มีแต่แบบต่อยกับให้น้ำ
วันที่ 13 พฤษภาคม 2551 เวลา 7:50 น. ความยาว 29 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

มีแต่แบบต่อยกับให้น้ำ

ก่อนจังหัน

พระเราฉันเสร็จแล้วไม่มีธุระอะไร มีแต่ทำงานของพระ งานของพระคือเดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา จำให้ดีตรงนี้ งานอื่นหากจะแทรกเข้ามาด้วยความจำเป็นเราบอกเอง หากไม่ได้บอกก็เรียกว่างานประจำตัว คือเดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา อย่ามาเด้นๆ ด้านๆ นะ มองดูมันขวางตาๆ อยู่ ทนเอานะเราทนเอา มาเก้งก้างอย่างนี้ไม่ได้นะ นักฆ่ากิเลสเด้นๆ ด้านๆ ไม่ได้นะ มองดูมันมีอยู่สองอย่าง อย่างหนึ่งต่อยกัน อย่างหนึ่งให้น้ำ นักมวยเขา อย่างหนึ่งต่อยกัน อย่างหนึ่งให้น้ำเพื่อจะต่อย จำอันนี้ให้ดี มันทนไม่ไหวแล้วนะกับหมู่กับเพื่อน เด้นๆ ด้านๆ ดูอะไรดูไม่ได้นะ ต้องใช้หูหนวกตาบอดอยู่กับหมู่กับเพื่อน นี่เอาจริงนะไม่ได้พูดเล่นๆ อะไรๆ มีแต่แบบต่อยกับให้น้ำๆ ตลอด จะมาเก้งๆ ก้างไม่ได้นะ กิเลสไม่ใช่ของเล่น ไม่จริงไม่จังไม่ได้ เอาละให้พร

หลังจังหัน

ปีนี้เปลี่ยนมาก ธาตุต่างๆ ของร่างกายรู้สึกว่าเปลี่ยนๆ กำลังลดลง พูดตะกี้นี้ได้ยินกันหรือเปล่า ท่าให้น้ำ ท่าต่อย นั่นละผู้ปฏิบัติธรรมจริงๆ มองดูอาการกำลังให้น้ำ กำลังต่อย นี่ละกิเลสเก่งไหม ต้องเอาลงขนาดนั้นละ เราได้อ่านประวัติของครูบาอาจารย์ โอ้ ไม่ใช่เล่นๆ นะ แต่ละองค์ๆ ที่อัฐิมากลายเป็นพระธาตุให้เราทั้งหลายได้กราบไหว้อยู่ในปัจจุบันนี้ มีแต่อย่างว่าละองค์ไหนๆ ไม่ขนาดนั้นไม่ได้ล่ะกิเลส โธ่ เหนียวจริงๆ กิเลส ระยะปัจจุบันนี้ก็คือหลวงปู่มั่น มาระยะนี้มีพระที่ท่านตายไปแล้วเผาศพท่านอัฐิกลายเป็นพระธาตุๆ มีอยู่เยอะนะ ช่วงหลวงปู่มั่นเรามานี่

อย่างท่านเสถียรท่านไปอยู่ทางติดต่อกับพม่า รูปของท่านมีอยู่นี้ องค์นี้ก็น่าชม ทราบว่าเป็นคนอุดร เกิดที่อุดร แล้วไปอย่างไรไปถึงพม่า ก็มีประวัติของท่านอยู่เหมือนกันย่อๆ ว่าเกิดที่อุดร องค์นี้ก็หนักมากเหมือนกัน ท่านบอกล่วงหน้าไว้เลยว่าผมตายนี้อัฐิจะกลายเป็นพระธาตุโดยถ่ายเดียว และจะมีลักษณะแปลกๆ ท่านว่าอย่างนั้น เวลาท่านตายเป็นอย่างนั้นจริงๆ อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุแล้วมีลักษณะแปลกๆ พรรษาท่านไม่ได้แก่ พรรษาอ่อน แต่ใจนี้เด็ดองค์หนึ่ง เด็ดมากทีเดียว เราไปอ่านดูแล้ว เฮ้อ อย่างนี้ซิลูกศิษย์ตถาคต

เราก็ว่าเราเก่งองค์หนึ่ง แต่แล้วครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหยียบหัวเราไป เพื่อนฝูงเหยียบหัวเราไป เราถอยกรูด เดี๋ยวนี้เราถอยกรูดนะ ทำความเพียรหมู่เพื่อนเก่ง แล้วองค์ไหนที่ออกมาอัฐิกลายเป็นพระธาตุๆ มีแต่ลักษณะนี้ละทุกวันนี้ บอกกำลังให้น้ำ กำลังต่อย ท่านผู้ที่จะอัฐิกลายเป็นพระธาตุ พวกเรานี้มันพวกมองไปกำลังหามลงเปล อันหนึ่งตายแล้วกำลังจะเผา อันหนึ่งกำลังหามลงเปล พวกเรานี่พวกหามลงเปล เอามาเทียบ

ท่านเสถียรนี้เก่งองค์หนึ่ง ทางความเพียรเก่งมากเชียว ฟังครูบาอาจารย์องค์ไหนเล่าให้ฟังนี้ แหม น่าเคารพบูชาน่าชมเชยสรรเสริญ ที่ว่าเหล่านี้แหละอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุๆ ทั้งนั้น ก่อนอัฐิจะกลายเป็นพระธาตุประกาศตนเป็นพระอรหันต์ พูดง่ายๆ ถ้าลงอัฐิกลายเป็นพระธาตุประกาศอย่างโจ่งแจ้งนะ เป็นอย่างนั้นความเพียรท่าน ไปคนละแบบๆ วิธีการฝึกทรมานตน แล้วแต่อุบายวิธีของใครจะคิดได้แง่ไหนๆ ฝึกทรมานฆ่ากิเลส หากมีคนละแง่ละมุมไปตามนิสัย ใครฉลาดทางไหนๆ ที่จะแก้ดัดตัวเอง

วัดป่าบ้านตาดนี่วัดหามลงเปล วัดป่าบ้านตาดควันตลบจรดเมฆที่ตายแล้วเผาไปแล้วก็มี กำลังหามลงเปลไปก็มี วัดป่าบ้านตาดมีแต่อย่างนั้นละ ควันตลบหมู่เมฆนู่น นั่นเผาแล้วนั่น ผู้ที่ยังไม่เผากำลังหามลงเปลไปกิเลสฟาดมัน เอาจนควันตลบเมฆไป ตายสู้กิเลสไม่ได้ ที่หามลงเปลก็กำลังสลบ เป็นอย่างนั้นนะสู้กิเลสไม่ได้ๆ อยู่อย่างนั้น

องค์ไหนน้าเราลืมเสีย ให้เพื่อนเอาเชือกมามัด.นั่งท่าไหนก็ท่านั้นละสามวันถึงให้เพื่อนมาแก้เชือกมัดออก มัดทางนี้ๆ ไม่ให้กระดุกกระดิกไปไหนเลยสามวัน อันนี้ทรมาน จิตเวลามันทุกข์มากๆ มันก็ได้อุบาย จิตได้กำลังมากมาย นั่นเห็นไหมล่ะ คือจิตเวลามันจะเป็นจะตายจนตรอกจนมุมมันไม่ได้โง่นะ มันดิ้นหาเหตุหาผลแก้ตัวเองไปจนได้ องค์นี้ก็เอาเชือกมัดแขนเอาไว้ไม่ให้เอาออกสามวันถึงจะไปแก้เชือกก็มี อ่านดูประวัติของหมู่เพื่อนน่าดูอยู่นะ เก่งมาก

นี่เราพูดขั้นตอนฟัดกันแบบล้มลุกคลุกคลานขึ้นไป แบบนี้หนักมากอย่างหนึ่ง ทีนี้พอก้าวเข้าสู่สติปัญญาอัตโนมัติแล้วนี้ไปอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป พอธรรมมีกำลังสติปัญญามีกำลังทีนี้มองไปที่ไหนมีแต่ฆ่ากิเลส นั่นเห็นไหม นี่ละถึงขั้นสติปัญญาทางธรรมะมีกำลัง มองไปที่ไหนมีแต่เรื่องฆ่ากิเลสๆ เวลาอยู่ในขั้นล้มลุกคลุกคลานมองไปที่ไหนมีแต่กิเลสฆ่าคนฆ่าพระ เป็นอย่างนั้นละ พอถึงขั้นนั้นแล้วทีนี้มีแต่ฆ่ากิเลส ตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัสสัมพันธ์กับอะไรพิจารณาปั๊บๆ แก้กิเลส อ่านประวัติของครูบาอาจารย์หลายองค์ๆ เป็นคนละแบบๆๆ เราอ่านดูน่าชม

เมื่อคืนนี้ก็นอนไม่หลับ มันหากเป็นของมันธาตุขันธ์เดี๋ยวนี้ จิตใจไม่ไปไหน จิตก็อยู่กับตัว แต่ธาตุขันธ์มันดีดมันดิ้นของมันต่างหาก นอนไม่หลับ ธรรมดาคนนอนไม่หลับจิตต้องว้าวุ่นขุ่นมัวคิดนู้นคิดนี้ยุ่งถึงขนาดนอนไม่หลับ อันนี้ไม่เป็น จิตก็เป็นจิตธรรมดาไม่ยุ่งกับอะไร แต่ธาตุขันธ์มันหากเป็นของมันอย่างนั้น มันนอนไม่หลับเอาเลย จิตเวลามันจะเป็น เรื่องธาตุเรื่องขันธ์ล้วนๆ คอเป็นอย่างไรวันนี้พูดไม่ออกนะ เสียงไม่มี ทุกวันนี้วัดวาอาวาสคือส้วมคือถาน พระเณรเราคือมูตรคือคูถเต็มอยู่ในส้วมในถาน มันไม่ได้เป็นวัดเหมือนครั้งพุทธกาลนะ ครั้งนั้นองค์ไหนออกไปแล้ว แม้พระราชามหากษัตริย์ออกไปก็ฟัดกันเลยแบบเดียวกัน ไม่สนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเสวยอยู่ในพระราชวัง มีอะไรๆ พอชีวิตให้เป็นไปๆ เท่านั้น ท่านไม่มองหลังนะ มีแต่พุ่งๆ ข้างหน้าฆ่ากิเลส ออกมาเป็นสาวกของพวกเรากราบไหว้ทุกวันนี้ พูดเสียงไม่ออกวันนี้ คอแหบอยู่ข้างใน วันนี้เอาเท่านั้นละ

(เครื่องมือตาที่หลวงตาได้เมตตาโรงพยาบาลต่างๆ ไปแล้วรวมทั้งหมด ๒๓ แห่ง รวมเงินทั้งสิ้น ๑๘๕,๕๒๐,๐๐๐ บาท) ก็หาเงินมาช่วยโลก มีเท่าไรออกหมดเลยๆ ที่นี่ไม่เก็บ บอกแล้วว่าไม่เก็บๆ มีเท่าไรออกหมดๆ เงินเรานี้ไม่เคยเก็บแต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาด ไม่เคยเก็บ มีแต่จ่ายตลอดช่วยโลก ต้องเป็นพันๆ ล้านหรือหมื่นล้านนะ ถ้าจะเก็บก็พันๆ หรือหมื่นๆ ล้าน แต่นี้ไม่เก็บ ออกหมดเลย เราก็พยายามช่วยที่สุดแล้วช่วยชาติไทยของเรา ทางศาสนาก็ช่วยเต็มเหนี่ยว ทางบ้านเมืองก็ช่วยเต็มเหนี่ยวเหมือนกัน ไม่มีฝ่ายไหนจะยิ่งหย่อนกว่ากันนะช่วย ช่วยขนาดนั้นละ วัดนี้ไม่เก็บเงิน ออกหมดเลย มีแต่ช่วยโลกทั้งนั้น

ทองคำได้เท่าไรแล้ว (๑๑,๗๐๕ กิโลกรัม) นั่นละที่พาพี่น้องนำทองคำเข้าคลังหลวง เพราะเราไปดูทองคำในนั้นแล้ว หัวหน้าธนาคารชาติเขานิมนต์เราไปดู วันนั้นเป็นวันที่เราไปมอบทองคำกับดอลลาร์ เขาก็เห็นว่าฤกษ์งามยามดี พอเทศน์จบลงเขาก็นิมนต์เราไปดู ว่าในคลังหลวงนี้ได้มาดูสองท่านเท่านั้นละ ใครบ้างล่ะ สมเด็จพระเทพกับเรา เขานิมนต์เราไปดูเราก็รู้ทันที ดูจริงๆ แล้วก็ไปถามกัน ได้ความชัดเจนว่าทองคำนี้มีน้อยมาก เพราะฉะนั้นจึงร้องป้างๆ ขึ้นมาตอนนั้นแหละจนกระทั่งวันนี้

นี่ก็ได้ตั้งหมื่นกว่าทองคำ ๑๑,๗๐๕ กิโล ทองคำที่พี่น้องทั้งหลายนำเข้าคลังหลวงตั้ง ๑๑,๗๐๕ กิโล มากอยู่นะ ถ้าไม่ได้หาเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีทางได้เลยละ ตายทิ้งเปล่าๆ นี่ก็ได้ตั้งหมื่นกว่ากิโล...ทองคำ ส่วนดอลลาร์ได้เข้าเพียง ๑๐ ล้าน ๒ แสน ต่อจากนั้นมาดอลลาร์ไม่ได้เข้านะ คือเงินไทยออกช่วยโลกไม่พอ ตอนที่เราเทศนาว่าการเงินมันก็มาๆ ได้ออกช่วย ทีนี้พอเราหยุดเทศน์แล้วเงินก็ร่อยหรอลงไป แต่ผู้ที่มาขอมันไม่ร่อยหรอ มากขึ้นทุกวัน จำเป็นต้องไปลากเอาเงินดอลลาร์ไปกับเงินไทยช่วยชาติบ้านเมือง

ส่วนทองคำร้อยทั้งร้อยใครมาแตะไม่ได้ เราไม่เหมือนใครนะพูดอะไรเป็นอันนั้นเลย ทองคำนี้ร้อยทั้งร้อยไม่ให้ออกไปไหนเลย เข้าเรื่อยๆ ส่วนดอลลาร์นี้ออกไปกับเงินไทยไปช่วยชาติบ้านเมืองนั้นแหละไม่ใช่อะไร เลยไม่ได้เข้า เดี๋ยวนี้ดอลลาร์ไม่ได้เข้านะ เข้าเพียง ๑๐ ล้าน ๒ แสนกว่าดอลล์ นอกนั้นมาทางเงินไทยหมด เว้นแต่ทองคำ สำหรับทองคำนี้ร้อยทั้งร้อยไม่ให้ไปไหนเลยเป็นอันขาด เราเป็นผู้สั่งการสั่งงานเอง ท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามความบริสุทธิ์ของเรา เราสอนโลกด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง มีเมตตาธรรมครอบๆๆ ตลอด ที่จะมีหลุดมีลอยไปไหนไม่มี บอกตรงๆ เลย เราเป็นผู้ควบคุมเองทั้งหมด เราก็พยายามช่วยชาติอย่างนี้ละ ทางศาสนาก็เทศน์สอนโลกเท่าไร สักกี่สถานีออกวิทยุ ส่วนมากมีแต่เทศน์ของเรานะออก นี่ส่วนศาสนา ส่วนทางโลกก็วัตถุเงินทองละเข้าตลอด เอาละที่นี่นะ ไปละ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก