(ผู้ฟังเทศน์โดยประมาณ นักเรียน ๑๐๐ คน ประชาชน ๔๐๐ คน)
(กระผมมาจาก รพ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ จะมาขอเครื่องมือการแพทย์ครับ) รพ.ท่าคันโท เอ้อ รับทราบไว้ก่อน มันหนักจริง ๆ เรื่องเกี่ยวกับช่วยทางโรงพยาบาลหนักมาก นี่ก็เริ่มแล้วทางอากาศอำนวย เริ่มตึกขึ้นอีกแล้วหลังหนึ่ง ๓๐ เตียงพร้อมทั้งให้เตียง ๓๐ เตียงอีกด้วย หนัก มันไม่มีแต่เตียงซิ ยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตึกนั้น ทาง อ.บุ่งคล้า ก็กำลังขึ้น นั้นก็ ๔ ชั้น ให้เป็นตึกของพนักงานในโรงพยาบาล ไม่มีที่พัก เลยให้เป็นเหมือนหอพักไปอย่างนั้น นั่นก็ ๔ ชั้น กำลังเริ่มขึ้นแล้ว สองแห่งสามแห่งแล้วนะ บ้านข้าวสาร นี่ก็เป็นพวกสถานสงเคราะห์เด็ก อันนี้ก็หลังหนึ่ง แต่นี้มันเป็นเรือนห้องสมุด ในแปลนประมาณ ๖-๗ แสน ส่วนตึกเหล่านั้นไม่ต้องพูด บอกว่ากี่ล้านว่างั้นเลย
ท่าคันโทมีหมอกี่คน (๒ คนครับ) หมอมีสองคน เราไม่เคยได้เข้าไป ถ้าไปทางนี้ก็แฉลบไปทางศรีธาตุเสีย ทางนู้นก็แฉลบไปทางกระนวนเสีย ไม่ได้เข้าท่าคันโท ยังไม่เคยเข้าแหละ อ.ท่าคันโท เงินที่จะหมุนเข้าหาทองคำ ทางนี้ก็หมุนเกลียวทางนี้ ไอ้ที่ความขาดแคลนของประชาชนทั่วประเทศไทย เราก็หมุนเกลียวทางนั้น เลยไม่ทราบจะทำยังไงเราก็ดี เราอยู่ตรงกลางนะไม่ทราบจะหมุนไปทางไหน ๆ เครื่องมือก็กำลังตกมาเรื่อย ๆ เวลานี้กำลังตกมา เครื่องมือแพทย์ที่สั่งมาให้โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังเริ่มตกมา ๆ มีแต่จ่ายเรื่อย ๆ ละ
เอ้อ รถคอนสวรรค์เขามารับหลายวันแล้ว ถามเขาบอกว่ายังไม่ได้บอกราคามา รถเอาไปแล้ว เวลาเราถามราคาเพื่อจะจ่ายเงิน ว่าเขายังไม่ได้บอกมา กับสุราษฎร์ธานีอันนี้รถยังไม่มา เพราะนี้สั่งทีหลัง จะค่อยตามกันมาแหละ ส่วนรถมาถึงแล้วก็โทรให้เขามารับไปเลย เรื่องการเงินไม่มีปัญหาอะไรแหละ ทางบริษัทกับเราเข้าใจกันดีมาตลอด เพราะฉะนั้นเมื่อมาถึงแล้วส่งเลย ๆ เราก็ติดตามจ่ายเรื่อย ๆ บริษัทต่าง ๆ ในกรุงเทพ ห้างร้านใหญ่ ๆ เครื่องมือแพทย์นี้ เขาบอกว่าเชื่อ ๑๒๐% เชื่อวัดป่าบ้านตาด ๑๒๐% เพราะไม่เคยมีที่จะไม่ให้เชื่อ
ดีไม่ดีเราได้ต่อว่าบริษัทด้วยซ้ำไป ส่งเครื่องมือมาเคลื่อนคลาดซิ ส่งกลับทันทีแล้วดุไปพร้อมเลย เอาขนาดนั้น เขายอมสารภาพมา เพราะเขาผิดนี่ ส่วนมากเป็นเรื่องของเราขู่เขาแหละ เขาไม่ค่อยได้ขู่เรา คือการส่งเครื่องไม้เครื่องมือมานั้น ไม่ใช่เจ้าตัวเขาส่งเอง ลูกน้องของเขาที่ทำงานแทนส่งมาก็ผิดพลาดได้ เวลาส่งมาถึงแล้วไม่ถูกตามความมุ่งหมาย ให้ส่งกลับ แล้วก็ว่าไปด้วย เขาก็ยอมรับสารภาพ แล้วเขาส่งอย่างใหม่มาให้ให้ถูกต้อง อย่างนี้มี
ส่วนการเงินการทองไม่เคยมี ยิ่งทุกวันนี้ก็ยิ่งสะดวก ให้หมอต่อหมอติดต่อกันเอง นี่หมอโรงพยาบาลโนนสะอาด เป็นหมอรับใช้ในวัดนี้ เหมือนลูกวัดนี้แหละ อะไรก็สั่งไปทางหมอ หมอนี่สั่งต่อเรื่อย ๆ เวลาเช็คตกมาก็มอบให้หมอจัดการ ๆ รู้สึกว่าสะดวกมากขึ้น หมออ้วนรับใช้มากนะหนักมากอยู่ ถ้าพูดถึงเรื่องความหนักหนักมากอยู่ เพราะโรงไหน ๆ มาเข้าโรงนี้ให้เป็นผู้จัดการสั่งเสีย เอาบัญชีส่งไปให้ มีกี่รายการ ทางนั้นเป็นคนสั่งหมดเลย สั่งหมด ๆ เลย พอของตกมาบิลเข้ามารับเงิน จ่ายเช็คปั๊บก็มอบให้โรงพยาบาลโนนสะอาด เป็นผู้คอยเอาเช็คมอบให้บริษัทต่าง ๆ คือตอนจ่ายนี้ก็มี ๒ ประเภท บางทีควรจ่ายเงินสดเราก็จ่ายเงินสด ควรจ่ายเช็คก็จ่ายเช็ค แล้วแต่สะดวกทางไหนสมควรทางไหน เราเป็นคนสั่งเองนะ สมควรจ่ายเงินสดก็จ่ายไปเลย สมควรจ่ายเช็คเราก็ให้จ่ายเช็คไปเลย แล้วแต่ความเหมาะสม
รถยนต์เหล่านี้ อุดร บางทีก็จ่ายเงินสดไปเลย โตโยต้ากับทางวัดนี้เขาก็เป็นอันเดียวกัน ไปหากันปั๊บได้ความทันที อย่างที่รถเราไปแฉลบตกที่วังสามหมอ พอทางโน้นขึ้นรถมา โทรเข้าไปหาโตโยต้า ถามถึงเรื่องรถนั้น ๆ ให้จัดการเดี๋ยวนี้เลย นั่นอย่างนั้นแหละ เขาก็จัดการทันทีเลย รถคันนี้มาก็เข้าโรงซ่อมเลย เอาคันใหม่มาแทนกันทันทีเลย อย่างนั้นแล้ว โทรมาจากนู้นนะ มาจากวังสามหมอนู่น โทรเข้าไปหาโตโยต้าให้จัดการรถเอามาเดี๋ยวนี้ เขาบอกว่ามี มีก็เอามาเลย อย่างนั้นแล้ว เหมือนว่าเป็นกันเอง เขาเอามาเลย คันนั้นก็เข้าอู่ไป
มันก็แปลกอยู่นะหมาตัวนี้ เอ๊ มันถึงกันยังไงนะแปลกอยู่ มีลูกหมากำลังน่ารัก รถเราวิ่งไปมันหมอบอยู่ข้างทาง ลักษณะมันกลัวรถนั่นแหละ แต่ตามันจ้องรถเรา เราสะดุด พอรถเราผ่านเท่านั้น เอ๊ หมาตัวนี้ทำไมแปลก ๆ ว่ะว่างั้น มันลักษณะกลัว เดี๋ยวรถคันหลังมามันจะวิ่งตัดหน้า เรากลัวเกิดเหตุมันสะดุดในจิต ทีนี้พอไปทางโน้น แล้วรถคันนั้นมาหรือยัง โอ๊ย รถคันนั้นตกอยู่นั้น นั่นปั๊บเลย อย่างนั้นแล้ว ธรรมดาเราก็ไม่เคยมอง ไม่เคยบอกเคยเตือนข้างหลัง คือมันหมอบอยู่นี่ลักษณะมันกลัวรถ แต่เราผ่านไปแล้วยังจะมีรถอีกคันหนึ่งตามหลังมา เราเลยกลัวว่าเวลารถคันนั้นมาอีก มันเตรียมพร้อมอยู่แล้วมันอาจจะวิ่งกลับไปบ้านมันนะลักษณะ บ้านมันอยู่ทางนี้(ฝั่งตรงข้าม)
มันก็เป็นจริง ๆ พอรถคันนั้นมามันก็วิ่งปั๊บ รถก็หลบซี หลบก็เลยตกลงไปโน้น หมาตัวนั้นหลบไม่ทัน ทับตายเหมือนกันนะ แต่ไม่มีใครเป็นอะไรนะ (นิดหน่อยครับ) พอมานั่นปั๊บเราก็ไปตรวจเช็คโรงพยาบาลวังสามหมอทันทีเลย เพราะมันอยู่ใกล้ ๆ กับวังสามหมอ เข้าไปตรวจเช็ค ว่าไม่มีอะไร พอว่างั้นมาอีกให้เขาไปตรวจเช็คที่อุดรอีก จากวังสามหมอก็โทรมาหาบริษัทโตโยต้า สั่งรถใหม่เลย เอาปุ๊บปั๊บเดี๋ยวนั้นเลย จึงว่าบริษัทโตโยต้ากับวัดเรานี้เป็นอันเดียวกัน เคยเกี่ยวข้องกันมาตลอด เราจะเอาอะไรสั่งไปทันทีเอาทันทีเลย
