ความดีมีให้พากันสร้าง
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 18:00 น.
สถานที่ : วัดเขาใหญ่เจริญธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส

ณ วัดเขาใหญ่เจริญธรรม .ปากช่อง จ.นครราชสีมา

เมื่อเย็นวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๑

ความดีมีให้พากันสร้าง

      การนั่งอยู่ที่ศาลาอย่างนี้คงจะลำบากลำบนมากสำหรับร่างกาย ให้สะดวกสบาย เพราะส่วนมากหาแต่ความสะดวกให้ร่างกาย ความสะดวกให้ทางจิตใจไม่ค่อยหากัน ถ้าหาความสะดวกทางร่างกาย ร้อยทั้งร้อยมันเป็นเรื่องของกิเลสเสียทั้งมวล หาทางอรรถทางธรรมนี้เลยไม่ค่อยมี เพราะผู้ที่จะสละเพื่ออรรถเพื่อธรรมทุกอย่าง เป็นไปด้วยความลำบากลำบนทั้งนั้นแหละ ที่ลำบากลำบนก็คือเพื่อดัดกิเลสตัวชอบสะดวกสบายให้มันลดตัวลงบ้าง

ไปที่ไหนมีแต่ความสะดวกสบายทางร่างกาย เอะอะก็เอาความสะดวกทางร่างกายเข้ามาๆ แล้ว ความสะดวกทางใจจากจิตตภาวนานี้ไม่ค่อยสนใจกัน เอาความสะดวกให้ทางร่างกายมันได้แค่ไหนล่ะ มันก็ได้แค่ได้นี่ละ ได้แค่เขาแค่เราเท่ากันหมด ไม่เห็นมีศักดิ์ศรีดีงามพอจะมาแข่งกันต่อไปอีก ให้หนาแน่นยิ่งกว่านี้ อันนี้มันหนาแน่น เรื่องความสะดวกเพื่อร่างกาย

เรื่องความสะดวกเพื่อทางจิตใจนี้ มันต้องได้ดัดกิเลสเพื่อความสะดวกทางกายให้มันลดลงๆ ฟังที่ท่านแสดงไว้เพียงศีล ๘ เท่านั้น ก็บอกไว้แล้ว อุจฺจาสยน มหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ ห้ามนั่งนอนเหนือที่นั่งที่นอนอันใหญ่และสูง ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี ที่นี่มันสะดวกมาก กิเลสกล่อมคนวิธีนี้หลับไม่รู้ตื่น ถ้าไม่หิวข้าวไม่ตื่น เรื่องเป็นอย่างนี้  ท่านห้าม ทรมานหมด ให้นอนแต่ที่ลำบากลำบนมันจะไม่ได้นอนจมไปเลย นอนที่ลำบากลำบนนอนพลิกนั้นพลิกนี้ก็ลุกขึ้นภาวนา อย่างนั้นท่านทำกัน ท่านทั้งหลายให้พิจารณาเสียบ้างนะ

          แบบพระพุทธเจ้า แบบรื้อขนสัตว์ออกจากโลกจริงๆ ไม่ใช่แบบล่อลวงต้มตุ๋นดังกิเลสที่หลอกโลกอยู่เวลานี้ เอาแง่หนึ่งเข้ามาหลอก แง่หนึ่งต้มไว้แล้วๆ หั่นหอมหั่นกระเทียมไว้เรียบร้อยแง่หนึ่ง แง่หนึ่งค่อยๆ เขี่ยขึ้นไปบนเขียง เขี่ยหมูทั้งเขียงคือพวกเรานี่แหละ มันนอนใจมันจึงเป็นเหมือนหมูขึ้นเขียง นอนใจตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนกระทั่งถึงเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่รู้เนื้อรู้ตัว มีที่อ้างตลอดไปเลย ถ้าไปถึงขั้นแก่ยิ่งอ้างง่าย โอ๊ย ไปไหนลำบากลำบน ให้อยู่อย่างนี้สบายๆ ไปเลยอย่างนั้นแหละ ความเพื่ออยู่สบายนี้มันหามาแล้วตั้งแต่อ้อนแต่ออก มันไม่เคยอิ่มพอ ไอ้ความสะดวกทางใจดัดสันดานกิเลส ตัวมันชอบทางร่างกายออกลงไป ความสะดวกทางใจนี้จะขึ้นมาทันที

          ต้องได้ฝึกไม่ฝึกไม่ได้นะ ท่านทั้งหลายให้ฝึกบ้างการภาวนา มาวันไหนมีตั้งแต่เอาน้ำอ้อยน้ำตาลสะพายมาบนหลังเต็มหลัง วันนี้มันหนักบ้าง สลัดเสียบ้างน้ำอ้อยน้ำตาล อาจจะมีอะไรแฝงขึ้นมาแทนกันก็ได้ อย่านอนใจจนเกินไปมนุษย์เรา ไม่ดีเลยการนอนใจจนเกินไป เป็นเรื่องของกิเลสกล่อมสัตว์โลกไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวจนกระทั่งตาย ตายไปแล้วก็หาที่อยู่ที่พักที่อาศัย ตามความสะดวกสบายของใจที่ต้องการไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องของตามความชอบใจแล้วพาให้เกิดให้เป็นไป ก็มีตั้งแต่ผิดหวังๆ ทั้งนั้นละ กิเลสมันพาใครให้สมหวัง ให้จำเอาไว้ ความผิดหวังมีแต่เรื่องกิเลสหลอกสัตว์โลกให้เป็นไปตามมัน อันนั้นสะดวกอันนี้สบาย สบายไปหมด เวลาตายลงไปแล้วจมๆ สบายแล้วหรือจมน่ะ

ฟาดกิเลสให้มันขาดสะบั้นลงจากหัวใจลองดูซิน่ะ พระพุทธเจ้าสลบถึงสามหน ท่านทำความพากเพียรเพื่อฟัดกับกิเลสตัวมันกล่อมสัตว์โลกให้จม นอนตายกองกันอยู่นี้มากี่ภพกี่ชาติ ไม่ได้กำหนดเวล่ำเวลาจะหลุดพ้นจากเครื่องจองจำมันไปได้เมื่อไร  ท่านซัดเสียสลบสามหนพระพุทธเจ้า จึงได้ตรัสรู้ธรรมขึ้นมา นี่ศาสดาของเราเป็นอย่างนั้น แล้วพวกเราจะเอาแต่เสื่อแต่หมอนเอาแต่ความสะดวกสบาย มาแข่งพระพุทธเจ้า มันก็มีแต่ความล่มจมนั่นแหละ แข่งเท่าไรก็ไม่ได้เรื่อง

ศาสดาคือจอมปราชญ์ฉลาดแหลมคมไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้าของเรา  เทวดาอินทร์พรหมทั้งหลายกราบไหว้ทั้งนั้น มันแข็งกระด้างตั้งแต่มนุษย์เรานี้ มันไม่อยากกราบไหว้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เวลาจะหลับจะนอน มันระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เมื่อไร มันมองเห็นตั้งแต่เสื่อแต่หมอน นอนแล้วเหมือนตาย ไม่รู้จักตื่น พวกนี้เป็นอย่างนั้น แล้วจะหวังตั้งแต่ความสุขความเจริญ ไม่ทราบจะหวังเอาอะไรความสุขความเจริญ ถ้าว่าเอาจากเสื่อจากหมอน ใครก็มีเสื่อมีหมอนด้วยกัน แล้วเอาความสุขมาแข่งกันบ้างซิน่ะ ก็ไม่เห็นมีใครเอามาแข่ง เขาเท่าเรา เราเท่าเขาพอๆ กัน

เอาธรรมพระพุทธเจ้าซิฝึกหัดดัดแปลงตนเอง คือกิเลสตัวอยู่ในหัวใจนี้ออกบ้างซิจะเป็นยังไง ความสะดวกสบายจะปรากฏขึ้นที่ใจ ความทุกข์อะไรก็ตาม เรื่องทุกข์มารวมอยู่ที่ใจทั้งหมด เรื่องความสุขก็มารวมอยู่ที่ใจ ร่างกายเป็นแต่เพียงรับแบกรับหามไปชั่วกาลเวลาเท่านั้น แต่ใจนี้แบกตลอด แบกสุขแบกทุกข์ ส่วนมากมีแต่ทุกข์เต็มหัวใจๆ  เพราะไม่มีการฝึกการทรมานตนเอง ถ้ามีการฝึกการทรมานตนเองบ้าง กิเลสมันจะเก่งมาจากไหน ศาสดาองค์เอกเอามันลงได้ พังทลายเลย คือกิเลสสิ้นซากไปจากใจไปจากพระทัยของพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาขึ้นมาแทน นำธรรมมาสอนโลก ล้วนแล้วตั้งแต่สวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้วทั้งนั้น ไม่มีคำว่าผิดว่าพลาด คือคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนโลก แต่โลกคือกิเลส มันขัดแย้งกับธรรมอยู่เสมอ ธรรมพระพุทธเจ้าสอนว่ายังไง มันจะไม่ยอมเอา พระพุทธเจ้าว่าอันนี้ชอบแล้ว กิเลสตัณหาก็ว่าอันนี้มันชอบยิ่งกว่าธรรมพระพุทธเจ้าไปอีก ก็วิ่งตามมัน วิ่งตามมันแล้วมาแข่งพระพุทธเจ้า ก็มีแต่ความล่มจมเสียหายตลอดไป ไม่ว่าภพใดชาติใดมันก็พอๆ กันอย่างนั้น

ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้คิดอ่านไตร่ตรองบ้างเถอะ ศาสนานี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นมาง่ายๆ นะ พุทธศาสนาคือศาสดาองค์เอกได้แก่พระพุทธเจ้าของเรา ที่จะมาฆ่ากิเลสคว่ำลงจากพระทัยแล้ว นำธรรมคือธรรมอันเลิศเลอมาสอนโลกนี้ ไม่มีใครทำเกิดขึ้นง่ายๆ มีพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ได้นำมาสอนโลกอยู่ทุกวันนี้ เทวดาอินทร์พรหมชั้นไหนๆ กราบหมด กราบพระพุทธเจ้า ถ้าดื้อก็จะมีแต่มนุษย์เรานี้เท่านั้นเอง มันไม่ยอมกราบง่ายๆ ละพวกนี้ มันหัวแข็งหัวดื้อ มันเอากิเลสมาแข่งธรรมตลอด การเอากิเลสมาแข่งธรรม มันจึงมีตั้งแต่ความทุกข์จมไปๆ หาความสุขไม่มี จอมปราชญ์ฉลาดแหลมคมไม่สอนใครให้ล่มจม แต่กิเลสหลอกลวงให้ล่มจมทั้งนั้นๆ ไม่ได้หลอกลวงให้ไปสวรรค์นิพพาน พ้นจากทุกข์ไปได้เลยขึ้นชื่อว่ากิเลส ให้พากันจำให้ดี

มันพิลึกกึกกือนะมนุษย์เรานี่ กิเลสหนาเท่าใดก็ยิ่งไม่มีความสนใจในอรรถในธรรม เห็นว่าธรรมเป็นของครึของล้าสมัยของไม่มีราค่ำราคาก็คือธรรมของพระพุทธเจ้า สิ่งที่มีราค่ำราคาก็คือความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหา ความเพลิดความเพลิน ความรื่นเริงบันเทิง ลูกกรุงลูกทุ่งมีตลอดทั้งคืนทั้งวัน นอนหลับให้มันขับกล่อมให้ฟังทั้งคืน หลับไปครอกๆ ตื่นขึ้นมายังได้ยินเสียงมันขับกล่อมเพลงของลูกกรุงลูกทุ่งนั้นเป็นของดี กิเลสมันชอบอย่างนั้น มันจึงมีตั้งแต่กองทุกข์เต็มหัวใจ ให้พากันพินิจพิจารณา

การประกอบความเพียร ผู้เป็นผู้นำของพวกเราคือศาสดาองค์เอก กว่าจะได้ตรัสรู้ก็สลบถึงสามหน จากนั้นบรรดาสาวกทั้งหลายผู้ที่ตรัสรู้ได้อย่างรวดเร็วมีน้อยมาก แต่ผู้ที่ลำบากลำบนทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสนี้มีจำนวนมากทีเดียว ที่ได้มาเป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา เป็นผู้ได้รับความทุกข์ความทรมาน เรานี่คอยเอาตั้งแต่ความสุขความสบายอย่างเดียว สาเหตุที่จะทำให้จิตเกิดความสุข คือการบำเพ็ญความดีงามมันไม่สนใจ สนใจตั้งแต่สิ่งที่จะพาให้เกิดความทุกข์ความทรมาน แล้วสร้างเอาตามใจชอบๆ ท่านว่า สุขสฺสานนฺตรํ ทุกฺขํ ความทุกข์ทั้งหลายเกิดจากความเห็นว่าสะดวกสบาย แล้ววิ่งตามความสะดวกสบาย นั้นละกองทุกข์ตามมาตรงนั้น ให้พากันจดจำเอา ตั้งใจประพฤติปฏิบัติบ้างนะ

พุทธศาสนาเป็นของเลิศเลอเกิดมาไม่ได้พบง่ายๆ พบแล้วก็ไม่เคารพนับถือ เห็นเป็นไม้ซุงทั้งท่อน เห็นเป็นมูตรเป็นคูถไปเสีย สิ่งที่เห็นว่าเป็นของดีของงามนั้นคือเป็นมูตรเป็นคูถนั้นแหละ มันยกขึ้นว่าเป็นทองคำธรรมชาติแหละ อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี เอามาอวดกัน อวดหาอะไร ใจมันร้อนยิ่งกว่าฟืนกว่าไฟ มืดยิ่งกว่ากลางคืนเสียอีก ให้พากันตั้งอกตั้งใจนะบรรดาพี่น้องทั้งหลาย

หลวงตานี้แก่แล้ววันนี้มีออกเพลงหนึ่งนะ แต่ก่อนมาก็เทศน์ให้ฟังธรรมดาๆ นี้แก่จวนจะตายแล้ว ให้ได้ดุเสียบ้างเถอะ เดี๋ยวมันจะตายเสียก่อน จะไม่ได้ดุลูกดุหลาน วันนี้ให้มีแทรกเข้ามาบ้าง อย่าพากันนอนจมนอนใจอยู่เฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์ พุทธศาสนาเป็นของเลิศเลอที่สุดแล้ว ให้เข้ามาเป็นของเลิศเลออยู่ภายในใจ อย่าให้มีแต่ตำรับตำราเป็นหนอนแทะกระดาษ อ่านไป สวดก็สวดไปอย่างนั้นแหละ ไม่สนใจประพฤติปฏิบัติตามก็ไม่เกิดผลเกิดประโยชน์อะไร ให้ตั้งหน้าตั้งตาประพฤติปฏิบัติ

ฟังซิพระพุทธเจ้าสลบสามหน บรรดาสาวกทั้งหลายแต่ละองค์ๆ ที่จะได้บรรลุธรรมเป็นสรณะของพวกเรานี้แหม บางองค์ก็ฝ่าเท้าแตก ฟังซิ จนฝ่าเท้าแตก เดินจงกรมจนฝ่าเท้าแตก ความพากความเพียรไม่ได้หยุดได้ถอยเอาจนกิเลสแตก ผู้ฝ่าเท้าแตกกลายเป็นสรณะของพวกเราขึ้นมา ไอ้พวกเรามีแต่หมอนแตกๆ เสื่อขาดหมอนแตก แล้วได้อะไรมาเป็นสรณะอวดกันล่ะ ใครก็มีแต่เสื่อขาดหมอนขาด มาอวดกันได้ยังไง เขาเหมือนเรา เราเหมือนเขา ไม่มีอะไรมาอวดกันละ ความดีมีให้พากันสร้าง อย่าพากันนอนใจนอนจมอยู่เฉยๆ ศาสนาถ้าไม่มีวาสนาบ้างแล้ว เกิดมาจะไม่ได้พบนะ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอ ให้นำไปประพฤติปฏิบัติ

งานทุกสิ่งทุกอย่างยากด้วยกัน เป็นแต่เพียงว่าความสมัครใจไม่สมัครใจเท่านั้น ความเห็นว่าดี ถึงจะชั่วก็ตาม มันก็พอใจทำคนเรา ไม่เช่นนั้นคนในโลกนี้ไม่มีคนชั่ว จะมีแต่คนดีทั้งหมด นี้ก็ความชั่วมันว่าเป็นของดีก็ทำลงไป ทำลงไปแล้วก็เป็นผลชั่วขึ้นมา บางรายก็ติดคุกติดตะราง บางรายถูกเขาฆ่า ไม่มีป่าช้าละ ฆ่าได้ทุกแห่งฆ่าคนชั่วช้าลามก คนขวางบ้านขวางเมืองขวางโลกสงสาร ฆ่าได้ทุกแห่ง นั่นมันก็มีอยู่อย่างนั้นแหละ ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติตัวเอง

ฝึกบ้างซิฝึกตัวเอง อยากให้เจ้าของดีแล้วจะไม่มีการฝึกทรมานกันบ้าง เราจะดีเฉยๆ มันก็ดีตั้งแต่ชื่อนั่นแหละ ชื่อนั่นตั้งถึงฟากจรวดดาวเทียมก็ตั้งได้ ดังเขาเป็นบ้าตั้งชื่อกันอยู่ทุกวันนี้ ชื่อของใครก็ตาม เวลาจะถามชื่อ ให้ไปคอยฟังอยู่จรวดดาวเทียมนะ แล้วดูคนผู้เจ้าของชื่อ ให้ไปดูอยู่ในนรกอเวจี ชื่อกับตัวคนมันไปอยู่คนละโลกนะ นี่แกชื่อว่ายังไง สวรรค์ชั้นพรหม นิพพานสู้ไม่ได้ชื่อของมัน แล้วตัวมันเป็นยังไง อยู่ใต้ก้นนรกนู่น มันเข้ากันไม่ได้ ไอ้ตั้งชื่อใครตั้งก็ได้ เป็นบ้าอะไรกับชื่อกับนามนักหนา ดูตัวเองที่มันคอยที่จะดีจะชั่ว ส่วนมากมันจะชั่วละ

ให้ฝึกฝนอบรมรื้อตัวเองถอนตัวเอง ยับยั้งตัวเอง ในการที่จะทำความชั่วช้าลามก ให้ถอนตัวเข้ามา แล้วประพฤติแต่ความดีงามใส่ตนเอง ต่อไปก็เป็นนิสัย ความดีงามก็จะติดจิตติดใจ ตื่นขึ้นมาไม่ได้ไหว้พระไม่สบายใจ ต้องได้ไหว้พระเสียก่อน เวลาจะหลับจะนอน ไม่ได้ไหว้พระก็ไม่สะดวกสบาย นั่นความดีติดนิสัยแล้ว ทีนี้ไปมาที่ไหนประกอบหน้าที่การงาน ไม่ได้ระลึกถึงอรรถถึงธรรม ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ไม่สะดวกสบาย สุดท้ายพุทโธ ธัมโม สังโฆ หรืออรรถธรรมติดอยู่ในหัวใจ ตลอดความเคลื่อนไหวของเราตั้งแต่ตื่นนอน มันติดนิสัย ทำไปๆ มันชอบในทางที่ดี จิตใจก็ติดไปในทางที่ดี ก็เลยกลายเป็นคนดีไปเรื่อยๆ ถ้านิสัยเป็นคนชั่วแล้ว อยู่ที่ไหนมันก็ชั่ว ที่ไหนมันก็ชั่ว อยู่ในเมืองมนุษย์ก็ไม่ดี ฟาดลงไปเมืองผีเป็นเมืองชั่วใหญ่โต ไม่เกิดประโยชน์อะไร ขอให้พากันตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติ

หลวงตานี้บวชมาได้ ๗๔ ปีแล้ว บวชมาตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤษภา ๒๔๗๗ เป็นเวลา ๗๓-๗๔ ปีมานี้แล้ว อุตส่าห์พยายามฝึกฝนอบรมตนเอง ชีวิตของพระสวมเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วันบวชจนกระทั่งบัดนี้ ไม่เคยทำลาย ไม่เคยฝ่าฝืนล่วงเกินชีวิตของพระ จึงกลมกลืนไปกับธรรมวินัย ธรรมวินัยเป็นองค์ศาสดา เราก็เท่ากับตามเสด็จพระพุทธเจ้าโดยธรรมโดยวินัยตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เราก็ชุ่มเย็น หาความทุกข์ไม่ได้ในใจ ทุกวันนี้บอกตรงๆ เลยไม่มี

ทุกข์ภายในหัวใจนี้ได้สิ้นซากลงไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ หลังวัดดอยธรรมเจดีย์ เวลา ๕ ทุ่ม นั่นละกิเลสตัวเป็นภัยเป็นเสี้ยนเป็นหนามเป็นหอกเป็นหลาว ฟัดกันมาตั้งแต่วันบวช จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ วันนั้นกิเลสตัวเป็นมหาภัยต่อหัวใจของเราได้ขาดสะบั้นลงไป ตั้งแต่บัดนั้นมาแล้วไม่เคยมีความทุกข์ภายในใจตลอดจนกระทั่งบัดนี้ แล้วไปข้างหน้าก็จะไม่มี เป็นที่แน่ใจในการปฏิบัติธรรม สนฺทิฏฺฐิโก ความรู้เห็นผลงานของตนโดยลำดับลำดา สนฺทิฏฺฐิโก ผู้ปฏิบัติจะพึงรู้เองเห็นเอง ในผลงานของตน สร้างความดีงามมาได้มากน้อยเพียงไร ก็จะได้เห็นงานของตนเพิ่มเข้าๆ จนกระทั่งอิ่มพอภายในหัวใจ แล้วปล่อยโดยสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเหลือ นั่นละปล่อยสมมุตินิยมไม่มีอะไรเหลือ เหลือแต่ธรรมชาติที่ว่าวิมุตติหลุดพ้น เป็นแดนอัศจรรย์คือใจที่วิเศษวิโสแล้ว เป็นธรรมธาตุภายในหัวใจแล้ว นั่นเวลาชำระให้ได้มากๆ ก็เป็นอย่างนั้น

นี่มันก็จวนจะตาย พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสีย การเทศนาว่าการนี่ก็รู้สึกจะเป็นหลวงตาบัวนี่แหละเทศน์มากที่สุดในประเทศไทย การช่วยชาติบ้านเมืองก็หลวงตาบัวเป็นคนเทศน์ ช่วยชาติบ้านเมืองทุกแง่ทุกมุมหลวงตาบัวเป็นคนช่วย ขนสมบัติเงินทองข้าวของเข้าสู่ส่วนรวมคือคลังหลวง ก็หลวงตาบัวเป็นคนอุตส่าห์พยายามขน แล้วเจ้าของไม่เอา ขนช่วยชาติบ้านเมืองมา เวลานี้ทองคำเราก็ได้ตั้งหมื่นกว่ากิโลแล้ว เห็นไหมล่ะ ดอลลาร์ก็เป็นสิบล้านกว่า เงินไทยนี้ออกช่วยโลก มีเท่าไรออกหมดๆ เพราะเราไม่เอา ช่วยโลกเราช่วยจริงๆ บริสุทธิ์พุทโธหาที่ต้องติไม่ได้ แล้วช่วยด้วยความเมตตาด้วยนะช่วยโลก ก็เราอิ่มทุกอย่างในโลกธาตุนี้เราพอ เราปล่อยวางโดยสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเหลือเลย

ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ หลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์มาจนกระทั่งบัดนี้ ปล่อยวางโดยสิ้นเชิง ไม่ปรากฏว่าจิตไปยึดอะไรๆ อีกต่อไป แล้วจะปล่อยวางตลอดไป จะว่านิพพานเที่ยงหรือไม่เที่ยงมันก็รู้ในหัวใจ ไปถามหานิพพานเที่ยงไม่เที่ยงที่ไหนกันอีก ดูในหัวใจก็แล้วกัน ธรรมพระพุทธเจ้าเคยโกหกโลกที่ไหน เรียกว่าสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้ว เมื่อเจ้าของอิ่มต้องรู้ว่าอิ่ม ถึงที่ไหนต้องรู้ถึงที่นั่น นั่นละธรรมเป็นธรรมสอนโลก ที่เป็นสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีลับลมคมใน ล่อลวงต้มตุ๋นเหมือนกิเลส ที่เป็นจอมต้มตุ๋นสัตว์โลกให้ตายกองกันอยู่ในนี้ละ ธรรมะท่านไม่เป็นอย่างนั้น ให้พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัติ

วันนี้มีแผดๆ เสียบ้าง ไม่งั้นจะไม่ตื่นตัว ถ้าตื่นตัวมาโกรธหลวงตาแล้วพากันจมนะ จะว่าไม่บอก นี้สอนด้วยความเมตตาล้วนๆ ความโมโหโทโสแม้จะเสียงแผดเสียงเผาขนาดนี้ก็ตาม กิเลสเหล่านั้นไม่มี ความโกรธความหงุดหงิดๆ ให้ท่านทั้งหลายให้สัตว์ตัวใดเราก็ไม่เคยมี มีตั้งแต่ความเมตตาล้วนๆ แผดแรงเท่าไรยิ่งมีความเมตตาล้วนๆ เท่านั้นละที่มาสอนโลกเวลานี้ เราสอนด้วยความสงสาร ให้พากันพินิจพิจารณา ให้ปฏิบัติตัวเองให้เป็นคนดี มีแต่อยากดีเฉยๆ ไม่ทำดีมันไม่ได้ อยากชั่วทำชั่วได้ชั่วทันที อยากชั่วไม่ทำชั่วก็ไม่เป็นชั่ว ถ้าอยากชั่วทำชั่วก็เป็นคนชั่ว อยากดีไม่ทำความดีก็ไม่ได้ดี อยากดีทำความดีมันก็เป็นคนดีขึ้นมา นั่นให้ทำเอาอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างนั้น

พากันตั้งอกตั้งใจ นี่จวนจะตายแล้ว อายุหลวงตานี้ ๙๔ ปีกับ ๕-๖ เดือนแล้ว จวนจะตายแล้ว จะอยู่ไปนานสักเท่าไร มาสอนโลกนี้ตั้งแต่ ๒๔๙๓ วันที่ ๑๕ เป็นเวลา ๕๖-๕๗ ปีแล้วมัง นี่ละสอนโลกล้วนๆ ไม่สอนเรา เราสอนเราเรียบร้อยแล้ว หมดพยศภายในจิตใจไม่มีสิ่งใดเหลือ จิตใจสว่างจ้าตลอดเวลาตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วยังจะเป็นธรรมธาตุสว่างจ้าอีกต่อไปไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ ที่ท่านเรียกว่านิพพานเที่ยง ที่ไหนใจเที่ยงก็พอแล้ว หมดกิเลสตัณหาหมดสมมุติ แล้วกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จะเข้าไปถึงได้ยังไง นิพพานไม่มีกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไปถึงได้ จิตถึงนิพพานก็จิตเป็นธรรมธาตุแล้ว กฎไหนจะเข้าไปถึงล่ะ พูดให้มันชัดๆ เสียอย่างนี้ละ

การสอนพี่น้องทั้งหลายจึงสอนด้วยความอาจหาญชาญชัย ไม่สงสัยว่าจะผิดไปที่ตรงไหน เพราะเจ้าของปฏิบัติมาก็ถูกต้องมาโดยลำดับๆ จนกระทั่งถึงความอิ่มพอ ไม่หวังอะไรอีกแล้วสามโลกธาตุ ปล่อยวางโดยสิ้นเชิง ก็มีแต่ความเมตตาสงสารสัตว์โลกจะมาตายกองกัน ตายผิดตายพลาด เวลานี้ก็เป็นมนุษย์ จากมนุษย์จะตายเป็นเปรตเป็นผี เป็นมดเป็นแมงเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ ไม่มีกำหนดที่ควรแก่เราผู้ทำดีทำชั่วนะนั่น จะเกิดได้ทั้งนั้น ให้พากันระวัง ไม่อยากไปเกิดในที่นั่นที่นี่ แต่ทำความชั่วอันเป็นทางเดินของทางไม่ดีแล้วมันจะเกิดแน่นอน พากันจำเอานะทุกคนๆ

ศาสนาพระพุทธเจ้าท้าทายโลกมานี้ ๒๕๐๐ กว่าปีแล้ว เรายังหลับครอกๆ อยู่เหรอ เอาอะไรมาเป็นใหญ่ยิ่งกว่าธรรม เอายศเอาลาภ เอาความสรรเสริญเยินยอ เอาสมบัติเงินทองข้าวของมาอวดธรรม อย่ามาอวด สิ่งเหล่านี้เป็นเศษเดนของธรรม โลกุตรธรรมแปลว่าธรรมเหนือโลก เหนือหมดแล้วในสิ่งเหล่านี้ อย่าเอาไปอวด ให้ดูตัวของเราที่มันด้อยอยู่ทุกวันนี้ว่า อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดีมาอวดธรรม ตัวนี้ตัวด้อย ตัวนี้ตัวต่ำช้าเลวทราม ให้รีบฟิตตัวเสียใหม่ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี แล้วจะเป็นคนดิบคนดีขึ้นมา ธรรมพระพุทธเจ้าสอนโลกมานี้นานเท่าไร โกหกโลกเหรอ ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดสอนโลกด้วยความโกหก มีแต่กิเลสเท่านั้นโกหกโลกตลอดมา ให้พากันจดจำเอา

เทศน์มากต่อมากนานแสนนานไป ธาตุขันธ์ก็อ่อนลงไปๆ พูดอะไรก็ไม่สะดวก เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการนี้ ก็เห็นว่าสมควรแก่ธาตุแก่ขันธ์แก่กาลเวลา ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ

พูดท้ายเทศน์

ปัจจัยเหล่านี้เอามาออกช่วยโลกทั้งนั้นนะ เราไม่เอา เราอิ่มพอแล้วในหัวใจของเรา เราไม่เอาอะไรทั้งนั้นจึงเรียกว่าช่วยโลก เราช่วยด้วยความเมตตาสงสารตะเกียกตะกายไปโน้นไปนี้ เราไม่ได้ไปด้วยความโลภนะ เราไปด้วยความเมตตาสงสารต่างหาก ไปที่ไหนๆ ได้มาแล้วก็เฉลี่ยเผื่อแผ่ ถ้าสิ่งที่ควรก่อสร้าง เอ้าก่อสร้าง โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาลถนนหนทางอะไรเอาตลอด นี่ละที่ราชการงานเมืองในที่ต่างๆ มาขอเราให้ไปๆ เงินเหล่านี้ออกไปอย่างนี้ละ จึงเรียกว่าเงินช่วยโลก เราไม่เอา พี่น้องทั้งหลายมาบริจาคก็เพื่อช่วยโลก สำหรับหลวงตาบัวไม่เอา แม้ที่สุดเวลาจะตาย เราก็เขียนพินัยกรรมไว้แล้ว

ถ้าใครยังไม่เห็นพินัยกรรมหลวงตาบัวก่อนตาย ก็ให้ทราบเสียว่า เวลาหลวงตาบัวตาย จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เขามาถวายจตุปัจจัยไทยทานมากน้อย เพื่อเผาศพหลวงตาบัว สำหรับเงินนั้นให้คณะกรรมการเก็บรักษาไว้ทั้งหมด เงินที่เขาจะมาถวายในการเผาศพหลวงตาบัวทั้งหมด เงินจำนวนนี้เราจะเอาซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงให้หมด หลวงตาบัวจะเผาด้วยไฟ ไฟเหมาะสมกับคนตายแล้ว ส่วนสมบัติเงินทองเหล่านี้ยังสมควรแก่ผู้มีชีวิตอยู่ เราจะน้อมไปหาสิ่งที่มีชีวิตให้ได้สืบทอดชาติบ้านเมืองของเราด้วยความแน่นหนามั่นคงต่อไป ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน ทราบแล้วยัง (สาธุ) เอาละพอ มันโมโหมานานแล้ว วันนี้เปิดเสียหน่อย พูดวันนี้เป็นยังไง พูดป้างๆ พูดด้วยความอาจหาญในหัวใจ จ้าครอบโลกธาตุนี้ พูดให้มันชัดเจน นี่ละการปฏิบัติภาวนา

พระพุทธเจ้าสลบสามหน ผลรายได้ที่เกิดขึ้นมาสว่างจ้าครอบโลกธาตุ ตรัสรู้ธรรมเป็นศาสดาองค์เอก นี่ก็ฟาดเสียจนเต็มเหนี่ยว จ้าเต็มภูมิของตัวเอง หนูตัวหนึ่งก็จ้าเต็มภูมิหนูเข้าใจไหมล่ะ เราไม่ได้อวด เราไม่ได้สวมรอยพระพุทธเจ้า เราพูดตามทางธรรมของท่านที่แสดงเอาไว้ เดินตามรอยของศาสดา เท่ากับตามเสด็จพระพุทธเจ้าตลอดเวลา ด้วยการสร้างความดีไปตามหลักธรรมหลักวินัย เอาละพอ

ท่านอุทัยมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ ก็คือหลวงตาบัวเป็นผู้ส่งมา เริ่มแรกท่านอยู่ภูวัว ในป่าในเขา เขาจริงๆ พลาญหินเต็มไปหมดในป่าในเขา ท่านอยู่นั้นสะดวกสบาย ไม่มีใครไปรบกวน มีพระอยู่ด้วยกัน ๒-๓ องค์เท่านั้นประจำ เวลาท่านจะจากไปเพราะสงสารเขา เขาทุกข์เขาจน แต่เราก็ไปแบ่งกินกับเขา ท่านก็สงสารเขา ท่านจะไป เขาไม่ยอมให้ไป เขาบอกว่าถึงจน พวกผมไม่ตายท่านไม่ตาย ให้เป็นกับตาย ตายไปด้วยกัน เขาว่างั้นนะ คนจนจนขนาดไหนไม่ตาย เลี้ยงได้พระนี่ เขาไม่ยอมให้ท่านไป ท่านก็เลยอยู่นั้น ๒-๓ องค์ ๓-๔ ครัวเรือนอยู่นั้น

ครั้นเวลาเราไปเห็นสภาพมาแล้วก็เห็นว่าสถานที่เหมาะสมมาก ที่ภาวนาเป็นเอกที่นั่น เราก็เลย คือไป ลงไปจริงๆ แต่ก่อนมันยังหนุ่มน้อยอยู่ อายุเพียง ๖๐-๗๐ ปี ไปเที่ยวรอบหมด  พอกลับมาแล้วก็ประกาศให้ท่านอุทัยทราบเลยว่า เอาละตั้งแต่นี้ต่อไปท่านจะรับพระตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากน้อยเพียงไร ผมจะรับเลี้ยง มาเถอะ พระเท่าไรมา เราจะรับเลี้ยง เลยรับเลี้ยงเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เราก็เลยขอท่านอุทัยให้มาอยู่ทางนี้ ให้พระที่เป็นรองกันรักษาวัด ก็ไม่ต่ำกว่า ๒๐ พระนะ อย่างน้อย ๒๐ ที่นั่น อยู่ในเกณฑ์ ๓๐ เราก็รับเลี้ยงทางนู้น จวนสิ้นเดือนเรานำอาหารไปส่ง ใส่รถๆ ไป ๔ คันรถ เต็มเอี๊ยดๆ เทลงที่นั่น จวนสิ้นเดือนไปส่งๆ ได้ ๒๐ กว่าปีแล้วทางนั้นนะ

เรารับเลี้ยงพระที่ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วก็เลยดึงท่านอุทัยมาทางนี้ แต่ท่านอุทัยมาที่นี่อยู่ไกล ไม่สามารถที่จะส่งมาได้ จึงขอมอบให้พี่น้องทั้งหลายเลี้ยงดูเอานะ เข้าใจไหม ให้เลี้ยงดูเอา เราเลี้ยงไม่ไหว เราส่งเสริมพระตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็คิดดูอย่างวัดภูวัว เราเลี้ยงทั้งวัดเลย ถึงเวลาจวนสิ้นเดือนๆ เอาของบรรทุกรถไป ๔ คันรถๆ ให้พอ วัดนั้นท่านอุทัยอยู่แต่ก่อน ก็เพิ่มจำนวนขึ้น อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๒๐ องค์ อยู่นั้นเรื่อยมา ทีนี้เห็นว่าทางนี้จำเป็น ศรัทธาเขาถวายที่นี้ให้เรา มาพิจารณาดูที่นี่ก็สมควรแก่ผู้ปฏิบัติ พระปฏิบัติไม่ค่อยมีในแถวนี้  เราก็มองเห็นแต่ท่านอุทัย เลยนิมนต์ท่านอุทัยมาปรึกษาปรารภกัน ท่านก็พอรับได้ท่านว่าอย่างนั้น เอ้าพอรับได้ก็เอาเลย จึงขอให้ท่านมาอยู่ เราขอซ้ำเลยนะ ให้ท่านมาอยู่ที่นี่ เป็นพระที่หลวงตาบัวมาฝากไว้กับพี่น้องทั้งหลายนะ เข้าใจไหม อย่าปล่อยให้ท่านตายไม่ได้นะ ถ้าปล่อยให้ท่านตายแล้วหลวงตาบัวจะยกทัพมาฟาดมันแหลกหมดโคราช ไม่ให้เหลือ เข้าใจ ถ้ากลัวตายแล้วให้เลี้ยงพระของหลวงตาให้ได้นะ ถ้าไม่กลัวตาย เอ้าอย่าเลี้ยง เราจะยกทัพมาฟาดมันแหลกหมดโคราชเรานี่น่ะ นี่เขตโคราชใช่ไหม สระบุรีมีด้วยเหรอ ถ้ามีสระบุรีด้วยฟาดทั้งสระบุรีด้วย เข้าใจ

พระพุทธรูปแทนองค์ศาสดานี่ ใครไม่มีวาสนาไม่ได้ไว้สำหรับกราบไหว้บูชาหรอก ใครไม่มีวาสนาไม่ได้ไว้สำหรับกราบไหว้บูชา เราเห็นนี่เราก็กระหยิ่มยิ้มย่องต่อองค์ศาสดา แต่ในวัดเราแล้วมีองค์ใหญ่กว่านี้ เราก็เลยรับไม่ได้ จึงขอเอาองค์นี้มอบให้กับท่านทั้งหลายกลับไปไหว้ไปกราบที่บ้านนะ เรารับแล้ว นี่เป็นพระหลวงตาบัวมอบให้แล้ว มอบกลับคืน  เอาไปกราบไหว้บูชาที่บ้านนะ เป็นมหามงคลแล้ว

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก