เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา
เราได้ทองคำเข้าคลังหลวงมากน้อยเพียงไร ๑๑,๗๑๐ กิโล นี่ละได้ทองคำเข้าคลังหลวง คราวนี้ได้ทองคำเข้าคลังหลวง ๑๑,๗๑๐ กิโล เรามีแต่นำเข้านะเรา ไม่มีนำออก นำเข้าๆ ไปที่ไหนนำเข้าเรื่อยๆ ทองคำตั้งหมื่นกว่ากิโล ๑๑,๗๑๐ กิโล ทองคำที่เข้าคลังหลวง ดอลลาร์ไม่ได้มากนะ ดอลลาร์ดูเหมือน ๑๐ ล้าน ๑ แสนกว่านะ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์ ดอลลาร์เข้า ส่วนทองคำเข้า ๑๑,๗๑๐ กิโลทองคำที่เข้าคลังหลวง
(ผู้มีจิตศรัทธามาน้อมกราบถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่านาคำน้อย ตั้งอยู่ ณ วัดป่านาคำน้อย ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ออกอากาศด้วยคลื่นความถี่ ๑๐๗.๒๕ เม็กกะเฮิซ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และสามารถกระจายเสียงครอบคลุมพื้นที่อำเภอนายูง-อำเภอน้ำโสม-อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู อำเภอสังคม-อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย และอำเภอปากธง จังหวัดเลย)
เราก็ได้พยายามที่สุดแล้วสำหรับให้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องชาวไทยเรา เฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวไทยเรา เราช่วยทุกวิถีทางนะ อย่างที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องที่เราช่วยๆทั้งนั้น เราไม่เอาอะไร เราพูดจริงๆ นี่จวนจะตายแล้วเปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ผลแห่งการปฏิบัติธรรมของเราตั้งแต่บวชมา บวชวันที่ ๑๒ พฤษภา ๒๔๗๗ มานี้เป็นเวลา ๗๐ กว่าปี เราพยายามรักษาศีลธรรมมาตลอด เวลาสมบุกสมบันจะเป็นจะตายจริงๆ ไม่มีใครทราบด้วยเราอยู่ในป่าในเขา จากนั้นก็ได้นำธรรมะมาสอนพี่น้องทั้งหลาย
ธรรมะที่เราเสาะแสวงหามานั้นสมใจ เต็มหัวใจแล้ว ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้ว ไม่หาอะไรอีก พูดอย่างนี้ไม่ใช่โอ้ใช่อวด พูดถอดออกมาจากความจริง หาธรรมหาที่ไหน ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วไปหาที่ไหน นี่เวลาหาธรรมพอ หาทางโลกไม่พอ หาจนวันตายก็ไม่พอทางโลก ทางธรรมหาพอ เมื่อพอแล้วพอหมดเลย อิ่มตัว ธรรมอิ่มตัว กิเลสไม่เคยอิ่ม หิวโหยตลอดเวลา ได้มากน้อยเพียงไรยิ่งเขยิบขึ้นไป ส่วนธรรมนั้นพอ
นี่เราก็บอกว่าพอแล้ว ธรรมที่เราบำเพ็ญมาพอตัวเต็มที่แล้ว จะว่าหาธรรมที่ไหนอีก ธรรมกับใจก็เป็นอันเดียวกันแล้วหาที่ไหนอีก เรียกว่าพอ อยู่ด้วยความผาสุกเย็นใจ เรียกว่าหาจนพอ ในชาตินี้พอหมดเลย คือความดีทั้งหลายตั้งแต่วันบวชมาหาแต่ความดีเป็นเวลาเท่าไร ๗๔ ปีบวชมาหาความดี หาจริงๆ นะเรา ไม่ได้เหลาะแหละ ทำอะไรทำจริงทุกอย่าง ถ้าว่าฟาดกับกิเลสก็อยู่ในป่าในเขาใครไปรู้ไปเห็นเรา ซัดกับกิเลส ใครดีอยู่ ใครไม่ดีตกเวทีไปเลย
นี่เรียกว่าพอทุกอย่างแล้ว ในโลกธาตุนี้ปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเหลือภายในใจ โลกสมมุติทั้งหมดปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง เหลือแต่ตรงกันข้ามพูดเท่านั้นก็พอ โลกสมมุติทั้งหมดนี้ปล่อยหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว เรียกว่าตายแล้วนี้จะไม่กลับมาเกิดอีก พูดให้ชัดเจนให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสีย นี่ละการหาธรรมมีที่ยุติเมื่อพอแล้วพอจริงๆ ไม่หาอีกละธรรม..พอ ถ้าหาทางโลกไม่พอ หาจนตายก็ไม่พอ ทางธรรมเมื่อถึงจิตกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วพอ พอหมดเลย ไม่หาอะไรอีกละ
เรียกว่าชาตินี้ก็เป็นชาติสุดท้ายของเราบอกตรงๆ เลย ไม่กลับมาเกิดอีกแล้วต่อไปนี้ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา อยมนฺติมา ชาติ เรียกว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว ต่อไปนี้จะไม่เกิดที่ไหนอีกต่อไปแหละ ไม่เกิด ไม่ตาย นั่นละท่านว่านิพพานเที่ยง เที่ยงอยู่ที่ใจ รู้ประจักษ์อยู่ที่ใจ พออยู่ที่ใจทุกอย่าง เรียกว่าเกิดมาในชาตินี้ตักตวงเอาเต็มที่ ประโยชน์เพื่อโลกเราก็ขวนขวายเต็มกำลัง ประโยชน์ของเราเวลาประโยชน์ของเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับใคร อยู่ในป่าในเขาๆ ตลอด ออกมาสู่โลกก็ช่วยโลกตลอดอย่างนี้ละ
พอแล้วสำหรับเจ้าของพอทุกอย่าง ไม่เอาอะไรอีกแล้ว มีแต่ช่วยโลก ไปไหนก็ช่วยโลกด้วยความเมตตาทั้งนั้นละ สำหรับเราพอทุกอย่างไม่เอาอะไรอีก จากนี้เราก็ดีดเลย ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ฟังให้ชัดเสีย ใครจะฟังก็ฟังเสีย นี่จวนจะตายแล้วเปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เรียกว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเราและ จะไม่มาเกิดอีก ตายอีกเหมือนแต่ก่อนแล้ว สิ้นสุดวิมุตติหลุดพ้นไปหมดโดยสิ้นเชิงในหัวใจ ระหว่างวิมุตติกับสมมุติขาดไปคนละฝั่งไปเลยทีเดียว สมมุตินี่วิมุตติขาดแล้วเป็นคนละฝั่งแล้ว มันรู้อยู่ที่ใจ ประจักษ์อยู่ที่ใจ ไมมีเงื่อนต่อ
โลกสมมุติจะกว้างแคบขนาดไหนไม่มีเงื่อนต่อกับหัวใจที่หลุดพ้นแล้ว ขาดสะบั้นจากกัน เรียกว่าเป็นคนละฝั่งไปแล้ว มีแต่ลมหายใจทุกวันนี้หายใจฝอดๆ ถึงกาลเวลาแล้วก็ดีดผึงเลยทีเดียว ไม่ยุ่งกับอะไรอีกแล้ว ยุ่งเท่านั้นละยุ่งกับโลกมนุษย์ ถ้าจะสร้างความดีก็สร้างเสียให้พอ ถ้าพอแล้วก็รู้กับหัวใจตัวเองว่าพอหมด สมมุติจะกว้างแคบเข้ากันไม่ถึงแหละ เป็นคนละฝั่งแล้ว วิมุตติกับสมมุติเข้ากันไม่ถึง ขาดจากกันแล้วเรียบร้อย วันนี้พูดเท่านั้นละ
มาวัดมาวาให้ดูวัดดูวาดูหัวใจตนจึงเกิดประโยชน์ เพ่นๆ พ่านๆ อย่างมาทุกวันนี้เราดูไม่ได้นะ คือจิตใจมันไขว่คว้าหา ไม่มีหลักมีเกณฑ์นะมานี้ เราดูหมดนะ ไม่พูดเฉยๆ เหมือนไม่รู้นะ รู้หมด เก้งๆ ก้างๆ มานี้ เถ่อนู้นเถ่อนี้มา แล้วก็ออกไป ไม่ได้เรื่องได้ราว จนกระทั่งถึงจะเลยเวลาแล้วยังมาเพ่นๆ พ่านๆ มาเราก็ไล่เรา สี่ห้าโมงเย็นเราไล่ออกหมดไม่ให้เข้า ปิดประตู ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไขว่คว้า จิตไม่มีหลักเป็นอย่างนั้นละ จิตมีหลักไม่ไขว่ไม่คว้านะจิตมีหลัก มีธรรมเป็นหลักใจแล้วสบาย ถ้าไม่มีธรรมเป็นหลักใจเสียอย่างเดียวไขว่คว้าทั้งนั้นแหละโลกอันนี้ โลกไขว่คว้า งมเงาเกาหมัดไปอย่างนั้นละไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร เอาละให้พรนะ
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