การให้เป็นเครื่องประสานกัน
วันที่ 21 สิงหาคม 2551 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

การให้เป็นเครื่องประสานกัน

ก่อนจังหัน

จากนี้ถึงวัดท่านอุทัย ๕ ชั่วโมงกับ ๕ นาที ออกจากนี้ไม่หยุดที่ไหนเลย ถึงวัดท่านอุทัย ๕ ชั่วโมงกับ ๕ นาที ไกลอยู่นะ ดูน่าจะพอเป็นไปละมั้งอาหารการขบฉัน ทางวัดภูวัวเราก็เลี้ยง เรียกว่าเราเลี้ยงทั้งวัดเลยวัดภูวัว ประมาณสัก ๒๕ ปี ให้ท่านอุทัยไปอยู่ทางนู้น เห็นว่าที่นั่นว่างจากพระปฏิบัติ และท่านอุทัยเป็นพระที่ราบรื่นดีงามในการปฏิบัติ เราก็ได้พูดปรึกษาหารือแกมขอร้องท่านก็ไปให้ เราก็พอใจ

ส่วนท่านเสถียรที่อยู่วัดภูวัวนี้ให้อยู่ประจำ ทางวัดเป็นผู้รับเลี้ยงหมดทั้งวัดเลย แต่ก่อนมีสองสามองค์ๆ เป็นประจำ เพราะชาวบ้านเขามีสองสามหลังคาเรือน เราเลยไปรับเลี้ยง เดี๋ยวนี้อย่างน้อย ๒๐ กว่าวัดภูวัว ตั้งกฎเกณฑ์อยู่ในราว ๓๐ นี่เรารับเลี้ยงทั้งหมดวัดเลย อยู่ในเกณฑ์ประมาณ ๓๐ อย่างมากก็อยู่ในเกณฑ์นั้น มากกว่านั้นก็เป็นระยะเวลา น้อยกว่านั้นก็เป็นระยะเวลา ส่วนมากจะอยู่ในราว ๒๐ กว่าๆ

เราพยายามที่สุดกับพระที่ตั้งใจปฏิบัติ เราจริงจังมากทุกอย่าง ขอให้ท่านทั้งหลายทราบ บวชมานี้ไม่ได้มาเหลาะๆ แหละๆ ตั้งแต่วันบวชมาหาที่ตำหนิเจ้าของไม่ได้ เป็นอย่างนั้นละ ถึงจะเด็ดก็เด็ดเป็นธรรม ดุเป็นธรรม อะไรเป็นธรรมทั้งหมด ไม่ได้เป็นความเสียหายตลอดมา จึงอยากพบเห็นพระจริงจังต่อหลักธรรมหลักวินัย ไม่อยากเห็นพระที่โลเลๆ อย่างนั้นเราเข้าไม่ติด ดีไม่ดีดุเอาบ้าง ไม่คบค้าสมาคมบ้าง เป็นอย่างนั้นละ

คือธรรมวินัยไม่ใช่ของเล็กน้อย พระพุทธเจ้าองค์ศาสดา เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมกราบทั้งนั้นๆ ทำไมเราไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้าได้ลงคอ ด้วยการปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนว นี่ละสำคัญมาก เราเห็นคุณค่าในหัวใจนี้ การปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยพระพุทธเจ้าอบอุ่นๆๆ เรื่อย หนุนขึ้นเรื่อย ฟาดจนพุ่งเลย เพราะธรรมพระพุทธเจ้า ธรรมอื่นใดสามโลกธาตุไม่มีใครมาสอนแบบนี้ มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่ควรเทิดทูนสุดหัวใจ นี่ละเราเทิดทูนด้วยเหตุผลอย่างนี้นะ ให้พร

หลังจังหัน

จากนี้ถึงวัดท่านอุทัย ๕ ชั่วโมงกับ ๕ นาที ไกลอยู่นะ คือไม่หยุดที่ไหนเลย บึ่งเลยถึง ๕ ชั่วโมงกับ ๕ นาที ไกลอยู่ สถานที่ท่านอุทัยอยู่ดี แต่เขาถากถางโล่งหมด ถึงโล่งก็ตามเมื่อเราไปอยู่แล้วเป็นของวัดเราก็ปลูกไปเรื่อยๆ กำลังปลูกต้นไม้ละในบริเวณ มันก็เป็นป่าเป็นดงขึ้นมา เนื้อที่ร้อยไร่ ที่เขาถวายเรา ๗๐ ไร่ แล้วใครมาถวายเพิ่มอีก (ศรัทธาญาติโยมมาซื้อถวายเพิ่มอีก ๓๐) ดูว่าเขาซื้อถวายอีก ๓๐ ไร่ ที่เขาถวายเรา ๗๐ ไร่ ซื้อถวายเพิ่มอีก ๓๐ ไร่ เป็นร้อยไร่เข้าอีก กว้าง นี่ก็ให้ท่านอุทัยดูแล ปลูกต้นไม้ให้เป็นป่า มีร่มเงาเดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา เหมาะ ที่นั่นเหมาะ อากาศก็ดี

รับเป็นวัดที่ไหนไม่ใช่จะรับสุ่มสี่สุ่มห้านะ ต้องได้พิจารณาเรียบร้อยก่อน อย่างท่านอุทัยนี้ดูแถวนั้นไม่มีพระกรรมฐานเลย เลยรับเพื่อจะให้มีกรรมฐานขึ้นที่จุดนั้น อย่างนั้นละ ทางเมืองกาญจน์เลยเป็นวัดเสือไปเลย ให้ท่านจันทร์มาอยู่ที่นั่น ไปอยู่กับป่าเสือเลยเป็นวัดเสือไปเลย เราก็ปล่อยเสียอย่างนั้น เสือชุม วัดเมืองกาญจน์เสือชุม เป็นวัดเสือ

เขาถวายที่เราก็ถามดูในบริเวณแถวนั้นอยากได้วัดกรรมฐาน ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วยความสะดวกสบาย แถวนั้นก็ไม่มีวัดกรรมฐานเลย เลยรับ พอรับแล้วพอดีพวกเสือก็เข้ามา พวกเสือพวกสัตว์เข้ามาในวัดนั้น เลยกลายเป็นวัดเสือวัดสัตว์ไปหมด วัดนั้นเลยกลายเป็นวัดเสือ ตรงที่ทำเลภาวนามันก็เลยกลายเป็นวัดเสือไปเลย เอาเป็นก็ให้เป็น มันก็น่าดูอันหนึ่งเสือ

ท่านจันทร์ท่านก็มีนิสัยดีกับสัตว์ อันนี้มันต้องขึ้นอยู่กับนิสัยนะ พระเรากับสัตว์ องค์ไหนที่ถูกนิสัยกันมันหากเป็นไปเอง หากรับหากชอบ เอาใจใส่อะไรๆ อย่างท่านจันทร์ท่านเมตตาสงสารเอาใจใส่สัตว์ สุดท้ายสัตว์อยู่ข้างบนภูเขาลงมากินอาหารกับท่านหมด หมูเป็นร้อยๆ นกยูงเป็นร้อยๆ ลงมาจากภูเขา ท่านจัดอาหารให้ เลี้ยงดูเขา แน่ะ ก็อย่างนั้นละ เมื่อเขาเคยแล้วเขาก็ลงมา ตอนเช้านั่นละหลั่งไหลลงมา พอกินอิ่มแล้วเขาไป เขาไม่รบกวนเรา หมูก็เหมือนกัน นกยูงเหมือนกัน ที่เด่นมากที่สุดก็คือหมูกับนกยูง เป็นร้อยๆ มันหลั่งไหลมากิน ท่านจัดอาหารให้เลย

ทุกวันนี้สัตว์ป่าล้วนๆ มา ม้าป่าเราก็ไม่เคยเห็น..มา ก็ม้าบ้านเรานี้แหละ ทำให้คิดถึงเรื่องแต่ก่อน สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ป่าทั้งหมด เวลามันออกมาจากป่ามาอยู่ในวัดนี้มันเป็นสัตว์ป่า แล้วเอามาเลี้ยงไว้ในบ้านเลยถือว่าเป็นสัตว์บ้านไปเลย ไม่นึกว่าเขาเป็นสัตว์ป่ามาแต่ก่อน เวลาท่านจันทร์มาเลี้ยงสัตว์ในนั้น สัตว์ป่าออกมาทุกชนิด สัตว์ป่าล้วนๆ นะมา อ๋อ เป็นอย่างนี้เอง เขามาๆ หลายชนิดนะสัตว์ป่าลงมาจากภูเขามากิน บางตัวเขาก็กลับคืนไป บางตัวไม่คืน เลยอยู่ที่วัดเลย

นี่ละอำนาจแห่งการเสียสละความเมตตา สัตว์เคยรู้จักพระที่ไหน เขาเป็นสัตว์ป่าล้วนๆ ทำไมมาอยู่กับพระได้อย่างสนิทใจ นี่ก็คือความเมตตา ความเสียสละ สงเคราะห์ซึ่งกันและกัน การให้เป็นเครื่องประสานกันสำคัญมากนะ การให้นี่ประสานกันได้ดี จิตใจอ่อนนุ่มเลยทันทีเมื่อได้รับการสงเคราะห์จากกันและกัน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถึงยกทานบารมีขึ้นก่อน ทานบารมีคือการให้การเสียสละ เป็นพื้นฐานของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ขึ้นทานบารมีก่อน

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าองค์ใดตรัสรู้ขึ้นมา จึงเป็นบ่อแห่งการเสียสละสำหรับโลก มหาการุณิโก นาโถ หิตาย สพฺพปาณินํ พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มีเมตตามหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ทำประโยชน์แก่สัตว์โลกไม่มีประมาณ พระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น

 

รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz

พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก