เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
สิ่งใดพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้สิ่งนั้นมีอยู่
ก่อนจังหัน
นี่เขาเรียกภูทอก เดินทางไปนี้ไปภูทอก แล้วเลี้ยวเข้าไปทางห้วยทราย มันเป็นภูเขาอยู่กลางทุ่งนา เขาเรียกภูทอก คือมีลูกเดียว แล้วมีหลวงตาแก่องค์หนึ่งอยู่เขาลูกนี้ นั่นลูกหนึ่ง แล้วพอถึงฤดูกาลถ้ามีพระมาเยี่ยมมาพักที่นั่นพญานาคจะลงมาเยี่ยม มาถามข่าว ใครไม่เคยไปเห็นให้ไป ท่านสิงห์ทองละตัวเก่งๆ ท่านสิงห์ทองตัวขี้ดื้อ ตัวไม่ลงใครง่ายๆ ตัวเก่งๆ ไปโดนเอาเสียชัดๆ ร้องโก้กๆ เลย ใครเก่งให้มาๆ
ปากมันเหมือนอย่างนี้ ตัวมันเท่าต้นเสานี่ เวลานอนหลับๆ เสียด้วยนะ มาโฮ่ๆ ข้างบนนี่ สะดุ้งตื่นขึ้นมามองหาอะไรก็ไม่เห็นก็ฮ่อๆ เลย หลวงตาองค์นั้นท่านเคยแล้ว ท่านบอกไว้เรียบร้อยแล้ว อันนี้คนหัวดื้อมันไม่ฟัง จึงให้ฟังเอง บอกว่าญาติพี่น้องจะลงมาจากข้างบนจะมาเยี่ยม อย่าตื่นอย่าเต้น ญาติที่ไหนวะอยากจะเห็น ไม่เลยวันนี้แหละ เพราะหลวงตาองค์นั้นท่านเคยคิดกับพญานาคมาพอแล้ว ใครมาท่านก็เตือนๆ ไม่มีอะไรแหละ ก็มีเท่านั้นละ ความเสียหายอะไรไม่มี
ท่านสิงห์ทองก็ฟัง เอ้อ ใครมาก็มาเถอะ เหนื่อยขนาดนี้จะนอนแล้ว ใครมาไม่ต้อนรับแหละ พอดีนอนหลับๆ มาจริงๆ ปากมันฮ่อๆ ขึ้นหัวท่านสิงห์ทอง ท่านสิงห์ทองก็เรียก เณรๆ ขบขันดีนะ งูใหญ่มันจะมากลืนเราอยู่ตรงหัวนี่ หลวงตาท่านก็บอกแล้วหากไม่ฟัง หลวงตาอยู่ลูกนั้นตะโกนเรียกกันได้ยิน ก็บอกแล้วว่ามันไม่มีอะไรๆ ไม่มียังไง เสียงมันยิ่งกว่าเสียงเสือ มีเท่านั้นแหละ เวลาให้พระมาก็เอาไม้ยาวๆ คือเอาไม้ยาวๆ แล้วเอาโคมไฟไสไปก่อน อย่ามานะเดี๋ยวจะมาเหยียบงูใหญ่ ให้พระถือเข้าไป เข้าไปไม่มีอะไร พอคนไปแล้วขึ้น นี่ละใครไม่เห็นก็ไปดูตรงนี้ ทุกวันนี้ก็มี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลับหูลับตาลับใจหนาๆ ของพวกเรามีอย่างนั้นดูเอา ท่านสิงห์ทองพูดเอง ถ้าว่าใครเก่ง เอา ไป ท่านสิงห์ทองตัวหัวดื้อ ไม่ลงใครง่ายๆ ได้ประกาศ เอา ใครเก่งให้มาดู ท่านยอมรับแล้ว ใครเก่งให้ดู พวกลึกลับมันอยู่ในจิต ร่างกายไม่แสดง เวลาจะแสดงร่างก็แสดงออกมาชัดเจน เวลาจะดับวูบหายเงียบเลย อย่างนั้นละ
นี่ภูทอกไปทางห้วยทราย เราผ่านไปผ่านมาภูทอกนี่ เดินทาง ไม่ได้ขึ้นรถ เดินผ่านไปๆ แปลกประหลาด คนเก่งๆ นั่นละมักจะโดน เก่งๆ มักจะโดน อย่างท่านสิงห์ทองเก่งๆ ไม่ลงใครง่ายๆ มักโดน ทีนี้ยอมแล้ว ว่าใครเก่งให้มา บอกอย่างนั้นเลยท่านสิงห์ทอง ท่านยอมรับแล้ว ใครเก่งให้มา
(ทางจากห้วยทรายไปหนองสูง) เออ นั่นละไปทางนั้น แต่มันอยู่ฟากห้วยทรายมาทางนี้ ไม่ใช่ห้วยทรายไปหนองสูง ฟากห้วยทรายมาทางนี้อีก มาทางเขาเรียกบ้านนาคำ โอ๊ย เราก็ผ่านไปผ่านมาอยู่ภูเขาลูกนี้ แต่ก่อนไปเที่ยวกรรมฐานไม่มีรถ สะพายบาตรไปเลย เราผ่านไปผ่านมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน ผ่านเขาลูกนี้ละ
แต่เราไปไหนก็ไม่ค่อยมีนะ แปลก ไปที่ไหนใครว่าเก่งอะไร แสดงอะไร เราไปไม่เห็นมีอะไร ยกตัวอย่างเช่นวัดบรมนิวาส วัดบรมนิวาสนี้เราไปพักอยู่นั้น ที่นั่นเขาเรียกตำหนักหรืออะไร ว่างไม่มีใครไปอยู่ อยู่ไม่ได้ บางทีไม่ตลอดคืนเผ่นเลยพระ พวกสนมฝังเอาไว้ใต้ พวกสนมฝังกองเต็มอยู่นั้นแล้วปลูกกุฏิครอบเอาไว้ พระไปอยู่นั้นบางองค์ไม่ตลอดคืนเผ่นเลย เพราะฉะนั้นตำหนักอันนั้นจึงว่างตลอด
ทีนี้เราไปนั้นเขาก็จับเรายัดเข้าไปเลย เราก็ไม่สนใจกับอะไร ครั้นไปอยู่แล้วองค์นั้นมาถามองค์นี้มาถาม ถามก็ตอบธรรมดาๆ ว่าสบายดี มันถามมากเข้าๆ มันก็สะดุดใจ มันเป็นอะไรทำไมใครมามาถามแต่อย่างนี้ อย่างอื่นไม่มีถามเหรอ มันมีเรื่องอะไรว่ามาซิน่ะ ว่าอย่างนี้เลย เลยเล่าให้ฟัง พวกสนมนี้..ใครมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ บางรายไม่ตลอดคืน พระนะไปหมด แต่เห็นท่านอาจารย์มาอยู่นี้เงียบๆ ตลอดๆ เลยมาถาม คนนั้นมาถามคนนี้มาถามพระนะ สมภารวัดก็มาถาม ไม่มีอะไรละเราไปอยู่นั่นสบายจนกระทั่งออกไป
เป็นอย่างนั้นละ มันก็เห็นประจักษ์อยู่จะให้ว่าไง จนเราสะดุดใจ องค์นี้มาแล้วมาถามอยู่นี้สบายดีเหรอ บางทีแย็บออกมาไม่มีอะไรเหรอ ตรงนั้นละ เราไม่มี ไปที่ไหนไม่มี (เขาออกมากราบพ่อแม่ครูอาจารย์) กราบไม่กราบก็ไม่รู้แหละ มันไม่มีก็บอกไม่มี แต่พวกนั้นอยู่ไม่ได้เขามาขับไล่ พระอยู่ไม่ตลอดคืน วัดบรมนิวาสนะ เราไปพักที่นั่น ดูเหมือนปลูกขึ้นทีหลัง แต่ก่อนที่เราอยู่วัดบรมนิวาสไม่มี มาปลูกขึ้นทีหลัง เวลาไปเขาให้เราไปพัก พักที่ไหนมันก็เงียบๆ ไม่มีตลอด จนกระทั่งทุกวันนี้ไม่มีสำหรับเรา องค์ไหนไปอยู่ร้องโก้กเลย แต่เราไปอยู่ไม่มี แปลกอยู่นะ
ส่วนมากมักจะมีองค์เก่งๆ นั่นละ องค์เก่งๆ องค์ท้าทาย องค์คุยโม้ มักจะโดนองค์อย่างนั้น แต่เราจะเก่งหรือไม่เก่งเราก็ไม่คุย ก็อยู่ได้สบายตลอด ไม่เห็นมีอะไร คุย เรื่องผี ใครอย่าไปท้าทายหนา สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วสิ่งนั้นๆ มีอยู่ตามที่แสดงไว้ทั้งนั้น ใครจะไปลบล้างไม่ได้ ใครอย่าเก่งกว่าศาสดา ท่านทรงแสดงอย่างไรแล้วต้องเป็นอย่างนั้น สิ่งนั้นมี
หลังจังหัน
ทองคำเราเหลืองอร่ามอยู่ในคลังหลวง เพราะขนเข้าๆ ส่วนดอลลาร์ไม่มาก ดูเหมือนสิบล้านกว่า เราไม่ค่อยได้หนักในทางดอลลาร์จึงไม่ค่อยพูดถึงมากนัก เราหนักทางทองคำ เพราะทองคำเป็นหัวใจของชาติไทยและทุกชาติด้วย ชาติไหนมีทองคำในประเทศของตนแล้วชาตินั้นจะเด่น กังวานไปหมด ร่ำลือก็ร่ำลือ อบอุ่นก็อบอุ่น แน่นหนามั่นคงก็แน่นหนามั่นคง ทองคำจึงสำคัญ
นี่ไม่ทราบว่าเราได้เท่าไรแล้วทองคำ เราพยายามขวนขวายคราวนี้ได้สักเท่าไร (๑๑,๘๑๘ กิโลกรัม) นู่นเห็นไหม ทองคำเราได้เข้าคลังหลวงเรา ได้พาพี่น้องทั้งหลายนำสมบัติอันมีค่าเข้าสู่คลังหลวงของเราได้ทองคำ ๑๑,๘๑๘ กิโล ได้มากนะ ไม่มีสมัยใดละในระยะนี้ ก็มีสมัยนี้ระยะนี้ที่ได้ทองคำมาก ส่วนดอลลาร์ดูเหมือนสิบล้านกว่าเท่านั้น เราไม่ได้หนักแน่นในดอลลาร์นักยิ่งกว่าทองคำ เพราะทองคำเป็นหัวใจของชาติ เด่นทุกประเทศ ประเทศไหนมีทองคำมากประเทศนั้นเด่น เราจึงเสาะแสวงหาตามฐานะของชาติไทยเรา ซึ่งมีคนจำนวนถึง ๖๒ ล้านคน เราได้พอเบาะๆ ก็ยังดี
ได้ทองคำตั้ง ๑๑,๘๑๘ กิโล แล้วยังจะได้อีก พี่น้องทั้งหลายให้ตื่นเนื้อตื่นตัว หลวงตาบัวโฆษณาเพื่อชาติไทยของเราไม่ได้เพื่ออะไร เพื่อชาติไทยของเรามีความแน่นหนามั่นคงแล้วเป็นที่พอใจ เพราะฉะนั้นจึงได้โฆษณา จุดไหนๆ ที่เราโฆษณาให้ถือจุดนั้นเป็นสำคัญ เราพิจารณาเรียบร้อยแล้วเราถึงออกมาๆ ตั้งแต่วันนั้นละวันเราเข้าไปดูทองคำ เขาก็รู้นะ วันนั้นไปมอบทองคำและดอลลาร์ที่คลังหลวง พอเสร็จแล้วเขาก็นิมนต์เราไปดูเฉพาะสองต่อสองเข้าไปเลยนะ เข้าไปดูทองคำ เพราะเขามีหวังว่าวันนั้นเราไปมอบทองคำกับดอลลาร์เยอะนะ นั่นละเป็นสาเหตุ เขาก็นิมนต์เราเข้าไป
เขาบอกว่าที่ได้มาเห็นนี้สองท่าน ท่านใดบ้าง สมเด็จพระเทพฯกับหลวงตา เราไปดูจริงๆ ถามละเอียดลออมากทีเดียวถึงออกมาก็โฆษณาเรื่องทองคำเรา ตั้งแต่บัดนั้นมา เดี๋ยวนี้ทองคำได้ตั้ง ๑๑,๘๑๘ กิโลแล้วนะ หลังจากประกาศลั่นออกมาตั้งแต่ไปดู เราจะขนของเข้าสู่ส่วนรวม มีอะไรเราจะขนเข้าสู่ส่วนรวมๆ เราไม่แตะ เรามีแต่ขนเข้าๆ ทั้งนั้น ดอลลาร์ดูเหมือนได้ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์เข้าคลังหลวงแล้ว ทองคำกำลังเข้าๆ ได้พยายามทุกทางอะไรที่จะเป็นประโยชน์แก่ชาติของเรา เราพยายามที่สุดเลย
พวกนักเรียนก็ไม่สอนมากละ พากันปฏิบัติตัวให้เป็นนักเรียนที่ดี อย่าโกโรโกโส ความรู้เรียนมาเพื่อรักษาตัว
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|