้างหลังวัด มาทีแรกหิวโหยโรยแรงมาก พอมาถึงเราก็ขนแตงใส่ล้อไป ซัดเสีย โถ วันแรกดูว่าเต็มที่ วันต่อมาเลยถอย เดี๋ยวนี้ถอยแล้ว คือให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเรานะ พวกแตงพวกอะไรในวัดขนไปให้ๆ วัดนี้ไม่ค่อยอดอยากแหละ พวกสัตว์เช่นอย่างช้าง แตงก็จะเอาสักกี่ลูกกี่ล้อ ไสไปเลยแตง มันก็เต็มอยู่ข้างๆ ช้าง คือมันกินไม่ไหว มันมาก
ดูว่าฝนจะตก ไม่ตก แห้งแล้ง ปลาเต็มห้วยหน้าวัด เขาเอาปลามาปล่อยๆ เทลงๆ แต่น้ำไม่มี ฝนไม่ตก ห้วยหน้าวัดนี่ปลามากที่สุด ตั้งแต่จุดนู้นถึงจุดนู้นปลา กองพะเนิน มันมาก เอาไปเทลงเรื่อย เอามาปล่อยเรื่อยๆ ที่ระบายของน้ำของปลาไม่มี ฝนไม่ตก ก็เลยกองกันอยู่นั้นเวลานี้
เราไปไหนใครอย่ามายุ่งกับเรานะ เราจะไปไหนๆ เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เช่น ฉันจังหันแล้วเราออกปุ๊บๆ เลย ใครอย่ามายั้วเยี้ยๆ เราไม่ได้ นี้เป็นนิสัยประจำตัวเรา เราจะไปไหนเราไปเองของเรา ถ้าจะให้ไปเราก็ให้ไป เช่นอย่างตอนเช้าพอฉันเสร็จแล้ว เราออกของเรา ตามยั้วเยี้ยๆ ไม่ได้นะ อนุโลมเท่าไรมันจะแห่ไปด้วย เป็นกรรมฐานแห่ กรรมฐานแห่ก็แมลงวันละแห่ วุ่นไปหมดเลย
เมื่อวานนี้ก็ดูเหมือนไปสกลนคร ไปกราบพ่อแม่ครูจารย์ ที่รวมครูบาอาจารย์ทั้งหลายอยู่วัดสุทธาวาส แต่ก่อนวัดป่าสุทธาวาสมีแต่วัดเท่านั้น ไม่มีหลังคาเรือนแม้หลังเดียว เป็นดงทั้งหมด แถวนั้นดง จึงเรียกว่าวัดป่าสุทธาวาส เราไปทีแรกปี ๒๔๘๔ ยังไม่มีบ้านคนนัก มีนิดหน่อย แต่ก่อนไม่มีเลย ท่านจึงเรียกวัดป่าสุทธาวาส เดี๋ยวนี้เต็มไปหมดแต่บ้านแต่เรือน มิหนำซ้ำยังตัดถนนผ่านวัดไปอีก เลยเลอะเทอะไปหมด นั่นเป็นที่รวมของพระกรรมฐาน แต่ก่อนรวมที่นั่น ท่านมารวมกันที่นั่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์นะสร้างวัดสุทธาวาส เขาเรียกว่าดงบาก ท่านสร้างที่นั่น จากนั้นแล้วก็เป็นวัดสุทธาวาส วัดป่ามันไม่มีป่าเดี๋ยวนี้ มีแต่ป่าคนแทน
ตั้งแต่อาทิตย์นี้มาเราไม่สบาย เป็นอยู่ลึกๆ อยู่ภายใน จะว่าเป็นหวัดก็ไม่ใช่ เป็นอะไรไม่เชิง แต่ไออยู่เรื่อยๆ มันอาจออกมาจากภายในไอ ไม่ใช่หวัด หวัดมันก็ควรจะหายไปแล้ว นี่มันไออยู่เรื่อย เป็นมานานแล้วไอนี่ยังไม่หยุดนะ ให้พร
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|