มันสะดุดยังไงก็ไม่ทราบ พอสะดุดใจแล้วเลยเป็นกังวล มองดูหมาตัวนี้ลักษณะยังไงกันนี่ กลัวมันจะวิ่งตัดมาทางนี้(ฝั่งตรงข้าม) เวลารถคันนั้นมา เพราะมันเตรียมพร้อมแล้ว บ้านมันอยู่ทางนี้ พอดีรถคันนั้นมามันก็วิ่งตัดจริง ๆ ตัดรถ รถเขาก็หลบลงคลองน่ะซี พอดีหลบไม่ทัน ทับมันตายเหมือนกันนะ เขาก็หลบเต็มที่แล้วจนกระทั่งตกคลอง เพราะหลีกหมาตัวเดียวนั่นน่ะ หลีกไม่ทัน กรรมมันเกี่ยวกันแปลกอยู่ รถหลีกมันกลัวจะทับมันจนกระทั่งรถตกคลองก็ยังไม่พ้น มันก็ตายจนได้ เอ้อ มันยังไงกันว่ะ รถคันนั้นพอซ่อมเสร็จแล้วก็เอาเข้าทางหลวงเลย ทางหลวงดูเหมือนจะได้รถจากวัดเรานี้ ๒ คันมั้งสงสัยนะ ดูว่าไม่ต่ำกว่า ๒ คันแหละ ที่แน่แล้วก็คันนึง คันที่สองยังสงสัย ดูว่าเป็น ๒ คันนะ ว่ามีเด็กไปโรงเรียนอยู่ ให้คันหนึ่งก่อนทีแรก คันสองเป็นรถตู้เหมือนกันให้อีก
ส่วน ต.ช.ด. อันนั้นให้เป็นกรณีพิเศษ ให้เงิน ๑๒ ล้านเป็นมูลนิธิเลย ทีแรกบอกเขาให้ ๑๒ ล้านเป็นมูลนิธิ มาดูบัญชีที่ไหนได้มันลงพื้นนู่นแน่ะ อู๊ยตาย บอกว่าเงินไม่พอ เอ้า รอเสียก่อนนะ ทีแรก ๑๑ ล้าน แล้วต่อรอง เราน่ะต่อรองเองเขาไม่ได้ว่าอะไร มันไม่พอ เดี๋ยวให้ไปกรุงเทพกลับมาก่อนนะ กลับมาคราวนี้จะให้ ๑๒ ล้าน นั่นเห็นไหมล่ะ พอมาก็บอกให้มาเอาเลย ๑๒ ล้านให้เลย ขึ้นไป ๑ ล้าน อันนี้เราให้เป็นมูลนิธิ ๑๒ ล้านสำหรับ ต.ช.ด. แล้วก็ให้รถ โอ๋ย รถใหญ่ ๒ ล้านกว่ารถคันนั้น มีห้องน้ำห้องส้วมอยู่ในนั้นเสร็จเลย เขาเอามาจอดที่นี่ เวลาเขาสั่งมาแล้ว
เขาบอกพวก ต.ช.ด. เด็กมาก ส่งเด็กเข้าโรงเรียนด้วย บางทีผู้ใหญ่ก็มีหน้าที่การงานทางราชการ เอารถคันใหญ่ไปเหมาะ เราก็ให้รถคันใหญ่เลย บอกให้เขาเอาตามต้องการ เอา บอกมาเลย ให้สั่งเลย สั่งมาเขาก็เอาตามต้องการ มีทั้งห้องน้ำห้องส้วมอยู่ในนั้นเสร็จ ที่นั่งเท่าไรเราขึ้นไปดูหมด เพราะเขามาจอดที่นี่ เวลารถมาถึงแล้วเขาก็เอาเข้ามานี่ ดูว่า ๒ ล้านกว่านะรถคันนี้ แน่นหนามั่นคงและใหญ่โตเต็มเหนี่ยวของรถ เขาเรียกว่ารถโดยสาร ก็เต็มเหนี่ยวละ เหมือนรถเขา ดีไม่ดีของเรามีห้องน้ำห้องส้วมด้วย ยังพิเศษกว่าเขาอีก คิดดูซิ ๒ ล้านกว่าน่ะ รถคันนี้ ๒ ล้านกว่า
อันนี้ดูเหมือนให้คันเดียว คันนี้หรือยังไงเราสงสัย กับให้มูลนิธิ ๑๒ ล้าน ทาง ต.ช.ด. กับทางนี้ก็เกี่ยวโยงกันตลอดเวลา นี่ ต.ช.ด.ก็มาอยู่นี้เป็นประจำ มารับใช้อยู่นี้เป็นประจำ ต.ช.ด. มีประจำอยู่ในวัดนี้ทุกวัน ดูว่าทุกคืนมีประจำไม่ขาด ทางหลวงก็ไป ๆ มา ๆ ส่วน ต.ช.ด. มาประจำ ส่วนกองเมืองดูว่าให้ ๒ คันเหมือนกันนะ ตำรวจกองเมืองเราให้ ๒ คัน คันหนึ่งสำหรับวิ่งดูความปลอดภัยในตัวเมือง คันสองเที่ยวซอกซอนเข้าในป่าในเขาไปที่ไหนก็ได้ เราให้รถเป็น ๒ ชนิด ๆ หนึ่งบุก ชนิดวิ่งเรียบหนึ่ง ให้ ๒ คัน กองเมืองให้ ๒ คัน ต.ช.ด.เราแน่ใจว่าคันเดียวใหญ่ ทางข้าวสารนี่ ๒ คัน อย่างนั้นละเราช่วยไปทุกแห่งไม่ว่าทางไหน ๆ ฟังแต่ความเมตตาเถอะ เมตตานี่ไม่มีเว้นเลย ครอบไปหมดเลย ที่ไหนซอกแซกซิกแซ็ก ควรช่วยช่วยตลอด ๆ ไปเลย อยู่อย่างนี้เป็นประจำ
ความใจดำน้ำขุ่นกับความเมตตานี้เป็นคู่กัน ความใจดำน้ำขุ่นคือความสกปรก ความเมตตาธรรมคือน้ำที่สะอาดชะล้างกันไป ถ้ามีแต่ความสกปรกสัตวโลกต้องเห็นแก่ตัว ที่เห็นแก่ให้ไม่ค่อยมีนะ นี่ละอำนาจของกิเลสกับธรรมเหนือกันอยู่อย่างนั้นตลอดมา กิเลสมันฝังตัวของมันอยู่ในหัวใจทุกสัตว์ทุกบุคคล ฝังมานานเป็นกี่กัปกี่กัลป์ พาเกิดพาตายด้วยอำนาจของกิเลสประเภทนี้ละ ที่มันฝังอยู่ภายใน ไปไหนต้องมีความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ จากนั้นขยายออกไป เห็นแก่พวกแก่พ้องของตัวไปเรื่อย ๆ ความเห็นแก่ตัวนี่ไปที่ไหนจึงเกิดความเดือดร้อนเสมอ ๆ สร้างความสกปรกทั่วไปหมด
ยิ่งมีอำนาจวาสนาตามที่เสกสรรปั้นยอกันนั้นขึ้นมาแล้ว ก็ยิ่งแผ่พังพานใหญ่ละ อำนาจอันนี้เป็นอำนาจความสกปรก ไม่ใช่อำนาจของธรรม เป็นอำนาจของกิเลส เป็นความสกปรกเต็มตัว ไปที่ไหนเหมือนควายมันลงในตมในโคลน เดินไปไหนฉากไปไหนตมโคลนสาดกระจายไปเลย สกปรกทั่วดินแดน คนสกปรก คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เรียกว่าคนบาปหนา พูดตรง ๆ อย่างนี้แหละ รวมแล้วเรียกว่าบาปหนา ไปไหนคับแคบตีบตัน หาความชุ่มเย็นไม่มี คนประเภทนี้ไปไหนหาความชุ่มเย็นไม่มี การนับถือเขายกมือไหว้เขาทำเฉย ๆ แก้หน้ากันไปเป็นกิริยามนุษย์แสดงต่อกันเฉย ๆ หัวใจเขาไม่ได้เป็นไปด้วย นี่ยักษ์มาแล้วเขาว่างั้น หัวใจมันเป็นอย่างนั้นนะ ต่างกันนะ
เรื่องกิเลสไปไหนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ขยะแขยงกันทั้งนั้น ธรรมไปไหนนี้เย็นทุกหย่อมหญ้า นั่นเห็นไหมล่ะ นี่ละเครื่องแก้กัน ธรรมไปไหนเย็นทุกหย่อมหญ้า ๆ ฟังซิ พระพุทธเจ้าเสด็จไปไหน พวกสัตว์ทั้งหลายสาธุการกันลั่นโลก ๆ พระพุทธเจ้าไปไหน เวลาตรัสรู้ก็ฟ้าดินถล่ม เวลาพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา ผางขึ้นมาทีเดียวเท่านั้นละ เป็นพระพุทธเจ้า ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแสดงไว้อย่างชัดเจน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา ตั้งแต่ภุมมเทวดาบอกต่อกันไป เพียงขณะเดียวเท่านั้นถึงท้าวมหาพรหม ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ๆ ขึ้นแต่ภุมมเทวดา จาตุมขึ้นไปสวรรค์ ๖ ชั้น พรหมโลก ครู่เดียว ๆ ถึงกันหมด กระเทือนทั่วกันหมด พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ท่านว่าหมื่นโลกธาตุ ฟังซิหมื่นโลกธาตุ จะมาว่าสามโลกธาตุอะไร หมื่นโลกธาตุสะเทือนสะท้านหวั่นไหวไปด้วยกันหมดเลย อำนาจของพระพุทธเจ้า ของธรรมที่ท่านตรัสรู้ แล้วแสงสว่างกระจ่างแจ้งนี่ก็เหมือนกัน อปฺปมาโณ จ โอฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุรโหสิ ความสว่างไสวแห่งกระแสธรรมของพระพุทธเจ้านี้หาประมาณไม่ได้เลย ความสว่างไสวของเทวดาตนใด ไม่มีที่จะเป็นคู่แข่งได้เลย นั่นละอำนาจแห่งธรรมของพระพุทธเจ้าตรัสรู้ สะเทือนสะท้านไปหมด เทวดาอินทร์พรหม ตั้งแต่ภุมมเทวดาถึงพรหมโลก ๑๖ ชั้น สะเทือนถึงกันหมดในเวลาเดียวกัน นั่นละธรรมเย็นไปหมด ยิ้มแย้มแจ่มใสทั่วหน้ากันหมด เห็นไหมธรรม ธรรมแสดงออกยิ้มแย้มแจ่มใสทั่วหน้ากันหมดเลย
ทีนี้เวลาแสดงธรรมก็เหมือนกัน ไปที่ไหน พระพุทธเจ้าไม่ได้ว่างนะ การแสดงธรรมแนะนำสั่งสอนมีเป็นประจำ เรียกว่า พุทธกิจ ๕ ตอนบ่ายสามสี่โมง เทศน์สอนพ่อค้าประชาชน นับแต่พระมหากษัตริย์ลงมา ตอนค่ำก็ประทานพระโอวาทแก่พระสงฆ์ พอเที่ยงคืนก็ประทานพระโอวาทแก่เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม ท่านบอกว่าเทวดารวมหมด ตั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมา ตั้งแต่หกทุ่มขึ้นไปแก้ปัญหาเทวดา ใครขัดข้องตรงไหน ๆ แล้วก็ประทานพระโอวาทสั่งสอนพวกเทวบุตรเทวดา นี่ ๖ ทุ่ม พอประมาณตีสองตีสามแล้วก็ทรงเล็งญาณ พระจักษุญาณ ทรงเล็งญาณดูสัตวโลก ผู้ใดที่มาผ่านตาข่ายคือพระญาณที่จะได้ตรัสรู้ธรรม แต่จะมีอันตรายอย่างรวดเร็ว พอออกจากนั้นก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน
ท่านทรงเล็งญาณสัตวโลก หัวใจแต่ละดวง ๆ ดวงไหนมืด ดวงไหนบอด ดวงไหนที่มีอุปนิสัยปัจจัยที่พอจะมีช่องทางออกได้ก็ฉุดก็ลากออก ดวงไหนที่มันปิดตันอั้นตู้เสียจริง ๆ ก็ปล่อยไป ๆ ตามยถากรรมของสัตว์ นั่นละที่ว่า ภพฺพาภพฺเพ วิโลกานํ ทรงเล็งญาณดูสัตวโลกที่มืดบอดไปด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาอวิชชาครอบไว้หมด ดวงใดที่พอจะมีวี่มีแววควรจะเล็ดจะลอดออกไปได้ นั่นละสัตว์ที่มีอุปนิสัย ก็ไปแสดงธรรมแก่พวกนั้น ๆ
นี่ละความมืดบอดมีประจำอยู่ในหัวใจของสัตว์ ด้วยอำนาจของกิเลสปิดกำบังไว้ให้เป็นความมืดบอด เป็นอยู่ทั่วโลกดินแดนนะ อย่าว่าแต่มนุษย์ สัตว์ทั้งหลายก็แบบเดียวกัน เพราะจิตดวงเดียวกัน จิตเป็นนักรู้เหมือนกัน แต่ถูกครอบด้วยกิเลสตัณหาความมืดบอดเหมือนกัน จึงหาอุปนิสัยปัจจัยจะเชื่ออรรถเชื่อธรรม เชื่อบุญเชื่อบาปไม่ค่อยได้และไม่ได้ เป็นชั้น ๆ อย่างนี้นะ นี่ก็ทรงทำเป็นประจำ
ตอนเช้าก็ ปุพฺพเณฺห ปิณฺฑปาตญฺจ เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์โลก ใครได้เห็นที่ไหน ๆ ก็เป็นมหามงคลแก่เขาผู้ได้เห็นผู้ได้ยิน รับสั่งออกมาแต่ละคำ ๆ เป็นผลเป็นประโยชน์เป็นมหามงคลแก่สัตว์โลกมากมาย
นี่ละงานพระพุทธเจ้าจึงไม่ค่อยว่างนะ นี่เรียกว่าพุทธกิจ ๕ แปลว่างานพระพุทธเจ้า งานประจำพระพุทธเจ้า พระภารกิจ ๕ ประการ นั่นฟังซิ นี่ท่านสอนเสมอกันหมดนะตามแบบตามฉบับ บ่าย ๔ โมงสอนประชาชน แล้วประชาชนมีไหมล่ะ ตอนค่ำสอนภิกษุ ภิกษุมีไหม แล้วพอ ๖ ทุ่มขึ้นไปก็สอนเทวบุตรเทวดา เทวดามีไหม
เวลานี้มันกำลังเป็นเทวทัตนะ พระเรานี่แหละเป็นเทวทัตลบล้างศาสนาพระพุทธเจ้าว่าเทวดาไม่มี มันจะลบล้างพุทธกิจข้อที่สามนี้ออกไม่ให้มี นี่พุทธกิจ ๕ ข้อที่สามคือ เทวบุตรเทวดา พระพุทธเจ้าทรงเทศนาว่าการสอนเหมือนกับสอนประชาชนสัตว์โลกทั่ว ๆ ไป อันนี้มันมาลบล้างนะว่าเทวดาไม่มี นี่เทวทัตในผ้าเหลืองเรานี้ ประชาชนก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ไอ้พระที่แสดงตนออกมาหยาบโลนขนาดนี้ แหม มันดูไม่ได้นะ มันฟังไม่ได้เลย พระเป็นหัวหน้าโจรนี้มันพิลึกกึกกือเกินไปนะ ถ้าเป็นมหาโจรเป็นหัวหน้าโจรค่อยยังชั่ว พระเป็นหัวหน้าโจรปล้นศาสนาทำลายศาสนานี่มันฟังไม่ได้นะ
ถ้าลบอันนี้ไปแล้วก็เท่ากับลบศาสนาพระพุทธเจ้าไม่ให้มีเหลือเลย เพราะอันนี้ก็อยู่ในวงครอบของศาสนา ยังแยกออกมาเป็น ๕ ประเภท รวมแล้วศาสนา ประเภทที่สามลบออกหมด ว่าเทวบุตรเทวดาไม่มี ฟังซิน่ะ ตาบอด มันหน้าด้านก็ยังว่า คนตาบอดย่อมหน้าด้าน อายใครไม่เป็นแหละ คนตาบอดโม้อยู่ที่นั่น คุยอยู่ที่นั่น โกหกอยู่ที่นั่น อวดรู้อวดฉลาดอยู่ที่คนตาบอดทั้งหมด คนใจบอดก็เหมือนกัน พระใจบอดก็แบบเดียวกันอีก คนตาบอดกับพระใจบอดก็เหมือนกันนั่นแหละ มาอวดความเลวทรามของตัวเอง ทำลายศาสนาต่อหน้าต่อตา คนดียังมี คนรู้ยังมี ศาสนาสอนเพื่อรู้เพื่อฉลาดนี่นะ ไม่ได้สอนเพื่อให้มืดดำกำตาแล้วไปลบล้างศาสนานะพระพุทธเจ้าสอน นี่มันก็ทำได้นะเวลานี้
อะไรจะไปเลิศเลอแม่นยำยิ่งกว่าพุทธศาสนาเรา นี่เราพูดจริง ๆ เรากราบแบบสนิทเลยไม่มีอะไรเหลือแม้เปอร์เซ็นต์เดียวกราบพระพุทธเจ้า จิตเวลามันได้รู้มันรู้จริง ๆ นี่นะ มันไม่มีนะต้นไม้ภูเขาที่จะมาปิดบังจิตไม่ให้รู้ คำว่ารู้นี่มันจ้าไปหมดเลย ต้นไม้ภูเขาปิดบังไม่อยู่เลย ไม่มีความหมาย ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศไม่มีความหมาย ที่จะไปปิดบังญาณความรู้ของจิตซึ่งเป็นนักรู้นั้น ซึ่งออกแสดงตัวเต็มเหนี่ยวด้วยความเป็นอิสระแล้ว จิตที่หาอิสระไม่ได้ก็คือจิตของสัตวโลกที่กิเลสครอบงำอยู่ จิตที่หลุดพ้นจากกิเลสครอบงำแล้วมันก็ ถ้าจะว่าเวิ้งว้างก็ยังหยาบอยู่นะ พูดไม่ถูก กับจิตที่เวิ้งว้างเป็นหลักธรรมชาติ เราเทียบว่าเวิ้งว้างนี่ยังหยาบนะ ยังละเอียดเข้าไปกว่านั้น นั่นละจิตพระพุทธเจ้า จิตพระอรหันต์ท่านผู้เชี่ยวชาญท่านเป็นอย่างนั้น ยังมีอยู่นี่ ศาสนาออกมาจากท่านเหล่านี้ แล้วเหตุใดเราจึงจะมาคัดค้านต้านทานด้วยความตาบอด ถ้าไม่อยากขายตัวให้จมลงไปอีก เป็นหัวหน้าโจรในเพศแห่งพระของเราเท่านั้นจะเป็นอะไรไป
สอนไว้ที่ตรงไหน โถ เอาตัวประกันในตัวของเราเองทุกคนก็รู้นี่นะ พระพุทธเจ้าสอนตามที่มีอยู่ เช่น ความโลภมีไหม ความโลภเป็นกิเลสเป็นตัวหนึ่ง ๆ ความโกรธ ความหลง ราคะตัณหา มันมีไหมในสัตว์นี้ ถ้าพระพุทธเจ้าสอนผิดไปว่ากิเลสเหล่านี้ไม่มีในสัตว์ มันก็เต็มอยู่ในหัวใจสัตว์ใช่ไหม สอนก็สอนเพื่อให้แก้สิ่งเหล่านี้ที่เป็นภัยต่อสัตว์ มันก็เห็นกันอยู่นี่ รู้กันอยู่นี่ ความโลภก็เต็มหัวใจทุกคนจะผิดไปไหน พระพุทธเจ้าว่าความโลภเป็นภัย นั่นมันอยู่ที่หัวใจของสัตวโลก ความโกรธ ราคะตัณหาเป็นภัย แล้วผิดไปไหนล่ะ
เอาตัวของเราเป็นประกัน ทีนี้ที่แตกแขนงออกไปมันก็แบบเดียวกัน จริงเหมือนกันหมด เอาต้นใหญ่นี้ออก แสดงออก ทีนี้พอแก้อันนี้ออกไปแล้ว ตัวนี้เบาบาง ๆ ท่านก็บอกไว้อีก แก้ด้วยอรรถด้วยธรรมด้วยความพากเพียรดังที่สอนอยู่เรื่องจิตตภาวนาเป็นสำคัญ ชำระสะสางนี้ออกไป อันนี้จางไป ๆ มันก็รู้ ๆ จางไปเท่าไรก็รู้ ธรรมะขึ้นเท่าไรก็รู้ที่นี่ กิเลสหมอบลง ธรรมะขึ้นก็รู้ อำนาจของธรรมครอบไป ๆ ต่อไปก็ชะล้างกันหมดไม่มีอะไรเหลือเลย
นั่นตรัสรู้ธรรม ก็เห็นอยู่ในหัวใจของธรรมที่สอนไว้แล้ว สอนลงที่หัวใจของสัตว์ กิเลสก็อยู่ที่นั่น มรรคผลนิพพานอยู่ที่นั่น เรียกว่าความรกรุงรังอยู่ที่นั่น ความเตียนโล่งอยู่ที่นั่น ชำระล้างลงไปความเตียนโล่งจะเกิดขึ้นที่นั่น เพราะสิ่งที่ปกคลุมนั้นคือความสกปรก มันปิดหัวใจไม่ให้เห็นอรรถเห็นธรรม พอชะล้างสิ่งนี้ออกไปหมดแล้ว อรรถธรรมก็มีอยู่แล้วดั้งเดิม กระจ่างแจ้งขึ้นมาเลย ท่านสอนขนาดนั้นผิดไปที่ไหนล่ะ เราไปหาลูบหาคลำที่ไหนว่า อันนั้นไม่มีอันนี้ไม่มี เทวบุตรเทวดาไม่มี ไฟเผาอยู่หัวใจมันมีขนาดไหนมันดูเมื่อไรคนประเภทนี้น่ะ ถ้าดูตามพระพุทธเจ้ายอมรับทันที ๆ เลย
จิตถ้าชำระสิ่งสกปรกโสมมที่ว่ากิเลส ๆ มีอยู่ในหัวใจนี้ออกหมดแล้วถามหาที่ไหนมรรคผลนิพพาน อันนี้เท่านั้นปิดไว้น่ะ เหมือนความเตียนโล่งอยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่รก ๆ นั่นแหละ ตัดต้นไม้ใบหญ้ากวาดออกหมดแล้ว ที่โล่งมันมีของมันอยู่นั้นแล้ว นี่ใจก็เหมือนกัน ความสะอาดโล่งอยู่ในหัวใจแต่กิเลสปิดบังเอาไว้ เพราะฉะนั้นกิเลสจึงถอนออกได้ซิ เหล่านี้มันพวกกาฝาก มันเปิดออกถอนออกมาได้ ธรรมชาตินั้นเป็นหลักธรรมชาติตายตัวถอนไม่ได้ ความเตียนโล่งคือจิตที่บริสุทธิ์เต็มที่ ไม่มีอะไรเข้าไปเจือปนแล้วเท่านั้น ทำให้เป็นอื่นไปไม่ได้นะ สิ่งเหล่านี้มันเป็นกาฝาก มันเข้าไปแฝงแล้วไปทำลายต้นไม้ เช่นอย่างกาฝากทำลายต้นไม้ สนิมทำลายเหล็กนั่นเอง เมื่ออันนี้ผ่านไปหมดแล้วก็รู้เอง จะไปถามพระพุทธเจ้าหาอะไร
ศาสนาพระพุทธเจ้านี้สั่งสอนสัตว์โลก ท่านสั่งสอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีผิดเพี้ยนกันเลย เพราะทรงรู้อย่างเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่นำมาสอนมนุษย์เราเวลานี้ ตั้งแต่บาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน ตลอดสัตว์ทั้งหลาย มันมีอยู่ตั้งกัปตั้งกัลป์แล้วสิ่งเหล่านี้ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเหมือนคนเข้าคุกเข้าตะรางนั่นแหละ คนในคุกในตะรางขาดเมื่อไร คนนั้นเข้าคนนี้ออกอยู่อย่างนั้น อันนี้สัตว์นรกก็เหมือนกัน ทั้งเข้าทั้งออก ทั้งขึ้นทั้งลง สวรรค์ พรหมโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ไม่ขาดวรรคขาดตอน มีเต็มอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้น มาก็มาเห็นสิ่งที่มีอยู่นี้ นำสิ่งเหล่านี้มีสอนจะผิดไปไหนน่ะ นอกจากกิเลสมันเถลไถลหาเรื่องกลบเกลื่อนไป หลอกลวงสัตว์ ถึงว่าไม่มีอะไรจะปลอมเท่ากิเลสก็บอกแล้ว แล้วไม่มีอะไรที่จะจริงเท่าธรรม ธรรมจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ กิเลสปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นคู่ต้านทานกันอยู่
เพราะฉะนั้นจึงพากันฝึกหัดอบรมตัวซิ อยากเป็นคนดี ๆ เฉย ๆ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ได้นะ ต้องฝึกฝนอบรมตนเอง อยากเป็นคนดีต้องดัดแปลงตัวเอง อย่าทำตามความชอบใจซึ่งเป็นเรื่องของกิเลส ให้ฝืนกัน ๆ มีคนมีการฝืนเพื่อทำความดีแก้ความชั่วอยู่แล้ว ต่อไปมันก็เป็นนิสัย ฝืนไปฝืนมาต่อไปก็ไม่ค่อยต้องฝืน พอรู้ว่าอะไรผิดนี้มันพลิกทันทีหลบทันทีไม่ทำ ๆ นั่นธรรมก็มีอำนาจได้ เวลาเราไม่เคยได้รับการอบรม ไม่ได้รับการฝึกฝนอบรมเรานี้มันลำบากนะ อะไรก็ลำบาก กิเลสโยนความลำบากไปกีดกั้นไว้หมดไม่ให้ทำได้ ทีนี้เมื่อฝืนเข้าไป ๆ ต่อไปก็แก้กันไปได้ สุดท้ายก็โล่งไปเลยธรรม อยู่ที่ไหนก็เป็นความดีตลอดไปเลย นั่น เมื่อเราเคยทำความดีนิสัยความดีมันก็ติดใจ คนเคยทำความชั่ว ไม่ได้ทำความชั่วก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เอาละเทศน์เท่านั้น ต่อไปนี้จะให้พร
วันที่ ๒๓ เมื่อวานทองคำได้ถึง ๒๖ บาท ๗๑ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๐๑ ดอลล์
พากันปฏิบัตินะพวกเด็กนักเรียน ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียน กลับไปแล้วช่วยพ่อช่วยแม่ อย่าเถลไถลเตร็ดเตร่เร่ร่อน ใช้ไม่ได้นะ เป็นนิสัยไม่ดี พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งแต่อยู่ในท้องก็จะตายแล้วนะ พ่อแม่เลี้ยงน่ะ ตกคลอดออกมาก็เลี้ยงตลอด พอเติบโตขึ้นมาบ้างแล้วก็เข้าโรงเรียน เลี้ยงทางโรงเรียนอีกนะ โห เครื่องศึกษาเล่าเรียน เครื่องแต่งเนื้อแต่งตัวนี้ คนหนึ่ง ๆ หมดไปเท่าไรของเล่นเมื่อไร พ่อแม่เลี้ยงลูก อะไรจะยากลำบากยิ่งกว่าการเลี้ยงลูกเลี้ยงเต้า เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ยากเหมือนเลี้ยงคนนะ เลี้ยงคนนี่ยากมากทีเดียว มันหลายเรื่องหลายราวรวมกัน
เลี้ยงสัตว์นี้ไม่ยาก แม่พากินหญ้า ลูกกินหญ้า ก็แล้ว ๆ ไปเลย อันนี้พ่อแม่พากินปลาแดกพากินน้ำปลามันไม่ได้กิน มันฟาดไปนู่น เลี้ยงโต๊ะหนึ่งสองร้อยสามร้อย มันหากไปคบกันเองเด็กน้อย ไปกินเลี้ยงกันเถอะวันนี้ เด็กมันก็คบกันโต๊ะละสองร้อยสามร้อย โต๊ะละพันขึ้นไป มันมองดูหน้าพ่อแม่พากินปลาแดกปลาร้าที่ไหน ถูกหรือไม่ถูกก็พิจารณาซิ เอาละไป สูไป ไปกินปลาร้ากับพ่อแม่ สูอย่าเป็นบ้าตามโต๊ะเก้าอี้เขานะ ถ้าสูไม่อยากจม
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet
www.luangta.com