เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
เปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์
วัวเวลานี้เท่าไรแล้ว (๕๐๐ ตัวครับ) ที่จะแจกไปทางคนจน แจกไปหมดนั่นแหละ เสียสละแจกทานไปหมด เราไม่เอาอะไรเราพอ พูดให้ลูกศิษย์ฟัง ปฏิบัติมาแทบเป็นแทบตาย ตั้งแต่พรรษา ๗ จนกระทั่งป่านนี้ พรรษา ๗ เรียนหนังสือหยุดจากนั้นแล้ว พอพรรษา ๘ ก็เข้าเลย เข้าหาหลวงปู่มั่นโรงงานใหญ่ ถลุงกิเลส จากนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้ ออกพรรษา ๗ จนกระทั่งป่านนี้พรรษาเท่าไรแล้ว เรียนหนังสืออยู่ ๗ ปี ได้ตรี โท เอก เปรียญสามประโยค มีแต่สามทั้งนั้นละ ตรี โท เอก สาม เปรียญก็สาม
ปฏิบัติมาแทบเป็นแทบตาย เดี๋ยวนี้ปล่อยหมดแล้ว ไม่มีความเพียรเดี๋ยวนี้ ความเพียรไม่มีบอกตรงๆ เพียรเพื่ออะไรๆ หมดโดยประการทั้งปวง ไม่มี เรียกว่าหมดสิ้นในชาตินี้ ชาตินี้เป็นชาติที่ม้วนเสื่อของภพชาติ ที่เกิดแก่เจ็บตายมากี่กัปกี่กัลป์มาม้วนเสื่อกันในชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย พูดให้ชัดเจนเสีย การปฏิบัติธรรมของเราเรื่อยมาตั้งแต่นู้นละ อายุ ๒๐ ปี ๙ เดือนออกบวชเลย ครองฆราวาสมาได้ ๒๐ ปีกับ ๙ เดือน ออกบวชตั้งแต่นั้นมาจนป่านนี้ ก็หลายปี
หาความดีงามทั้งหมด ไม่ได้ต้องติศีลธรรมภายในใจเจ้าของ การประพฤติปฏิบัติเคร่งครัดตลอดมา ไม่ได้มีอะไรติเตียนเลย เพราะนิสัยอันนี้ตรงไปตรงมา จริงจังทุกอย่าง ว่าอะไรจริงทุกอย่าง ใครมาเลอะๆ เทอะๆ ให้เห็นนี้ดุเอาบ้างอะไรบ้าง ไม่คบด้วย เป็นอย่างนั้นนิสัยนี้ตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นบรรดาพวกเลอะๆ เทอะๆ พูดให้มันตรงๆ มันจึงว่าเราดุ มีแต่ว่าเราดุ แม้แต่พระก็ว่าเราดุนะ ก็มันมาเลอะๆ เทอะๆ ต่อหน้านี่ก็ใส่เอาบ้างซิใช่ไหมล่ะ เขาไม่ผิดนะ มาผิดกับเราว่าดุ เลยมาผิดผู้ที่ดี ที่นั่นไม่ผิด พวกนี้พวกไม่ผิดทั้งหมด ผิดแต่หลวงตาองค์เดียว ในศาลานี้ก็ไม่ผิดทั้งหมด ผิดแต่หลวงตาองค์เดียว พระก็ทั้งนั้นละ พระก็ไม่ผิด มีแต่หลวงตาองค์เดียวที่ดุๆๆ เรื่อยไป เป็นอย่างนั้นละ
เป็นจริงๆ นะ พูดความจริง คือเรามันจริงจังทุกอย่าง อะไรมันขวางหูขวางตา พอดุดุ พอว่าว่า พอด่าด่าเอาเลย คือมันขวางตาขวางใจ ขวางหลักธรรมหลักวินัย ขวางศาสดาองค์เอก เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปด้วยการข้ามเกินหลักธรรมหลักวินัย นี่ไม่ข้าม อะไรเป็นธรรมเป็นวินัยแล้วหมอบราบๆ ไม่เคยข้ามเกินฝ่าฝืนนะ ทีนี้เมื่อมาเห็นเพื่อนฝูงหรือใครมีเลอะๆ เทอะๆ ก็เอาบ้าง ดุบ้าง พอลงสุดท้ายเรานี้ไม่มีชิ้นดี มีแต่ดุเต็มตัว ไปที่ไหนดุ
แม้ที่สุดพระเณรวัดนี้ก็เหมือนกัน ท่านจะว่าเราดุแบบไหนก็ไม่รู้นะพระเณร พอเห็นเราเดินโผล่มาทางนู้น ฉันน้ำร้อนอยู่ที่ครัวไฟ กำลังนั่งฉันน้ำร้อนกันอยู่ เราโผล่ออกมาต้นค้อจะลงไปน้ำบ่อ พอเห็นเราแตกฮือเลย แก้วนี้เกลื่อนกลาดล้มระเนระนาดไปหมด ไปเลย แต่ไม่ยอมหนีนะ ไม่ยอมหนีแต่กลัว กลัวไม่ยอมหนีแปลกอยู่นะ พอเห็นโผล่มานี่แตกฮือ เราลงไปน้ำบ่อพอขึ้นมานี้ดูแก้วน้ำอะไรๆ เกลื่อนอยู่ตามนั้น ล้มตามนั้นระเนระนาดไปหมด แล้วทำอย่างไรทั้งกินทั้งเทอะไรนี่ ทำไมเกลื่อนกลาดเป็นเพราะเหตุไร ก็เห็นท่านอาจารย์ต่างองค์ก็ต่างเผ่น โอ๊ย กลัวอย่างนี้เราไม่เห็นดีด้วย
เราปกครองหมู่เพื่อนไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวด้วยเปรตด้วยผีด้วยยักษ์ด้วยมารนะ ดุด่าว่ากล่าวทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมทั้งนั้น การวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงนี้ใช้ไม่ได้ ไม่เป็นธรรม ดูแก้วน้ำคว่ำทิ้งตามนั้น เปิด มันเสืออะไรอย่างนี้ คือเอาจริงเอาจัง มองเห็นปั๊บรู้เลยพระ เพราะอะไร เพราะจริงจังทุกอย่าง มองเห็นปั๊บนี่ตาถึงไหนสติปัญญาพิจารณารอบคอบความผิดถูกชั่วดีของผู้เคลื่อนไหวทันทีๆๆ เลย กลัวตรงนั้นละ ไม่ใช่กลัวอะไร กลัวอันนั้นเอง ก็มาไม่เคยระมัดระวังรักษา นี้เป็นความรอบคอบอยู่ในหัวใจตลอดเวลาพูดจริงๆ รอบตลอดเวลา
(หลวงปู่เพ็ง วัดเหล่างา จ.ขอนแก่น มากราบนมัสการหลวงตา)
หลวงปู่เพ็ง มากราบปรึกษา จะเอาพระพุทธรูปทองคำมาถวายหลวงตาไปไว้ท้องพระคลัง
หลวงตา เราไม่เอา ของมีราค่ำราคาเราไม่เอา ฐานะเราไม่สมทองคำอย่างนั้น แล้วมาก็ต้องรักษาตลอดเวลา ไม่เอา บอกเขาไม่เอา จะเอาไปทางไหนไปเลย กังวลใหญ่นี่ กองกังวลอยู่นั่นหมดเลย รักษาทองคำ ธรรมเลิศเลอยิ่งกว่าทองคำ ยังจะไปให้รักษาทองคำหนักยิ่งกว่าธรรม ไม่เอา เข้าใจไม่ใช่เหรอ ธรรมมีราคายิ่งกว่าทองคำ ให้เรารักษาทองคำเราไม่เอา เข้าใจ บอกเขาเลยอย่าเอามา ที่ไหนที่จำเป็นพอเหมาะสมกับที่รักษาทองคำให้เอาไป ถึงเอามาอย่างไรก็ไม่พ้นความกังวลวุ่นวายของผมที่จะรับผิดชอบในทองคำอันนี้ใช่ไหมล่ะ กว่าจะไปถึงที่มอบหมายทุกอย่างผมต้องกังวลใหญ่โต เข้าใจเหรอ ไม่ต้องเอามา ให้เข้าจุดใดจุดไหนที่ต้องการให้เข้าเลย อย่าเอามา
เราอ่อนลงทุกวันนะเพ็ง อ่อนลงทุกวันธาตุขันธ์ เดี๋ยวนี้ไปใสมาใสลำบากมากนะ อ่อน อายุก็จะ ๙๕ วันที่ ๑๒ สิงหา ๙๕ เต็มเลย ตายกันไปมากมาย เรายังขวางป่าช้าอยู่คนเดียว จะ ๙๕ บ่ยอมไป ยังจะขวางป่าช้าอยู่
นี่เขากำลังเอาวัวมา จะแจกวัวต่อนี้ไป เอามาจากโรงฆ่าสัตว์วัวนี่ ตามโรงฆ่าสัตว์ตามไปกว้านเอามาๆ จะไปแจกคนทุกข์คนจน ช่วยชีวิตสัตว์ อยู่ใสกว้านเอามาหมด กำลังจะเข้าไปโรงฆ่าสัตว์ก็ดึงออกมาๆ ดูจะ ๕๐๐ มีแต่พวกที่ตายพวกนี้ ไปดึงออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ กำลังจะเข้าไปเอาออกมาๆ หมด พ้นภัยพวกนี้ ไม่อย่างนั้นตายหมด วัวเหล่านี้ ๕๐๐ ตัวตายหมดเลย เอาออกมาได้หมด เอาออกๆ
หลวงปู่เพ็ง เขาว่าจะเอาพระทองคำมาถวาย ก็คิดว่าจะเป็นการลำบากของท่านมั้ง
หลวงตา เออ อย่าเอามาเลย รักษายากมาก ของมีค่ามีราคาอย่าเอามา ต้องรักษากันเข้มงวดกวดขัน ศาลาหลังนี้ทิ้งไว้อย่างนี้เลย พอเสร็จแล้วก็มีพระรักษาศาลาอยู่นี้ประจำบริเวณศาลา อาทิตย์ละชุดๆ รักษา ศาลาหลังนี้บ่ได้รักษา ธรรมดา ทิ้งไว้อย่างนี้ บ่มีค่าอีหยัง บ่มี พระรักษาก็รักษาศาลาธรรมดา บ่ได้มารักษาทองคำ ทองคำปั๊บเข้ามาแล้ว โอ๊ย เข้มงวดกวดขัน
หลวงปู่เพ็ง สมมุติว่าเอาพระพุทธรูปทองคำไปหลอมใหม่เป็นทองคำแท่ง จะไม่เหมาะสม จะไปต้ม(หลอม) พระมันไม่เหมาะ
หลวงตา เวลาทำทำได้ เวลาแก้ไขดัดแปลงทำไมแก้ไขดัดแปลงไม่ได้ เราทำเพื่อประสงค์อะไร อันนี้เพื่อประสงค์อะไร แยกผลประโยชน์อะไรต่ออะไรเข้าไปก็ได้ เราเป็นผู้แยก ก็ต้องคิดอย่างนั้นซิ จะคิดแต่ว่าพระพุทธรูปทองคำแตะไม่ได้ก็ไม่ถูก คนเป็นผู้กราบไหว้บูชา จะเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนเปิงอะไรเพื่อเป็นประโยชน์ก็ได้ทั้งนั้นๆ ก็เป็นอย่างนั้นแล้ว
หลวงปู่เพ็ง เราเอามาเป็นแท่งก็ได้นะ สมมุติไว้ก่อน
หลวงตา เราให้ข้อคิดต่างหาก ทีนี้ให้พร
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|