แม่นยำด้วยภาคปฏิบัติ
วันที่ 10 มิถุนายน 2551 เวลา 7:40 น. ความยาว 21 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๑

แม่นยำด้วยภาคปฏิบัติ

ก่อนจังหัน

วิงเวียนไม่ทราบวันนี้เป็นยังไง วิงเวียนหมดทั้งตัวเลย เดินไปนี้คอยแต่จะล้ม มันเป็นอะไรไม่รู้ พอตื่นนอนมาเดินโซซัดโซเซ วิงเวียนหมดตัวเลย ได้ระวังการเคลื่อนไหวไปมาไม่งั้นหกล้ม มันเป็นยังไงไม่รู้

         พระเราให้ตั้งใจภาวนานะ วัดนี้เป็นวัดภาวนาอย่างเดียว ไม่มีกิจการงานอื่นใดมายุ่งกวน ให้ตั้งหน้าตั้งตาภาวนา สติเป็นพื้นฐานแห่งความเป็นอยู่ของนักบวชเรา ไม่ว่ายืนว่าเดินว่านั่งว่านอนสติเป็นพื้นฐานตลอด ไม่มีสติแล้วเซ่อซ่า ต่อจากนั้นเขาเรียกบ้านะ สติเป็นสำคัญ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอ เราเข้ามาเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาอย่างน้อยให้เป็นลูกหลานของพระพุทธเจ้าที่เลิศเลอ อย่าได้เป็นพระที่เลวนะ เดี๋ยวนี้พระเรานี้เลวมาก ประชาชนญาติโยมเขาไม่กล้าตำหนิติเตียนพระ ถ้าพระไม่ดูตัวเอง ไม่ตักเตือนตนเองแล้วยิ่งเลวไปเรื่อยๆ

พุทธศาสนาก็อยู่กับพระเป็นแนวหน้า พระมีความประพฤติอย่างไรต่ออย่างไร สำคัญอยู่ตรงนี้พระเรา อย่าเป็นพระโกโรโกโส โลเลโลกเลก วิ่งหาลาภหายศ นั่นมันพระบ้าพระเช่นนั้น ไม่ใช่พระอรรถพระธรรม พระเป็นนักเสียสละ มุ่งมาหาอรรถหาธรรม อย่าเอาสิ่งเหล่านี้มาเปรอะเปื้อนพระที่สะอาดอยู่ด้วยธรรมอยู่แล้ว ให้มีสติ ไปที่ไหนมีสติ พระขาดสติมองดูแพล็บรู้นะ คนขาดสติไม่ต้องพูดแหละ เรื่องพระขาดสตินี้ไม่น่าดูนะ ไปที่ไหนเคลื่อนไหวไปมาให้มีสติอยู่กับตัวจะสวยงามมาก

พระเราสวยงามอยู่ที่ข้อประพฤติปฏิบัติศีลธรรม ไม่ได้สวยงามอยู่ที่หัวโล้นโกนคิ้ว สวยงามอยู่กับความประพฤติกิริยามารยาท เจตนาเป็นธรรม เคลื่อนไหวไปมามีสติ ปกครองตนเองอยู่เสมอ นี่เขาเรียกว่าพระแท้ พระลูกศิษย์ตถาคต ไอ้เซ่อๆ ซ่าๆ อะไรเป็นแบบโลกไปหมด สกปรกไปด้วยกัน พระเป็นส้วมเป็นถานใช้ไม่ได้นะ วัดนี่เป็นส้วมเป็นถาน พระเณรเป็นมูตรเป็นคูถนี่ใช้ไม่ได้ ที่สะอาดที่สุดในโลกพุทธศาสนาเรานี่ก็คือผู้ปฏิบัติตามอรรถธรรม เฉพาะอย่างยิ่งนักบวช ต้องเป็นผู้สวยงามด้วยอรรถด้วยธรรมกิริยามารยาท ไม่ปราศจากสติ ไปที่ไหนน่าดู

คนเผลอสติมองไปนี้มันขวางตาทันที คนมีสตินี้ไปไหนสวยงาม ความสวยงามของพระอยู่ที่ความประพฤติ ความระมัดระวัง ความมีสติสตัง ไม่ได้สวยงามอยู่ที่รูปร่างกลางตัวเหมือนโลกเขานิยมกัน สวยงามอยู่ที่ความประพฤติกิริยามารยาท ทุกสิ่งทุกอย่างให้รู้จักประมาณ ความมักน้อยที่สุดคือพระ เรียกว่าสวยงามที่สุด มักน้อย มีเท่าไรก็ไม่สนใจ เอาเฉพาะจำเป็นเท่านั้นท่านเรียกว่าพระมักน้อย รองลงไปก็สันโดษมีตามมีตามเกิดไม่รบกวนผู้ใด ตามมีตามเกิดนั่นก็สวยงามรองลำดับกันลงมา ที่สวยงามโดยแท้ก็คือผู้มีความปรารถนาน้อย มีมากมีน้อยไม่สนใจ เอาเฉพาะที่จำเป็นๆ กับความเป็นอยู่ในการปฏิบัติธรรมเท่านั้น นี่เรียกว่าพระสวยงาม ให้พากันจำเอา ให้พร

พระวัดป่าบ้านตาดนี่มันจะตายเพราะอาหารมากท่วมปากมัน ใครไม่มีปัญญาตาย ใครมีปัญญาเอาตัวรอดได้ เพราะอาหารท่วมปาก อดอยากขาดแคลนตายเป็นอย่างหนึ่ง อาหารท่วมปากตายนี่เลวมากเข้าใจไหม ต้องได้กระตุกเอาไว้ ไม่กระตุกไม่ได้ ม้าแข่งมันมักเก่งแต่ไหนแต่ไรมา อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี แข่งเรื่อยเข้าใจไหมม้าแข่ง ต้องได้กระตุกเอาไว้ พระเท่าไรลืมแล้ว (๓๖ ครับผม)

หลังจังหัน

เราที่ได้แต่งหนังสือมานี้สักกี่เล่ม ประวัติหลวงปู่มั่น ธรรมคู่แข่งขันเล่มแรก จากนั้นต่อไปเรื่อยๆ ดูเราเขียนหลายเล่มอยู่นะ หนังสือที่เราเขียนจริงๆ ก็ประวัติหลวงปู่มั่น ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ประวัติหลวงปู่ขาวย่อๆ ปัญญาอบรมสมาธิ มันก็ไม่เคยได้ยินนะล่ะปัญญาอบรมสมาธิ ก็มีแต่สมาธิอบรมปัญญา ทั่วๆ ไปเขาว่าอย่างนั้น แต่ภาคปฏิบัติของเราเราพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลอย่างไรก็นำอันนั้นมาแสดงโดยให้ชื่อหนังสือว่าปัญญาอบรมสมาธิ

นี่ละมหาพุทธาเพื่อนเดียวกัน แกอยู่วัดเหล่างา ขอนแก่น ตอนนั้นเขาเอาหนังสือเล่มนี้ละมา แกอยู่ที่นั่น ได้หนังสือมาเล่มหนึ่งชื่อว่าอย่างไร ชื่อว่าปัญญาอบรมสมาธิ ใครเขียน พอว่ามหาบัวเขียน เหอ มหาบัวเก่งกว่าศาสดาไปไหน เหอๆ ไหนเอามาอ่านดูซิน่ะ ปัญญาอบรมสมาธินี่ มหาบัวมันเก่งกว่าศาสดาไปไหนว่ะ พอมาอ่านเลยนั่งอยู่ที่เดียวอ่าน อ่านจนจบ มันก็ประมาณเทศน์กัณฑ์หนึ่ง กัณฑ์ใหญ่ๆ นั่นละจนจบ เออ เข้าท่าดี แน่ะเห็นไหมล่ะ

ปัญญาอบรมสมาธิ สมาธิอบรมปัญญา เราเรียนนี่เป็นปัญญาอบรมสมาธิ เมื่อจิตหาความสงบไม่ได้ก็ใช้ปัญญาหมุนติ้วๆ มันเลยกลายเป็นจิตกลับมาสงบด้วยอำนาจของปัญญา เขาไม่ได้ปฏิบัติ อันนี้ปฏิบัติ ผลออกมาจากการปฏิบัติมันก็ไม่ผิดละซิ เราเรียกว่าได้ดำเนินตามแนวทุกวรรคทุกตอน ว่าปริยัติเราก็เรียนเสีย ว่าปฏิบัติเราก็ได้ออกปฏิบัติ ผลของการปฏิบัติเราก็ปรากฏผลตามกำลังแห่งการปฏิบัติของเรา เรียกว่าครบ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติได้แก่การศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติได้แก่การศึกษาเล่าเรียนแล้วนำไปปฏิบัติ ปฏิเวธผลแห่งการปฏิบัติเกิดมาเป็นปฏิเวธ แปลว่าความรู้แจ้ง ความรู้แจ้งแทงทะลุ

ปัญญาอบรมสมาธินี้ไม่มีใครเขียน หลักใหญ่ก็ว่าสมาธิอบรมปัญญา สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส สมาธิเมื่อศีลอบรมแล้วย่อมมีผลมาก อานิสงส์มาก พอศีลอบรมสมาธิแล้ว จากสมาธิแล้วก็ปัญญา ปัญญาแล้วก็วิมุตติ เรามันภาคปฏิบัติ มันไม่ได้ไปตามแนว ภาคปฏิบัติต้องใช้ปัญญา ทีนี้เวลาผลเกิดขึ้นทางด้านปัญญามันชัดเจน เพราะมันประจักษ์กับตัวเอง เพียงเราอ่านเราจำมาไม่ชัด ท่านก็จำเราก็จำได้มาก็แบบเดียวกัน ท่านก็ปฏิบัติเราปฏิบัติผลได้มาแปลกต่างโดยลำดับลำดา

สองวันมานี้ไม่ทราบเป็นยังไง วันนี้ก็ไม่ดีเลย วิงเวียน เดินจากกุฏิมานี้วิงเวียน ได้ระวังมาตลอด ไม่ทราบเหตุผลกลไกอะไร มานั่งนี้เวลาลุกก็ได้ระวังละ วิงเวียน เพราะอายุถึง ๙๕ แล้วจะให้มันแน่นหนามั่นคงไปไหน อายุกำลังจะ ๙๕ วันที่ ๑๒ สิงหา ข้างหน้านี้ ๙๕ เต็ม

พวกชาวพุทธเรามักจะลืมตัวนะ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอที่สุดแล้ว หาที่ไหนมาเทียบหรือมาแข่งไม่ได้ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ออกจากสวากขาตธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้วของพระพุทธเจ้าที่ได้มาตรัสรู้ แม่นยำมาก คำว่าแม่นยำเราเรียนไปเฉยๆ ไม่ได้แน่นอนนะ แม่นยำด้วยภาคปฏิบัติจับกันเข้าไป เทียบกันเข้าไปยอมรับเรื่อยๆ ภาคปฏิบัติเห็นผลขึ้นมามันก็รับกันๆ ยอมรับกันด้วย เพียงเรียนมาเฉยๆ ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว ไม่ว่าท่านว่าเราเรียนมา แต่ความสงสัยในมรรคผลนิพพานไม่เคยจางไปเลย เรียนมาด้วยกัน อ่านเรื่องมรรคผลนิพพานแต่ความเชื่อมันไม่ไปตามอ่าน คาราคาซังอยู่นั้นละ ไม่ลง พอออกภาคปฏิบัตินี้ลง

ที่เราลงเต็มที่ก็คือไปฟังธรรมของพ่อแม่ครูจารย์มั่นเทศน์ภาคปฏิบัติ ท่านเทศน์ภาคปฏิบัติเพราะเรามุ่งอย่างยิ่งต่อมรรคผลนิพพาน บอกว่าขอให้ท่านผู้ใดผู้หนึ่งมาชี้แจงแสดงบอกเรื่องมรรคผลนิพพานยังยืนยันไม่เป็นอื่นเถอะ ว่าอย่างนั้นนะ เราจะมอบกายถวายตัวต่อครูบาอาจารย์องค์นั้นแล้วเราจะเอาตายเข้าว่าเลย เอา ตายถวายชีวิตต่อการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานอย่างเดียว พอไปฟังพ่อแม่ครูจารย์มั่นแสดงท่านแสดงจะแจ้ง หาสงสัยไม่ได้เลยมรรคผลนิพพาน เหมือนว่านี่น่ะๆ อยู่อย่างนี้ละ ตาบอดเหรอท่านอยากว่าอย่างนั้นนะ มันจึงไม่เห็น พระพุทธเจ้าตาดีสอนโลก ผู้ฟังมันมีแต่คนตาบอด พูดง่ายๆ ก็ว่าอย่างนั้น ฟังก็จริงแต่มันไม่เชื่อ กิเลสปิดไว้ไม่ให้เชื่อ

อย่างพ่อแม่ครูจารย์แสดงออกนี้ผางจ้าเลยเชียว ลงใจตั้งแต่บัดนั้น ทีนี้จะเอามรรคผลนิพพานให้ได้ คือถ้าไม่ลงมันคาราคาซัง กำลังการปฏิบัติไม่หนักแน่น เมื่อลงใจแล้วการปฏิบัติหนักแน่นทีเดียว ทุ่มกันลงเลย นี่ก็ไปฟังจากท่านแสดงเรื่องมรรคผลนิพพานพ่อแม่ครูจารย์มั่นนี่ละ ลงใจเลย ตั้งแต่นั้นก็ฟัดกันเลยละ จะเอามรรคผลนิพพานให้ได้ เอาจริงเอาจังด้วย หายสงสัย เรื่องมรรคผลนิพพานหายสงสัย อยู่กับภาคปฏิบัติ เรียนไปแล้วให้ปฏิบัติตามนี้เถอะผลจะแสดงออกมา สนฺทิฏฺฐิโก ผลเกิดจากภาคปฏิบัติแสดงมาเป็นลำดับลำดาถึงที่สุดได้เลย

พุทธศาสนาเป็นศาสนาเพื่อมรรคผลนิพพานล้วนๆ ผู้ปฏิบัติก็ประจักษ์ใจจริงๆ ไม่สงสัย พวกเรานี่ไหว้พระมันก็ขี้เกียจ ปลกๆ แทนที่จะไหว้ให้จบสามหนมันได้เพียงหนเดียวสองหนขี้เกียจ ตัดขาดไปแล้ว พุทโธ ธัมโม สังโฆ เลยได้แต่พุทโธ ธัมโม ไปอย่างนั้น มันขี้เกียจหนักเข้าทุกวัน การปฏิบัติตัวเพื่อความเป็นคนดีธรรมท่านดีอยู่แล้ว ท่านสอนไว้ดีแล้ว เอามาปฏิบัติมันก็เป็นไปตามนั้นทั้งนั้นละ เอาละวันนี้พูดเท่านั้น

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com or www.luangta.or.th

และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz

พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก